ตามรอย “เรือใบ” ในหลวง

เป็นที่ทราบกันดีว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือ “ในหลวง” ของคนไทยทั้งประเทศ ทรงโปรด “เรือใบ” เป็นกีฬาพิเศษที่พระองค์ท่านสร้างความโดดเด่นด้วยพระปรีชาของพระองค์เองมานาน

เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ ทรงศึกษาอยู่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสนพระราชหฤทัยในงานช่างมาก งานช่างจะต้องใช้ความอดทน ประณีตละเอียดลออไม่น้อย และพระองค์ได้ทรงฝึกงานนี้มาอย่างเพียงพอ ทำให้ทรงประดิษฐ์ของเล่นด้วยพระองค์เอง เช่น เครื่องร่อน และเรือรบจำลอง เป็นต้น

หลังจากที่ได้เสด็จขึ้นครองราชสมบัติแล้ว ทรงมีพระราชภารกิจต่างๆ มากมาย เพราะทรงตระหนักว่า ประโยชน์สุขของมหาชนชาวสยามต้องมีความสำคัญก่อนเสมอ จึงทำให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงงานช่างเพียงเล็กน้อย

สำหรับเรือใบ เมื่อมีโอกาสจึงโปรดต่อเรือใบพระที่นั่งด้วยพระองค์เอง โดยศึกษาแบบแปลนและข้อบังคับของเรือแต่ละประเภทจากตำราทั่วโลกอย่างถี่ถ้วน และทรงทดลองแล่นเรือในสระภายในสวนจิตรลดา เรือใบฝีพระหัตถ์ที่สำคัญมี ๓ ประเภท ได้แก่ เรือใบประเภทเอ็นเตอร์ไพรส์ (International Enterprise Class), เรือใบประเภทโอเค (International OK Class) และเรือใบประเภทม็อธ (International Moth Class)

ทรงมีรับสั่งว่า “ที่ชื่อมดนั้นเพราะมันกัดเจ็บๆ คันๆ ดี” เรือใบมดได้ทรงพัฒนาแบบขึ้นมาใหม่กลายเป็น “ซุปเปอร์มด” และ “ไมโครมด”

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงนำเรือ “มด” ไปจดลิขสิทธิ์เป็น สากลประเภท International Moth Class ที่ประเทศอังกฤษ เรือใบ ซุปเปอร์มดเคยเข้าร่วมแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 13 เมื่อปี พ.ศ.2541 มาแล้ว

ถึงวันนี้เรือใบซุปเปอร์มดยังคงโลดแล่นอยู่ในท้องทะเลในการแข่งขันที่มีขึ้นอยู่เสมอ และด้วยวโรกาสที่ยิ่งใหญ่ในการครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. จึงร่วมเฉลิมฉลองความยิ่งใหญ่ด้วยการมอบเงินสนับสนุน 3 ล้านบาท ในการซ่อมและสร้างเรือใบซุปเปอร์มดรวม 61 ลำ ให้แก่สมาคมแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

หม่อมเจ้าภีศเดช รัชนี ได้ทรงเล่าถึงพระราชดำรัสของพระองค์ท่านในหนังสือ อ.ส.ท. เรื่องทรงเรือใบ ฉบับวันที่ 5 ธันวาคม 2534 ไว้ว่า…ปีใหม่คนอื่นๆ เขาไปฉลองกันเสียเงินมาก แต่เราเสีย 147 บาทเท่านั้น เป็นค่าไม้ยมหอม และค่าเบียร์ฉลองปีใหม่ แต่เรายังสนุกกว่าเขาอีก แล้วยังเป็นประโยชน์ด้วย…

นอกจากเป็น “นักประดิษฐ์” ที่พระปรีชามากแล้ว ยังทรงเป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จมากเช่นกัน ทำให้ 16 ธันวาคม 2510 ประวัติศาสตร์วงการกีฬาระดับโลกต้องจารึกไว้ เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชฯ และสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าอุบลรัตนราชกัญญาฯ ทรงคว้าชัยการแข่งขันเรือใบประเภทโอเค ในการแข่งขันกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 4 ที่ประเทศไทย

ในครั้งนั้นพระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกและพระองค์เดียวในเอเชียที่ได้รับรางวัลชนะเลิศการแข่งขันเรือใบในระดับนานาชาติ ยิ่งไปกว่านั้นยังทรงเป็นพระมหากษัตริย์ไทยเพียงพระองค์เดียวที่ทรงให้ความสนใจกีฬาอย่างจริงจัง ตามพระราชดำรัสที่ว่า

“…การกีฬามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับชีวิตของแต่ละคนและชีวิตบ้านเมือง…” สะท้อนให้เห็นถึงพระราชปณิธานที่ทรงใช้กีฬามาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาบุคคลและประเทศชาติ

ชัยชนะครั้งนั้น พระองค์ยังมีพระราชกระแสรับสั่งอย่างน่าสนใจว่า “การชนะการแข่งขัน ความจริงคือ การชนะตนเองนั่นแหละ” สะท้อนถึงปรัชญาลึกซึ้งที่ทรงตระหนักในเกมกีฬา

ทั้งหมด เป็นอีกหนึ่ง…ในการตามรอยเบื้องพระยุคลบาท ที่พระองค์ทรงอยากให้คนไทยมีกีฬาอยู่ในหัวใจ

ข้อมูลอ้างอิง : จาก มติชน และหนังสือ คงธรรม ครองไทย จากสำนักพิมพ์ดีเอ็มจี