องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ร่วมกับคนไทยในการเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้วยการจัดทำโครงการผลิตและจัดจำหน่ายเหรียญที่ระลึกสดุดีพระเกียรติคุณ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผลิตโดย บี. เอช. เมเยอร์ มินท์ ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นโรงกษาปณ์ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลก ด้วยประสบการณ์นานกว่า 135 ปี และมีบริษัท เจอาร์ เมเยอร์ คอลเลคชั่น ตัวแทนผู้ผลิตและจำหน่าย
สำหรับผู้ออกแบบเหรียญคืออาจารย์นนทิวรรธน์ จันทนะผะลิน นายกสมาคมประติมากรไทย และอาจารย์คณะจิตกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร ด้านหน้าเหรียญแสดงพระบรมรูปของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงกล้องถ่ายรูปและแผนที่ ด้านหลังเหรียญแสดงรูปพสกนิกรชาวไทยในชุดชาวนา ขณะเข้าเฝ้า แสดงถึงกษัตริย์ผู้ทรงใกล้ชิดกับราษฎร พร้อมคำจารึกว่า “SUSTAINABLE DEVELOPMENT FOR SECURE FUTURE” โดยใช้เทคนิคการผลิตในรูปแบบของเหรียญลักษณะนูนสูง (High Relief)
เหรียญสดุดีชุดนี้แบ่งออกเป็น 5 ประเภท คือ
ประเภทเหรียญที่จำหน่าย ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง น้ำหนัก ราคา (บาท)
เนื้อโลหะทองคำ 91.6% 19 มม. 4 กรัม 10,960
เนื้อโลหะทองคำ 75% 29 มม. 12 กรัม 99,960
เนื้อโลหะทองคำ 75% 50 มม. 60 กรัม 24,960
เนื้อโลหะเงิน 99.9% 50 มม. 60 กรัม 5,360
เนื้อโลหะบรอนซ์ 50 มม. – 2,460
เหรียญ 900 บาท
คณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2549 อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเหรียญกษาปณ์ที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จะพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เนื่องในโอกาสที่สำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นดีพี) ทูลเกล้าฯ ถวาย “รางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ ปี 2549” และอนุมัติร่างกฎกระทรวงกำหนดจำนวนเงินที่ให้เหรียญกษาปณ์ราคา 900 บาท เป็นเงินชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ประกอบด้วย เหรียญกษาปณ์เงิน ราคา 900 บาท ประเภทขัดเงาและลงสี จำนวนผลิตไม่เกิน 2.5 แสนเหรียญ และเหรียญโลหะสีขาว ราคา 20 บาท ประเภทธรรมดา จำนวนผลิตไม่เกิน 3 ล้านเหรียญ



