การเมืองฉุดเศรษฐกิจ

ในฐานะเจ้าของธุรกิจ นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร เจ้าของหนังสือ “ผมจะเป็นคนดี” “วิกรม กรมดิษฐ์” ชี้แนวโน้มเศรษฐกิจในปีหน้า ให้ระวังปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง จะส่งผลให้เศรษฐกิจให้ตกต่ำลง # รถยนต์ ไฮเทค และปิโตรเคมี และพืชผลการเกษตร เป็น 4 ธุรกิจดาวรุ่งของปีหมู # ส่วนอสังหาทรัพย์ ท่องเที่ยว และคอนซูเมอร์โปรดักส์ ดาวร่วงแห่งปี 2007

ระวังแตกแยกทางการเมือง

สถานการณ์ของเศรษฐกิจของไทย 2007 อยู่ในภาวะที่ไม่ดี บรรยากาศอึมครึม ไม่เอื้อต่อการลงทุนของต่างประเทศ ถือว่าเลวร้ายกว่าปีที่ผ่านมาค่อนข้างมาก

วิกรม เชื่อว่า ถ้าสถานการณ์ของประเทศไทยอยู่ในภาวะปกติ ไม่มีปัญหาการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง วิกรมประเมินว่าเศรษฐกิจมวลรวมประชาชาติ หรือ GDP ยังคงเติบโตเพิ่มขึ้น 4-5%

แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจตกต่ำแล้ว เขาเชื่อว่าจะมาจากปัญหาทางการเมืองเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง ที่ไม่เพียงแต่จะนำไปสู่การเลือกตั้งที่ล่าช้าเท่านั้น หากแต่ยังนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งทางความคิดของคนในสังคม แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าเป็นความขัดแย้งระดับใด

สิ่งที่ทำให้วิกรมเป็นกังวลเกี่ยวกับปัญหาทางการเมือง เนื่องมาจากตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2549 ที่ผ่านมา จากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างคนในสังคม ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลทางการเมือง ด้วยการปฏิวัติ

ปัญหาความชัดแย้งทางความคิดภาคใต้ จะเป็น“ภารกิจอันหนักหน่วง” อันไม่สิ้นสุดที่ รัฐบาลยังคงต้องแก้ไขปัญหาต่อไป

ค่าเงินบาท

สำหรับการแก้ปัญหาค่าเงินบาทของรัฐบาล เมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา วิกรมมองว่า รัฐบาลใช้มาตรการควบคุมค่าเงินแรงเกินไปสำหรับประเทศไทย เนื่องจากสังคมไทยไม่ได้เป็นระบบเผด็จการ ถ้าจะใช้วิธีการแก้ปัญหา ต้องให้เหมาะสมกับสภาวะเศรษฐกิจและสังคม

4 ธุรกิจดาวรุ่ง

ภายใต้สถานการณ์ของเมืองไทยที่เป็นอยู่ วิกรมมองว่า ธุรกิจดาวรุ่งในมุมมองของวิกรม คืออุตสาหกรรมรถยนต์ ที่จะขยายตัวอีกอย่างน้อย 5-10 ปี เนื่องจากไทยเป็นประเทศที่ประกอบรถยนต์ที่สำคัญ ธุรกิจที่สอง คือ ธุรกิจไฮเทคและอิเล็กทรอนิกส์ ยังคงเติบโตไปด้วยดี สาม-อุตสาหกรรมปิโตรเคมี มีโอกาสขยายตัวมากขึ้น

สี่-พืชผลทางการเกษตร ยังไปได้ด้วย เนื่องมาจากฝนดี ทำให้การเพาะปลูกมีความอุดมสมบูรณ์ ขณะที่ปัญหาน้ำมันแพง ทำให้คนหันไปใช้พลังงานทดแทนจากพืช ไม่ว่าจะเป็นแป้ง ข้าวโพด ส่งผลให้พืชผลทางการเกษตรเหล่านี้เติบโตไปด้วยดี

ธุรกิจดาวร่วง

สำหรับธุรกิจดาวร่วงในมุมมองของวิกรม จะประกอบไปด้วย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพราะเมื่อคนไม่มีความมั่นใจสภาวะเศรษฐกิจ จะมีผลต่อการชะลอการตัดสินใจซื้อหรือลงทุนใน อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเห็นได้จากในช่วงที่เศรษฐกิจตกต่ำในช่วงหลายครั้งที่ผ่านมา

อีกธุรกิจ คือ ท่องเที่ยว ความซบเซาของธุรกิจนี้มาจากปัญหาภัยธรรมชาติ แผ่นดินไหว หรือสึนามิ ทำให้นักต่างชาติไม่เข้ามาท่องเที่ยวในไทย “ดูสิ สิ้นปี โรงแรมในบ้านเรายังจองไม่เต็มเลย”

ธุรกิจอีกตัวคือ Consumer Product จะเป็นอีกธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอการซื้อของผู้บริโภค เนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

วิกรมให้ข้อเสนอแนะแก่นักธุรกิจว่า อย่ากู้เงินลงทุน ถ้าจำเป็นจริงๆ ให้ลงทุนด้วยเงินสดของตัวเอง

ประชาชนต้องมีส่วนร่วมในการบริหารประเทศ และต้องมีความรักสังคมโดยรวม อย่ามัวแต่ทะเลาะกัน จนทำให้ประเทศชาติเสียประโยชน์