“ไม่รับผู้หญิง” คำกล่าวนี้เคยทำให้ผู้หญิงคนนี้ “ปนัดดา เจณณวาสิน” ฉุนเฉียวอย่างยิ่ง แต่ความโมโหของเธอก่อให้เกิดแรงผลักดันบางอย่างขึ้น เพื่ออยากจะเอาชนะคำสบประมาทดังกล่าว และกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เธอสู้พลิกชีวิตครั้งสำคัญมาสู่วงการรถยนต์ และเป็นจุดเริ่มต้นของ “หญิงเหล็กของวงการรถ” คนนี้ ใช่แล้ว, วันนี้เธอนอกจาก “ชนะ” เธอยังทำให้ชายชาตรีหลายคนยอมรับในความสามารถ ยิ่งฟังเรื่องราวของเธอ ย่อมไม่แปลกใจเลยว่าผู้หญิงสามารถทำอะไรได้เท่าเทียมกับผู้ชาย และอาจจะมีความสามารถมากกว่าด้วยซ้ำ
1.
30 ปีแห่งการทำงานบริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด วันนี้ปนัดดายังคร่ำเคร่งกับงานเหมือนเคย จากเช้าจรดค่ำ ตื่น 6 โมง กลับบ้าน 3 ทุ่ม กว่าจะนอนก็ตีหนึ่งกว่า เป็นภารกิจที่ผู้หญิงคนนี้วนเวียนอยู่กับเวลาประมาณนี้อยู่ทุกวัน
ปัจจุบันปนัดดาทำงานในตำแหน่งกรรมการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุ มีหน้าที่รับผิดชอบในด้านการตลาดทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งการวางแผนนโยบายของบริษัท ถือเป็นผู้หญิงไทยคนแรกที่นั่งอยู่ในบอร์ดบริษัทรถยนต์ข้ามชาติจากแดนซามูไร
นักบริหารดีเด่น ปี 2548 สาขาธุรกิจยานยนต์ …รถกระบะอีซูซุ ครองแชมป์ 24 ปีซ้อน…อีซูซุ ย้ายฐานการผลิตรถอีซูซุดีแมคซ์ทั้งหมดจากญี่ปุ่นมาไว้ในประเทศไทย นี่คือรางวัลและความสามารถของเธอที่สะท้อนให้เห็นถึงการมีบทบาทอย่างยิ่งในวงการรถยนต์คนหนึ่ง
ในวงการตลาดรถยนต์ กล่าวกันว่า สิ่งที่ปนัดดาบรรทุกกลยุทธ์ออกมาในตลาดรถยนต์ช่วงใด แรงสั่นสะเทือนของถนนสายนี้ก็ดังสนั่นไปทั่ว
นักการตลาดรถทั้งไทยและต่างประเทศหลายคนเรียกปนัดดาว่า “อาจารย์” เพราะ อีซูซุเปิดโรงเรียนการตลาดตรีเพชรอีซูซุ (Tri Petch Isuzu Marketing School) เป็นสถาบันที่ปนัดดาภูมิใจมาก เนื่องจากเป็นโรงเรียนที่นักการตลาดจากอีซูซุทั่วโลก เดินทางมาอบรมและเรียนรู้ถึงความสำเร็จด้านกลยุทธ์ทางการตลาดของไทย
เธอบอกว่าความสำเร็จของอีซูซุไม่ได้เกิดจากเธอคนเดียว แต่ทำงานเป็นทีม เธอเป็นเสมือนผู้ควบคุมโครงสร้างรถ มีน็อตเล็กๆ อีกหลายตัวที่ประกอบขึ้นมาเป็นรถ
“มีคนบอกว่าดิฉันเป็นหญิงเหล็ก ภูมิใจนะ เพราะเขาเห็นเราทำงานกับสินค้าหนักอย่างรถยนต์ ประเภทกระบะ รถบรรทุก ผู้หญิงไม่น่าจะทำได้ แต่เรามองว่า ขายรถ ขายลูกอม เครื่องสำอาง มันก็เกิดจากหลักการตลาดเหมือนกัน เพราะมันคือสินค้าอย่างหนึ่ง”
2.
ย้อนไปเมื่อ 30 ปีก่อน ปนัดดาเรียกช่วงนั้นว่า จุดเปลี่ยนของชีวิต เธอเล่าว่า ในช่วงเรียนบัญชี ธรรมศาสตร์ วิชาการตลาด อาจารย์ให้ทำรายงาน บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเหมือนเป็นจุดเริ่มต้นทำให้เธอรู้จักบริษัทรถแห่งนี้ แต่แล้ววันหนึ่ง แผ่นป้ายรับสมัครงาน บริษัท ตรีเพชรอีซูซุ ถูกติดไว้ที่มหาวิทยาลัย ประกาศรับสมัครงาน มีใจความว่า ต้องการนักศึกษาชาย อายุไม่เกิน 25 ปี เกรดเฉลี่ย ไม่ต่ำกว่า 2.5
ป้ายสมัครงานครั้งนั้นทำให้ปนัดดาฉุนเฉียวอยู่ในใจว่า ทำไมรับแต่ผู้ชาย ผู้หญิงอย่างเธอเกรดเฉลี่ยระดับเกียรตินิยม ภาษาอังกฤษขั้นดีเยี่ยม จึงไม่มีสิทธิ์เหรอ เธอตัดสินใจโทรศัพท์ไปที่ตรีเพชรอีซูซุ เพื่อขอสมัครงานที่นั่น และบรรยายถึงความอัดอั้นตันใจ
ในที่สุดเธอก็ได้ไปสมัคร และทดสอบความรู้ที่นั่น ซึ่งอีซูซุก็ยอมรับเธอในความสามารถของเธอ รับเธอเข้าทำงาน เริ่มทำงานในฝ่ายบัญชี ตามที่เล่าเรียนมา
“เพิ่งมารู้เมื่อย้อนกลับไปมองถึงว่า ทำไมบริษัทรถไม่รับผู้หญิงช่วงนั้น เพราะรถยนต์เป็นสินค้าหนักที่ต้องใช้พลังทางกายภาพด้วย เช่น การสาธิตขับรถบรรทุก ผู้หญิงคงไม่เหมาะ แต่ช่วงนั้นดิฉันคิดแต่เพียงว่า ทำไมต้องมาแบ่งเพศกัน”
ปนัดดา ยอมรับว่า ได้เปลี่ยนความคิดของเธอนะ จากความตั้งใจแรกที่อยากทำงานองค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น แต่ความท้าทายในบริษัทรถ ทำให้เธอตัดสินใจเบนเข็มเข้าสู่อุตสาหกรรมรถยนต์
จุดเปลี่ยนครั้งสอง ปนัดดา เล่าว่า เมื่อทำงานได้ระยะหนึ่ง ความคิดที่อยากเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่น เพราะทำงานกับบริษัทญี่ปุ่น จึงเกิดเป็นแรงผลักดันให้เธอไปศึกษาต่อปริญญาโทที่แดนซามูไร โดยช่วงแรกเธอคิดจะออกจากอีซูซุ แต่แล้วเธอก็ตัดสินกลับมาทำงานให้กับอีซูซุ เพราะที่นี่ให้โอกาสเธอ ช่วยเหลือเธอ ขณะกำลังศึกษาต่อ
“จบได้ไม่นาน มารับผิดชอบด้านการตลาด แม้ไม่ได้เรียนมา แต่รู้สึกว่าทำได้มีเซ้นส์ และมีผู้บริหารญี่ปุ่นคอยสอนเรา หลักที่ผู้บริหารสอน คือ เขาสอนให้เราซึมซับรู้ว่า อีซูซุเป็นบริษัทของเรา ดังนั้นการลงทุนทำโครงการต่างๆ จึงเป็นเสมือนเงินของเราเอง”
3.
ความแตกต่างทางการตลาด…กลยุทธ์การขาย… ความพอใจของลูกค้า… ดูจะเป็นโจทย์หลักๆปนัดดาคิดอยู่ตลอดเวลา และเป็นเสมือนภาระทางสมองที่ทำให้เธอเลิกคิดไม่ได้
“ดิฉันชอบคิดงานที่ทำงาน เพราะต้องทำงานเป็นทีม แต่เวลากลับบ้านดิฉันมักจะชอบกลับมาทบทวนเรื่องงานในห้องน้ำ ยิ่งตอนอาบน้ำฝักบัว จะชอบคิดว่าวันนี้ได้ทำอะไรไปบ้าง พรุ่งนี้จะพูดกับใคร หรือไม่ก็ตอนแต่งตัว ดิฉันใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำไม่ต่ำกว่าหนึ่งชั่วโมง บวกแต่งตัวก็เกือบสองชั่วโมง”
ปนัดดาบอกอีกว่า ชีวิตที่บ้านแตกต่างกับที่ทำงานอย่างสิ้นเชิง เราใช้ภาวะความเป็นผู้นำมามาก จึงอยากพัก ปล่อยให้เป็นภาระของสามีทั้งหมด
“ครอบครัวเข้าใจนะ เพราะเราทำงานทุกวันแทบไม่มีวันหยุด อยู่บ้านจึงเป็นอีกคน เหมือนคนขี้เกียจ อยากอยู่เฉยๆ ฟังเพลง ดูทีวี”
ปนัดดาบอกอีกว่า แต่สิ่งหนึ่งที่อยากทำให้ดีกว่านี้ คือ เป็นแม่ที่ดีของลูก เนื่องจากเงื่อนไขของเวลาทำให้เวลาอยู่กับลูกมีไม่มาก จึงอยากให้ใช้เวลาที่ว่างอยู่กับลูกให้คุ้มค่าที่สุด
“มีลูกสาว 2 คน คนโตอายุ 17 ปี เรียนที่เตรียมอุดมศึกษา คนเล็กอายุ 14 ปี เรียนที่สาธิตปทุมวัน โชคดีที่ลูกเป็นเด็กมีคุณภาพ เรียนเก่ง ให้เขาเรียนดนตรี เพราะเชื่อว่าดนตรีเป็นสิ่งสวยงาม จรรโลงจิตใจได้ดีเยี่ยม”
“ต้องยอมรับความจริงว่า เมื่อเรามุ่งมั่นทำงาน สิ่งที่ต้องหายไป คือเวลากับครอบครัว เพียงแต่ต้องให้ครอบครัวเข้าใจเราด้วย โชคดีที่สามีเข้าใจเรา ดูแลลูกๆ เป็นอย่างดี”
เป้าหมายของปนัดดา เธอย้ำว่า อยากทำให้วันนี้ดีที่สุดก่อน ไม่ค่อยฝันถึงอนาคต ถ้าทำวันนี้ดีแล้วเชื่อว่าวันต่อๆ มาจะดีเอง
Profile :
Name : ปนัดดา เจณณวาสิน
Age : 50 ปี
Education :
– 2526 ปริญญาโททางด้านการค้าระหว่างประเทศ HITOTSUBASHI UNIVERSITY TOKYO, JAPAN (ทุนรัฐบาลญี่ปุ่น)
– 2520 ปริญญาตรี (เกียรตินิยม) คณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
Career Hilight :
– ปัจจุบัน กรรมการ บริษัท ตรีเพชร อีซูซุเซลส์ จำกัด รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท อีซูซุโอเปอเรชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด
– 2544 กรรมการ บริษัท ตรีเพชร อีซูซุเซลส์ จำกัด
– 2541 รองผู้อำนวยการสายงานกลุ่มขาย และผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายสื่อสารการตลาด
– 2540 ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายสื่อสารการตลาด
– 2536 ผู้จัดการฝ่ายส่งเสริมการขายและลูกค้าสัมพันธ์
– 2528 ผู้จัดการในฝ่ายวางแผนการขาย
– 2520 ฝ่ายบัญชีการเงิน
Life Style : ชอบดูข่าว CNN รายการข่าวช่วงดึกทุกช่อง ชอบดูหนังแนวสืบสวนสอบสวน หนังตลก แต่ไม่ชอบดูหนังผี
Family : สามี ทำงานวิศวกร มีลูกสาว 2 คน คนโตอายุ 17 ปี เรียนที่เตรียมอุดมศึกษา คนเล็กอายุ 14 ปี เรียนที่สาธิตปทุมวัน
Work Philosophy : ทำวันนี้ให้ดีที่สุด
