พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร พระนามเดิม”หม่อมศรีรัศมิ์ มหิดล ณ อยุธยา” สกุลเดิม “อัครพงศ์ปรีชา” ประสูติเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2514
ทรงสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัย ทรงรับพระราชทานปริญญาบัตรจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2545 วิชาวิทยาการจัดการ วิชาเอกการจัดการทั่วไป (หลักสูตร 4 ปี) มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช และรับพระราชทานปริญญาบัตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ประจำปีการศึกษา 2547
ทรงเข้ามาถวายการรับใช้ในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 ในฐานะข้าราชการพลเรือนในพระองค์ ยังได้ถวายงานสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในด้านศิลปาชีพ และได้ทรงจดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย และเข้ารับพระราชทานน้ำพระมหาสังข์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2544 และในวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2548 ได้มีพระประสูติการพระโอรส โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานพระนามว่า พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ
สมาชิกพระองค์ใหม่แห่งราชวงศ์จักรี “พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายา” ไม่เพียงยังความปลาบปลื้มแก่พสกนิกรชาวไทยเท่านั้น แต่ด้วยพระจริยวัตรอันงดงาม ยิ่งทำให้ชาวไทยต่างรักพระวรชายาพระองค์นี้ และเมื่อทรงประจักษ์ในการทำหน้าที่พระมารดาแก่พระโอรสองค์น้อยที่ทรงเจริญพระชนม์พรรษา ก็ยิ่งยังความชุ่มฉ่ำ หล่อเลี้ยงหัวใจคนไทยทุกดวงที่ได้มีโอกาสชื่นชมพระบารมีในพระองค์
พระราชกรณียกิจสำคัญที่สร้างความปลาบปลื้มให้คนไทยอย่างมาก การเสด็จพระราชดำเนินไปยังพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ และพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ แปรพระราชฐานไปประทับแรม ณ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์เพื่อทรงเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ระหว่างวันที่ 11-16 พฤศจิกายน 2549
ท่ามกลางความไม่สงบของเหตุการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังกรุ่นอยู่ ด้วยทรงห่วงใย และเพื่อดับทุกข์เข็ญของราษฎร พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ได้ตรัสถามภรรยาถึงอาการและความเป็นอยู่ของครอบครัว มีลูกกี่คน ทำอาชีพอะไร ขอให้ทำจิตใจให้เข้มแข็ง
ผู้ป่วยทั่วไปที่มารับการรักษา พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ทรงพระดำเนินเข้าไปตรัสถามถึงอาการป่วย มีรายหนึ่งเป็นผู้ป่วยหญิงตอบด้วยสำเนียงภาษาใต้ว่า เป็นนิ่วในท่อไต พร้อมกับทรงแนะนำนายแพทย์รุซตา สา และสมุนไพรไทยชื่อหญ้าหนวดแมวที่มีสรรพคุณในการรักษาให้หายได้ จากนั้นได้พระราชทานถุงพระราชทานแก่ผู้ป่วยทั่วไป ยังความปลาบปลื้มแก่ครอบครัวผู้ป่วย
นับเป็นความประทับใจอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งพสกนิกรมีโอกาสเข้าเฝ้าฯ ชมพระบารมีอย่างใกล้ชิดเป็นความซาบซึ้งใจหากจะมองว่า ทุกสิ่งทุกอย่างเหล่านี้คือ แต่ละบรรทัดในประวัติศาสตร์ของชาติไทย ที่สถาบันพระมหากษัตริย์และพระบรมราชวงศ์ ทรงรัก ห่วงใย และใกล้ชิดราษฎรของพระองค์ ยังความปลื้มปีติ และรู้สึกในพระบารมีที่คุ้มเกล้าฯ ชาวไทยแผ่ไพศาล
ประกาศสถาปนา พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศร รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ประกาศว่า โดยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ได้ทรงอภิเษกสมรสกับหม่อมศรีรัศมิ์ มหิดล ณ อยุธยา โดยถูกต้องทุกประการ และมีพระโอรสอันประสูติแต่หม่อมศรีรัศมิ์ มหิดล ณ อยุธยา แล้ว
จึงมีพระบรมราชโองการดำรัสสั่งให้สถาปนาหม่อมศรีรัศมิ์ มหิดล ณ อยุธยา เป็นพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ทรงดำรงตำแหน่งพระอิสริยยศฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 15 มิถุนายน พุทธศักราช 2548 เป็นปีที่ 60 ในรัชกาลปัจจุบัน