ชฎาทิพย์ จูตระกูล หรือ แป๋ม ผู้หญิงที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น Trend Setter คนหนึ่งของเมืองไทย กับการบริหารศูนย์การค้าสยามดิสคัฟเวอรี่ และสยามเซ็นเตอร์ ที่จับกลุ่มวัยรุ่นอันเป็นกลุ่มที่มีพลวัตรทางการตลาดในระดับสูง อีกทั้งเป็นนางสิงห์คู่บริหารสยามพารากอนร่วมกับศุภลักษณ์ อัมพุช
เธอบอก POSITIONING ถึงความท้าทายในการทำงานบริหารศูนย์การค้า 3 แห่ง และดูแลพนักงานกว่า 3,500 คนว่า
“การทำศูนย์การค้า หลายคนอาจคิดว่าง่าย เพียงแค่สร้างตึกเสร็จแล้วเก็บค่าเช่า ความจริงไม่ใช่เลย เราไม่ได้คิดว่าเป็นเพียง Developer แต่คิดว่าเราเป็นผู้บริหารศูนย์การค้าที่จะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ร้านค้าที่อยู่กับเราประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องระยะยาวให้ได้ และถือเสมือนว่าบริษัทกับบรรดาผู้เช่าเป็นทีมเดียวกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน เราจะต้องช่วยพัฒนาธุรกิจของทุกๆ รายให้แข็งแกร่งทันสมัย รวมพลังกันสร้างฐานลูกค้าให้มาจับจ่ายใช้สอยอย่างต่อเนื่อง และสร้างความแปลกใหม่ให้เกิดขึ้นในศูนย์ฯ ของเราอยู่ตลอดเวลา โดยจะต้องนำเสนอสินค้าและบริการในศูนย์การค้าที่ Trendy และล้ำหน้ากว่าศูนย์การค้าอื่นๆ อยู่เสมอ”
เป็นหลักคิดการทำงานที่นำไปสู่ความสำเร็จของสยามเซ็นเตอร์ ศูนย์การค้าแห่งแรกของเมืองไทย และได้รับความนิยมสูงมาทุกยุคทุกสมัย แม้จะผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้ว 36 ปีก็ตาม โดยล่าสุดกับการปรับโฉมให้ทันสมัยด้วยอาคารรูปแบบ Glassbox
นอกจากนี้ชฎาทิพย์ยังบอกถึงมุมมองที่มีเกี่ยวกับเรื่องผู้หญิงแถวหน้าว่า
“ผู้หญิงไทยโชคดีที่เกิดในประเทศที่อิสระและไม่มีการปิดกั้นทางสังคมใดๆ จึงมีโอกาสที่จะแสดงความรู้ความสามารถอย่างเต็มที่ในทุกๆ สายอาชีพ การเป็นผู้หญิงนั้นเป็นข้อได้เปรียบตรงที่ โดยธรรมชาติจะมีความอ่อนโยน นุ่มนวล และเข้าใจในเรื่องที่ละเอียดอ่อนได้ดี หากรู้จักใช้ความเป็นผู้หญิงมาเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานแล้ว ก็จะช่วยให้การบริหารจัดการหรือการแก้ไขปัญหาต่างๆ สำเร็จลุล่วงได้ง่ายขึ้นมาก ไม่ว่าจะเก่งกาจหรือมีคุณวุฒิความสามารถมากมายเพียงใด แต่ถ้าไม่ได้ใช้จิตวิทยาเช่นนี้เข้าช่วย ก็คงจะประสบความสำเร็จได้ยาก”
ความสำเร็จในชีวิตที่ได้มา ย่อมมีพื้นฐานสำคัญจากครอบครัว โดยเธอมี Role Model เป็นบิดาและมารดาของเธอเอง คือ พลเอกเฉลิมชัย จารุวัสตร์ และแพทย์หญิงลัดดา จารุวัสตร์ โดยพลเอกเฉลิมชัยเป็นบุคคลที่ปั้นและสอนเธอทุกอย่าง โดยเฉพาะด้านธุรกิจ นั่นคือ การทำทุกอย่างเต็มความสามารถ ต้องพยายามคิดและทำในสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ อีกทั้งไม่ละเลยที่จะรับฟังความคิดเห็นจากคนอื่นๆ ด้วย เพราะต้องทำงานกันเป็นทีมเวิร์ค
นอกจากนี้ยังสอนให้เธอรู้จักการจัดลำดับความสำคัญและแบ่งแยกความคิด ทำสมองให้เหมือนลิ้นชัก
“ในลิ้นชักก็จะมีแต่ละเรื่อง เราไม่สามารถเปิดลิ้นชักได้พร้อมกันหมด เพราะจะสับสนให้แยกแยะและจัดการเรื่องที่สำคัญก่อนเสมอ จึงจะสามารถทำงานได้สำเร็จ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาวะที่ยากลำบากหรือมีความกดดันสูง”
และสิ่งที่เธอตระหนักอยู่เสมอก็คือ การเอาใจเขามาใส่ใจเรา จะทำให้การจัดการเป็นเรื่องง่ายและทำให้ปัญหาที่หนักกลายเป็นเบาได้ อีกทั้งการมีเลือดนักสู้ ไม่หวั่นไหวต่ออุปสรรค และใช้สติและปัญญาแก้ไขไปให้ได้แม้จะต้องใช้เวลานานเพียงใดก็ตาม
ขณะที่แพทย์หญิงลัดดา จารุวัสตร์ มารดาของชฎาทิพย์ ได้สอนหลักในการดำเนินชีวิตที่ดูเหมือนเป็นเรื่องง่าย แต่น้อยคนนักจะทำได้ คือ การเป็นคนที่ซื่อสัตย์ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น รู้จักกตัญญูรู้คุณคน และประการสุดท้าย คือ ทำธุรกิจต้องทำประโยชน์ให้กับสังคมด้วย
ด้วยภารกิจที่หนักอึ้ง ยามว่างที่แทบหาไม่ค่อยได้ เพราะเสาร์อาทิตย์ก็ถูกแปรเปลี่ยนเป็นงาน เดินตรวจตราสำรวจพฤติกรรมลูกค้าเพื่อเก็บเกี่ยวมาเป็นข้อมูลการตลาด แต่อย่างไรก็ตาม เธอก็ให้ความสำคัญกับครอบครัวมาก ด้วยการไปเที่ยวต่างจังหวัด และทำกิจกรรมกีฬาร่วมกัน เช่น เล่นกอล์ฟ ว่ายน้ำ และเทนนิส เป็นต้น
Profile :
Name : ชฎาทิพย์ จูตระกูล
Education :
ประกาศนียบัตร Oil & Gas Insurance, Chartered Insurance Institute อังกฤษ
ปริญญาตรีบริหารธุรกิจ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
Career Highlights :
– 2539 – ปัจจุบัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด
– CEO บริษัท สยามพารากอน ดีวเลลอปเม้นท์ จำกัด
– อดีต ผู้จัดการศูนย์การค้าสยาม บริษัท บางกอกอินเตอร์คอนดิเนนตอลโอเต็ลส จำกัด
– รักษาการผู้จัดการฝ่ายประกันภัยน้ำมันและก๊าซ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด
Family :
บิดา – พลเอกเฉลิมชัย จารุวัสตร์ อดีต ผู้อำนวยการ อ.ส.ท. และบรรณาธิการอนุสาร อ.ส.ท. คนแรก และอดีตประธานคณะกรรม การจัดการโรงแรมสยามอินเตอร์ คอนติเนนตัล
มารดา – แพทย์หญิงลัดดา จารุวัสตร์
สามี – อภิชาติ จูตระกูล CEO บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
บุตรสาว – ชญาภา จูตระกูล ศึกษาที่ Wolding Ham School, Surrey อังกฤษ
