ทัวร์ธรรมะเกรดเอ

อาจารย์แพน หรือ เผ่าทอง ทองเจือ ในวัย 50 ปีเศษ ดูหนุ่มเกินวัย ร่างสูงโปร่งในชุดผ้าไทย เปิดบ้านพักอันสงบ ร่มรื่น ในซอยสุขุมวิท 34 ต้อนรับการมาเยือนของ POSITIONING

เขาเป็นนักโบราณคดีผู้แตกฉานในองค์ความรู้ด้านนี้เป็นอย่างยิ่ง โดยเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องผ้าและเครื่องแต่งกายไทย อีกทั้งเป็นผู้ที่สนใจศึกษาเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมแขนงต่างๆ เป็นกูรูที่มีผู้ต้องการร่วมงานมากที่สุดคนหนึ่ง หลังจาก Early Retire เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ตำแหน่งสุดท้ายของเขาคือ คณบดีคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปิดฉากชีวิตข้าราชการที่ยาวนานกว่า 25 ปี

เผ่าทองผันจากการมัคคุเทศก์เพียงอย่างเดียวตลอดเวลา 30 ปี มาเปิด “อัญญมัญญา” บริษัททัวร์พรีเมียมซึ่งเชี่ยวชาญในทัวร์แสวงความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรมเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ควบคู่ไปกับการเปิดร้านสร้างแบรนด์ผ้าไทย “เผ่าทอง” เขาให้มุมมองเกี่ยวกับการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อแสวงบุญในปัจจุบันที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงว่า

“ที่อัญญมัญญา ไม่ทัวร์ทำบุญไหว้พระ 9 วัด อย่างมากสุด 4-5 วัดกำลังพอดี เพราะไม่ดูเร่งรีบเกินไป ถ้าสักแต่ว่ารีบๆ ไปไหว้ เพื่อให้ไปให้ครบ 9 วัด ภายในวันเดียวแล้วจะได้อะไร ซึ่งการทำบุญไม่ควรรีบร้อน คนเขาสร้างวัดหล่อพระประธานมา เพื่อให้เราได้ชื่นชม อิ่มเอมกับศิลปวัฒนธรรม สงบจิตสงบใจ ตั้งสติ และควรมีเวลาดื่มด่ำในพระอุโบสถพอสมควร พึงรู้ว่าการไปไหว้พระเพื่อทำให้จิตใจสงบ คิดอะไรแล้วจะมีสติสัมปชัญญะ ทำกิจใดจะได้ไม่ประมาทเพราะผ่านการไตร่ตรองมาแล้ว และคนที่ไตร่ตรองมากก็ได้เปรียบ มีหนทางเพลี่ยงพล้ำน้อยกว่า”

เส้นทางและศรัทธาในองค์ความรู้ที่ยาวนานและหยั่งรากลึก ซึ่งอัญญมัญญาจัดทัวร์นั้น มีทั้งสังเวชนียสถาน 4 แห่ง ที่อินเดีย และเนปาล พระราชวังโบราณที่ตุรกี เยือนเมืองพุกาม ย่างกุ้ง มัณฑะเลย์ หงสาวดีของพม่า เที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ที่รัสเซีย และชมความงามของภูฏาณ เป็นต้น ซึ่งสนนราคานั้นจัดว่าแพงเอาการ

เผ่าทองเล่าถึงธุรกิจทัวร์แบบ Blue Ocean ของเขาว่า “อัญญมัญญาจัดทัวร์กรุ๊ปเล็กๆ 15-20 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่เชื่อมั่นในตัวผมว่าจะจัดทัวร์ให้ถูกใจพวกเขาได้ และเป็นการบอกเล่าแบบปากต่อปาก กลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าของกิจการ เขาทำงานหนัก เวลาเที่ยวก็อยากไปแบบสบาย เท่าไหร่เท่ากัน แม้ราคาจะแพงกว่าทัวร์อื่น แต่รายละเอียดแตกต่างกัน เพราะผมเป็นคนชอบเดินทาง ก็อยากจะพักดีๆ ทานอาหารดีๆ ไม่งั้นก็ไม่ไปดีกว่า เพราะฉะนั้นทัวร์ของผมเขาจะเรียกกันว่าทัวร์ 5 ดาว กินอยู่ทุกอย่าง 5 ดาวหมด ดังนั้นจึงไม่ได้เน้นกำไร และไม่ได้จัดทัวร์ถี่ ปีละไม่เกิน 20 ครั้งเท่านั้น เพราะทำทัวร์ไม่ใช่อาชีพหลัก ไม่ได้ยังชีพด้วยการทำทัวร์”

“ทัวร์รูปแบบศิลปวัฒนธรรม คนที่ไปเพราะต้องการความรู้ ประวัติความเป็นมา มีเรื่องเล่า รากเหง้าของสถานที่นั้นๆ ไปแล้วได้ครบรส และที่เขาเลือกไปเพราะเขามีความเชื่อ ศรัทธาว่าสถานที่นั้นเต็มไปด้วยคลังความรู้มหาศาลที่จะเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับเขา เวลาบรรยายทัวร์จะไม่พูดในเรื่องของการมอมเมา ไม่บรรยายอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ไม่ใช่แค่เน้นว่าไปให้ถึง ไหว้ๆ แล้วจะได้บุญ ทัวร์แสวงบุญทางลัดมีเยอะ คนสมัยนี้รักความสบายนิยมทางลัด ไม่ต้องทำงานหนักแต่อยากรวย การที่พระจะช่วยเรา เราก็ต้องช่วยตัวเองก่อน”

สำหรับคนบางส่วนในสังคมที่นิยมบูชาเครื่องรางของขลัง ส่วนหนึ่งมาจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำย่ำแย่ อีกทั้งสถานการณ์ความไม่สงบ คนรู้สึกขาดที่พึ่งต้องไขว่คว้าหาสิ่งยึดเหนี่ยวที่เป็นรูปธรรม เผ่าทองบอกว่า “เป็นความเชื่อส่วนบุคคลซึ่งไม่ผิด เป็นเรื่องปรกติของสังคมตะวันออก ที่นิยมเอาจิตไปผูกกับวัตถุ และอธิบายศาสนาด้วยวิธีเหนือธรรมชาติ เส้นทางสู่ธรรมต่างกัน แต่จุดมุ่งหมายเหมือนกัน บางคนถือแก่น บางคนถือวัตถุ แต่ไม่ควรงมงายจนเกินควร หากมองว่ามีไว้แล้วทำให้จิตนิ่งก็ได้ ไม่ได้มองว่าจะมาแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์อะไร”

“ยิ่งเศรษฐกิจแย่ เราควรที่จะมีสติ ไม่ใช่แย่ไปตามเศรษฐกิจ เดี๋ยวนี้เป็นอย่างนี้กันเยอะ สภาพจิตใจไกลแก่นพระพุทธศาสนาไปทุกที ยากที่จะอธิบาย มันลุ่มหลง ไม่ใช่ศรัทธาที่แท้จริง เหมือนมีหมอกลงทำให้คนเดินหลงทาง แต่ถ้าเศรษฐกิจดี ฟ้าใส คนก็เดินถูกทาง”

เผ่าทองอธิบายถึง “ความศรัทธา” ในมุมมองของเขาว่า “เพราะเชื่อว่าบุญสำเร็จได้ด้วยการกระทำ ผมจึงศรัทธาในความถูกต้อง ความดี ไม่ได้เป็นคนวัตถุนิยม ไม่ห้อยเครื่องรางอะไร ทำในสิ่งที่มีจรรยาบรรณ ต้องทำดี บางอย่างถูกกฎหมาย แต่ขาดจรรยาบรรณ ต้องไม่เลี่ยงกฎหมาย คำนึงความถูกต้องทางจิตใจเป็นสำคัญ ไม่เอาเปรียบ หรือคดโกงใคร นอกจากนี้หากทำอะไรก็ต้องตั้งใจทำจริง ประกอบอาชีพด้วยความสุจริตและพากเพียร เคยทำงาน 8 ชม. ยังไม่รวย ก็ต้องทำเพิ่มเป็น 10 ชม. ถ้ายังไม่รวยก็เพิ่มเป็น 12 ชม. ถ้าไม่สำเร็จก็ต้องถามตัวเองว่าให้เวลากับงานเพียงพอหรือเปล่า”