กลุ่มสัมมากร – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 04 Oct 2021 13:49:16 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “สัมมากร” JV ทุนอีสาน บุกเปิดบ้านหรูเลียบด่วนฯ ดึง “ป๊อด โมเดิร์นด็อก” โปรโมตโครงการ https://positioningmag.com/1354744 Mon, 04 Oct 2021 12:03:30 +0000 https://positioningmag.com/?p=1354744 ปีนี้ “สัมมากร” แตกแบรนด์ใหม่เพียบ ประเดิมด้วยโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี “Providence Lane” เอกมัย-รามอินทรา โดยร่วมจอยต์เวนเจอร์กับ “แอสเซท โปร” ทุนอสังหาฯ จากภาคอีสาน ดึงตำนานศิลปินเป็น ‘Brand Iconic’ ผู้ซื้อสองหลังแรกจะได้รับภาพวาดเอ๊กซ์คลูซีฟจาก “ป๊อด โมเดิร์นด็อก” โค้งท้ายปีนี้สัมมากรแย้มแผนจะเปิดเพิ่มอีก 2 โครงการ

“ณพน เจนธรรมนุกูล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) หรือ SAMCO ร่วมด้วย “กล้ายุทธ จินตนะกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสเซท โปร กรุ๊ป จำกัด แถลงการร่วมทุนโครงการแรกระหว่างสองบริษัทคือโครงการบ้านเดี่ยวระดับลักชัวรี “Providence Lane” เอกมัย-รามอินทรา มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท ทั้งโครงการมีเพียง 12 ยูนิตส่วนตัว ราคาเริ่มต้น 30 ล้านบาท เตรียมเปิดพรีเซล 9-10 ตุลาคมนี้

สัมมากรเป็นบริษัทที่ก่อตั้งมายาวนาน 50 ปี การแตกแบรนด์ใหม่ในระดับลักชัวรีครั้งนี้ถือเป็นการขยายฐานตลาดใหม่ โดยณพนกล่าวว่า บริษัทเลือกจับมือกับแอสเซท โปร เนื่องจากเป็นบริษัทที่จับกลุ่มลูกค้าระดับลักชัวรีอยู่แต่เดิม ทำให้มีความเข้าใจพฤติกรรมลูกค้า

“Providence Lane” เอกมัย-รามอินทรา

ด้านกล้ายุทธ กล่าวถึงบริษัทแอสเซท โปร กรุ๊ปเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ในเครือ สิริมงคล และมีธุรกิจนำเข้ารถยนต์พรีเมียมภายใต้แบรนด์ Rabbit Auto Craft และการร่วมจับมือกับสัมมากรจะทำให้บริษัทได้ขยายตลาดเข้าสู่กรุงเทพฯ เป็นครั้งแรก

ทั้งสองบริษัทจะร่วมทุนในสัดส่วน สัมมากร 51:49 แอสเซท โปร กรุ๊ป และเตรียมโครงการที่สองภายใต้การร่วมทุนไว้แล้วในทำเลพัฒนาการ จะเป็นบ้านเดี่ยวระดับอัลตราลักชัวรี

 

ผู้ซื้อรับงานศิลปะส่วนตัวจาก ‘ป๊อด โมเดิร์นด็อก’

สำหรับโครงการ “Providence Lane” เอกมัย-รามอินทรา ตั้งอยู่ในซอยสังคมสงเคราะห์ 14 ระยะทาง 2 กม.จากเซ็นทรัล อีสต์วิลล์ มีทั้งหมด 12 หลัง เป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้น 4 ห้องนอน 5-6 ห้องน้ำ ขนาดที่ดินเริ่มต้น 64 ตร.ว. มีสระว่ายน้ำส่วนตัวและลิฟต์ทุกหลัง

กล้ายุทธนำเสนอโครงการนี้ว่า ออกแบบในสไตล์ ‘Bauhaus’ เน้นความเรียบ เชื่อมต่อภายในและภายนอกบ้าน ดีไซน์ไร้กาลเวลา ใส่ใจคุณภาพของวัสดุ สร้างพื้นที่ให้มีความเป็นส่วนตัว ไฮไลต์ฟังก์ชันตัวบ้านจะมีพื้นที่ ‘Café Area’ ด้วย ซึ่งจะทำให้บ้านมีที่ทำกิจกรรมร่วมกัน

เพดานดับเบิลวอลุ่ม มีสระว่ายน้ำส่วนตัว
Cafe Area พื้นที่ทำกิจกรรมของคนในบ้าน

Providence Lane เอกมัย-รามอินทรา เลือกให้ “ป๊อด โมเดิร์นด็อก” ธนชัย อุชชิน เป็น ‘Brand Iconic’ ของโครงการ ช่วยสร้างการรับรู้และร่วมในแคมเปญการตลาดด้วย นั่นคือ ลูกค้าที่จอง 2 หลังแรกในโครงการ จะได้รับภาพวาดเอ๊กซ์คลูซีฟฝีมือป๊อด โมเดิร์นด็อก โดยเขาจะใช้เวลาพูดคุยกับเจ้าของบ้านก่อนเริ่มลงมือสร้างงานศิลปะ ทำให้ภาพสะท้อนตัวตนของเจ้าของและมีหนึ่งเดียว

“เลือกพี่ป๊อดมาเพราะเป็นไอคอนของไอคอน ทุกคนรู้จักพี่ป๊อด และเขามีบุคลิกชัดเจนซึ่งสะท้อนออกมาในงานของเขาไม่ว่าจะเป็นงานเพลงหรืองานศิลปะ ไลฟ์สไตล์ของพี่ป๊อดก็สบายๆ เข้ากับดีไซน์โครงการเราที่เป็นระดับลักชัวรีแต่ดีไซน์มีความไร้กาลเวลา” ณพนกล่าว โดยวางเป้าว่าโครงการนี้จะปิดการขายได้ภายใน 1 เดือน

ป๊อด โมเดิร์นด็อก ด้านหน้าผลงานศิลปะของเขา

 

ปีนี้เปิด 3 โครงการ สถานการณ์ดีขึ้นจาก 2563

แผนธุรกิจของสัมมากรปี 2564 ณพนระบุว่า จะมีการเปิดตัว 3 โครงการ ช่วงไตรมาส 4 มูลค่ารวม 850 ล้านบาท โครงการแรกคือ Providence Lane เอกมัย-รามอินทรา มูลค่าโครงการ 500 ล้านบาท ตามด้วย Two Ekkamai มูลค่าโครงการ 150 ล้านบาท (เป็นบ้านหรูราคาเริ่ม 75 ล้านบาท) และปิดท้ายโครงการ One Gate รามอินทรา มูลค่าโครงการ 200 ล้านบาท

ณพน กล่าวว่า รอบ 6 เดือนแรกของปีนี้ บริษัททำรายได้ 716 ล้านบาท เติบโต 6.5% ส่วนไตรมาส 3 ที่ผ่านมา ยอดขายเติบโต 28% สะท้อนว่าปีนี้สถานการณ์ตลาดดีขึ้น

(จากซ้าย) “อลิวัสสา พัฒนถาบุตร” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด (CBRE), “กล้ายุทธ จินตนะกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอสเซท โปร กรุ๊ป จำกัด, “ณพน เจนธรรมนุกูล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) และ ป๊อด-ธนชัย อุชชิน

เห็นได้ว่าปีนี้สัมมากรหันมาบุกตลาดระดับไฮเอนด์เต็มตัว โดยมีการใช้แบรนด์ใหม่ๆ ทำตลาด ณพนระบุว่า เกิดจากประเมินตลาดช่วงนี้ผู้ที่ยังมีกำลังซื้อจะเป็นกลุ่มระดับบน และจะเลือกสินค้าบ้านแนวราบมากกว่าคอนโดมิเนียม เพราะทุกคนต่างต้องการพื้นที่ในบ้านมากขึ้น

 

ตลาดบ้านหรูขายได้ไม่ต่ำกว่า 60%

“อลิวัสสา พัฒนถาบุตร” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย) จำกัด (CBRE) เปิดข้อมูลตลาดบ้านหรูในกรุงเทพฯ ปี 2564 ยังไปได้ดี โดยบ้านระดับราคา 30 ล้านบาทขึ้นไป ทำยอดขายระหว่าง 60-67% มาตลอดตั้งแต่ไตรมาส 1/2563 โดยมียูนิตออกขายใหม่เฉลี่ยกว่า 200 ยูนิตต่อปี

อัตราการขายของบ้านระดับลักชัวรีแยกรายทำเล (ที่มา : CBRE)

อย่างไรก็ตาม อลิวัสสาเจาะลึกให้เห็นรายทำเลว่า บ้านหรูที่อยู่ใจกลางกรุงเทพฯ หรือในเขตรอบๆ กลางเมือง จะขายดีกว่าเขตชานเมือง โดยเขตใจกลางเมืองและรอบๆ กลางเมืองจะมีอัตราการขายระหว่าง 62-87% ขณะที่เขตชานเมืองฝั่งตะวันออกขายได้ 56% และเขตชานเมืองฝั่งตะวันตกขายได้ 60% (ข้อมูลช่วงครึ่งปีแรก 2564)

ยอดขายที่ยังทำได้ดีของตลาดบ้านหรูนั้นน่าจะ “ยังไม่ถึงจุดพีค” เพราะ “ดีมานด์ของบ้านใหม่ที่มีฟังก์ชันตอบโจทย์ new normal เพิ่งเริ่มต้น และมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ” อลิวัสสากล่าว

]]>
1354744
รู้จัก “Brainwake Café” ร้านกาแฟเล็กๆ ที่กลุ่มสัมมากร-สหพัฒน์ฯ ยังต้องเข้าถือหุ้น https://positioningmag.com/1250917 Thu, 24 Oct 2019 16:34:56 +0000 https://positioningmag.com/?p=1250917 จากร้านกาแฟเล็กๆ บนถนนสุขุมวิท 33 เพิ่มเมนูอาหารสไตล์คอมฟอร์ตฟู้ด ทั้งอาหารไทย และอาหารอินเตอร์ จนได้รับการตอบรับดี ตั้งแต่ปี 2547 ปัจจุบันขยายสาไปแล้ว 8 สาขา

ร้านเล็กๆ ที่แบรนด์ไม่เล็กต้องขอจอยด้วย

จากศักยภาพที่โดดเด่น ทำให้ขยายปีกออกสู่ต่างประเทศ พร้อมเพิ่มทุนเป็น 150 ล้านบาท โดยมีกลุ่มสัมมากร และกลุ่มสหพัฒน์ฯ ได้เข้ามาร่วมถือหุ้น ถือว่าไม่ธรรมดาสำหรับร้านกาแฟที่ชื่อว่า “เบรนเวค คาเฟ่” (Brainwake Café)

แม้จะร้างลาจากวงการการเมืองมาแล้วหลายปี ก้าวเข้าสู่วงการนักธุรกิจแบบเต็มตัว อย่าง “นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ” ก็ยังไม่ทิ้งฝีมือด้านการบริหาร กับการนั่งตำแหน่ง ประธานกรรมการ เบรนเวค กรุ๊ป สามารถนำพาธุรกิจเตะตานักลงทุนรายใหญ่ระดับประเทศ อย่าง กลุ่มสัมมากร และกลุ่มสหพัฒน์ฯ ได้เข้ามาร่วมถือหุ้น

โดยมีสัดส่วนการถือหุ้น คือ กลุ่มสัมมากร 19% กลุ่มสหพัฒน์ฯ 13% ในขณะที่นายสุรนันทน์ถือหุ้น 20% ที่เหลือเป็นผู้ถือหุ้นชาวญี่ปุ่น และผู้ถือหุ้นคนไทยอีกกว่า 70 คน ซึ่งการเข้ามาของกลุ่มทุนใหญ่ในครั้งนี้ เนื่องจากเห็นช่องทางการลงทุนในแบรนด์ร้านอาหารที่ยังไม่ใหญ่มากแต่มีศักยภาพที่จะเติบโต

โดยที่กลุ่มสัมมากรซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ทำให้เรามีช่องทางในการหาทำเลที่เหมาะสม เพื่อขยายสาขาเพิ่ม พร้อมนำ เบรนเวค คาเฟ่ ไปเปิดในคอมมูนิตี้มอลล์ “สัมมากร เพลส” รวมถึง เพิ่มปริมาณการซัพพลายเบเกอรี่ให้ร้าน ลอว์สัน 108 ที่บริหารงานโดยกลุ่มสหพัฒน์ฯ

ขยายสาขา พร้อมกับส่งเบเกอรี่ให้ร้านใหญ่ๆ

สำหรับร้าน “เบรนเวค คาเฟ่ (Brainwake Café)” เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2557 ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มต้นเพียง 2 ล้านบาท โดยสาขาแรกเปิดบนที่ดินบ้านของตัวเอง บริเวณถนนสุขุมวิท 33 มีเมนูอาหารสไตล์คอมฟอร์ตฟู้ด ทั้งอาหารไทย และอาหารอินเตอร์ ซึ่งได้การตอบรับที่ดีมาก มีลูกค้าชาวญี่ปุ่น ยุโรป และคนไทย มาใช้บริการเป็นจำนวนมาก

หลังจากเปิดสาขาแรกได้ 2 ปี จึงได้มาเปิดสาขาทองหล่อ เป็นแห่งที่ 2 โดยเป็นคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่น ที่มีไลน์เบเกอรี่ที่คิดค้นสูตรและทำโดยเชฟชาวญี่ปุ่น ซึ่งถือเป็นจุดเด่นและเป็นซิกเนเจอร์ของเบรนเวค และเพื่อให้ได้เบเกอรี่ที่มีรสชาติและมาตรฐานเดียวกันทุกสาขา จึงใช้ที่นี่เป็น “Bakery Lab” สำหรับผลิตเบเกอรี่และเค้ก เพื่อส่งไปยังสาขาอื่นๆ ที่ปัจจุบันมียอดขายรวมกันวันละประมาณ 3,000 ชิ้น โดยมีกำลังการผลิตได้สูงสุดได้ถึงวันละ 9,000 ชิ้น

ห้องผลิตเบเกอรี่สไตล์ญี่ปุ่น

ปัจจุบันเบรนเวค คาเฟ่ มีทั้งหมด 8 สาขาที่เป็นร้านขนาดใหญ่ที่มีอาหารและเครื่องดื่ม คือ สาขาสุขุมวิท 33, สาขาทองหล่อ, สาขามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, สาขาจี ทาวเวอร์, สาขามติชนอคาเดมี (เป็นครัวกลางที่ผลิตอาหารเพื่อส่งไปที่สาขาอื่นๆ), สาขาสัมมากร, สาขาโรงแรมชามา ซอยนานา, สาขาบางซื่อจังชั่น และอีก 1 สาขาที่เป็น “เบรนเวค คาเฟ่ แอนด์ เบเกอรี่” คือ สาขาลิโด้ คอนเน็คท์ ที่มีเฉพาะเบเกอรี่และเครื่องดื่ม นอกจากนี้ยังได้ซัพพลายเบเกอรี่ให้ร้านสะดวกซื้อ ลอว์สัน 108 (Lawson 108) อีก 20 สาขา

นอกจากนี้ เบรนเวค กรุ๊ป ยังได้ร่วมกับ Lichen International Group ผู้นำด้านธุรกิจอาหารจากประเทศไต้หวัน เปิดร้านก๋วยเตี๋ยว “Mei Wei Wan” (เม่ย เว้ย หว่าน) สูตรไต้หวันดั้งเดิมสาขาแรกที่ ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ ที่เปิดให้บริการไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยมีแผนที่จะเปิดอีก 3 – 5 สาขา ภายในปี 2020

“แม้สภาพเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างถดถอย แต่ในปีนี้ เบรนเวค กรุ๊ป มีรายได้เติบโตเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน จาก 43 ล้านบาท เป็น 52 ล้านบาท และคาดว่าในปีหน้าจะมีรายได้แตะ 100 ล้านบาท โดยมีแผนที่จะขยายสาขาเบรนเวค คาเฟ่ ในพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยว ไม่น้อยกว่า 3 สาขา อาทิ เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา ขณะที่ร้าน “เบรนเวค คาเฟ่ แอนด์ เบเกอรี่” ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 8 – 10 สาขา โดยเน้นโลเคชั่นที่เป็นอาคารสำนักงานใหญ่ๆ พร้อมซัพพลายเบเกอรี่ให้ร้านสะดวกซื้อ ลอว์สัน 108 เพิ่มเป็น 50 สาขา รวมถึงความร่วมมือที่จะซัพพลายเบเกอรี่ให้กับทาง Gourmet Market ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต”

สำหรับแผนการบริหารธุรกิจในอีก 3 – 5 ปีข้างหน้า บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายสาขา เบรนเวค คาเฟ่ ในประเทศให้ได้ 20 สาขา และมีแผนที่จะขยายสาขาไปยังต่างประเทศอีก 3 – 5 แห่ง เพื่อสร้างให้แบรนด์ไทยติดตลาดต่างประเทศ อาทิ สิงคโปร์ โตเกียว ไทเป ซิดนีย์ เมลเบิร์น และนิวยอร์ก โดยมีแผนที่จะนำบริษัทฯ เข้าตลาดหลักทรัพย์ภายใน 3 ปีจากนี้.

Source

]]>
1250917