ก่อการร้าย – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 02 Sep 2021 09:30:20 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 วิเคราะห์ “โตโยต้า” รับมืออย่างไร? เมื่อรถตัวเองถูก “ตาลีบัน” ใช้ก่อการร้าย https://positioningmag.com/1349896 Thu, 02 Sep 2021 05:34:31 +0000 https://positioningmag.com/?p=1349896 เป็นกรณีศึกษาเรื่องแบรนด์ที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับเคสของโตโยต้า (Toyota) ที่ล่าสุดมีการวิเคราะห์ว่ากลุ่มตาลีบันคือเหตุผลหลักที่ทำให้โตโยต้าต้องออกนโยบายการขายต่อของรถ Toyota Land Cruiser ปี 2022 อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน นโยบายนี้มีสัญญาณมากมายบอกว่าโตโยต้ากำลังพยายามทำให้กลุ่มติดอาวุธนำรถของบริษัทไปใช้ก่อการได้ยากขึ้น และแบรนด์ใหญ่สัญชาติญี่ปุ่นกำลังเดินเกมแก้ปัญหาเพื่อให้รถตัวเองหลุดจากภาพขวัญใจผู้ก่อการร้าย

ไม่ใช่แค่กลุ่มตาลีบัน ความจริงคือผู้ก่อการร้ายกลุ่มอื่นก็นิยมใช้รถโตโยต้าเช่นกัน เพียงแต่นาทีนี้ต้องยอมรับว่าตาลีบันมีอิมแพคต่อแบรนด์มากที่สุด เห็นได้ชัดจากข่าว รวมถึงภาพน่าเศร้ามากมายบนโซเชียลมีเดียที่เกี่ยวกับสถานการณ์ในอัฟกานิสถาน ล้วนแสดงให้เห็นว่ากลุ่มติดอาวุธเหล่านี้ขับรถผ่านเมืองไปด้วยรถกระบะของโตโยต้า

แน่นอนว่าโตโยต้าไม่ปลื้ม แม้กรณีที่เกิดขึ้นจะยืนยันความน่าเชื่อถือและความทนทานของรถโตโยต้า แต่สถานการณ์สงครามที่เลวร้ายและรุนแรงทำให้โตโยต้าไม่อาจนั่งอยู่เฉยๆ ทำให้แบรนด์ริเริ่มมาตรการที่ใหม่ที่หวังผลเพื่อป้องกันไม่ให้รถโตโยต้าตกไปอยู่ในมือของกองโจรติดอาวุธได้ง่ายนัก นั่นคือนโยบายการขายต่อของรถ Land Cruiser ปี 2022

ทำไมตาลีบันถึงรักโตโยต้า?

ก่อนจะไปถึงเหตุผลว่าทำไมตาลีบันถึงมีอิมแพคกับแผนธุรกิจรถ Land Cruiser ใหม่ของโตโยต้า ประเด็นที่ควรรู้คือรถโตโยต้าไม่เพียงได้รับความนิยมในกลุ่มตาลีบันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอัลกออิดะห์และไอซิสด้วย

เหตุที่รถกระบะของโตโยต้าเป็นขวัญใจของผู้ก่อการร้ายหลายกลุ่ม เพราะสภาพภูมิประเทศที่ขรุขระสุดขีดที่พบมากในเอเชียกลางและตะวันออกกลาง แถมผู้ก่อการยังต้องการยานพาหนะที่ปรับแต่งเพิ่มเติมได้ง่าย เพื่อเปลี่ยนให้รถสามารถติดตั้งปืนกลและมีแผงป้องกันกระสุนที่แข็งแรงยิงไม่ทะลุ กลายเป็นรถที่เหมาะกับการรับส่งทหารที่รวดเร็วทันใจ

ปรากฏว่าทั้ง Hilux และ Land Cruiser เป็นรถที่เข้าตากรรมการทุกข้อ โลกจึงได้เห็นภาพรถโตโยต้าที่ติดตั้งปืนกลหลายสิบลำที่ด้านหลัง สิ่งที่เกิดขึ้นคือรถกระบะของโตโยต้าถูกมองเป็นเครื่องมือสร้างความขัดแย้งในพื้นที่เหล่านี้ แถมสถานการณ์นี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น เพราะมีรายงานตั้งแต่ปี 2001 ว่าสมาชิกกลุ่มตาลีบันสามารถกระโดดลงจากรถ Hilux และ Land Cruiser ได้ทันใจเพื่อลงไปทุบตีผู้หญิงที่ไม่สวมชุดคลุมข้อเท้า

กฎใหม่ห้ามขายต่อ Land Cruiser ในปีแรก

ถึงตรงนี้ หลายคนไม่สงสัยว่าตาลีบันเกี่ยวข้องโดยตรงกับนโยบายการขายต่อของรถรุ่นใหม่ Land Cruiser ปี 2022 เพราะนโยบายนี้สะท้อนว่าโตโยต้าต้องการหยุดไม่ให้รถของแบรนด์ถูกนำไปข้องเกี่ยวกับความขัดแย้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการขายต่อจนกลุ่มผู้ก่อการร้ายนำยานพาหนะของโตโยต้าไปดัดแปลงตั้งแต่แรก

โตโยต้านั้นออกประกาศใช้นโยบายสำหรับ Toyota Land Cruiser รุ่นปี 2022 ว่าผู้บริโภคไม่สามารถขายต่อยานพาหนะของตัวเองได้จนกว่าจะผ่านไป 1 ปีเต็มนับจากการซื้อครั้งแรก รถรุ่นนี้เริ่มวางจำหน่ายในญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ราคาอยู่ที่ประมาณ 46,500 เหรียญสหรัฐ (ราว 1.5 ล้านบาท)

สื่อญี่ปุ่นรายงานว่าใครก็ตามที่ซื้อรถรุ่นนี้จะต้องเซ็นสัญญาผูกมัดว่าจะไม่ขายต่อรถภายใน 1 ปี โดยกำหนดโทษว่าตัวแทนจำหน่ายอาจต้องจ่ายค่าเสียหาย หากลูกค้าของใครขายรถ Land Cruisers รุ่นใหม่ไปก่อนแบบผิดสัญญา

กรณีนี้นักสังเกตการณ์บางรายมองว่านโยบายนี้สมเหตุสมผลอยู่บ้าง แม้จะเป็นการแก้ที่ปลายเหตุเพราะผู้ก่อการร้ายมีช่องทางรับรถหลากหลายจากต่างประเทศอยู่แล้ว แต่อย่างน้อยกฏใหม่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำได้

หากมองให้ลึกลงไปอีก จะพบว่าโตโยต้าไม่ได้เร่งมือเพื่อแก้ปัญหาแบรนด์พังเท่านั้น เพราะนอกจากโอกาสในการออกสื่อด้วยภาพลักษณ์ที่ไม่ดีแล้ว โตโยต้ายังมีประเด็นทางกฎหมายที่ต้องคิดหนักหากองค์กรผู้ก่อการร้ายชื่อดังนิยมใช้รถแบรนด์โตโยต้ามากขึ้น เพราะบริษัทอาจถูกปรับได้ในข้อหาละเลย จนทำให้สินค้าจำนวนมากถูกครอบครองในองค์กรสีดำที่เปื้อนเลือด

นอกจากนี้ยังมีกฎหมายด้านเงินตราต่างประเทศ ที่กำหนดให้บริษัทต้องดำเนินการทุกอย่างที่ทำได้ เพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าของตัวเองกลายเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ดังนั้นแบรนด์ที่ไม่ดำเนินการใดๆ อาจส่งผลให้ได้รับโทษปรับเป็นเงินมหาศาล และอาจถึงขั้นจำคุกผู้บริหารได้

ที่สุดแล้ว โตโยต้ามีแรงจูงใจมากมายที่จะต้องเร่งรับมือ เมื่อรู้ว่ารถแบรนด์โตโยต้าถูกนำไปใช้ก่อการร้าย ไม่แน่ โตโยต้าอาจต้องแก้เกมภาพลักษณ์แบบเข้มข้นมากขึ้นกว่าการเปลี่ยนนโยบายขายต่อรถ Toyota Land Cruiser ปี 2022 ก่อนที่แบรนด์จะพังไปมากกว่านี้ในสงครามที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต.

ที่มา :

]]>
1349896
สมาคมแอร์ฯ สหรัฐฯ กดดันทุกสายการบินจัดลิสต์ “แบน” ผู้ประท้วงกลุ่มทรัมป์ขึ้นเครื่อง https://positioningmag.com/1313786 Tue, 12 Jan 2021 10:53:15 +0000 https://positioningmag.com/?p=1313786 วิกฤตการเมืองสหรัฐฯ ยังไม่จบง่ายๆ หลังสภาคองเกรสให้การรับรอง “โจ ไบเดน” เป็นประธานาธิบดี แต่ยังเหลือขั้นตอนสุดท้ายคือ “พิธีสาบานตน” ในวันที่ 20 ม.ค. 2021 ซึ่งมีข่าวหนาหูว่ากลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์จะจัดบุกทำลายพิธี ขณะที่การดำเนินการทางกฎหมายยังไม่ชัดเจน ฝั่งสมาคมพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของสหรัฐฯ จึงเป็นโต้โผขอร้องทุกสายการบินร่วมจัดลิสต์ “บัญชีดำ” ผู้โดยสารที่ร่วมประท้วงเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2021 ไม่ให้ขึ้นเครื่อง โดยอ้างกฎความปลอดภัยทางการบิน

เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2021 ทั่วโลกตกอยู่ในอาการตื่นตะลึง เมื่อกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์หลายพันคนบุกอาคารรัฐสภาในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เป้าหมายเพื่อหยุดยั้งไม่ให้สภาคองเกรสให้การรับรอง “โจ ไบเดน” เป็นประธานาธิบดีแทน “โดนัลด์ ทรัมป์” ที่แพ้การเลือกตั้ง การบุกสภาคองเกรสในวันนั้นไม่สำเร็จ แต่มีรายงานข่าวต่อมาว่ากลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์จะไม่หยุดแค่นี้

อ้างอิงจากแถลงการณ์ของ Twitter ซึ่งในที่สุดตัดสินใจแบนทรัมป์ออกจากแพลตฟอร์มอย่าง “ถาวร” ระบุว่า กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ตั้งเป้าจะก่อความรุนแรงขึ้นอีก

“แผนการประท้วงแบบติดอาวุธมีปรากฏอย่างแพร่หลายบน Twitter รวมถึงแผนการโจมตีอาคารรัฐสภาอีกครั้งในวันที่ 17 ม.ค. 2021 รวมถึงมีรายงานจำนวนมากว่ากลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์กลุ่มใหญ่กำลังวางแผนก่อความรุนแรงในวอชิงตัน ดี.ซี. ในวันที่ 20 ม.ค. 2021 ซึ่งเป็นวันทำพิธีสาบานตนขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดี” เหล่านี้คือข้อมูลตามแถลงการณ์ของ Twitter เพื่อเตือนถึงความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น

เหตุจลาจลยึดรัฐสภาโดยผู้สนับสนุน โดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2021 (Photo by Tasos Katopodis/Getty Images)

จากแผนการโจมตีของกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ทำให้ “ซาร่า เนลสัน” ประธาน สมาคมพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน (AFA) ในสหรัฐอเมริกา และเป็นผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครต-ต่อต้านทรัมป์อย่างชัดเจน ออกโรงกระทุ้งให้หน่วยงานด้านความปลอดภัยในการเดินทาง (TSA) และบรรดาสายการบิน เร่งหามาตรการป้องกันไม่ให้กลุ่ม “ผู้ก่อการร้ายในประเทศ” กลับไปที่วอชิงตัน ดี.ซี. อีกครั้ง

“เราสนับสนุนให้มีการปฏิบัติการโดยเร็วที่สุด เพื่อให้มีกฎที่ชัดเจนและลำดับการทำงานที่ชัดเจนในการป้องกันไม่ให้กลุ่มคนเหล่านี้ขึ้นเครื่อง” เนลสันกล่าว โดยสมาคม AFA นี้เป็นสหภาพแรงงานที่มีสมาชิกกว่า 5 หมื่นคนจาก 17 สายการบิน

ก่อนหน้านี้ “เบนนี ทอมป์สัน” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ดูแลงานในกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ออกมาเรียกร้องให้ใส่ชื่อกลุ่มคนที่ร่วมประท้วง ณ รัฐสภาสัปดาห์ก่อนเข้าไปใน ‘No-Fly List’ ของ TSA ซึ่งเป็นลิสต์บุคคลต้องห้ามขึ้นเครื่องเข้า ออก หรือภายในสหรัฐฯ เนื่องจากเป็นผู้ก่อการร้าย แต่คาดกันว่าจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ก่อนจะถึงพิธีสาบานตนรับรองให้ไบเดนเป็นประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ

Photo : Shutterstock

ดังนั้น เนลสันจึงมองว่ากลุ่มสายการบินสามารถรวมตัวกันใช้วิธีการอื่นไปก่อน โดยแต่ละสายการบินควรทำบัญชีดำผู้โดยสารที่มีพฤติกรรมผิดกฎหมาย จากนั้นสายการบินสามารถระบุว่า “เราแบนผู้โดยสารดังต่อไปนี้ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย”

เธอยังขอให้แต่ละสายการบินนำบัญชีมาใช้ร่วมกันด้วย เพราะแม้ว่าปกติสายการบินจะประสานงานกันไม่ได้เนื่องจากเป็นการแข่งขันทางธุรกิจ แต่เหตุผลครั้งนี้คือการประสานงานด้านความปลอดภัย สำหรับการแบนไม่จำเป็นต้องทำตลอดไป แต่สามารถแจ้งแบนผู้โดยสารเฉพาะบางสนามบินหรือบางช่วงเวลาก็ได้

“ปกติแล้วนี่ไม่ใช่สิ่งที่สายการบินจะลุกขึ้นมาทำเอง แต่ขณะนี้ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ” เนลสันกล่าว “อย่างน้อยรายชื่อบุคคลเหล่านี้ควรจะต้องถูกแยกมาประเมินความเสี่ยงเชิงพฤติกรรมในสนามบิน ตามหลักเกณฑ์ที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติปกติ เพื่อประเมินว่าคนเหล่านี้จะเป็นความเสี่ยงบนไฟลต์บินหรือไม่”

donald trump
ทรัมป์ถูกแบนถาวรจาก Twitter และ Facebook และยังมีความเสี่ยงที่จะถูกปลดออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีก่อนจะได้ลงจากตำแหน่งด้วย (Photo by Chip Somodevilla/Getty Images)

ความรุนแรงจากกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ ที่จริงแล้วไม่ใช่เรื่องที่คาดไม่ถึง เพราะรอบหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า “ผู้ก่อการร้ายในประเทศ” คือภัยคุกคามที่สำคัญต่อประเทศชาติ และเมื่อ 3 เดือนก่อน กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิเพิ่งจะออกรายงานประจำปีรายงานว่าความรุนแรงจากกลุ่ม “ลัทธิความเหนือกว่าของคนผิวขาว” (White Supremacy) จะเป็น “ภัยที่ถึงแก่ชีวิตและต่อเนื่องยาวนานมากที่สุดภายในประเทศ”

อย่างไรก็ตาม ปกติแล้ว No-Fly List มักจะเกี่ยวข้องกับผู้ก่อการร้ายต่างประเทศ จากรายงานเมื่อปี 2016 พบว่ามีบุคคลห้ามขึ้นเครื่องในสหรัฐฯ 8.1 หมื่นรายชื่อ โดยมีคนอเมริกันอยู่ในรายชื่อนั้นแค่ 1 พันคน หรือราว 1% กว่าเท่านั้น และยิ่งกลุ่มผู้ประท้วงเมื่อสัปดาห์ก่อนไม่ได้ถูกจับในข้อหาก่อการร้าย แต่เป็นข้อหาประเภทครอบครองอาวุธปืนผิดกฎหมายหรือบุกรุกสถานที่ ทำให้การใส่ชื่อไปในลิสต์ที่เกี่ยวกับผู้ก่อการร้ายเป็นเรื่องยาก

“เราในฐานะผู้อยู่ในอุตสาหกรรมการบิน มีบทบาทที่สำคัญยิ่งในการรักษาความปลอดภัยให้ประเทศชาติ สายการบินร่วมกับหน่วยงานรัฐและผู้บังคับใช้กฎหมายต้องใช้ทุกขั้นตอนให้มั่นใจว่า ความปลอดภัยของผู้โดยสารและลูกเรือต้องมาก่อน โดยปัญหาทั้งหมดจะต้องถูกทิ้งไว้บนพื้นดิน” เป็นเนื้อความในแถลงการณ์ของ AFA “การกระทำที่ต่อต้านประชาธิปไตยของเรา รัฐบาลของเรา และเสรีภาพที่เรามีในฐานะอเมริกันชน ต้องถูกนำมาเป็นข้อกำหนดมิให้บุคคลเหล่านี้มีอิสระในการโดยสารไฟลต์บิน”

Source

]]>
1313786