ค้าส่งวัสดุก่อสร้าง – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 18 May 2023 03:14:42 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ครบรอบ 40 ปี “ดูโฮม” ค้าวัสดุก่อสร้างแดนอีสาน รุกคืบเพิ่ม 3 สาขา เชียงราย-อยุธยา-ปทุมธานี https://positioningmag.com/1430842 Wed, 17 May 2023 09:48:36 +0000 https://positioningmag.com/?p=1430842 ฉลองครบรอบ 40 ปี “ดูโฮม” ร้านค้าวัสดุก่อสร้างจากอุบล ปีนี้วางแผนเปิดเพิ่ม 3 สาขาใหญ่ เชียงรายอยุธยาปทุมธานี คาดรายได้เติบโตชะลอตัวจากปีก่อน เนื่องจากครึ่งปีแรกเป็นช่วงเปลี่ยนรัฐบาล หวังอีก 3 ปีข้างหน้ามีโอกาสเบียดขึ้น Top 3 ค้าวัสดุก่อสร้างของไทย

“อดิศักดิ์ ตั้งมิตรประชา” ประธานกรรมการบริหาร และ “นาตยา ตั้งมิตรประชา” รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) นำทีมจัดฉลองครบรอบ 40 ปีบริษัท ขอบคุณลูกค้า ซัพพลายเออร์ และพันธมิตรทางธุรกิจ ที่ช่วยให้วันนี้ดูโฮมเติบโตระดับประเทศ

ดูโฮมเริ่มต้นมาจากการเป็นร้านวัสดุก่อสร้างเล็กๆ ในจ.อุบลราชธานี ก่อนจะขยายตัวในภาคอีสาน และขยายไปทั่วประเทศ จนในที่สุดได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อปี 2562

ผู้บริหารรุ่น 1 และ รุ่น 2 : (จากซ้าย) สลิลทิพ เรืองสุทธิภาพ, นาตยา ตั้งมิตรประชา, อดิศักดิ์ ตั้งมิตรประชา, อริยา ตั้งมิตรประชา และ มารวย ตั้งมิตรประชา

นาตยากล่าวว่า ธุรกิจของดูโฮมจากนี้จะเป็น ‘เหรียญ 2 ด้าน’ ในตนเอง เพราะมีทั้งส่วนค้าส่งและค้าปลีก รวมถึงยังเป็นธุรกิจที่มีรากฐานจากกิจการครอบครัวที่มีความจริงใจต่อพันธมิตร แต่เสริมความเป็นมืออาชีพในการทำงานมากขึ้น

ขณะที่สโลแกนหลัก คือ “ครบ ถูก ดี” จะยังยึดถือไว้เช่นเดิม ร้านดูโฮมจะใช้จุดเด่นต่อสู้ในตลาด ของครบทุกรุ่นทุกเกรด ราคาถูก และมีคุณภาพมาตรฐาน

 

“ดูโฮม” ปีนี้ขยายเพิ่ม 3 สาขาใหญ่

ด้าน “อริยา ตั้งมิตรประชา” รองกรรมการผู้จัดการสายงานปฏิบัติการและจัดซื้อ ดูโฮม เปิดเผยผลการดำเนินงาน นับตั้งแต่เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ฯ รายได้บริษัทเติบโตขึ้นมาถึง 75% จากในปี 2562 ทำรายได้เกือบ 18,000 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 725 ล้านบาท ล่าสุดปี 2565 ปิดรายได้ที่ 31,500 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 774 ล้านบาท

ปัจจุบันร้านค้าของดูโฮมมี 2 รูปแบบ คือ

  • ร้านขนาดใหญ่ พื้นที่ 20,000 ตร.ม. ลงสินค้าครบ มีทั้งหมด 21 สาขา
  • ร้านขนาดเล็ก ‘To Go’ เน้นลงสินค้าประเภทซ่อมแซมบ้าน ทำเลในเมือง มีทั้งหมด 8 สาขา
ดูโฮม
ดูโฮม To Go สาขาท่าอิฐ

โดยสินค้าของดูโฮมมีมากกว่า 100,000 SKUs ครอบคลุมทุกประเภทสินค้า คือ วัสดุก่อสร้าง เครื่องมือช่าง เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ตกแต่งบ้าน ทำสวน

ด้วยสินค้าครบทำให้บริษัทมีลูกค้าทุกประเภท แบ่งสัดส่วนเป็น 1) 40% คือกลุ่มคนสร้างบ้าน ผู้รับเหมาโครงการ 2) 30% คือกลุ่มคนซ่อมบ้าน นายช่างรับจ้างซ่อมแซมบ้าน และ 3) 30% คือกลุ่มคนรักบ้าน เจ้าของบ้านซ่อมเอง/ซื้อเอง หรือตกแต่งบ้าน

ดูโฮม
การเติบโตของดูโฮม และเป้าเปิดสาขาปี 2566

“สลิลทิพ เรืองสุทธิภาพ” รองกรรมการผู้จัดการสายงานบัญชี การเงิน และสนับสนุนองค์กร ดูโฮม กล่าวต่อว่า เมื่อปี 2565 บริษัทมีการเปิดสาขาใหม่ 5 สาขาขนาดใหญ่ ขณะที่ปี 2566 มีแผนเปิด 3 สาขาใหญ่ใน 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย อยุธยา และปทุมธานี รวมถึงจะเปิดสาขาเล็กแบบ To Go อีก 6 สาขา โดยการเปิดสาขาทั้งหมดจะใช้งบลงทุนรวม 3,000 ล้านบาท

เหตุที่ปักหมุดใน 3 จังหวัดนี้ สำหรับเชียงรายถือเป็นหัวเมืองสำคัญอีกแห่งของภาคเหนือ ต่อจากเชียงใหม่และพิษณุโลกที่ดูโฮมเข้าไปเปิดสาขาแล้ว ส่วนอยุธยาและปทุมธานีถือเป็นจังหวัดอุตสาหกรรมที่มีกำลังซื้อสูง

 

รายได้เติบโตช้าลง ครึ่งปีแรกชะลอตัว

สลิลทิพกล่าวต่อว่า สำหรับคาดการณ์รายได้ปี 2566 น่าจะเติบโตได้ไม่เท่ากับปีก่อน (เมื่อปี 2565 รายได้เติบโตพุ่งสูง 25.7%) เนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกเป็นช่วงของการเปลี่ยนรัฐบาล ทำให้กลุ่มผู้รับเหมาโครงการภาครัฐจะมีการเบิกจ่ายล่าช้า ส่งผลถึงการซื้อวัสดุก่อสร้าง

ในไตรมาส 1 ปี 2566 ดูโฮมแจ้งผลประกอบการทำรายได้กว่า 8,500 ล้านบาท เติบโตเพียง 1.9% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 258 ล้านบาท ซึ่งลดลง -43.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

อย่างไรก็ตาม สลิลทิพเชื่อว่าหลังตั้งรัฐบาลได้และมีการเบิกจ่ายตามปกติ รวมถึงดูโฮมจะเปิดทั้ง 3 สาขาใหม่ในครึ่งปีหลังนี้ จึงน่าจะทำให้ครึ่งปีหลังมีผลประกอบการที่ดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก

ขณะที่ความท้าทายปีนี้มองถึงประเด็น “ค่าแรง” 450 บาทต่อวัน ซึ่งว่าที่รัฐบาลใหม่ประกาศนโยบายไว้ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันดูโฮมจ่ายค่าแรงที่สูงกว่าค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้ว จึงกระทบไม่มาก คาดว่าอาจทำให้ต้นทุนสูงขึ้นประมาณ 0.05% ของยอดขายเท่านั้น

 

ลุยต่ออีคอมเมิร์ซ หวังเติบโตเท่าตัวทุกปี

ด้าน “มารวย ตั้งมิตรประชา” รองกรรมการผู้จัดการสายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ และการตลาดออนไลน์ ดูโฮม กล่าวถึงส่วนการขายในรูปแบบอีคอมเมิร์ซที่บริษัทเริ่มขึ้นเมื่อ 6-7 ปีก่อน ปัจจุบันขยายการขายผ่านหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์, โซเชียลคอมเมิร์ซ​ (Line และ Facebook) และมาร์เก็ตเพลส เช่น ลาซาด้า ช้อปปี้

โดยช่องทางเว็บไซต์มีสินค้าลงจำหน่ายแล้ว 3-4 หมื่นรายการ ส่วนในมาร์เก็ตเพลส ลงขายแล้ว 4-5 พันรายการ รวมทั้งหมดสร้างรายได้เป็นสัดส่วน 1% ของรายได้รวมบริษัท แม้สัดส่วนยังน้อยแต่มีทิศทางที่ดี เพราะรายได้ออนไลน์เติบโตเท่าตัวมาทุกปี และต้องการจะให้เติบโตสม่ำเสมอเช่นนี้

ส่วนการลงระบบ CRM ของบริษัทที่เริ่มต้นเมื่อ 2 เดือนก่อน ขณะนี้มียอดสมาชิกแล้ว 2 ล้านราย และเปิดระบบให้ลูกค้าแลกแต้มส่วนลดได้ เริ่มเป็นระบบที่ช่วยให้บริษัทแก้ปัญหาให้ลูกค้าหลังการขายได้ดีขึ้น

 

เป้าหมาย 3 ปี 36 สาขา

สลิลทิพกล่าวต่อถึงเป้าหมายระยะกลางใน 3 ปีข้างหน้า วางแผนไว้ว่าจะเปิดให้ครบ 36 สาขา โดยขณะนี้ศูนย์กระจายสินค้า (DC) ของบริษัทที่ขยายพื้นที่เมื่อปี 2565 พร้อมแล้วที่จะรองรับเป้าหมายดังกล่าว

สาขาใหม่ที่จะขยายจะเน้นหัวเมืองที่ยังไม่มีแบรนด์ดูโฮม เช่น ภูเก็ต และมองว่าโอกาสการขยายตัวยังมีอีกมาก เพราะมีอีกหลายเมืองที่ดูโฮมยังไม่ครอบคลุม

ถ้าวัดจากรายได้บริษัทปี 2565 แล้ว นับว่าขณะนี้ “ดูโฮม” เป็นอันดับ 4 ของตลาดโมเดิร์นเทรดค้าวัสดุก่อสร้าง รองจากอันดับ 1 คือ “โฮมโปร” ทำรายได้กว่า 69,000 ล้านบาท อันดับ 2 คือ “โกลบอลเฮ้าส์” ทำรายได้เกือบ 36,000 ล้านบาท และอันดับ 3 คือ “ไทวัสดุ” ทำรายได้มากกว่า 30,000 ล้านบาท (*เป็นรายได้ปี 2564 ซึ่งไทวัสดุเคยคาดการณ์ว่าปี 2565 รายได้จะเติบโต 18%)

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่การเปิดสาขาครบ 36 สาขาจะทำให้ดูโฮมขึ้นมาเป็น Top 3 ของประเทศ สลิลทิพตอบคำถามนี้ว่า “เป็นไปได้” แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับการขยายตัวของคู่แข่งในช่วงเวลาเดียวกันด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ โอกาสฉลองครบรอบ 40 ปีของดูโฮมในปีนี้จะมีการจัดแคมเปญพิเศษ “Better Together ครบ ถูก ดี ตลอดไป” ซื้อสินค้าครบตามกำหนด รับคูปองลุ้นโชครางวัลรถกระบะ รถจักรยานยนต์ ฯลฯ ที่ดูโฮมทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน – 31 ธันวาคม 2566

]]>
1430842
เจาะพื้นที่เมือง! “ดูโฮมทูโก” ปูพรมไซส์เล็ก เปิดกรุงเทพฯ 90 สาขา รับพฤติกรรมคนกรุง DIY ตกแต่ง-ซ่อมแซมบ้าน https://positioningmag.com/1240271 Wed, 24 Jul 2019 09:55:56 +0000 https://positioningmag.com/?p=1240271 ต้องเรียกว่าเป็นอีก “ธุรกิจป่าล้อมเมือง” ที่มีตำนานกว่า 36 ปี สำหรับร้านค้าส่งค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง อุปกรณ์ตกแต่งและซ่อมแซมบ้าน แบรนด์ Do Home ที่เริ่มต้นธุรกิจครอบครัว “ร้านอุบลวัสดุ” สร้างสตอรี่ใหม่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมเปิดตัวไซส์ XS เจาะกำลังซื้อคนกรุง

ธุรกิจ Do Home เริ่มต้นโดย “อดิศักดิ์ ตั้งมิตรประชา” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) พื้นเพคนจังหวัดอุบลราชธานี ที่เห็นโอกาสในธุรกิจวัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน เจาะตลาดค้าส่ง ผู้รับเหมา และคนทั่วไป เริ่มต้นสาขาแรกที่อุบลราชธานี ปี 2526 ด้วยสาขาต้นแบบไซส์ L พื้นที่ 35,000 – 50,000 ตร.ม. สินค้ากว่า 1.3 แสนรายการ (SKU)

จากนั้นเจนเนอเรชั่น 2 ของครอบครัวเห็นโอกาสนำแบรนด์ Do Home ขยายสาขาออกนอกพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ในปี 2553 ปัจจุบันมีสาขาไซส์ L รวม 9 แห่ง ในหัวเมืองขนาดใหญ่ รวมทั้ง กรุงเทพฯ คือ อุบลราชธานี นครราชสีมา รังสิต ขอนแก่น อุดรธานี พระราม 2 บางบัวทอง เชียงใหม่ และบางนา

อดิศักดิ์ ตั้งมิตรประชา ผู้ก่อตั้ง Do Home

ปีนี้ ดูโฮม ได้สร้างสตอรี่ใหม่จากธุรกิจภูธร สู่บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยสร้างรายได้และกำไรเติบโตมาต่อเนื่อง ปี 2561 รายได้ 18,535 ล้านบาท กำไร 439 ล้านบาท เตรียมเทรดหุ้นครั้งแรกในวันที่ 6 ส.ค. นี้ พร้อมกลยุทธ์การขยายสาขาใหม่ไซส์ XS เจาะกำลังซื้อคนกรุง

ปูพรมไซส์เล็กกรุงเทพฯ 90 สาขา

ภูธดา ธีรเวชชการ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการบริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าแผนธุรกิจช่วง 3 ปีนี้ (2562 – 2564) การขยายสาขาไซส์ใหญ่ จะเปิดเพิ่มราว 7 สาขา จากปัจจุบันมี 9 สาขา รวมเป็น 16 สาขา แต่ยุทธศาสตร์การขยายสาขาที่จะโฟกัสในช่วง 3 ปีนี้ คือ ฟอร์แมตไซส์เล็ก หรือ XS แบรนด์ Do home To GO พื้นที่ 300 – 1,000 ตร.ม. วางเป้าหมายเปิดรวม 90 สาขา ภายในปี 2564

ฟอร์แมต Do home To GO เป็นร้านไซส์เล็กใช้เจาะกำลังซื้อคนเมือง เน้นพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ตั้งอยู่ในพื้นที่ไฮเปอร์มาร์เก็ต ซูเปอร์มาร์เก็ต ห้างค้าส่ง ทั้ง แม็คโคร, เทสโก้ โลตัส, บิ๊กซี เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้า End User เปิดแล้ว 2 สาขา ในแม็คโคร สาขาจรัญสนิทวงศ์ และสาทร

สาขาไซส์ XS ดูโฮม ทูโก มีสินค้ากลุ่มวัสดุตกแต่งและซ่อมแซมเป็นหลัก ประมาณ 10,000 รายการ เน้นกลุ่มผู้บริโภคทั่วไป ที่ซื้อสินค้ากลุ่มตกแต่งและซ่อมแซมที่อยู่อาศัยเบื้องต้นด้วยเอง และกลุ่มลูกค้าช่างที่ไม่ต้องใช้เวลาเดินทางไปสาขาใหญ่ที่อยู่รอบกรุงเทพฯ

ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภค DIY

วนิดา รินนาศักดิ์ รองผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ดูโฮม ทูโก กล่าวว่า การเปิดดูโฮมไซส์เล็กในกรุงเทพฯ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่โมเดิร์นเทรด ที่มีฐานลูกค้ามาใช้บริการอยู่แล้วและมีโอกาสเข้ามาเป็นลูกค้าของดูโฮมทูโกด้วย

การพัฒนาฟอร์แมตขนาดเล็ก เพื่อขยับเข้ามาอยู่ใกล้ลูกค้าในกรุงเทพฯ และตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปเป็นครอบครัวขนาดเล็ก อาศัยในคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้น นิยมซื้ออุปกรณ์เกี่ยวกับบ้านมา DIY เอง ที่สำคัญต้องการลดค่าใช้จ่ายจากการซื้อของใหม่ ด้วยการซ่อมแซมของเดิม

อีกไฮไลต์ของ ดูโฮม ทูโก คือ บริการ “ทีมช่าง” ที่ให้คำปรึกษาเบื้องต้น และบริการดูแลซ่อมแซมบ้านกว่า 100 รายการ เช่น บริการล้างแอร์ เครื่องซักผ้า ติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ

“การเข้ามาเปิดสาขาดูโฮม ทูโก ในพื้นที่เมือง จะช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์และขยายฐานลูกค้าใหม่ ในกลุ่มผู้บริโภคคนเมืองพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น จากจุดเริ่มต้นธุรกิจที่ขยายจากต่างจังหวัดเข้าสู่เมืองกรุง”

หลังจากนี้ “ดูโฮม” ยังมองโอกาสการเติบโตตลาดต่างจังหวัดและกรุงเทพฯ ทั้งในตลาดที่อยู่อาศัยใหม่และกลุ่มซ่อมแซมบ้าน รวมทั้งโอกาสการพัฒนาฟอร์แมตใหม่เจาะตลาดเมืองรอง หลังจากมีไซส์ L เจาะหัวเมืองใหญ่ และไซส์ XS สำหรับกรุงเทพฯ และปริมณฑล.

]]>
1240271