บ้านดีมีดาวน์ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 11 Dec 2019 11:04:53 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ปีหน้า “เศรษฐกิจไทย” (อาจ) ฟื้นไข้ สศค.เห็นสัญญาณบวกไตรมาส 4 เชื่อปี 2563 จีดีพีโต 3.3% https://positioningmag.com/1256590 Wed, 11 Dec 2019 11:00:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1256590
  • คาดการณ์จีดีพีปี 2562 ทั้งปีโต 8% ต่ำจากเป้าหมายต้นปีที่เคยวางไว้ 4%
  • เห็นสัญญาณบวกไตรมาส 4/62 เชื่อว่าช่วงโค้งท้ายปีนี้เศรษฐกิจไทยจะโต 2%
  • เดือนตุลาคม 2562 การใช้จ่ายในประเทศและภาคท่องเที่ยวส่งสัญญาณฟื้นตัว
  • ปี 2563 คาดจีดีพีโตสูงขึ้นเป็น 3% ความเสี่ยงคงเดิม คือสงครามการค้าและค่าเงินบาทแข็ง
  • เช็กนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ “ชิม ช้อป ใช้” กระเตื้อง ประชาชนใช้เงินกระเป๋า 2 แตะ 1 หมื่นล้านบาทแล้ว ส่วน “บ้านดีมีดาวน์” วันแรกลงทะเบียนแล้ว 40,000 ราย
  • ภาครัฐยังมองบวกกับสถานการณ์เศรษฐกิจโค้งท้ายปี 2562 ต่อเนื่องถึงปีหน้า โดย “ลวรณ แสงสนิท” ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน สรุปการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ (จีดีพี) ไทยปี 2562 น่าจะอยู่ที่ 2.8% และคาดการณ์การเติบโตของจีดีพีปี 2563 ที่ 3.3% สูงขึ้นจากปีนี้

    ที่น่าสนใจอยู่ในช่วงไตรมาส 4/62 สศค.ระบุว่า เริ่มเห็นสัญญาณบวก คาดว่าจะทำให้ไตรมาสนี้เศรษฐกิจเติบโต 3.2% สูงกว่าทั้งปี โดยจับสัญญาณได้จากการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ช่วงเดือนตุลาคม 2562 เติบโต 6% (YoY) สะท้อนภาพการบริโภคภายในประเทศดีขึ้น รวมถึงภาคการท่องเที่ยวซึ่งค่อยๆ ฟื้นตัวมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2562 แต่เห็นชัดที่สุดในช่วงเดือนตุลาคม 2562 ซึ่งภาคท่องเที่ยวเติบโต 12% (YoY)

    “ต้นปีเราคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะโต 4% แต่น่าจะจบที่ 2.6-2.8% เพราะมีปัจจัยภายนอกมากระทบ แต่เราก็ยังเติบโตอยู่ ยังไม่แย่ เพียงแต่ไม่มากเท่าที่คาด” ลวรณกล่าว

     

    ชิม ช้อป ใช้ + บ้านดีมีดาวน์ นโยบายอุ้มการบริโภคภายใน

    ลวรณกล่าวต่อถึงนโยบายเด่นช่วงท้ายปีนี้ซึ่งเริ่มเห็นผลและจะส่งโมเมนตัมยาวไปถึงต้นปีหน้า คือ “ชิม ช้อป ใช้” และ “บ้านดีมีดาวน์”

    “ลวรณ แสงสนิท” ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)

    สำหรับโครงการชิม ช้อป ใช้ ขณะนี้ดำเนินมาถึงเฟส 3 ซึ่งภาครัฐกำลังกระตุ้นให้มีการใช้จ่ายเงินกระเป๋า 2 (เงื่อนไขให้ประชาชนออกเงินช้อปเองก่อนแล้วรัฐจะคืนเงิน cash back ให้ 15-20%) พร้อมเข็นโปรโมชันเสริม ลุ้นรางวัลทองคำหากใช้จ่ายเงินกระเป๋า 2 นี้

    ลวรณเปิดเผยว่า กระเป๋า 2 ของชิม ช้อป ใช้นี้มีประชาชนใช้จ่ายเงินแล้ว 9,916 ล้านบาท (ข้อมูลวันที่ 10 ธันวาคม 2562) เป็นตัวเลขที่ สศค. มองว่าน่าพอใจ หลังจากหลายฝ่ายกังวลว่าประชาชนจะใช้เฉพาะเงินให้เปล่า 1,000 บาทในกระเป๋า 1 และนโยบายนี้จะไม่สามารถกระตุ้นให้ใช้จ่ายต่อในกระเป๋า 2 ได้

    นอกจากนี้ สศค.ยังติดตามพบว่า เม็ดเงินชิม ช้อป ใช้ 85% ถูกใช้ในร้านค้าท้องถิ่น จึงเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากมากกว่าการใช้จ่ายในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อย่างที่กังวลกัน

    โครงการบ้านดีมีดาวน์เป็นนโยบายทางการคลังเพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ เงื่อนไขคืนเงินดาวน์ 50,000 บาทเมื่อผู้ซื้อได้รับอนุมัติสินเชื่อบ้านแล้ว (Photo: โครงการศุภาลัย ไอคอน สาทร)

    ส่วนโครงการบ้านดีมีดาวน์นั้น วันนี้ (11 ธันวาคม 2562) เป็นวันแรกที่เปิดลงทะเบียน ขณะนี้มีผู้สนใจลงทะเบียนแล้ว 40,000 ราย ซึ่งระบบสามารถรับการลงทะเบียนได้ถึง 500,000 ราย แต่ให้สิทธิ 100,000 รายเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเป็นโควตาที่เพียงพอเพราะหลังจากนี้จะต้องมีการตรวจสอบผู้ลงทะเบียนว่าได้รับอนุมัติสินเชื่อบ้านหรือไม่

    ชิม ช้อป ใช้ นั้นวางโครงการยาวไปถึง 31 มกราคม 2563 และ บ้านดีมีดาวน์ สามารถลงทะเบียนได้ถึง 31 มีนาคม 2563 สศค.จึงมองว่าน่าจะมีผลกับการบริโภคภายในประเทศได้ถึงต้นปีหน้า

     

    กระตุ้น “การลงทุน” ดันจีดีพีปีหน้าโต 3.3%

    โครงการบ้านดีมีดาวน์ยังเป็นความหวังในการช่วยระบายสต็อกอสังหาริมทรัพย์ เพื่อเปิดพื้นที่ให้อสังหาฯ สามารถหมุนเวียนการลงทุนรอบใหม่ได้ด้วย ลวรณอธิบายว่า หากโครงการกระตุ้นให้เกิดการซื้อบ้านได้ครึ่งหนึ่งของโควตา คือ 50,000 หลัง ราคาหลังละเฉลี่ย 4 ล้านบาท เท่ากับมียอดขายเกิดขึ้น 2 แสนล้านบาท จะช่วยล้างสต็อกอสังหาฯ ออกไป ผสานกับปีหน้า แลนด์ลอร์ดน่าจะเริ่มปล่อยขายที่ดินตอบรับการบังคับใช้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ทำให้ดีเวลอปเปอร์มีซัพพลายที่ดินมาใช้พัฒนา

    นอกจากนี้รัฐยังมีโครงการกองทุนหมู่บ้านกระตุ้นการลงทุนฐานราก และโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) กระตุ้นการลงทุนอุตสาหกรรมไฮเทคระดับประเทศ

    ลวรณมองว่า การใช้จ่ายในประเทศและภาคการลงทุนน่าจะเป็นกุญแจหลักเพื่อดันจีดีพีประเทศปี 2563 ให้โตถึง 3.3% ได้ ส่วนความเสี่ยงของปีหน้าน่าจะยังเหมือนกับปีนี้ คือเรื่อง “สงครามการค้า” และ “ค่าเงินบาทแข็ง” ที่มีผลกระทบกับการส่งออก

    อย่างไรก็ตาม สศค.ประเมินว่าสงครามการค้าน่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากสหรัฐอเมริกาจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2563 ทำให้สหรัฐฯ ต้องเร่งซับเลือดจากการทำศึกเศรษฐกิจก่อนถึงการเลือกตั้ง

     

    ]]>
    1256590
    มีให้ดีกว่าไม่ได้! เช็กกระแสอสังหาฯ คาดนโยบาย “บ้านดีมีดาวน์” ช่วยเร่งยอดขาย 5% https://positioningmag.com/1255297 Thu, 28 Nov 2019 14:36:45 +0000 https://positioningmag.com/?p=1255297
  • ศุภาลัยประเมิน “บ้านดีมีดาวน์” เร่งยอดขาย 4 เดือนนี้ได้ 5-10%
  • พฤกษาเชื่อมีผลทางจิตวิทยา แต่ปัญหาหลักเรื่องความสามารถในการกู้สินเชื่อบ้านของประชาชนยังไม่ได้รับความช่วยเหลือ
  • คณะรัฐมนตรี (ครม.) เพิ่งคลอดนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาเมื่อวันที่ 26 พ.ย. 62 หนึ่งในนั้นคือมาตรการรัฐ “บ้านดีมีดาวน์” เทงบ 5,000 ล้านบาทช่วยคนไทยซื้อบ้าน เงื่อนไขเป็นผู้มีรายได้ไม่เกิน 1.2 ล้านบาทต่อปี (หรือเฉลี่ย 1 แสนบาทต่อเดือน) และจำกัดเวลาซื้อภายในวันที่ 27 พ.ย. 62 – 31 มี.ค. 63 เฉพาะ 1 แสนรายแรกที่ลงทะเบียน เมื่อยื่นกู้สินเชื่อกับธนาคารและจดจำนองเรียบร้อย รับเงินคืน 50,000 บาทจากรัฐบาล

    เมื่อวิเคราะห์รูปแบบนโยบายนี้ จะเห็นได้ว่าเป็นการคืนเงินให้ภายหลังจากยื่นกู้บ้านสำเร็จแล้ว จึงอนุมานได้ว่า กลุ่มเป้าหมายผู้ซื้อของนโยบายต้องเป็นคนที่มีเงินเก็บพร้อมดาวน์บ้านซึ่งคิดเป็นมูลค่าหลักแสนบาท ดังนั้นคงไม่ใช่นโยบายที่ประชาชนจะแย่งชิงกันลงทะเบียนรับสิทธิ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่พร้อม

    ในอีกมุมหนึ่ง สำหรับนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ด้วยระยะเวลาจำกัด 4 เดือน สินค้าที่น่าจะตอบสนองตลาดได้พอดีคือสต็อกบ้านและคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมโอนกรรมสิทธิ์อยู่แล้ว รวมถึงที่บังเอิญสร้างเสร็จในระยะเวลานี้พอดี

    สิทธิ 1 แสนราย เพียงพอหรือไม่?

    Positioning สอบถามไปยัง “ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ประเมินความเหมาะสมของโครงการ “บ้านดีมีดาวน์” พุ่งเป้าไปที่เรื่องจำนวนสิทธิที่ให้ 1 แสนรายจะเพียงพอหรือไม่?

    เอ็มดีศุภาลัยอ้างอิงข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) ปี 2561 นั้นมีสถิติโอนกรรมสิทธิ์บ้านใหม่ตลอดปี 1.8 แสนยูนิต ดังนั้นสิทธิ 1 แสนรายในระยะเวลาเพียง 4 เดือนจึงเชื่อว่าเพียงพอแน่นอน โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่าผู้ซื้อที่มีรายได้ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อเดือน และต้องอยู่ในระบบภาษีที่ตรวจสอบได้ น่าจะคิดเป็น 60-70% ของกลุ่มผู้ซื้อ

    ดันยอดขายบ้านได้ 5%

    ส่วนผลของมาตรการต่อยอดขายอสังหาฯ ไตรเตชะเชื่อว่าจะช่วยได้พอสมควร น่าจะดันยอดขายจากปกติได้ประมาณ 5-10%

    “ตัวเลขนี้บางคนมองว่าน้อย แต่ผมคิดว่าได้เท่านี้ถือว่าดีแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมาตรการเข้มงวดอัตรา LTV สินเชื่อบ้าน ทำให้ตลาดหดไป 8-10% นโยบายนี้จะเข้ามาช่วยให้ยอดขายกลับมา” ไตรเตชะกล่าว

    สาเหตุที่การแจกเงิน 50,000 บาทไม่ได้จะทำให้ตลาดคึกคักมาก เพราะเงื่อนไขต่างๆ เป็นการกรอบให้กลุ่มเป้าหมายที่ร่วมโครงการได้คือ คนที่อยากซื้อบ้านและมีความพร้อมด้านกำลังทรัพย์อยู่แล้ว นโยบายนี้อาจกระตุ้นให้คนกลุ่มนี้ที่ยังไม่กล้าซื้อบ้านเนื่องจากกังวลเรื่องเศรษฐกิจ รีบตัดสินใจภายใน 4 เดือน

    อย่างไรก็ตาม ไตรเตชะมองว่าการพุ่งเป้าไปที่คนกลุ่มนี้นั้น “เกาถูกที่คัน” เพราะเป็นการดึงให้คนที่พร้อมนำเงินออกมาใช้จ่าย

    อยากได้แต่ซื้อไม่ได้คือปัญหาหลัก

    ด้าน “ปิยะ ประยงค์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษาเรียลเอสเตท-แวลู บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท มองในเชิงลบกว่านั้น จากคอนเซ็ปต์นโยบายมีผลเฉพาะกับผู้ที่พร้อมด้านกำลังทรัพย์ แต่ในความเป็นจริง ปัญหาหลักของลูกค้าอสังหาฯ ก็คือความไม่พร้อมด้านการเงิน ยกตัวอย่างลูกค้าพฤกษา 30-40% นั้นกู้สินเชื่อบ้านไม่ผ่าน โดยตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นตั้งแต่ ธปท. ออกนโยบายเข้มงวดอัตรา LTV ทำให้ปิยะเชื่อว่านโยบาย บ้านดีมีดาวน์ น่าจะช่วยได้ ‘นิดหน่อย’ เท่านั้น

    “ในเชิงจิตวิทยาช่วยได้ คนจะสนใจอยากได้บ้าน แต่สุดท้ายถ้ากู้ไม่ผ่านก็ไม่เกิดยอดขายขึ้น” ปิยะกล่าว “ทำอย่างไรจึงจะเพิ่มความสามารถในการกู้ให้เขาได้ ตรงนี้สำคัญกว่า”

    เขายังมองแยกเจาะเป็น 2 กลุ่มสินค้าด้วย คือ กลุ่มที่อยู่อาศัยแนวราบ ซึ่งคิดเป็น 40% ของตลาดรวม น่าจะได้รับอานิสงส์มากที่สุด เพราะ 90% ของลูกค้าที่ซื้อเป็นเรียลดีมานด์ที่ซื้ออยู่เอง กลุ่มนี้เชื่อว่านโยบายรัฐจะกระตุ้นยอดขายได้ราว 5%

    ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งคือ กลุ่มคอนโดฯ ซึ่งคิดเป็น 60% ของตลาดรวม ผลของนโยบายน่าจะกระตุ้นได้น้อยลงไปอีก เพราะสัดส่วนผู้ซื้อกลุ่มนี้ 70% เป็นผู้ซื้ออยู่เอง แต่อีก 30% เป็นนักลงทุนซึ่งมักจะมีฐานรายได้เกิน 1 แสนบาทต่อเดือนทำให้ไม่เข้าเกณฑ์นโยบาย

    ซาวเสียงจากดีเวลอปเปอร์ใหญ่สองเจ้าแล้ว ดูเหมือนว่าเม็ดเงิน 5,000 ล้านบาทจากรัฐอาจไม่ใช่ประเด็นหวือหวามากสำหรับตลาดอสังหาฯ แต่ว่ามีให้มาก็ยังดีกว่าปล่อยให้ธุรกิจเฉาต่อเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจเช่นนี้.

     

    ]]>
    1255297
    มาเช็กคุณสมบัติก่อนร่วมโครงการ “บ้านดีมีดาวน์” มาตรการรัฐคืนเงินดาวน์บ้าน 50,000 บาท https://positioningmag.com/1255145 Wed, 27 Nov 2019 16:51:56 +0000 https://positioningmag.com/?p=1255145 1255145