ผลิตภัณฑ์นม – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 18 Oct 2022 08:45:45 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ออกอีกราย! Danone บริษัทนมฝรั่งเศสเตรียมถอนตัวจาก “รัสเซีย” ขายกิจการ 1 พันล้านยูโร https://positioningmag.com/1404537 Tue, 18 Oct 2022 07:58:48 +0000 https://positioningmag.com/?p=1404537 Danone บริษัทผลิตภัณฑ์นมสัญชาติฝรั่งเศส เตรียมตัวถอนทุนออกจาก “รัสเซีย” โดยคาดว่ามูลค่าการขายกิจการอาจไปแตะ 1,000 ล้านยูโร แต่ยังไม่แน่ชัดว่าใครจะเป็นผู้ซื้อกิจการต่อ ขณะที่บริษัทตะวันตกบางรายยังคงดำเนินธุรกิจในรัสเซียต่อไป เช่น Nestle, P&G

บริษัท Danone จะขายกิจการกลุ่มผลิตภัณฑ์นมในรัสเซีย ด้วยมูลค่าดีลที่คาดว่าจะอยู่ที่ 1,000 ล้านยูโร (ประมาณ 37,480 ล้านบาท) ถือเป็นบริษัทล่าสุดที่ตัดสินใจยอมถอนตัวออกจากรัสเซียหลังเกิดสงคราม

โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์นมนี้คิดเป็นสัดส่วน 90% ของกิจการทั้งหมดที่บริษัทมีอยู่ในรัสเซีย จะเหลือแค่เพียงหน่วยธุรกิจอาหารทารกเท่านั้นที่บริษัทจะยังคงดำเนินกิจการต่อ สำหรับรายได้จากรัสเซีย คิดเป็นประมาณ 5% ของยอดขายรวมของทั้งเครือในช่วง 9 เดือนแรกปี 2022

แหล่งข่าววงในเปิดเผยกับ Reuters ว่า การขายกิจการครั้งนี้ Danone อาจจะยังเหลือสัดส่วนหุ้นไว้บ้างในบริษัท แต่จะเป็นสัดส่วนที่ไม่สามารถมีอำนาจบริหาร ไม่ได้ควบคุมกิจการเองอีกต่อไป และจะถือว่าไม่ใช่บริษัทในเครือ

ขณะนี้บริษัทยังไม่ระบุว่าใครจะเข้าซื้อกิจการ โดย Mikhail Mishchenko หัวหน้าศูนย์วิจัยตลาดผลิตภัณฑ์นมรัสเซีย เชื่อว่าจะมีหลายรายที่ยื่นข้อเสนอ โดยมี 3 บริษัทท้องถิ่นรัสเซียที่มีศักยภาพ คือ Econiva, Komos และ Molvest แต่เขามองว่า Econiva มีภาษีดีที่สุดเพราะเป็นซัพพลายเออร์นมสดก่อนพาสเจอไรซ์รายใหญ่ที่สุดในประเทศอยู่แล้ว และน่าจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลด้วย แต่ก็เป็นไปได้ด้วยว่า ธุรกิจอาจจะถูกแยกส่วนและขายให้ผู้เล่นหลายราย

ตัวอย่างสินค้าโยเกิร์ตแบรนด์ Activia (แบรนด์นี้เคยมีขายในไทยด้วยนะ)

Danone เป็นบริษัทผู้ผลิตผลิตภัณฑ์นม, ผลิตภัณฑ์ Plant-based, อาหารทารก ไปจนถึงน้ำแร่ แบรนด์ภายใต้บริษัทนี้ในประเทศไทยที่เรารู้จักกันดี คือ “Dumex ดูโกร” และ “Hi-Q1 Plus” รวมถึงผลิตภัณฑ์น้ำแร่ “Evian” และ “Volvic”

แม้บริษัทตะวันตกมากมายได้ถอนทุนออกจากรัสเซียไปแล้ว แต่บริษัทผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคยักษ์ใหญ่บางรายก็ยังอยู่ เช่น Nestle, Procter & Gamble (P&G) ยังคงขายสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารและเวชภัณฑ์อยู่ในรัสเซีย แต่ก็ต้องเผชิญแรงกดดันจากผู้บริโภคและนักกิจกรรมในประเทศบ้านเกิดให้เลิกทำธุรกิจกับรัสเซีย

บริษัทใหญ่รายล่าสุดที่ถอนทุนไปก่อนหน้า Danone นั้นไม่ใช่บริษัทตะวันตก แต่เป็น Nissan บริษัทรถญี่ปุ่นที่ยอมขายสินทรัพย์ออกจากรัสเซีย ซึ่งจะทำให้บริษัทขาดทุนราวๆ 687 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 26,000 ล้านบาท)

 

กิจการกำไรต่ำ สมควรถอนทุน

หลังประกาศถอนทุน หุ้นของ Danone ขยับขึ้นเล็กน้อยที่ 1% เพราะนักวิเคราะห์มองว่า การเปลี่ยนแปลงจุดหมายการลงทุนออกจากรัสเซียไปที่อื่นๆ จะเป็นเรื่องที่ดีกับบริษัทมากกว่า

Pierre Tegner นักวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ Oddo BHF มองว่าการตัดสินใจถอนทุนนั้นถูกต้องเพราะรัสเซียเป็นตลาดที่ได้กำไรน้อยและการเติบโตก็ต่ำ

น้ำแร่ Evian อีกหนึ่งแบรนด์ในเครือ

Antoine de Saint-Affrique ซีอีโอคนใหม่ของ Danone ที่เพิ่งรับตำแหน่งเมื่อเดือนกันยายน 2021 ประกาศวิสัยทัศน์ไว้อยู่แล้วว่าบริษัทจะเลิกกิจการที่ไม่ได้กำไร เพื่อจะเทิร์นอะราวด์รายได้ให้ได้ภายในปี 2022

จากวิสัยทัศน์นี้ Tegner คาดว่าธุรกิจที่บริษัทอาจจะพิจารณาว่า ‘ไม่ใช่ธุรกิจหลัก’ อีกต่อไป ได้แก่ ผลิตภัณฑ์นมในบราซิล อาร์เจนติน่า เม็กซิโก และโมรอคโก รวมไปถึงผลิตภัณฑ์นมออแกนิกในสหรัฐฯ , อาหารทารกในฝรั่งเศสและอิตาลี ตลอดจนธุรกิจน้ำดื่มที่มีอยู่ในสเปนและโปแลนด์

แม้ว่าจะเพิ่งตัดสินใจขายกิจการในรัสเซียตอนนี้ แต่จริงๆ Danone เริ่มกระบวนการตัดสัมพันธ์มาตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยไม่มีการลงทุนเพิ่ม และไม่รับเงินปันผลหรือกำไรคืนมาจากหน่วยธุรกิจที่อยู่ในรัสเซีย

Source

]]>
1404537
เกษตรกรปวดใจ “ออสเตรเลีย” เสี่ยงขาดแคลนผลิตภัณฑ์นม หลังปศุสัตว์ตายจากไฟป่า https://positioningmag.com/1259621 Tue, 07 Jan 2020 09:29:48 +0000 https://positioningmag.com/?p=1259621 วิกฤตไฟป่าในออสเตรเลียยังส่งผลกระทบต่อเนื่อง เเละกำลังสร้างความเจ็บปวดให้เกษตรกรมากขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรม “โคนม” ที่หลังจากเผชิญภัยเเล้งมากกว่า 3 ปี ยังต้องมาเจอการล้มตายของปศุสัตว์จำนวนมาก

ออสเตรเลียต้องต่อสู้กับไฟป่าในบริเวณรัฐนิวเซาท์เวลส์ กิปส์แลนด์เเละวิคตอเรีย มาตลอดหลายสัปดาห์ โดยไฟป่าได้ลุกลามไปเเล้วกว่า 15 ล้านเอเคอร์ มีผู้ชีวิตราว 24 ราย วัว แกะและม้าหลายพันตัวต้องตายในเปลวไฟ ขณะที่เกษตรกรบางคนถูกบังคับให้ต้องฆ่าสัตว์อีกนับร้อยตัวด้วย

ออสเตรเลีย เป็นประเทศผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์นมรายใหญ่อันดับ 7 ของโลกโดยมีตลาดหลักในเอเชีย ส่งออกผลิตภัณฑ์นมสด เนยและชีส รวมถึงนมผง โดย “โคนม” นับเป็นอุตสาหกรรมในชนบทที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศ มีมูลค่า 3.3 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (2.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ) ตามตัวเลขของรัฐบาล

แม้ก่อนหน้านี้จะไม่มีภัยจากไฟป่า เเต่การผลิตนมของออสเตรเลียก็ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 22 ปี จากปัญหาภัยเเล้งที่ยาวนาน

Robert Miller เจ้าของฟาร์มโคนมที่ได้รับผลกระทบ เปิดเผยกับ ABC ว่า “เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมทุกรายในพื้นที่ไฟป่ากำลังทุกข์ทรมาน เรามีปัญหาการขาดแคลนนมและสถานการณ์จะแย่ลงเรื่อยๆ เศรษฐกิจในชนบททั้งหมดกำลังได้รับผลกระทบอย่างมาก”

เขารักษาชีวิตเเม่วัวได้ส่วนหนึ่ง เเต่น่าเศร้าที่สัตว์ในฟาร์มของเขาต้องตายไปกว่า 200 ตัว “มันเป็นเรื่องของอารมณ์เเละความเครียดที่ต้องรับมือกับไฟป่าที่ไหม้บ้านตัวเอง เเละยังต้องเห็นสัตว์เลี้ยงล้มตาย…มันเป็นเหมือนส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของเรา”

Miller ยังกล่าวถึงผลกระทบจากการปิดถนนที่ทำให้เกษตรกรหาอาหารให้สัตว์ที่รอดชีวิตมาได้ยาก ซึ่งต้องรอรถบรรทุกขนส่งเข้ามา แต่ก็เสี่ยงเพราะไฟป่าอันตรายเกินไปที่จะนำหญ้าแห้งเข้าไปในพื้นที่ ส่วนทุ่งหญ้าธรรมชาติก็ถูกไฟไหม้หมดเเล้ว เเละจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างเร่งด่วน ซึ่งเเม้พวกเขาจะเข้าถึงสินเชื่อได้ เเต่ก็อยู่ในภาวะขาดเงินทุนอย่างหนัก

“เราไม่มีเงินสดสำรองไว้เลย เพราะต้องเจอภัยเเล้งมานาน” เกษตรกรหลายคนกำลังดิ้นรนเพื่อให้ได้อาหารสัตว์เลี้ยงซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทั้งการผลิตนมและการผสมพันธุ์สัตว์

นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย Scott Morrison กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ปศุสัตว์ตายเกือบ 4,000 ตัวเเล้วจากเหตุไฟป่าครั้งนี้

ด้าน Bega Cheese บริษัทแปรรูปผลิตภัณฑ์จากนมรายใหญ่ที่สุดของออสเตรเลียเปิดเผยว่า ไฟป่าไม่ได้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อโรงงานผลิต แต่ส่งผลกระทบต่อซัพพลายเออร์หลายราย โดยหุ้น Bega ลดลงถึง 10% ในวันจันทร์ที่ผ่านมา

“ เรากำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับซัพพลายเออร์ฟาร์มโคนมและผู้ให้บริการขนส่งสินค้าเพื่อให้มั่นใจว่าสามารถจัดส่งและแปรรูปนมได้” ผู้บริหาร Bega Cheese กล่าว

 

ที่มา :  Reuters , ABC

 

]]>
1259621
แอนลีนต้องสาวขึ้น ทุ่ม 300 ล้าน หยิบ มอฟแม็กซ์ ปัดฝุ่น จับกลุ่มเป้าหมายคนรักสุขภาพ ไม่ใช่แค่นมคนแก่ https://positioningmag.com/1157843 Tue, 20 Feb 2018 14:44:42 +0000 https://positioningmag.com/?p=1157843 บริษัท ฟอนเทียร่า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมจากนิวซีแลนด์ รุกตลาดไทยและอาเซียนรอบใหม่ มองโอกาสจากผู้บริโภคหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ใช้งบ 300 ล้านบาท ส่งผลิตภัณฑ์ Anlene MovMax สู่ตลาดไทย ในฐานะนมแบรนด์เดียวที่ดูแลทั้งกระดูก ข้อต่อ และกล้ามเนื้อ หรือมีสรรพคุณเพื่อดูแลการเคลื่อนไหวของร่างกาย โดยหวังว่าจะช่วยเพิ่มยอดขาย 15-20% ภายในสิ้นปี 2561 นี้

พอล แอนดรูว์ ริชาร์ดส กรรมการผู้จัดการ กลุ่มประเทศไทยอินโดจีนฟิลิปปินส์ บริษัท ฟอนเทียร่า แบรนด์ส (ประเทศไทย) จำกัด ให้ภาพรวมตลาดนมในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่า มีปริมาณความต้องการผลิตภัณฑ์นมเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 4-5% ทุกปี โดยเฉพาะประเทศไทย ซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่สุดของแอนลีน และผู้บริโภคไทยก็หันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพ

ปัจจุบันแอนลีนเป็นแบรนด์ที่มีส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่งของตลาดนมสำหรับผู้ใหญ่ในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งตลาดสูง 40% จากมูลค่าตลาดกว่า 2,500 ล้านบาท ทำยอดขายแซงหน้าเมื่อเทียบกับในภูมิภาคเดียวกันอีก 5 ประเทศ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม เมียนมา ลาว และกัมพูชา แอนลีนยังมีคาดหวังที่จะขึ้นเป็นผู้นำในตลาดนมเพื่อสุขภาพที่ดีต่อไป และเลือกที่จะส่งผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งมีนวัตกรรมเพื่อสุขภาพเพิ่มเข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่อง ดังเช่นการหยิบ Anlene MovMax กลับมารีลอนช์ในรอบ 22 ปีในครั้งนี้

สุพัตรา โปรณานันท์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย และการตลาด กล่าวว่า การเป็นผู้นำตลาดนมผู้ใหญ่เป็นเรื่องท้าทายของแอนลีน เพราะคนรุ่นใหม่จะสนใจสุขภาพมากยิ่งขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าแอนลีนจะเป็นคำตอบของผู้บริโภคทุกกลุ่ม บริษัทจึงต้องพยายามเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายด้วยการสร้างความเข้าใจและกระตุ้นการรับรู้ถึงฟังก์ชันที่เป็นส่วนผสมในนมให้มากที่สุด   

ด้วยงบประมาณมากกว่า 300 ล้านบาทครั้งนี้ นอกจากการรีลอนช์ ปรับโฉมให้เข้ากับยุคสมัย Anlene MovMax (แอนลีน มอฟแม็กซ์) สูตรใหม่ถูกเพิ่มเติมให้เป็นนมที่มีมากกว่าแคลเซียมสูง โดยมีทั้งคอลลาเจน และโปรตีน เสริมทั้งกระดูก (แคลเซียม, วิตามินดี และฟอสฟอรัส) ข้อต่อ (คอลลาเจน, วิตามินซี และวิตามินอี) และกล้ามเนื้อ (โปรตีน และแมกนีเซียม) เพื่อเพิ่มคุณประโยชน์สำหรับร่างกายทั้งหมด รวมทั้งคงเน้นเรื่องไขมันต่ำ และโคเลสเตอรอลต่ำ ไว้ด้วย

นอกจากสูตรใหม่แล้ว แอนลีนยังเปิดตัวแคมเปญการตลาด ‘WeAreMore’ พร้อมทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเชิงรุกแบบ 360 องศา เพื่อตอกย้ำแบรนด์ และเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้นและมากขึ้น โดยเลือกใช้แบรนด์แอมบาสเดอร์ใหม่ถึง 2 คน ได้แก่ ลีเดีย – ศรัณย์รัชต์ ดีน สำหรับเป็นตัวแทนสื่อถึงคนที่ใช้ชีวิตในแบบที่เป็นได้มากกว่าแค่รูปร่างหน้าตาและ ป้าจิ๊ อัจฉราพรรณ (พุทธิอร) ไพบูลย์สุวรรณ ตัวแทนของคนที่ใช้ชีวิตแบบเป็นได้มากกว่าตัวเลขของอายุ

ทั้งนี้แคมเปญ #WeAreMore หรือให้คุณเป็นได้มากกว่า เป็นแคมเปญที่แอนลีนใช้ในการเปิดตัวในหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย โดยเริ่มที่ฟิลิปปินส์และมาเลเซียเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ก่อนจะเปิดตัวที่ไทยล่าสุดในเดือนนี้

แคมเปญนี้ยังถือเป็นการต่อยอดแบรนด์ หลังจากที่แอนลีนปูฐานด้านโภชนาการกระดูกมาหลายปี จากผลิตภัณฑ์นมที่ผู้บริโภครับรู้ว่าเป็นนมแคลเซียมสูง ซึ่งแอนลีนทำตลาดโดยเน้นเป็นนมสำหรับผู้ใหญ่ รวมไปถึงกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ที่ต้องเน้นเสริมเรื่องแคลเซียม 

การรับรู้ถึงฟังก์ชันของนมแอนลีนว่ามีแคลเซียมสูง และเป็นมากกว่านมปกติมีทั้งผลบวกและลบ ทำให้แทนที่นมแอนลีนจะจับตลาดผู้ใหญ่ได้กว้างตามที่มุ่งหวังตั้งแต่ต้น ที่ผ่านมาจึงมีผู้บริโภคจำนวนไม่น้อยกลับมองว่าแอนลีนเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับคนสูงอายุมากกว่า

กลุ่มผู้บริโภคผู้ใหญ่ทั่วไป ที่แอนลีนคาดหวังว่าน่าจะมาเป็นลูกค้าได้ ก็เลยมีจำนวนไม่น้อยที่ยังเลือกดื่มผลิตภัณฑ์นมทั่วไปแทน ดังนั้นแม้แอนลีนจะทำส่วนแบ่งได้ดีในกลุ่มนมแคลเซียมสูง แต่ก็ยังไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากตามที่คาดหวัง

การรีลอนช์ใหม่ครั้งนี้ แอนลีนจึงต้องแก้ถึง 2 โจทย์ นั่นคือ การเป็นนมที่มากกว่าปกตินั้นดีอย่างไรแล้ว แท้จริงแล้วเหมาะกับใครได้บ้าง โดยเสริมโจทย์ที่ว่าทำไมคนที่ดื่มนมจึงควรเลือกนมแอนลีนด้วยฟังก์ชั่นที่มากกว่า โดยครั้งนี้แอนลีนเลือกโฟกัสไปที่คุณประโยชน์ของการเสริมสร้างระบบกระดูกข้อต่อและกล้ามเนื้อทั้งระบบของร่างกาย เพราะมีทั้งแคลเซียม โปรตีน และคอลลาเจน

ที่สำคัญ ยอมจ้างแบรนด์แอมบาสเดอร์พร้อมกัน 2 คน เพื่อแยกกลุ่มเป้าหมายที่ต่างกันอย่างชัดเจน เพราะมีทั้งคนสูงวัยที่ดูแลใส่ใจสุขภาพ และวัยผู้ใหญ่ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลร่างกายอย่างจริงจังนั่นเอง

ใครที่คิดว่าจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับแบรนด์แอมบาสเดอร์อย่างลีเดีย และป้าจิ๊ ก็เตรียมตัวทดลองชิมผลิตภัณฑ์ใหม่นี้ได้ เพราะตามแคมเปญการตลาดดครั้งนี้ นอกจากแอนลีนจะส่ง TVC ตัวใหม่ออกไปแนะนำสินค้า สื่อนอกบ้าน ก็ยังมีสื่อดิจิทัล พร้อมกับผลักดันให้มีการทดลองผลิตภัณฑ์โดยจัดให้ชิมทั้งในห้างสรรพสินค้าและร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ รวมทั้งตามอาคารสำนักงาน พร้อมกับตั้งเป้าแจกสินค้าตัวอย่างให้ถึงมือผู้บริโภคกว่า 2 ล้านคน แถมด้วยการเดินสายทำกิจกรรมตรวสุขภาพให้กับคนไทยทั่วประเทศอีก 200,000 คนภายในสิ้นปีนี้ด้วย 

ชิมแล้วถูกใจ แอนลีนก็เตรียมขยายเพิ่มช่องทางจำหน่ายไว้รอ โดยจัดให้ทั้งผลิตภัณฑ์ผงแบบซองและนมยูเอชทีอีกหลายขนาด วางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ โชห่วยทั่วประเทศ 

สำหรับบริษัทฟอนเทียร่า แบรนด์ส (ประเทศไทย) นอกจากเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์แอนลีน นมสำหรับผู้ใหญ่ ยังมีผลิตภัณฑ์ในเครือแบรนด์อื่น ได้แก่ แอนมัม (Anmum) นมเพื่อสตรีมีครรภ์ และสตรีให้นมบุตร ผลิตภัณฑ์นมอื่นๆ ภายใต้แบรนด์แองเคอร์ (Anchor) และเชสเดล (Chesdale) อาทิ ชีส เนย และครีม.

]]>
1157843