พม่า – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 04 Jun 2024 09:11:38 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 รัฐบาล “เมียนมา” กวาดจับพ่อค้าแลกเงิน-เอเยนต์ขายคอนโดฯ ในไทย สกัดไม่ให้ “เงินจ๊าต” อ่อนค่าลงอีก https://positioningmag.com/1476521 Tue, 04 Jun 2024 09:01:33 +0000 https://positioningmag.com/?p=1476521 รัฐบาลเผด็จการ “เมียนมา” กวาดล้างกลุ่มพ่อค้าแลกเงินซื้อขายทองในตลาดมืด และกลุ่มเอเยนต์ขายคอนโดฯ ในประเทศไทย เป็นความเคลื่อนไหวรอบล่าสุดเพื่อสกัดไม่ให้ “เงินจ๊าต” อ่อนค่าลงอีก

สื่อของรัฐในเมียนมารายงานการกวาดล้างจับกุมผู้ต้องหาด้านการเงินรวม 35 รายในรอบ 2 วันที่ผ่านมา โดยในจำนวนนี้เป็นการจับกุมผู้ต้องหาในข้อหาสั่นคลอนเสถียรภาพในการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 14 ราย และข้อหาขายห้องชุดคอนโดมิเนียมในไทยซึ่งถือว่าผิดกฎหมายเมียนมา 5 ราย

ปัญหา “เงินจ๊าต” อ่อนค่านั้นเป็นปัญหาเรื้อรังที่เริ่มต้นตั้งแต่เกิดรัฐประหารในเมียนมาเมื่อปี 2021 ทำให้ความต้องการ “เงินดอลลาร์” ในประเทศเพิ่มสูงขึ้นเพราะประชาชนต้องการสะสมเงินในสกุลเงินที่มีเสถียรภาพมากกว่า เผื่ออาจจะใช้ในการลี้ภัยออกนอกประเทศในภายหลัง ปัจจุบันค่าเงินจ๊าตจึงอ่อนแอลงถึง 70% เทียบกับก่อนเกิดรัฐประหาร และทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อในประเทศ สินค้าต่างๆ ราคาแพงขึ้นอย่างรวดเร็ว

นอกจากการสะสมในสกุลเงินดอลลาร์แล้ว ประชาชนบางส่วนยังนิยมซื้อสินทรัพย์อื่น เช่น ทองคำ ไว้เพื่อเก็บออมแทนเงินจ๊าตที่ผันผวนสูง และหากเป็นคนมีฐานะก็อาจจะลงทุนใน “อสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศ” โดยมี “กรุงเทพฯ” เป็นหนึ่งในจุดหมายการลงทุน ซึ่งทำให้รัฐบาลเมียนมาต้องการสกัดกั้นไม่ให้เงินไหลออกนอกประเทศ

ข้อมูลจาก ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) พบว่า ผู้ซื้อจากเมียนมากลายเป็นกลุ่มผู้ซื้อมาแรงในตลาดคอนโดฯ ไทยมาตั้งแต่ปี 2565 โดยมีการโอนกรรมสิทธิ์คอนโดฯ ไทยรวมมูลค่ากว่า 2,500 ล้านบาทในปี 2565 และเพิ่มมูลค่าขึ้นเป็นกว่า 3,700 ล้านบาทเมื่อปี 2566 จนกลายเป็นสัญชาติผู้ซื้อต่างชาติที่ซื้อคอนโดฯ ไทยมากที่สุดเป็นอันดับ 4 รองจากจีน รัสเซีย และสหรัฐฯ

เมื่อค่าเงินจ๊าตผันผวนจากเหตุการณ์เหล่านี้ ทำให้ธนาคารกลางของเมียนมาเริ่มแทรกแซงตลาดเพื่อพยุงค่าเงิน โดยกำหนดให้ใช้อัตราแลกเปลี่ยนเดียวตามที่ธนาคารกลางกำหนดคือ 2,100 จ๊าตต่อดอลลาร์สหรัฐ แต่ Reuters รายงานจากร้านรับแลกเงินตราต่างประเทศพบว่า อัตราแลกเปลี่ยนในตลาดไม่เป็นทางการ (ตลาดมืด) ซึ่งสะท้อนความเป็นจริงนั้นพุ่งขึ้นไปถึง 4,500 จ๊าตต่อดอลลาร์สหรัฐไปแล้ว

“รัฐบาลกำลังทำงานเพื่อไปสู่เป้าหมายสร้างเสถียรภาพให้กับประเทศและการบังคับใช้กฎหมาย” หนังสือพิมพ์ Global New Light of Myanmar รายงาน “องค์กรด้านความปลอดภัยจึงมีการตอบโต้กลุ่มนักธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเก็งกำไร ซึ่งขัดขวางการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ”

สภาวะความผันผวนทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ ทำให้เมียนมาซึ่งมีประชากรกว่า 55 ล้านคน มีอัตราส่วนประชากรที่อยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าเส้นความยากจนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากเดิมมีอัตราส่วน 24.8% ในปี 2017 พุ่งขึ้นมาเป็นอัตราส่วน 49.7% ในปี 2023 จากข้อมูลของโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP)

ฟากรัฐบาลเงา “รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ” หรือ NUG ซึ่งเป็นฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเผด็จการ ระบุว่ารัฐบาลทหารชุดปัจจุบันมีการพิมพ์เงินจ๊าตออกมาอีกมหาศาลตั้งแต่เข้าสู่อำนาจเพื่อเพิ่มการใช้จ่ายโดยกองทัพ ซึ่งทำให้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศทรุดตัวลงอีก

Source

]]>
1476521
หย่าไม่ได้ ขอไปเอง! “Kirin” ถอนการลงทุนใน “เมียนมา” หลังเจรจาเผด็จการไม่คืบ https://positioningmag.com/1373855 Mon, 14 Feb 2022 09:41:14 +0000 https://positioningmag.com/?p=1373855 บริษัทเครื่องดื่มญี่ปุ่น Kirin Holdings เตรียมถอนการลงทุนใน “เมียนมา” หลังจากบริษัทสรุปได้ว่า “ไม่มีความหวัง” ในการเจรจาเพื่อคลี่คลายปัญหากับหุ้นส่วนธุรกิจซึ่งมีกองทัพเป็นเจ้าของ การตัดสินใจของบริษัทเกิดขึ้นหลังผ่านไปกว่า 1 ปีที่กลุ่มเผด็จการเข้ายึดการปกครอง

Nikkei Asia รายงานว่า Kirin กำลังเริ่มกระบวนการเพื่อปิดกิจการในประเทศเมียนมา ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทดำเนินการผ่านบริษัทร่วมทุนกับ Myanma Economic Holdings (MEHL) บริษัทนี้มีกลุ่มกองทัพทหารเมียนมาเป็นเจ้าของ

ที่ผ่านมาบริษัทเข้าจอยต์เวนเจอร์กับบริษัทกองทัพเมียนมา 2 แห่ง คือ Myanmar Brewery บริษัทนี้ Kirin เข้าถือหุ้นเมื่อปี 2015 และเป็นผู้ผลิตเบียร์ Myanmar Beer เบียร์ที่ขายดีที่สุดของประเทศ ครองตลาด 80% และอีกแห่งหนึ่งคือ Mandalay Brewery เมื่อปี 2017 ทั้งสองบริษัทนี้ Kirin ถือหุ้นข้างมาก 51% ส่วนที่เหลือ 49% บริษัท MEHL เป็นผู้ถือหุ้น

ขณะนี้ Kirin กำลังพิจารณาทางเลือกต่างๆ โดยบริษัทเริ่มกระบวนการปิดบริษัทร่วมทุนทั้งสองแห่งแล้ว แต่ก็ยังเปิดโอกาสที่จะขายหุ้นในส่วนของตนให้กับบริษัทอื่น ซึ่งต้องเป็นการขายหุ้นให้กับบริษัทอื่นที่ไม่มีความสัมพันธ์กับกลุ่มกองทัพทหารเมียนมา เพราะหากบริษัทยังขายให้กับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับกองทัพ องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนก็จะตามกดดันบริษัทต่อไป

ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีใครสนใจซื้อหรือไม่ และบริษัทจะหาผู้ซื้อได้ตรงคุณสมบัติที่ต้องการหรือไม่ แต่บริษัทตั้งเป้าหมายแล้วว่าจะจบกระบวนการในเมียนมาให้ได้ภายในเดือนมิถุนายนนี้

 

พยายามเจรจา ‘หย่าขาด’ แต่ไม่เป็นผล

Kirin พยายามจะยุติความสัมพันธ์กับหุ้นส่วนทหาร MEHL มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2021 ซึ่งเป็นช่วงที่เผด็จการทหารเข้ายึดอำนาจในเมียนมา เนื่องจากเผด็จการทหารเมียนมามีประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศ แม้ Kirin จะมีความหวังว่า เมื่อตนตัดสัมพันธ์กับหุ้นส่วนทหารได้แล้ว บริษัทจะได้ทำธุรกิจเบียร์ในเมียนมาต่อ แต่สุดท้ายความพยายามของบริษัทไม่เป็นผล

Kirin เมียนมา
โรงเบียร์ Myanmar Brewery ในประเทศ “เมียนมา”

บริษัทพยายามเจรจากับ MEHL แล้ว และมีการนำคดีไปขึ้นศูนย์กลางอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศที่สิงคโปร์ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2021 แต่สุดท้ายบริษัทตัดสินใจถอนการลงทุนของตัวเองออกแทน เพราะไม่มีความคืบหน้าเกิดขึ้นตามที่หวัง

ก่อนที่จะเกิดการยึดอำนาจ กำไรจากบริษัทร่วมทุนในเมียนมาคิดเป็นสัดส่วน 9% ในมูลค่ากำไรโดยรวมของบริษัท Kirin แน่นอนว่าการเจรจาของบริษัทญี่ปุ่นที่จะตัดสัมพันธ์กับหุ้นส่วนทหารย่อมยากลำบาก เพราะทั้งสองฝ่ายต่างต้องการผลประโยชน์จากบริษัทเบียร์ที่ทำกำไร

 

บริษัทต่างชาติทยอยถอนการลงทุน

ตั้งแต่เมียนมาเริ่มเปลี่ยนแปลงการปกครองมาสู่ประชาธิปไตยมากขึ้นเมื่อปี 2011 บริษัทต่างชาติมากมายซึ่งรวมถึง Kirin ด้วย ต่างพุ่งการลงทุนเข้าสู่ตลาด เพราะเห็นโอกาสการเติบโตที่แข็งแรง

แต่เมื่อเผด็จการทหารกลับยึดอำนาจอีกครั้งเมื่อปีก่อน บริษัทต่างชาติต่างทยอยถอนการลงทุนไปทีละราย โดยการประกาศถอนตัวของ Kirin ถือได้ว่าเป็นบริษัทญี่ปุ่นรายใหญ่รายแรกที่ประกาศเช่นนี้ และอาจจะส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจของบริษัทอื่นๆ

บริษัทต่างชาติอื่นที่ประกาศถอนการลงทุนแล้ว เช่น TotalEnergies บริษัทด้านพลังงานฝรั่งเศสประกาศเมื่อเดือนมกราคม 2022, POSCO บริษัทค้าเหล็กยักษ์ใหญ่จากเกาหลีใต้ ก็พยายามจะแยกทางกับ MEHL ที่เป็นหุ้นส่วนเช่นกัน

แต่ก็ยังมีบริษัทต่างชาติที่ยังไม่ตัดสัมพันธ์กับกองทัพเมียนมา โดยเฉพาะกลุ่มบริษัทญี่ปุ่นที่ทำธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้าง เช่น Fujita, Tokyo Tatemono, Yokogawa Bridge Holdings เป็นต้น

Source

]]>
1373855
[ข่าวลือ] “เทเลนอร์” เล็งขายธุรกิจในพม่า หั่นฐานลูกค้า 18 ล้านคน เหตุความไม่มั่นคงในประเทศ https://positioningmag.com/1340600 Sun, 04 Jul 2021 14:35:08 +0000 https://positioningmag.com/?p=1340600 สื่อต่างประเทศรายงาน “เทเลนอร์” (Telenor) ผู้ให้บริการโทรคมนาคมสัญชาตินอร์เวย์ กำลังเตรียมขายหน่วยธุรกิจในพม่า เป็นการตัดสินใจบอกลาฐานลูกค้ากว่า 18 ล้านคนเพราะปัญหาความไม่มั่นคงในพื้นที่

สำนักข่าวทีเอ็มทีไฟแนนซ์ (TMT Finance) รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม 64 ระบุว่า เทเลนอร์ได้จ้างสถาบันการเงินอย่างซิตี้ (Citi) เพื่อดำเนินการขายธุรกิจด้วยการเสนอราคาที่ไม่มีผลผูกพัน คาดว่าจะมีการประกาศดีลในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

เบื้องต้น โฆษกของเทเลนอร์ปฏิเสธไม่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวลือที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับ Citi ที่ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นได้เช่นกัน

ก่อนหน้านี้ พบว่าเทเลนอร์เริ่มตัดหนี้สูญหรือลดมูลค่าการดำเนินงานของพม่าในงบการเงินของบริษัทเมื่อเดือนพฤษภาคม เนื่องจากสถานการณ์ด้านความมั่นคงและสิทธิมนุษยชนที่สั่นคลอนในประเทศ โดยธุรกิจโทรทัศน์เคลื่อนที่ในประเทศยังคงถูกจำกัดอย่างเข้มงวด นับตั้งแต่การปฏิวัติทางทหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 64

Sigve Brekke ประธานและซีอีโอเทเลนอร์ เคยยอมรับกับสื่อต่างประเทศว่า ความเสี่ยงทางการเมืองเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ถูกนำมาพิจารณาเมื่อมีการตัดสินใจขยายธุรกิจเข้าสู่พม่า

ล่าสุด TMT Finance ชี้ว่า บริษัทสัญชาติจีนบางรายได้รับเชิญให้เข้าร่วมประมูลเพื่อซื้อหน่วยธุรกิจจากเทเลนอร์ เนื่องจากบริษัทจีนมีโอกาสไม่ถูกคว่ำบาตร เหมือนที่บริษัทโทรคมนาคมนานาชาติรายอื่นเผชิญอยู่ ขณะนี้มีการอ้างชื่อบริษัท “โอรีดู” (Ooredoo) สัญชาติกาตาร์ที่ประกอบการอยู่ในพม่า ว่าเป็นบริษัทที่แสดงความสนใจซื้อคู่แข่งในตลาด และกำลังมองหาที่ปรึกษาทางการเงินสำหรับกระบวนการที่จะเกิดขึ้น

ในขณะที่ Ooredoo ไม่แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม แหล่งข่าวจากรอยเตอร์ยืนยันว่ารายละเอียดของรายงาน TMT นั้นถูกต้อง ปัจจุบัน เทเลนอร์มีลูกค้าประมาณ 18 ล้านคนในพม่า โดยให้บริการ 1 ใน 3 ของประชากร 54 ล้านคน

เทเลนอร์ถือเป็นหนึ่งในนักลงทุนต่างชาติรายใหญ่ที่สุดในพม่า ซึ่งเข้ามาปักหลักธุรกิจในปี 2557 สถิติล่าสุดชี้ว่าพม่าคิดเป็น 7% ของรายได้ของเทเลนอร์ในปีที่แล้ว

Source

]]>
1340600
สหรัฐฯ คว่ำบาตรลูกๆ “มิน อ่อง หล่าย” 2 คน พร้อมอีก 6 บริษัทเมียนมา https://positioningmag.com/1322945 Thu, 11 Mar 2021 06:47:58 +0000 https://positioningmag.com/?p=1322945 สหรัฐฯ คว่ำบาตรบุตร 2 คนของ พล..อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารพม่า รวมถึง 6 บริษัทที่บุคคลทั้งสองเป็นผู้บริหารกิจการเมื่อวันที่ 10 มี.. เพื่อตอบโต้การทำรัฐประหารและการใช้ความรุนแรงปราบปรามผู้ประท้วงในพม่า

กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ออกคำแถลงคว่ำบาตรนาย อ่อง ปแย โซน (Aung Pyae Sone) และ .. ขิ่น ธิรี เธต โมน (Khin Thiri Thet Mon) บุตรวัยผู้ใหญ่ 2 คนของผู้นำทหารพม่า และยังคว่ำบาตรบริษัทอีก 6 แห่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ A&M Mahar ของ อ่อง ปแย โซน ซึ่งกลุ่มนักเคลื่อนไหว Justice for Myanmar ระบุว่ามีการเอื้อประโยชน์ให้บริษัทเวชภัณฑ์ต่างชาติสามารถขอใบอนุญาตเพื่อเข้าถึงตลาดยาในพม่า

แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ยังขู่สำทับว่าอาจจะมีบทลงโทษเพิ่มเติมอีก พร้อมทั้งประณามเรื่องที่พม่าจับกุมผู้เห็นต่างกว่า 1,700 คน ตลอดจนการใช้กำลังต่อผู้ชุมนุมที่ปราศจากอาวุธ จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 53 คน นับตั้งเกิดการรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 ..

เราพร้อมที่จะใช้มาตรการตอบโต้ต่อกลุ่มบุคคลที่ใช้ความรุนแรง และกดขี่ความปรารถนาของประชาชน โดยไม่ลังเล บลิงเคน ระบุ

กองทัพพม่าไม่ให้ความใส่ใจต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากนานาชาติ และยังคงเดินหน้าปราบปรามการชุมนุมประท้วงเหมือนเช่นที่เคยทำมาในอดีต

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของวอชิงตันจะทำให้บุคคล และบริษัทที่โดนแบล็กลิสต์ถูกอายัดทรัพย์สินในอเมริกา และห้ามมิให้ชาวอเมริกันทำธุรกรรมใดๆ กับคนเหล่านี้

กลุ่ม Justice for Myanmar แถลงเมื่อเดือน ม.. ว่า นายพล มิน อ่อง หล่าย ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดพม่ามาตั้งแต่ปี 2011 “ใช้อำนาจโดยมิชอบกอบโกยผลประโยชน์เข้าครอบครัวตัวเอง โดยอาศัยความมีอภิสิทธิ์เข้าถึงทรัพยากรต่างๆ ของรัฐ และวัฒนธรรมการลอยนวลพ้นผิด (impunity) ของกองทัพ

จอห์น ซิฟตัน ผู้อำนวยการฝ่ายสนับสนุนเอเชียของฮิวแมนไรต์วอตช์ ออกมาชื่นชมบทลงโทษล่าสุดของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ที่พุ่งเป้าไปยังทรัพย์สินของ มิน อ่อง หล่าย โดยตรง แต่ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้สหรัฐฯ ใช้มาตรการที่เด็ดขาดยิ่งกว่านี้

สิ่งเหล่านี้ยังไม่ใช่การลงโทษที่เราเชื่อว่าจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และขอแนะนำให้สหรัฐฯ พิจารณาแหล่งรายได้อื่นๆ ที่มีมูลค่ามหาศาลยิ่งกว่านี้ ซึ่งหากถูกปิดกั้นก็จะทำให้กองทัพพม่ารับรู้ถึงผลกระทบที่ชัดเจนขึ้นซิฟตัน ระบุ โดยอ้างถึงอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติของพม่าที่มีบริษัทเครือข่ายทหารเข้าไปควบคุมดูแลอยู่

จนถึงขณะนี้ สหรัฐฯ ยังไม่ได้มีบทลงโทษต่อ Myanmar Economic Corporation (MEC) Myanmar และ Economic Holdings Limited (MEHL) สององค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกองทัพพม่า และมีอิทธิพลครอบงำระบบเศรษฐกิจของประเทศ

Source

]]>
1322945
ไม่เอาด้วย! “นิวซีแลนด์” ประกาศระงับสัมพันธ์ “เมียนมา” ห้ามผู้นำกองทัพเดินทางเข้าประเทศ https://positioningmag.com/1318654 Tue, 09 Feb 2021 15:40:12 +0000 https://positioningmag.com/?p=1318654 รัฐบาลนิวซีแลนด์ประกาศระงับการติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ระดับสูง ทั้งฝ่ายทหารและการเมืองของเมียนมา รวมถึงใช้มาตรการจำกัดการเดินทาง (travel ban) กับผู้นำกองทัพเมียนมา ซึ่งถือเป็นชาติแรกในโลกที่เริ่มใช้วิธีการนี้กับผู้นำทหารเมียนมาเพื่อตอบโต้การรัฐประหารเมื่อวันที่ 1 ก.พ.

นายกรัฐมนตรี จาซินดา อาร์เดิร์น แห่งนิวซีแลนด์ ระบุว่า รัฐบาลกีวีจะระงับโครงการช่วยเหลือต่างๆ ที่ต้องอาศัยความร่วมมือหรือเอื้อประโยชน์ให้แก่รัฐบาลทหารพม่า

“สิ่งที่เราอยากจะบอก ก็คือ นิวซีแลนด์จะทำในสิ่งที่เราสามารถทำได้ และหนึ่งในนั้นก็คือ การระงับการติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเมียนมา และตรวจสอบจนมั่นใจว่า เงินทุนที่เราให้แก่เมียนมาจะต้องไม่ถูกนำไปใช้สนับสนุนรัฐบาลทหารในทุกๆ กรณี”

ในช่วงปี 2018-2021 นิวซีแลนด์มีโครงการช่วยเหลือเมียนมา มีมูลค่าราวๆ 42 ล้านดอลลาร์นิวซีแลนด์

นาไนอา มาฮูตา รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศนิวซีแลนด์ ออกคำแถลงยืนยันว่า รัฐบาลเวลลิงตันไม่ยอมรับความชอบธรรมของรัฐบาลทหารเมียนมา และเรียกร้องให้กองทัพปล่อยตัวผู้นำการเมืองที่ถูกคุมขัง รวมถึงคืนอำนาจปกครองกลับสู่รัฐบาลพลเรือน

รัฐบาลนิวซีแลนด์ยังเห็นชอบให้ใช้มาตรการจำกัดการเดินทางกับผู้นำทหารเมียนมา โดยคาดว่าจะมีผลบังคับอย่างเป็นทางการภายในสัปดาห์ถัดไป

พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมา ออกมาย้ำคำมั่นสัญญาว่า จะจัดการเลือกตั้งใหม่และส่งมอบอำนาจให้แก่ผู้ที่ชนะ ขณะที่ชาวพม่าหลายหมื่นคนตบเท้าลงถนนเพื่อประท้วงต่อต้านรัฐประหารที่โค่นล้มรัฐบาลพลเรือนของอองซาน ซูจี

Source

]]>
1318654
Kirin เบียร์ยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่น ประกาศ “ตัดสัมพันธ์” หุ้นส่วนในเมียนมาตอบโต้ “รัฐประหาร” https://positioningmag.com/1318149 Fri, 05 Feb 2021 08:24:07 +0000 https://positioningmag.com/?p=1318149 คิริน (Kirin) ผู้ผลิตเครื่องดื่มรายใหญ่จากแดนปลาดิบ ประกาศยุติการทำธุรกิจแบบร่วมค้า (Joint Venture) กับบริษัทหุ้นส่วนในเมียนมา ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกองทัพ หลังเกิดการรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 ก.พ.

การควบคุมตัวผู้นำทางการเมืองสายประชาธิปไตยในพม่า ซึ่งรวมถึง “อองซานซูจี” เรียกเสียงประณามจากนานาชาติ ซึ่งทาง Kirin ระบุว่าบริษัท “มีความกังวลอย่างยิ่งต่อการกระทำล่าสุดของกองทัพพม่า”

“จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เราจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากขอยุติความเป็นหุ้นส่วนกับบริษัท เมียนมาร์ อีโคโนมิก โฮลดิงส์ (Myanmar Economic Holdings Public Company Limited – MEHL) ซึ่งบริหารจัดการกองทุนสวัสดิการให้แก่กองทัพพม่า”

ผู้ผลิตเบียร์สัญชาติญี่ปุ่นรายนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาสักระยะหนึ่งแล้ว จากการเข้าไปมีสัมพันธ์ทางธุรกิจกับบริษัทเบียร์ที่กองทัพพม่าเป็นเจ้าของ

เมื่อเดือน ม.ค. ทางบริษัทระบุว่า กระบวนการตรวจสอบโดยบุคคลที่ 3 “ยังได้ข้อสรุปไม่ชัดเจน” ว่ารายได้จากการร่วมทุนครั้งนี้ถูกนำไปใช้สนับสนุนการละเมิดสิทธิมนุษยชนในพม่าหรือไม่

Kirin ถูกองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนและผู้ตรวจสอบของสหประชาชาติกดดันให้ต้องเปิดการสอบสวน หลังมีรายงานว่าเจ้าของบริษัท MEHL ที่เป็นหุ้นส่วนท้องถิ่นเป็นสมาชิกของกองทัพพม่า ซึ่งถูกกล่าวหาว่าฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และก่ออาชญากรรมสงครามอื่นๆ กับชาวมุสลิมโรฮิงญา

ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ซึ่งเป็นศาลสูงสุดของสหประชาชาติ ได้เปิดการไต่สวนกรณีกองทัพพม่ากวาดล้างชุมชนชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่เมื่อปี 2017 จนทำให้โรฮิงญากว่า 750,000 คน ต้องหนีตายข้ามไปยังฝั่งบังกลาเทศ ซึ่งเป็นการกระทำที่อาจเข้าข่ายละเมิดอนุสัญญา ว่าด้วยการป้องกันและลงโทษความผิดอาญาฐานฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

ทางการพม่ายืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหานี้มาโดยตลอด

Kirin เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ทั้งใน บริษัท เมียนมา บริวเวอรี จำกัด และ บริษัท มัณฑะเลย์ บริวเวอรี จำกัด จากการจับมือเป็นหุ้นส่วนกับ MEHL กลุ่มธุรกิจยักษ์ใหญ่ ซึ่งมีผลประโยชน์ครอบคลุมหลายภาคส่วนตั้งแต่อัญมณี ทองแดง โทรคมนาคม เสื้อผ้า และการธนาคาร

Kirin ได้เข้าถือหุ้นส่วนใหญ่ใน มัณฑะเลย์ บริวเวอรี เมื่อปี 2017 ด้วยมูลค่าการลงทุน 4.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่ได้ทุ่มเม็ดเงินซื้อกิจการ เมียนมา บริวเวอรี ไปด้วยวงเงินกว่า 500 ล้านดอลลาร์เมื่อปี 2015

เมียนมา บริวเวอรี เป็นผู้ผลิตเบียร์ขายดีที่สุดในพม่าอย่าง Myanmar Beer ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดเกือบ 80% ตามข้อมูลสถิติที่ Kirin เปิดเผยเมื่อปี 2018

แต่ Kirin ยังไม่ระบุชัดเจนว่า การตัดสัมพันธ์ทางธุรกิจกับหุ้นส่วนรายใหญ่ครั้งนี้ จะหมายถึงการถอนตัวออกจากพม่าด้วยหรือไม่…

Source

]]>
1318149
Facebook ไล่ปิดบัญชี-เพจในพม่า หลังพบสร้างแอคเคาท์ปลอมไว้เชียร์พรรคการเมือง https://positioningmag.com/1305014 Sat, 07 Nov 2020 14:32:18 +0000 https://positioningmag.com/?p=1305014 รายงานจากรอยเตอร์ Facebook ได้ลบบัญชี และหน้าเพจหลาย 10 บัญชีในพม่า โดยพบว่ามีบริษัทอยู่เบื้องหลัง และเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม มีการสร้างแอคเคาท์ปลอมขึ้นมาเพื่อสนับสนุนพรรคการเมือง

ในรายงานประจำเดือนของ Facebook ระบุว่า ได้ทำการลบเครือข่ายบัญชี 36 บัญชี และหน้าเพจ 6 เพจ ที่ดำเนินการโดยบริษัท Openmind เนื่องจากพวกเขากำลังใช้บุคคลที่สมมติขึ้นมาสนับสนุน พรรคสหสามัคคี และการพัฒนา (USDP) ที่กองทัพให้การสนับสนุน

บริษัท Openmind ได้โพสต์ Facebook ตอบสนองต่อรายงานดังกล่าวว่า บริษัทไม่ได้เกี่ยวข้องในกิจกรรมทางการเมืองใดๆ และไม่ได้สร้างบัญชีใดๆ ให้แก่พรรค USDP ขณะที่โฆษกของพรรค USDP ระบุว่าไม่ทราบเรื่องบริษัทประชาสัมพันธ์นี้เช่นกัน

รอยเตอร์ได้รายงานในวันที่ 6 พ.ย. ว่า หน้าเพจเฟซบุ๊กหลายสิบเพจในพม่ากำลังแพร่กระจายคำกล่าวเท็จเกี่ยวกับชาติพันธุ์ และศาสนาก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในวันอาทิตย์ที่ 8 พ.ย. รวมถึงเพจบางเพจที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายที่ดำเนินการโดยทหารพม่า

นอกจากนี้ Facebook ได้ลบหน้าเพจกว่า 30 เพจ ที่เผยแพร่เนื้อหาเกี่ยวข้องกับพม่า ที่รอยเตอร์ได้แจ้งร้องเรียนไว้ ซึ่ง Facebook กล่าวว่า หน้าเพจเหล่านั้นเชื่อมโยงกับเครือข่ายสแปมที่ถูกลบไปเมื่อเดือนก่อน หน้าเพจมีเนื้อหาแบบคลิกเบต (clickbait) ที่รวมถึงซุบซิบคนดัง และข้อมูลผิดๆ เกี่ยวกับ COVID-19 โดยบางเพจมีผู้ติดตามมากถึงล้านคน

รายงานของ Graphika บริษัทวิเคราะห์สื่อสังคมออนไลน์ ในเดือน ต.ค. พบว่า เครือข่ายสแปมจะเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้งานไปยังหน้าเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาทางการเมือง และเนื้อหาสนับสนุนทหาร

นักวิจัยของ Graphika กล่าวกับรอยเตอร์ว่าพวกเขากำลังตรวจสอบเพจคลิกเบตคล้ายกันกว่า 900 เพจ ที่มีผู้ติดตามรวมกันกว่า 225 ล้านคน และในขณะที่พิจารณาถึงแรงจูงใจทางการเงิน นักวิจัยเตือนว่าหน้าเพจลักษณะนี้อาจถูกว่าจ้างโดยผู้มีบทบาททางการเมืองเพื่อดำเนินกิจกรรม เช่น การเลือกตั้งพม่าที่กำลังจะมาถึง

“ด้วยการใช้ประโยชน์จากหน้าเพจเฟซบุ๊ก และกลุ่มต่างๆ บุคคลเหล่านี้มีอำนาจที่จะเปลี่ยนเรื่องราว ไม่ว่าจริงหรือเท็จ ให้กลายเป็นข่าวระดับประเทศภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง” นักวิจัยจาก Graphika กล่าว

Source

]]>
1305014
“พม่า” เปลี่ยนรถบรรทุกเป็นร้านตัดผมเดลิเวอรี่ วิ่งหาลูกค้าถึงบ้าน หมดกังวลเรื่อง COVID-19 https://positioningmag.com/1284400 Sat, 20 Jun 2020 16:11:20 +0000 https://positioningmag.com/?p=1284400 ธุรกิจร้านตัดผมของพม่ากำลังตัดลดค่าใช้จ่าย และสร้างรายได้ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ด้วยการให้บริการร้านตัดผมเคลื่อนที่แก่ลูกค้าที่ต้องการหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด

รถบรรทุกให้บริการตัดผมแบบเดลิเวอรี่เปิดตัวเมื่อเดือนก่อนโดยกลุ่มผู้ประกอบการในย่างกุ้ง ที่มุ่งเป้ายังลูกค้าที่มีความวิตกกังวลเรื่องการอยู่ในอาคารหรือในที่สาธารณะ ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อสูงกว่า

รถบรรทุกมีพื้นที่มากเพียงพอที่จะติดตั้งอ่างล้างมือ กระจก เก้าอี้ และพื้นที่สำหรับวางอุปกรณ์ต่างๆ และยังสามารถจอดรถหน้าบ้านของลูกค้าที่จองคิวไว้ล่วงหน้า

“ผู้คนกลัวการออกจากบ้านในช่วงนี้ แม้ว่าสิ่งนี้จะไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยจากการติดเชื้อได้ 100% แต่ผมมีความสุขกับบริการตัดผมถึงบ้านของพวกเขา” จ่อ ซิน ตุ๊ต ลูกค้าร้านตัดผมเคลื่อนที่กล่าว

ประตูและหน้าต่างของตัวรถจะเปิดทิ้งไว้ขณะที่ช่างทำผมให้ลูกค้า ส่วนผู้ช่วยอีก 2 คนช่วยกันฆ่าเชื้อรถบรรทุก ทำความสะอาดอุปกรณ์ และกำจัดหน้ากากและถุงมือหลังให้บริการลูกค้าแต่ละคน

พวกเขารับลูกค้าเฉลี่ยวันละ 10-15 คน โดยค่าตัดผมอยู่ที่ 3.60 ดอลลาร์ ส่วนในวันที่ลูกค้าน้อย พวกเขาจะรับลูกค้าตามถนนด้วย

เพียว จ่อ ผู้ดูแลการให้บริการตัดผมเคลื่อนที่นี้กล่าวว่า เขาได้ไอเดียหลังจากเห็นว่าผู้คนมีความต้องการที่จะตัดผม ขณะที่ร้านทำผมส่วนใหญ่เลือกที่จะปิดบริการเนื่องจากมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม

“เรามั่นใจว่าคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ไม่กล้าออกไปข้างนอก เช่น ผู้สูงอายุและเด็กจะต้องการบริการของเรา ธุรกิจของเรามีศักยภาพมากในอนาคต” เพียว จ่อ กล่าว

พม่ามีรายงานผู้ป่วยติดเชื้อ COVID-19 สะสมที่ 163 คน และมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ 6 คน

Source

]]>
1284400
พม่าเตรียมใช้ E-Ticket จ่ายค่ารถโดยสารประจำทางในย่างกุ้งในสิ้นปีนี้แล้ว https://positioningmag.com/1251290 Mon, 28 Oct 2019 15:57:05 +0000 https://positioningmag.com/?p=1251290 Photo : AsiaStarmar

ระบบรถโดยสารย่างกุ้ง (YBS) ของพม่าจะเริ่มดำเนินการใช้งานระบบชำระค่าโดยสารผ่านบัตรแทนเครื่องชำระค่าโดยสารด้วยเงินสดเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารภายในสิ้นปีนี้

บริษัท Asia Starmar Transport Intelligent ที่เป็นผู้ชนะประมูลได้รับสัมปทานดำเนินการโครงการนี้ จะเริ่มทดลองให้บริการในเดือน พ.ย. หรือเดือน ธ.ค. ทันทีที่อุปกรณ์ของระบบซึ่งต้องนำเข้าจากต่างประเทศมาถึงย่างกุ้ง ซึ่งรถโดยสารมากกว่า 1,500 คัน จะได้รับการติดตั้งระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket) ในระยะแรก

การปรับเปลี่ยนที่เกิดขึ้นนี้มีเป้าหมายที่จะทำให้ระบบการคมนาคมขนส่งของเมืองดียิ่งขึ้น ลดปัญหาการจราจรแออัด ซึ่งรัฐบาลท้องถิ่นได้เริ่มนำระบบบริการรถโดยสารย่างกุ้งแบบใหม่มาปรับใช้ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา จากเดิมที่เคยมีรถโดยสารมากกว่า 300 สาย ได้ปรับลดลงเหลือเพียง 70 สาย เพื่อแก้ปัญหารถติด

แต่อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีรถโดยสารมากกว่า 5,000 คัน วิ่งให้บริการในเส้นทางต่างๆ มากกว่า 100 สาย ภายใต้ระบบ YBS ที่ให้บริการผู้โดยสารมากกว่า 2 ล้านคนต่อวัน ขณะเดียวกัน สำนักงานขนส่งทางบกเขตย่างกุ้งยังได้ยกเลิกการจดทะเบียนรถขนส่งสาธารณะที่ล้าสมัยกว่า 2,000 คัน และห้ามรถเหล่านั้นวิ่งในนครย่างกุ้งเพื่อความปลอดภัย และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

Source

]]>
1251290