ยอดขายออนไลน์ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 11 Mar 2021 11:10:00 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Adidas รุกเเผนปั้นยอดขายออนไลน์ ‘เพิ่ม 2 เท่า’ ในปี 2025 ออกสินค้ารักษ์โลก ลุยตลาดจีน https://positioningmag.com/1323016 Thu, 11 Mar 2021 09:47:52 +0000 https://positioningmag.com/?p=1323016 จับเทรนด์อีคอมเมิร์ซเฟื่องฟู ‘Adidas’ แบรนด์เสื้อผ้าและรองเท้ากีฬาชื่อดังจากเยอรมนี ทุ่มพันล้านยูโรปั้นยอดขายออนไลน์เพิ่ม 2 เท่าภายในปี 2025 จับตลาดวัยรุ่น-เเฟชั่น-ผู้หญิง เร่งเจาะตลาดจีน พร้อมออกสินค้ารักษ์โลกคำนึงถึงความยั่งยืนมากขึ้น โดยเป็นหนึ่งในเเผนธุรกิจ 5 ปี ที่จะเพิ่มผลกำไรให้ทันคู่เเข่งอย่าง Nike

Adidas วางเป้าทำยอดขายทางออนไลน์ให้ได้ถึง 9 พันล้านยูโรต่อปี (ราว 3.2 เเสนล้านบาท) ให้ได้ภายในปี 2025 หลังมีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 12-14% จากที่เคยทำได้ในปี 2019 ที่ 11.3% โดยสามารถทำรายได้ 5.55 พันล้านยูโร (ราว 2 เเสนล้านบาท) ในไตรมาสที่ 4/2020 ที่ผ่านมา 

บริษัท ประเมินว่า ในปีนี้จะมีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง หลังสาขาทั่วโลกมากกว่า 95% ได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง โดยเฉพาะลูกค้าในกลุ่มวัยรุ่นที่มีรายได้ปานกลางถึงระดับสูง

คาดว่ายอดขายปีนี้จะเพิ่มขึ้นมากถึง 30% โดยเฉพาะในประเทศจีน เอเชีย และลาตินอเมริกา

เเม้ธุรกิจเสื้อผ้าเเละอุปกรณ์กีฬา จะได้รับผลกระทบหนักจากการปิดสาขาชั่วคราว ตามมาตรการล็อกดาวน์สกัด COVID-19 ในหลายประเทศ เเต่ก็สามารถทำยอดขายทางออนไลน์ได้ถล่มทลาย เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากหันมาใส่ใจสุขภาพ มีการออกกำลังกายหรือเล่นโยคะที่บ้านกันมากขึ้น

ด้านรายใหญ่อีกเจ้าอย่าง Nike แบรนด์ชุดกีฬาที่ครองตลาดมากที่สุดในโลก ก็มีเเผนจะปรับตัวสู่ “ขายออนไลน์” เเบบเต็มสูบ ให้กลายเป็นทิศทางของเเบรนด์ หลังยอดขายไปได้สวย

John Donahoe ซีอีโอของ Nike บอกว่า “เราต่างรู้ดีว่าดิจิทัลเป็น New Normal ในยุคนี้ และพฤติกรรมผู้บริโภคจะไม่กลับไปเป็นแบบเดิมอีกเเล้ว” 

โดย Adidas มีเเผนจะทุ่มเงินทุนมากกว่า 1 พันล้านยูโร (ราว 3.6 หมื่นล้านบาท) เพื่อเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล ในปี 2525 พร้อมสร้างเเพลตฟอร์มเเละระบบต่างๆ ที่เอื้อให้มีคำสั่งซื้อทางออนไลน์ได้ดีเเละรวดเร็วขึ้น

(Photo by Sean Gallup/Getty Images)

Kasper Rorsted ซีอีโอของ Adidas ระบุว่า ภายในปี 2025 อีคอมเมิร์ซจะมีสัดส่วนมากกว่า 40% ของยอดขายทั้งหมดในอุตสาหกรรม โดยออนไลน์จะเติบโตเร็วกว่าออฟไลน์ถึงสามเท่าซึ่งตอนนี้ Adidas มีสมาชิกมากกว่า 150 ล้านคนเข้าสู่ระบบออนไลน์ของบริษัทแล้ว

เช่นเดียวกับคู่เเข่งอย่าง Puma และ Nike เเบรนด์ Adidas จะให้ความสำคัญกับตลาดผู้หญิง มากขึ้น โดยเฉพาะในสินค้าหมวดเเฟชั่น

นอกจากนี้ ยังวางเป้าหมายที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์กว่า 9 ใน 10 เป็นผลิตภัณฑ์มีความยั่งยืนมากขึ้น ด้วยการใช้วัสดุรีไซเคิลและย่อยสลายได้ นำร่องด้วยการใช้หนังสัตว์เทียมจากเห็ดในรองเท้ารุ่นฮิตอย่าง Stan Smith ที่จะเปิดตัวในปีนี้

ซีอีโอ Adidas บอกว่าผู้บริโภคมากกว่า 70% เห็นว่าความยั่งยืนเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อ

ด้วยการที่จีนเป็นตลาดที่เติบโตเร็วที่สุด ณ ตอนนี้ Adidas จึงเตรียมเข้าถึงตลาดจีนมากขึ้น โดยจะแยกธุรกิจออกมาจากทวีปเอเชีย รวมถึงการรวมธุรกิจของรัสเซียเข้ากับธุรกิจของทวีปยุโรป โดยเตรียมเปิดตลาดใหม่ในภูมิภาคตะวันออกกลาง และทวีปแอฟริกาในปีนี้ด้วย

นอกจากนี้ Adidas มีแผนที่จะขายกิจการ ‘Reebok’ ภายในปีนี้ เนื่องจากไม่สามารถทำรายได้ถึงเป้าหมายตลอดช่วงเวลา 15 ปีที่ผ่านมา ทำให้สูญเสียส่วนแบ่งการตลาดไป โดย Adidas เข้าเข้าซื้อ Reebok แบรนด์เสื้อผ้าฟิตเนสของสหรัฐฯ ด้วยมูลค่า 3.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อ 15 ปีก่อน เพื่อหวังจะเข้ามาช่วยเเข่งขันกับคู่เเข่ง Nike ซึ่งเป็นบริษัทใหญ่ของสหรัฐฯเช่นกัน

 

ที่มา : Reuters (1) (2) , Yahoo

 

]]>
1323016
Walmart วิกฤติสุดในรอบ 30 ปี!? https://positioningmag.com/1158227 Thu, 22 Feb 2018 07:07:10 +0000 https://positioningmag.com/?p=1158227 หุ้นของ Walmart ร่วงลงมากกว่า 10% ในช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือเป็นภาวะหุ้นตกต่ำที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม 1988 เหตุผลสำคัญคือยอดขายออนไลน์ของ Walmart ที่เพิ่มขึ้นเพียง 23% ในไตรมาสล่าสุด ลดลงจาก 50% ที่เคยทำได้ในช่วงก่อนหน้า เบื้องต้น Walmart ยอมรับว่าเป็นเพราะบริษัทบริหารจัดการสินค้าในคลังผิดพลาด โดยไม่สามารถเตรียมสินค้าพื้นฐานได้มากพอช่วงเทศกาลวันหยุด เนื่องจากบริษัทพยายามรองรับสินค้าที่มีความต้องการสูงกว่า เช่น ทีวีและของเล่น

ภาวะหุ้น Walmart ดิ่งลงต่ำสุดในรอบ 30 ปีถูกมองว่าเป็นเพราะการเติบโตของยอดขายออนไลน์ Walmart ที่ลดลงรวดเร็วในช่วงไตรมาส 4 ปลายปี (ตุลาคมธันวาคม 2017) การเติบโตเพียง 23% เทียบไม่ได้เลยกับ 50% ที่เคยเติบโตในไตรมาสก่อนหน้านี้ จุดนี้ CEO หัวเรือใหญ่ Walmart อย่าง Doug McMillon กล่าวว่า การเติบโตที่ชะลอตัวส่วนใหญ่นั้นเป็นเรื่องที่บริษัทคาดการณ์และวางแผนไว้แล้วล่วงหน้า เพียงแต่บางส่วนเกิดขึ้นเพราะปัญหาการดำเนินงาน

ภาพจาก : http://www.bbc.com/news/business-43127923

ยอดขายออนไลน์ชะลอตัว

McMillon ลงรายละเอียดยอดขายออนไลน์ที่ชะลอตัว ว่าเป็นเพราะ Walmart ไม่สามารถจัดสินค้าพื้นฐานบางรายการ เพื่อจำหน่ายให้ผู้บริโภคในช่วงนาทีทองที่มีการขายได้สูงสุด โดยมูลค่ายอดขายรวมออนไลน์ทั้งหมดของ Walmart คิดเป็น 11.5 พันล้านเหรียญในปี 2017

เพราะ Walmart จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับสินค้ากลุ่มของเล่น ทีวี และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ซึ่งเป็นที่ต้องการสูงในช่วงเทศกาลวันหยุด ผลคือการจัดการที่ผิดพลาดทำให้ผลการดำเนินงานไม่เป็นไปตามเป้า

หุ้นของ Walmart จึงร่วงลงมากกว่า 10% ในวันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มูลค่าเหลือ 94.11 เหรียญสหรัฐเท่านั้น เรียกว่าเป็นผลงานที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปี 1988 ซึ่งแม้ Walmart จะพยายามชูว่า ความต้องการ (สินค้าพื้นฐาน) ที่เกินความคาดหมายเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับธุรกิจ แต่ความสามารถในการตอบสนองของ Walmart ที่เทียบไม่ได้กับคู่แข่งรายอื่นในเวทีค้าปลีกออนไลน์ ทำให้นักลงทุนไม่ปลื้มกับเรื่องนี้

ทั้งหมดนี้ Walmart ได้แต่แบ่งรับแบ่งสู้ แสดงความมั่นใจกับนักลงทุนว่าจะแก้ไขปัญหาไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้อีก คาดว่าการเติบโตของยอดขายออนไลน์ Walmart จะฟื้นตัวกลับไปที่ 40% ในปีหน้า

เราไม่ได้คาดหวังว่าไตรมาสแรกจะโตรวดเดียวถึง 40%” McMillon กล่าว แต่เชื่อว่าตัวเลขรายได้ออนไลน์จะเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปตลอด 4 ไตรมาสนับจากนี้ ส่งให้ตัวเลขการเติบโตเฉลี่ยทะลุ 40% ในปีงบประมาณ 2019

ในภาพรวม รายได้ของ Walmart ในไตรมาสล่าสุดเพิ่มขึ้น 4.1% เป็น 1.36 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ยอดขายสาขาเดิมที่ร้านค้าในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 2.6% โดยมีสาเหตุมาจากการเข้าชมร้านค้าของนักช้อปที่เพิ่มขึ้น 1.6%

ที่มา

]]>
1158227