เคป็อป – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 18 Jan 2021 13:04:50 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 การอำลาของ GOT 7 อาจทำให้ JYP ค่ายเพลงใหญ่เกาหลี เสียส่วนเเบ่งตลาดในต่างประเทศ? https://positioningmag.com/1313771 Tue, 12 Jan 2021 13:39:30 +0000 https://positioningmag.com/?p=1313771 บีบหัวใจเเฟนคลับ K-Pop กับข่าวช็อกในช่วงวันที่ผ่านมา เมื่อ JYP Entertainment ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้ ยืนยันว่า ‘GOT7’ วงบอยเเบนด์ยอดนิยม จะไม่ต่อสัญญาที่กำลังจะหมดลงในเดือนนี้ หลังประสบความสำเร็จเเละโลดเเล่นในวงการเพลงมานาน 7 ปี

ตลอด 7 ปีที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตของผม นี่ยังไม่ใช่จุดจบ เเต่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น พวกเราทั้ง 7 คนจะยังคงเดินหน้านำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดของพวกเราให้ทุกคนได้เห็นกันต่อไปอย่างแน่นอน #GOT7FOREVER” มาร์ค หนึ่งในสมาชิก GOT7 โพสต์ข้อความส่งถึงเเฟนๆ โดยทั้ง 7 คนกำลังจะแยกย้ายกันไปเริ่มต้นใหม่ตามเส้นทางของตัวเอง

  • คิมยูคยอม จะย้ายไปทำเพลงกับค่าย AOMG ซึ่งเป็นค่ายของศิลปินชื่อดังอย่าง Jay Park
  • ปาร์คจินยอง จะหันไปโฟกัสงานแสดง โดยมีข่าวว่าจะเซ็นสัญญากับ BH Entertainment ค่ายนักเเสดงใหญ่ของเกาหลีใต้
  • ชเวยองแจ ได้รับคำเชิญจาก Sublime Entertainment ค่ายที่มีศิลปินดังในสังกัดอย่าง ซงคังโฮ
    เรน ฮานิ EXID คิมฮีจอง ฯลฯ 
  • อิมแจบอม ได้รับการติดต่อจากหลายค่าย แต่ยังไม่คอนเฟิร์ม บางข่าวระบุว่าอาจได้รับการติดต่อจาก BH Entertainment
  • แจ็กสัน หวัง มีเเผนจะทำงานทั้งในเกาหลีใต้และจีน โดยมี Team Wang เป็นผู้ดูแล
  • มาร์ค ต้วน จะกลับบ้านเกิดที่สหรัฐฯ และอาจเปิดช่อง YouTube ของตัวเอง รวมไปถึงทำเพลงเองต่อไป
  • แบมแบม กันต์พิมุกต์ มีเเผนจะทำงานทั้งในไทยและเกาหลีใต้ โดยมีข่าวลือว่าอาจจะเซ็นสัญญากับค่าย Makeus Entertainment

การที่ค่ายเพลงต้องเสียศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลกไปทั้ง 7 พร้อมๆ กันครั้งนี้ ทำให้หลายคนมองว่า JYP Entertainment ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งใน ‘เจ้าพ่อวงการบันเทิงเกาหลี’ อาจสูญเสียส่วนเเบ่งสำคัญในตลาดต่างประเทศ รวมไปถึงเม็ดเงินมหาศาลที่เคยได้จากฐานเเฟนคลับ ‘นานาชาติ’ 

JYP จะเสียส่วนเเบ่งการตลาดในต่างประเทศอย่างไร ?

ในสมัยก่อนวงการเพลงเกาหลี จะอยู่ภายใต้อิทธิพลของสามค่ายใหญ่อย่าง SM , JYP เเละ YG หรือที่เรียกกันติดหูว่า “Big 3” ก่อนถูกค่ายเล็กๆ ที่เติบโตเร็วอย่าง Big Hit เเซงหน้า ด้วยอานิสงส์ความสำเร็จของบอยเเบนด์ที่สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้วงการดนตรีโลกอย่าง BTS

JYP Entertainment ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1997 โดยปาร์คจินยองปัจจุบันมีมูลค่าบริษัทอยู่ที่ราว 30,000 ล้านบาท มีศิลปินชื่อดังในสังกัดที่ผ่านมา อย่าง Rain, g.o.d , Wonder Girls, 2PM, TWICE เเละ GOT7 โดยในช่วงต้นปี 2020 เเม้จะประสบวิกฤตโรคระบาด เเต่ค่าย JYP ก็โกยรายได้นำมาเป็นอันดับหนึ่ง

สำหรับ GOT7 เปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรก เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2014 ด้วยคาเเร็กเตอร์ที่ชัดเจนของสมาชิกที่มาจากหลายเชื้อชาติ พร้อมเเนวเพลงที่เป็นสากล การเเสดงที่มีศักยภาพเเละมีส่วนร่วมในการทำเพลง ทำให้ชื่อเสียงของวงนี้ติดตลาดได้ไม่ยากนัก

ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา GOT7 มียอดขายอัลบั้มทั้งเวอร์ชั่นเกาหลีเเละญี่ปุ่น รวมกันถึง 4.3 ล้านอัลบั้ม เเละมีหลายอัลบั้มสามารถขายได้เกิน 1-2 เเสนอัลบั้มภายใน 7 วันเเรก โดยในปี 2016 GOT7 มีคอนเสิร์ตใหญ่เต็มรูปแบบเป็นครั้งแรก โดยที่มีชื่อว่า ‘GOT7 1st CONCERT FLY’ จัดเเสดงในหลายประเทศ ก่อนจะมีคอนเสิร์ตระดับโลกตามมาอีกหลายรายการ

อ่านเพิ่มเติม : GOT7 Sales Summary

GOT7 จึงถือเป็นวงข้ามชาติของ JYP Entertainment ที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศ ตามบ้านเกิดของศิลปิน พร้อมการสื่อสารด้านภาษาที่หลากหลาย โดยมีฐานเเฟนคลับขนาดใหญ่ในจีน ไทย อาเซียนเเละอเมริกา ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาเหล่าเเฟนคลับต่างชาติ ก็มีกำลังซื้อเพิ่มมากขึ้นตามกระเเส K-Pop ที่ฮอตฮิตไปทั่วโลก ถือว่ามีความสำคัญไม่เเพ้ตลาดในเกาหลี

สำหรับในตลาดไทย GOT7 นับว่าเป็นวงที่ได้รับความนิยมสูงมาก มีฐานเเฟนคลับหลายช่วงอายุ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นวัยรุ่นวัยเรียน ไม่เพียงแต่ความนิยมใน ‘แบมแบมที่เป็นสมาชิกคนไทยเท่านั้น แต่สมาชิกคนอื่นก็มีโอกาสได้ร่วมงานที่ประเทศไทยบ่อย ๆ ทั้งงานถ่ายแบบโฆษณาและนิตยสาร

รวมไปถึง แฟนมีตติ้งและการจัดคอนเสิร์ตขนาดใหญ่หลายต่อหลายครั้งในไทย โดยล่าสุดเคยมีตารางขึ้นแสดงที่ราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งก็มียอดซื้อบัตรจองเต็มทุกที่นั่ง เเต่ก็ต้องประกาศเลื่อนออกไป เพราะการแพร่ระบาดของ COVID-19

ผลกระทบจากโรคระบาด สะเทือนทั้งอุตสาหกรรมดนตรีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยิ่งในวงการเพลงเกาหลีที่มีจุดขายคือ ‘เเฟนเซอร์วิส’ โดยการที่งานคอนเสิร์ตเเละเเฟนมีตติ้ง ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในรายได้ก้อนใหญ่จากเเฟนคลับต่างชาตินั้นได้หดหายไป ก็ส่งผลไม่น้อยกับศิลปินที่มุ่งตีตลาดในต่างประเทศ 

หลังข่าวยืนยันการไม่ต่อสัญญาของ GOT7 ทั้ง 7 คน แฟนๆ ก็ได้ร่วมกันโพสต์ข้อความ ความประทับใจที่มีต่อหนุ่มๆ จนแฮชแท็ก #GOT7FOREVER ขึ้นเทรนด์อันดับ 1 ทวิตเตอร์ในหลายประเทศ พร้อมแฮชแท็ก
#ลาแล้วเจวายพี ก็ขึ้นติดเทรนด์บนทวิตเตอร์ประเทศไทยในทันที ซึ่งมีความคิดเห็นต่างๆ เกี่ยวกับประเด็น การดูเเลเเละไม่โปรโมตศิลปินอย่างเต็มที่ของค่าย JYP 
จากเเฟนคลับทั้งในเกาหลีเเละต่างประเทศ 

หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า ส่วนเเบ่งการตลาดในจีนเเละไทยของ JYP Entertainment จะหายไปอย่างมากเมื่อขาด GOT7 โดยมีเเฟนคลับจำนวนหนึ่งยืนยืนว่า พวกเขาจะไม่ให้การสนับสนุนค่ายนี้อีกต่อไป บางคนถึงขั้นบอกว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะสั่นสะเทือนตำเเหน่งใน “Big 3” ของ JYP ในวงการเพลงเกาหลีเลยทีเดียว 

 

ต้องดูกันว่าทิศทางของ JYP Entertainment จะเป็นอย่างไรหลังไม่มีวงบอยเเบนด์ดาวรุ่ง พร้อมติดตามผลงานบน ‘เส้นทางใหม่’ ของหนุ่มๆ ทั้ง 7 คนต่อไปด้วยเช่นกัน 

 

ที่มา : Billboard , Meaww , Soompi

 

]]>
1313771
สาวกเตรียมเฮ! รัฐบาลเกาหลีใต้มีแผนอนุญาตศิลปิน K-Pop ผ่อนผันเกณฑ์ทหารได้ https://positioningmag.com/1301323 Wed, 14 Oct 2020 16:41:22 +0000 https://positioningmag.com/?p=1301323 รัฐบาลเกาหลีใต้กำลังมีแผนอนุญาตให้เหล่าคนดังวัฒนธรรมสมัยนิยม (Pop Culture) ซึ่งมีความดีความชอบในด้านส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศ เลื่อนเข้ารับราชการทหาร จากการเปิดเผยของหน่วยงานคัดเลือกกำลังพลของกองทัพ

แผนนี้มีขึ้นท่ามกลางประเด็นโต้เถียงว่าสมาชิกวง BTS บอยแบรนด์เคป็อปควรได้รับสิทธิพิเศษ ยกเว้น หรือเลื่อนเข้ารับราชการทหารหรือไม่ ด้วยเป็นที่รับรู้กันอย่างกว้างขวางว่าพวกเขามีส่วนส่งเสริมภาพลักษณ์ของเกาหลีใต้ จากกรณีที่เพลงของ BTS เคยสร้างปรากฏการณ์ขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard

รัฐมนตรีกลาโหมบอกก่อนหน้านี้ไม่มีการพิจารณายกเว้นให้แก่วง BTS ซึ่งมีสมาชิกทั้งหมด 7 คน แต่การผ่อนผันเป็นทางเลือกหนึ่งที่เป็นไปได้

ในรายงานที่นำเสนอต่อรรัฐสภา สำนักงานกำลังพลของกองทัพเกาหลีใต้ เผยว่า ทางหน่วยงานกำลังผลักดันแก้ไขกฎหมายรับราชการทหาร เพื่อเปิดทางให้ศิลปิน K-Pop สามารถเลื่อนรับราชการทหาร หากได้รับคำชี้แนะมาจากกระทรวงวัฒนธรรม

Photo : bangtan.official

ทั้งนี้ ชายชาวเกาหลีใต้ทุกคนอายุ 18 ถึง 28 ปี จะต้องเข้ารับราชการทหารเป็นเวลาราวๆ 2 ปี และภายใต้กฎหมายปัจจุบัน ได้มีข้อกำหนดพิเศษเพื่อเปิดโอกาสให้นักกีฬา รวมถึงศิลปิน นักดนตรีคลาสสิก และนักเต้นบัลเลต์ ไม่ต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหาร หากสามารถสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติได้ในเวทีระดับนานาชาติ แต่ยังไม่เคยมีศิลปิน K-Pop คนใดที่ได้รับสิทธิพิเศษดังกล่าว

“การแก้ไขนี้มีเป้าหมายส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศ ด้วยการรับรองวัฒนธรรมสมัยนิยมและกิจกรรมศิลปะต่างๆ” สำนักงานกำลังพลของกองทัพเกาหลีใต้กล่าว พร้อมระบุว่าจะยื่นร่างกฎหมายฉบับแก้ไขต่อที่สมัชชาแห่งชาติในเดือนนี้

Source

]]>
1301323
เปิดบิ๊กดีล JMART & KB เเบงก์เกาหลี นำกลยุทธ์ “ศิลปิน KPOP” เจาะสินเชื่อเเฟนคลับไทย https://positioningmag.com/1276373 Thu, 30 Apr 2020 13:00:11 +0000 https://positioningmag.com/?p=1276373 เเม้ในยามที่ธุรกิจกำลังสู้กับวิกฤต COVID-19 ยังมีดีลใหญ่มาสะเทือนวงการสินเชื่อไทย เมื่อ JMART เปิดทางให้ KB Kookmin Card กลุ่มธุรกิจการเงินชั้นนำของเกาหลีใต้ ลงทุนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน “JFINTECH” ได้เงินก้อนโต 3,000 ล้านต่อยอดธุรกิจ เตรียมใช้กลยุทธ์นำ “ศิลปิน KPOP” เจาะสินเชื่อเเฟนคลับเเละคนรุ่นใหม่ไทยที่กำลังเติบโตสูง

เบื้องหลังดีลใหญ่ JMART & KB

ที่มาของการร่วมทุนครั้งนี้ KB Kookmin Card  ผู้ให้บริการบัตรเครดิตการ์ด และสินเชื่อส่วนบุคคลรายใหญ่ของเกาหลีใต้ มีฐานลูกค้าจำนวน 34 ล้านราย ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ KB Financial Group ได้ขยายลงทุนมายังอาเซียน

โดยเริ่มลงทุนธุรกิจ Non-Bank เน้นสินเชื่อส่วนบุคคลใน กัมพูชา เมียนมา ลาว เวียดนามเเละอินโดนีเซียก่อน จากนั้นต้องการขยับมาไทย เพื่อตั้งให้เป็นศูนย์กลางของภูมิภาค จึงเริ่มมองหาพันธมิตรกลุ่มธุรกิจนี้ โดยมี EY(Ernst & Young) บริษัทตรวจสอบบัญชีรายใหญ่ของโลกเป็นผู้ประสานงาน

อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจมาร์ท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หลังจากหาพาร์ตเนอร์ในไทยมาร่วม 2 ปีก็ได้ตัดสินใจเลือก JFINTECH เเละทำการศึกษาร่วมกันกว่า 1 ปีครึ่งก่อนจะสำเร็จเเละแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา

โดยจะดำเนินการผ่านการเพิ่มทุนจดทะเบียนในบริษัทย่อย ด้วยมูลค่า 650 ล้านบาท เป็นการเพิ่มทุนเป็น 1,112,851,210 บาท แบ่งเป็น ออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน และโอนหุ้นเดิมให้อีก 1 หุ้น รวมจำนวนหุ้นทั้งหมด 55,631,431 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (Par) หุ้นละ 10 บาท ซึ่ง JMART และบริษัทในเครือ JMT จะสละสิทธิ์การจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนใน JFINTECH

ดังนั้นการร่วมทุนครั้งนี้ ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของ JMART ใน JFINTECH เหลือ 44.2% จากเดิม 90.2% ขณะที่ JMT ถือครองหุ้นในสัดส่วน 4.8% จากเดิม 9.8% ส่วน KB Kookmin Card จะถือครองหุ้น 49.99%

เบื้องต้นคาดว่า KB จะได้เข้าจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนแล้วเสร็จภายในเดือน มิ.ย.ปีนี้ เเละเดินหน้า “เเผนต่อไป” โดยการหาสินเชื่ออื่นมาทดแทนสัญญากู้ยืมเงินผู้ถือหุ้นในปัจจุบัน ซึ่งมีรายละเอียดยอดเงินกู้ ณ สิ้นปี 2562 รวม 3,012.5 ล้านบาท เป็นยอดเงินกู้ของบริษัท จำนวน 2,717.5 ล้านบาท และยอดเงินกู้ของ JMT จำนวน 295 ล้านบาท

“ดีลครั้งนี้จะทำให้กลุ่ม JMART ได้เงินคืนรวม 3,012.5 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้สถานะทางการเงินของบริษัทแข็งแกร่งมากขึ้น”


ปั้น JFINTECH เป็น Top 5 ธุรกิจสินเชื่อ-บัตรเครดิตในไทย

ผู้บริหาร JMART บอกว่า การร่วมทุนครั้งนี้ได้รับผลประโยชน์กันเเบบ Win-Win ทั้ง 2 ฝ่าย โดย JFINTECH จะได้นำเอาความรู้และเทคโนโลยีทางการเงินของ KB เข้ามาเสริมให้กับกลุ่มบริษัทในระยะยาว ขณะที่ความแข็งแกร่งในเครือข่ายของ JFINTECH ที่มีความเชี่ยวชาญในท้องถิ่น ก็จะเป็นเหมือนแพลตฟอร์มที่ทำให้ KB ขยายธุรกิจต่อไปได้หลายมิติในอาเซียน

“JFINTECH” ตั้งเป้าจะเป็น 1 ใน 5 ผู้นำธุรกิจสินเชื่อและบัตรเครดิตในประเทศไทย โดยในช่วง 1-2 ปีแรกจะเน้นไปที่การปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายในบริษัท พร้อมปล่อยสินเชื่อ จากนั้นช่วงปีที่ 3-4 จะเข้าไปเจาะตลาดบัตรเครดิต เเละเปิดตัวโปรดักต์ใหม่ในกลุ่มสินเชื่อส่วนบุคคล รุกการตลาดเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ในไทย ส่วนช่วงปีที่ 5 เป็นต้นไป จะเป็นการสร้างการเติบโตเเละทำกำไรมากขึ้น”

 

โดยกลุ่ม JMART คาดว่าหลังการร่วมทุนเเล้วเสร็จจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ในเฟสเเรก ราว 650 ล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าผู้คนจะต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้นจากปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

รุกการตลาด “ศิลปิน KPOP” เจาะสินเชื่อเเฟนคลับ-คนรุ่นใหม่  

เหล่าธนาคารในเกาหลีใต้ กำลังเเข่งขันกันดุเดือด ด้วยการนำ “ศิลปิน KPOP” มาเพิ่มยอดผู้ใช้เเละออกขายผลิตภัณฑ์ดีไซน์พิเศษกันคึกคัก KB Kookmin Card ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นธนาคารใหญ่ที่ประสบความสำเร็จในด้านนี้ ด้วยเป็นสปอนเซอร์ให้บอยเเบนด์ชื่อดังที่มีฐานเเฟนคลับทั่วโลกอย่าง “BTS” (Bangtan Sonyeondan)

โดย KB มีการทำตลาดทั้งออฟไลน์เเละออนไลน์ที่เข้มข้น เน้นเจาะกลุ่มตลาดคนรุ่นใหม่ที่เป็น “Young Generation”

จุดเเข็งด้านการตลาดไอดอลนี้ ทำให้กลุ่ม JMART มองว่าเป็นโอกาสที่จะนำมาต่อยอดในไทย ซึ่งกระเเส KPOP กำลังได้รับความนิยมอย่างมาก มีฐานเเฟนคลับเป็นอันดับต้นๆ ของเอเชีย มีกำลังซื้อเเละมีการใช้จ่ายด้านไลฟ์สไตล์สูง จึงเป็นลูกค้าที่เหมาะเเก่การปล่อยสินเชื่อเเละบัตรเครดิต

ก่อนหน้านี้วงการธนาคารไทย ก็มีการนำศิลปิน KPOP มาทำตลาดเจาะกลุ่ม New Gen ที่มีกว่า 10 ล้านคนในไทยมาเเล้ว อย่างโปรเจกต์ใหญ่ KBankxBLACKPINK ของกสิกรไทยร่วมกับเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง BLACKPINK ในคอนเซ็ปต์ #แค่เชื่อก็เป็นได้ ปล่อยโปรดักต์แรกเป็นบัตรเดบิตคอลเลคชั่นพิเศษที่ตั้งเป้ายอดบัตรถึง 1 ล้านใบ

อาจเป็นไปได้ว่าในอนาคตเราอาจจะได้เห็นศิลปินวง BTS หรือวงอื่นๆ มาอยู่บนบัตรของ JFINTECH ก็เป็นได้ เพราะมีฐานเเฟนคลับในไทย “เยอะมาก” อย่างไรก็ตามเเต่..ก็ต้องคอยลุ้นกันต่อไป

พับเเผนขยาย Jaymart Mobile – ธุรกิจทวงหนี้ยังสดใส 

ย้อนกลับมาคุยกันถึงธุรกิจที่น่าเป็นห่วงที่สุดในกลุ่ม JMART นั่นก็คือร้านขายมือถือเพราะ COVID-19 ส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป หันไปช้อปสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น เเละมีกำลังซื้อลดลง ชะลอการใช้จ่าย

“ในปีนี้ Jaymart Mobile คงไม่ขยายสาขาในห้างสรรพสินค้าเพิ่มเติม เเละอาจปรับลดจำนวนสาขาลงด้วย”

อย่างไรก็ตาม ธุรกิจในเครืออย่าง Singer ยังมีโอกาสขยายการเติบโตได้อีก เพราะไม่ต้องอยู่ในห้าง เเละจะเข้ามาเสริมช่องทางการขายของ Jaymart Mobile ได้

ขณะเดียวกัน JMART ก็ยังมีธุรกิจดาวรุ่งอยู่ในมือ เเม้ต้องเผชิญเศรษฐกิจฝืดเคือง นั่นคือ “ธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ” ของบริษัทในเครืออย่าง JMT ยังเป็นไปตามเป้าหมาย เนื่องจากบริษัทมีพอร์ตบริหารหนี้สะสมในปัจจุบันอยู่ที่ 177,000 ล้านบาท และสามารถทยอยรับรู้รายได้จากกระแสเงินสด (Cash collection) ที่สามารถเก็บเข้ามาได้ต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 10 ปี

“ในสถานการณ์ COVID-19 จะทำให้มีเเนวโน้มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในระบบเพิ่มขึ้น จึงตั้งเป้าใช้งบลงทุนซื้อหนี้เข้ามาบริหารในปีนี้ที่ 4,500 ล้านบาท สูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน” สุทธิรักษ์ ตรัย
ชิรอาภรณ์ ซีอีโอของ JMT ระบุ

สำหรับภาพรวมธุรกิจ เเม่ทัพของ JMART ยืนยันว่าปีนี้ก็น่าจะเป็นปีที่ดีที่สุดอีกปีหนึ่งของบริษัท จากปีที่แล้วที่ทำกำไรได้สูงสุด ปีนี้ก็น่าจะทำสถิติกำไรสูงสุดได้อีกปีหนึ่ง โดยยังคงตั้งเป้าการเติบโตของกำไรไว้ที่ 25% รายได้เติบโต 10% เเม้จะยอมรับว่าได้รับผลกระทบจาก COVID-19 เเต่ยังบริหารจัดการต้นทุนเเละค่าใช้จ่ายได้ดี จึงคาดว่าจะยังคงทำได้ตามเป้า เเละสถานการณ์น่าจะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง

 

]]>
1276373
ไค EXO เดต เจนนี่ BLACKPINK คู่รักต่างค่ายหรือกลยุทธ์ขับเคลื่อนตลาดเคป็อป https://positioningmag.com/1206385 Thu, 03 Jan 2019 23:07:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1206385 การเข้าสู่วงการบันเทิงอาจให้โอกาสด้านชื่อเสียง เงินทอง แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องเสียไปคือโอกาสในการใช้ชีวิตส่วนตัว โดยเฉพาะการห้ามไอดอลมีความรัก กรณีล่าสุดเมื่อ Dispatch สำนักข่าวของเกาหลีออกเปิดเผยคู่เดตล่าสุดของวงการเคไอดอลระหว่าง “เจนนี่ BLACKPINK” กับ “ไค EXO” รับเทศกาลปีใหม่ตามธรรมเนียมของสำนักข่าวนี้ที่จะชอบออกข่าวในช่วงต้นปี ก็ทำให้เป็นที่ฮือฮาไปทั่ว และกลายเป็นเรื่องน่าสนใจไม่น้อยในมุมการตลาดที่น่าลองมาศึกษาดูว่า สถานการณ์แบบนี้แท้จริงแล้วเกี่ยวข้องกับกลยุทธ์การตลาดบริหารไอดอลของเหล่าเคป็อปหรือไม่อย่างไรกันแน่

ตระกูล AKB48 ตำนานฝ่ากฎเดตที่ไม่มีใครลืม

ถ้าพูดถึงผลกระทบเรื่องคู่เดตที่ฮือฮาและมีแอคชั่นน่าหวาดหวั่นไม่น้อย หลายคนอดไม่ได้ที่จะนึกถึง ไอดอลตระกูล AKB48 ซึ่งเป็นไอดอลกรุ๊ปที่ได้รับการพูดถึงในเรื่องนี้มากที่สุด รวมถึง BNK48 ในบ้านเราก็เคยมีข่าวละเมิดกฎเรื่องเดตที่มีมาตรการลงโทษรุนแรงไม่แพ้กัน

แม้ว่าบางค่ายต้นสังกัด จะไม่มีสัญญาออกมาเป็นลายลักษณ์อักษรแต่เมื่อถูกจับได้จากปาปารัซซี่แล้ว ผลกระทบที่ตามมาย่อมเลวร้ายเสมอ อาทิ ถูกลดชั้นเป็นเด็กฝึกหัด เป็นต้น

อย่างกรณี “มี่จัง” มิเนกิชิ มินามิ ที่มีภาพหลุดออกจากที่พักของแฟนหนุ่มแดนเซอร์วง Generation จนถึงขั้นต้องโกนผมขอขมาแฟนเพลง หรือในฝั่งของเกาหลีที่สถานีโทรทัศน์ MBC ของเกาหลีใต้ ได้แสดงตัวอย่างของสัญญาจากต้นสังกัดไอดอลแห่งหนึ่ง ซึ่งระบุว่าศิลปินจะได้รับอนุญาตให้มีคนรู้ใจหลังจากเปิดตัวเป็นศิลปินแล้ว 3 ปี ซึ่งแหล่งวงในเผยว่า ผู้ฝ่าฝืนกฎจะถูกปรับเป็นเงินจำนวนมาก หรือการที่ บ็อบบี้ วง IKON จากค่าย YG Entertainment ก็เคยพูดถึงกฎของต้นสังกัดสำหรับเหล่าศิลปินอีกว่า

ห้ามออกเดต และในตอนที่พวกเราอยู่ที่หอ ถ้าเราจะเดินข้ามถนนไปร้านสะดวกซื้อ เราก็ต้องบอกกับต้นสังกัดตลอด” แถมบอกอีกด้วยว่า “พวกเขายังไม่ให้พวกเราได้พบกับเมมเบอร์วง BLACKPINK (ซึ่งอยู่ในสังกัดเดียวกัน) อีกด้วย

รักของไอดอลกับโลกธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม ในโลกของความเป็นจริง ความรักของไอดอลกับโลกทางธุรกิจและการทำเงินย่อมสวนทางกัน เพราะค่ายต้นสังกัดของเกาหลีและญี่ปุ่นมักจะใช้กลยุทธ์กระตุ้นยอดขายแผ่นซีดี ผ่านรูปแบบการใช้เงินเข้าทุ่ม ซึ่งจะยิ่งทำให้มูลค่าและการยึดติดแสดงความเป็นเจ้าของที่มีต่อตัวไอดอลคนนั้นยิ่งสูงขึ้นไปอีก

ดังนั้นกฎการห้ามมีแฟน หรือออกเดตจึงมักจะเป็นที่รู้กันว่าไม่ควรทำ หรืออย่างน้อยก็ไม่ควรทำอย่างเปิดเผย เพื่อให้ไอดอลโฟกัสกับการทำงานอย่างเต็มที่และควบคุมไม่ให้เกิดข่าวอื้อฉาว และเพื่อเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม

ที่สำคัญไอดอลของเอเชียมีการทำงานในรูปแบบทีมเวิร์ก มีการ “รับผิด” และ “รับชอบ” ร่วมกัน ดังนั้นการที่เมมเบอร์คนใดคนหนึ่งมีข่าวเดตในวงย่อมจะกระทบต่อเมมเบอร์คนอื่นๆ ไปตามๆ กัน

ตัวอย่างที่เคยมีให้เห็นผ่านมาแล้ว เช่น วงรุกกี้ ที่ยังมีฐานแฟนคลับไม่แข็งแรง จากกรณีของแฟนคลับ เพนตากอน มากกว่า 500 คน ขอคืนบัตรเข้าร่วมงานฉลองการก่อตั้งแฟนคลับอย่างเป็นทางการที่มหาวิทยาลัยเซจง เนื่องจากมีข่าวเดตของฮยอนอาและอีดอนที่เป็น 1 ในสมาชิกของเพนตากอน

เรื่องแบบนี้ยังมีตำนานระดับซีอีโอเจ้าของค่าย JYP Entertainment หรือ พัคจินยอง ที่เคยออกมาบอกเล่าประสบการณ์ของตัวเองให้ฟังในรายการ Cool Kiz on the Block ว่า ในช่วงปี 1994 หลังจากที่เดบิวท์เพลง Don’t Leave Me ซึ่งปัจจุบันถือเป็นเพลงชาติของ เจวายพี ที่ศิลปินของค่ายจะใช้เวลาแสดงโชว์รวมในงานต่างๆ ซึ่งประสบความสำเร็จมากจนดังสุดๆ ทำให้เขาตัดสินใจเปิดเผยความสัมพันธ์ต่อสาธารณะ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของศิลปินหน้าใหม่ในตอนนั้นที่กล้าเปิดเผยเรื่องนี้

เรื่องนี้ไม่มีอะไรเซอร์ไพรส์ ปฏิกิริยาของแฟนคลับยังคงเป็นไปเหมือนที่เคยเป็นเมื่อรู้ว่าศิลปินที่ชื่นชอบมีแฟน กรณีของ “พัคจินยอง” ก็ชัดเจน เมื่อเขาพบว่าหลังประกาศไปแล้วแฟนๆ ที่เคยตามมาเฝ้าที่บ้านหายหน้าไปเลยไม่ว่าเพลงจะฮิตขนาดไหนก็ตาม แถมเพลงก็ไม่ชนะโหวตรายการไหนทั้งนั้น สรุปแล้วแฟนๆ พอใจกับสถานะความโสดแม้อาจจะรู้ว่าศิลปินโกหกก็ตาม

แต่ก็นะ สำหรับศิลปินที่มีความสามารถจริงๆ อย่าง พัคจินยอง ก็เอาชนะเหตุการณ์นั้นมาได้ด้วยการใส่ความพยายามเพิ่มเข้าไปอีกเพื่อสร้างความสำเร็จให้ตัวเองจนกลายมาเป็นเจ้าของค่ายเพลงดังในปัจจุบัน

หรืออย่างกรณีข่าวเดตของ SNSD ที่ Dispatch สำนักข่าวชื่อดังของเกาหลีใต้เจ้าเก่า ทำการเปิดเผยภาพของแบคฮยอนและแทยอน ในรถยนต์ของทั้งสองออกมา เมื่อเดือนมิถุนายน 2014 ก็ทำให้เกิดดราม่าหนักมาก ต่างกับคู่ของเพื่อนร่วมวงอย่าง ยุนอา ซึ่งเดตกับอีซึงกิที่เป็นนักแสดงชาย

รีแอคชั่นของแฟนคลับต่อความสัมพันธ์ของไอดอล

รีแอคชั่นของแฟนคลับที่มีต่อกันนั้น จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยง่ายๆ ซึ่งพอจะแยกได้เป็น 4 เรื่องหลักดังนี้

1. อายุ ภาพลักษณ์ และขนาดของวง

ถ้าเป็นบอยแบนด์หรือเกิร์ลกรุ๊ปที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นนั้น จะมีปัญหามากกว่าอายุวงที่มากแล้ว ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวควรจะเป็นช่วงกอบโกยความสำเร็จในฐานะไอดอล และภาพลักษณ์ที่ต้นสังกัดวางว่า มีลักษณะเป็นไอดอลมากน้อยขนาดไหน เช่น ถ้าค่ายวางคอนเซ็ปต์มาในรูปแบบ Boyfriend Material หรือ Girlfriend Material ที่มีลักษณะเหมือนชายหนุ่มหรือสาวในฝัน แบบนี้จะมีปัญหาแน่นอน เพราะแฟนคลับจะหวงกว่าภาพลักษณ์ในรูปแบบอื่น

แต่ถ้าวางอิมเมจมาเป็นศิลปิน หรือนักแสดง ขายผลงานหรือบทบาทที่ได้รับ ผลกระทบตรงนี้ก็จะน้อยกว่า แฟนๆ ก็จะโฟกัสเรื่องส่วนตัวน้อยลง และวงที่มีเมมเบอร์จำนวนมากก็จะเป็นแหล่งรวบรวมแฟนคลับที่หลากหลาย ต่างอายุ ต่างความคิด ซึ่งทำให้แฟนด้อมนั้นมีขนาดใหญ่มาก เวลามีเรื่องทีก็จะเรื่องใหญ่ตามไปด้วย และทำให้ควบคุมได้ยากกว่าแฟนด้อมขนาดเล็ก

อันดับแฟนคาเฟ่ของศิลปินกลุ่มเกาหลีใน Baidu Bar (ข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2018) และศิลปินเกาหลีที่ได้มีการสตรีมมิ่งมากที่สุดในประเทศจีน

ที่มา : http://pann.nate.com/talk/342756832

2. อายุและวุฒิภาวะของแฟนคลับ

แฟนคลับที่โตจะมีสิ่งที่ให้ความสนใจมากกว่าความสัมพันธ์ของไอดอลเพียงอย่างเดียว เพราะมีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบในชีวิตเยอะกว่า หรือถ้าให้ความสนใจก็จะควบคุมอารมณ์ได้ดีกว่า อาจจะไม่ได้ออกมาในรูปแบบต่อต้านชัดเจน แต่จะเลือกไม่สนับสนุนไอดอลคนนั้นต่อไปในกรณีที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำนั้น

3. รูปภาพที่สื่อนั้นนำมาเปิดเผย

ในกรณีที่มีการเปิดเผยรายละเอียดเนื้อหาข่าวเดต ชัดเจน รวมไปถึงมีการสืบเสาะไปจนถึงไอจีที่ควรจะเป็นช่องทางการสื่อสารระหว่างไอดอลกับแฟนคลับ แต่กลับมีนัยบ่งบอกไปถึงคู่เดตของตนมากกว่าก็เป็นเหมือนแหล่งเชื้อเพลิงชั้นดีที่ทำให้เรื่องเลวร้ายมากขึ้น

4. คู่จิ้นในวง

คำว่าคู่จิ้นชาย ชาย หรือ หญิง หญิงในวง ก็เป็นผลลัพธ์อย่างหนึ่งทางด้านการตลาดที่ต้นสังกัดเป็นคนสร้างขึ้นมาเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจ เพราะจะได้จัดงานมีตติ้ง ออกอีเวนต์ร่วมกัน หรือออกสินค้าได้มากขึ้น เนื่องจากไม่ได้ซื้อแค่เมนตัวเอง แต่ยังต้องซื้อของคู่ชิปหรือคู่จิ้นตัวเองอีกด้วย (อ่านเพิ่มเติม : พจนานุกรมฉบับติ่ง รู้ไว้ก่อนตกกระแสเคป็อป)

ดังนั้นการทำตลาดคู่จิ้นจึงเป็นที่นิยมและมีเม็ดเงินจำนวนมหาศาล โดยที่ไอดอลก็มักให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี 

แต่การถูกจับได้ว่าออกเดตและไม่ใช่คู่จิ้นที่แฟนๆ คิดหรือเชื่อกัน ก็จะทำให้มีฟีดแบ็กที่ย้อนเข้ามาหาตัวไอดอลคนนั้นอย่างแรง รวมไปถึงประวัติว่าผู้หญิง ผู้ชายที่เป็นคู่เดตนั้นเป็นใคร เพราะไอดอลส่วนใหญ่จะมีภาพลักษณ์อย่างหนึ่งที่ค่ายตั้งใจขายเสมือนกับสินค้าชิ้นหนึ่งของแบรนด์ มีมูลค่าที่สูง จับต้องและเข้าถึงยาก ขายตัวตนลงไปในเนื้องานด้วย และบ่อยครั้งเมื่อเวลาแฟนคลับติดตามไปนานๆ ผ่านช่องทางส่วนตัว หรือในรูปแบบผลงาน จะเกิดความรู้สึกอยากเป็นเจ้าของขึ้นได้ แต่เป็นในลักษณะของเจ้าของที่มีร่วมกันของของคนจำนวนมากและเมื่อใดที่มีคนใดคนหนึ่งสามารถเป็นเจ้าของได้ จะทำให้เกิดอาการผิดหวังและเหมือนเสียของรักไปในคราวเดียวกัน

เคยมีคำกล่าวของ อีทึก ลีดเดอร์ ของ Superjunior ที่พูดถึงในเรื่องนี้ว่า

“ในโลกนี้เรื่องที่เศร้าที่สุด คือ ความรักของไอดอลและแฟนคลับ เพราะว่า ไอดอลจะพูดเสมอว่า พวกเขารักแฟนคลับแต่จริงๆ แล้วพวกเขาไม่ได้รักแฟนคลับจริงๆ หรอก แต่สิ่งที่น่าเศร้าที่สุดคือแฟนคลับตกหลุมรักศิลปินมาโดยตลอด.. “

ขณะที่ ยางฮยอนซอก ประธานค่าย YG Entertainment ก็เคยไว้พูดได้ตรงที่สุดว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไอดอลกับแฟนคลับเป็นเรื่องของตลาดตั้งแต่ต้น

ขณะที่ในวงการ ไอดอลหลายคนรวมทั้งแฟนคลับก็มีสัญญาณที่เป็นอันรู้กันโดยอัตโนมัติบ่อยๆ ว่า เมื่อใดที่ไอดอลมีแฟน ก็มักจะถึงเวลาที่ต้องเลิกรากับแฟนคลับไปในที่สุด.

]]>
1206385
พจนานุกรมฉบับติ่ง รู้ไว้ก่อนตกกระแสเคป็อป https://positioningmag.com/1192981 Wed, 17 Oct 2018 05:08:20 +0000 https://positioningmag.com/?p=1192981 1. “จิ้น

มาจากคำว่า Imagine ที่แปลว่าจินตนาการเป็นการที่เราจินตนาการไปเองว่า อยากให้ไอดอลหรือศิลปินที่เราชอบเป็นแบบนั้น แบบนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะจิ้นกันในวงเดียวกัน เพศเดียวกัน หรือบางทีก็จิ้นข้ามวง ข้ามเพศได้แล้วแต่รสนิยม

2. คู่ชิป

มาจากคำว่า Relationship ที่แปลว่าความสัมพันธ์ ย่อเป็น ship เเปลไทยเป็นเรือ เลยมีพวกศัพท์เเบบ เรือแล่น เรือล่ม เรือผี ตามมา เหล่าติ่งเขาเลยบัญญัติศัพท์ใหม่ขึ้นมาว่าคู่ชิป  แทนชื่อคู่จิ้นนั่นเอง ที่ดังๆ สมัยเคป็อปยุคบุกเบิกก็เช่นยุนแจชิปเปอร์ สมัยนี้ก็มาร์คแบมชานแบค

3. เรือแล่น

หมายถึง คู่ที่เราชอบ มีโมเมนต์สวีทด้วยกันเยอะมาก จนบรรดาชิปเปอร์ฟินจนเรือแล่นฉิวเลย จนไม่ต้องจับไม้พายเพราะกัปตัน (เรือทำงานแทนหมด)

4. เรือล่ม 

หมายถึง การอวสานความจิ้นมีเหตุที่ทำให้คู่ชิปต้องแยกทาง หรือใครสักคนไปชิปกับคนใหม่ก็ได้ หรือคู่ชิปมึนตึงใส่กันไม่มีโมเมนต์ให้กัน

5. เรือผี 

หมายถึง การชิปของคนสองคนที่ไม่เข้ากันอย่างแรง แต่ก็ยังมีหน่วยกล้าตายจับมาจิ้นได้ ซึ่งอาจจะมีตาทิพย์เห็นเฉพาะตัว หรือไม่ก็เป็นคู่ที่ชาวบ้านไม่จิ้นกัน คู่แปลกๆ จึงถูกเรียกว่าเรือผี แต่บางครั้งเรือผีก็มีโมเมนต์เด็ดๆ เรียกเสียงกรี๊ดได้ไม่แพ้เรือหลักเลยทีเดียว

6. “แฟนด้อม” (fandom)

มาจากคำว่า fanclub+kingdom หมายถึง กลุ่มแฟนคลับของศิลปินนั้นๆ คล้ายอาณาจักร หรือมีความหมายว่า กลุ่มแฟนคลับที่เป็นทางการของวงนั้น ซึ่งจะมีชื่อเรียกต่างกันไป อย่างเช่น TVXQ กลุ่มแฟนคลับของวงคือ Cassiopeia

มาจากกลุ่มดาวแคสสิโอเปียซึ่งมีดาว 5 ดาวเรียงกันเป็นรูป W หรือ M

กลุ่มดาวแคสสิโอเปีย เป็นกลุ่มดาวที่มองเห็นได้ตลอดทั้งปี มีความหมายว่าดงบังเป็นศิลปินที่สว่างและเปล่งประกายในวงการเพลงได้ตลอดทั้งปี

หรือว่าของวง Girls’ Generation มีชื่อเรียกว่า SNE (소원) อ่านว่า โซวอน มาจากคำว่า So + One  So มาจากชื่อวง So Nyeo Shi Dae ส่วน One หมายถึงแฟนคลับ O กับ O รวมกัน กลายเป็น

ดังนั้นชื่อ SNE หมายถึง So Nyeo Shi Dae กับ แฟนคลับทั่วโลก รวมกันเป็นหนึ่งเดียว ชื่อแฟนคลับนี้ประกาศเป็นครั้งแรกในงาน The 1st Year Party งาน Fan Meeting ฉลองครบรอบเดบิวต์ 1 ปีของ So Nyeo Shi Dae

7. เมน (Main) 

คือ ศิลปินที่เราชอบมากที่สุด หรือเรียกอีกอย่างว่าเมนหลักซึ่งใช่ว่าเราจะมีเมนได้แค่คนเดียว เพราะว่ายังมีตำแหน่งเมนรองหมายถึง ศิลปินที่ชอบรองลงมาเป็นอันดับ 2 หรือเหนือเมนหมายถึง ศิลปินที่ปรากฏตัวพร้อมเมนเรา แต่เราจะลืมมองเมนตัวเองแต่ไปมองคนนี้แทน แต่ยังไงเราก็ซัพพอร์ตเมนหลักมากที่สุดอยู่ดี

มหาเมนคือ ไอดอลที่ดาเมจในใจสูงสุด ตลอดกาล ต่อให้ไม่ปรากฏตัว เจอรูปเจออะไรคือเซฟ มีข้อมูลทุกอย่างมากกว่าเมนตัวเองด้วยซ้ำ เรียกว่าอยู่เหนือทุกเมนใดๆ

8. บง หรือ แท่งไฟ

สิ่งที่แฟนคลับใช้โบกเชียร์ไอดอลที่รักเป็นการซัพพอร์ต โดยแต่ละวงก็จะมีแท่งไฟที่โดดเด่นและสีสันต่างกันไป มีขึ้นเพื่อใช้ทำโปรเจกต์และเป็นการแสดงพลังของแฟนด้อมนั้น เพราะเมื่อเปิดไฟแล้วก็จะกลายเป็นทะเลแท่งไฟสีสวยที่ส่องประกายตัดกับความมืดซึ่งแต่ละค่ายก็จะออกแท่งไฟมาหลายเวอร์ชั่น

9. แฟนไซต์” (fansite)

เว็บไซต์ที่แฟนคลับจัดทำขึ้น เพื่อสนับสนุนอย่างเป็นทางการ ส่วนใหญ่เป็นการอัพเดตตารางงานและผลงานของศิลปิน แบบเรียลไทม์ รวมไปถึงการทำโปรเจกต์ต่างๆ เช่นทำฟู้ดซัพพอร์ต (food support) ที่จะทำหน้าที่จัดส่งอาหารไปเลี้ยงศิลปินและทีมงานแบบฟูลแพ็กเกจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะทำได้ต้องขออนุญาตจากต้นสังกัดก่อน ต่างกันกับแฟนเบส (fanbase) ที่จะเน้นอัพเดตแค่ข้อมูลของศิลปินเฉยๆ

10 “แฟนอาร์ต” (fanart)

รูปภาพการ์ตูนน่ารักๆ ของศิลปินที่เหล่าแฟนคลับวาดและเผยแพร่ลงในโซเชียล บางครั้งรวบรวมทำเป็นโฟโต้บุ๊กออกขาย โดยอาจจะวาดมือ หรือใช้โปรแกรมในคอมวาด

11 “แฟนไซน์” (fansign)

งานที่ศิลปินไปแจกลายเซ็นให้ตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งทางค่ายก็จะมีกฎระเบียบข้อบังคับว่าต้องทำอะไรบ้าง ไม่ได้เข้าไซน์กันได้ง่ายๆ และเป็นกิจกรรมที่ละลายเงินแฟนคลับมากที่สุดอย่างนึง ซึ่งแต่ละค่ายก็จะมีความเข้มงวดต่างกันไป บางค่ายไอดอลเซอร์วิซมาก แต่ค่ายที่ไม่ให้ศิลปินเข้าใกล้แฟนคลับมากนักก็เช่น SM ที่บางครั้งเขาเรียกกันว่าไซน์แบบสังฆทานห้ามโดนตัวแตะมองหน้าศิลปินได้แค่อย่างเดียวในเวลาเสี้ยววินาทีเท่านั้น

12. “แต้มบุญ”

หมายถึงดวงหรือโชคของแฟนคลับซึ่งก็อาจจะมีการเติมแต้มบุญด้วยการไปทำบุญไหว้พระบนบานต่างๆ เพื่อให้คำขอเป็นจริงเช่นเติมแต้มบุญเพื่อให้กดบัตรคอนเสิร์ตได้หรือแต้มบุญหมดไม่มีดวงกดบัตรไม่ทัน

13. “นก

หมายถึง ไม่มีโอกาสหรือพลาดนั่นเอง เช่น นกไม่ได้ไปรับศิลปินที่สนามบิน

14. “แซะ”

หมายถึง การแขวะหรือการแสดงอาการจิกกัด ซึ่งส่วนใหญ่จะเกิดในทวิตเตอร์ พิมพ์ลอยๆ แซะกันไปมา แต่จนสุดท้ายเปิดฉากก่อวอร์ ดราม่าเป็นเรื่องเป็นราวก็มี

]]>
1192981
ความท้าทายที่ต้องจับตาของ NCT 127 กับภารกิจพาเคป็อปบุกตลาดอเมริกา https://positioningmag.com/1192106 Wed, 10 Oct 2018 23:08:14 +0000 https://positioningmag.com/?p=1192106 ต้องยอมรับความจริงว่าการทำตลาดเพลงจากเอเชียในตลาดเพลงอเมริกาซึ่งเป็นตลาดที่มีมูลค่าใหญ่ที่สุดในโลกยังดูเหมือนเป็นอะไรที่ไกลเกินเอื้อม แต่ความสำเร็จของศิลปินเกาหลีใต้โดยเฉพาะวงไอดอลรุ่นใหม่ๆ ทำให้ตลาดเพลงจากเอเชียที่จะเข้าไปเจาะส่วนแบ่งตลาดเพลงในอเมริกาเริ่มใกล้ความจริงเข้ามาเรื่อยๆ

จุดเริ่มต้นของเคป็อปในตลาดอเมริกา

ปรากฏการณ์เพลงจากเอเชียที่นิยมในอเมริกา เริ่มต้นจริงจังมากขึ้นไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ จากความสำเร็จของศิลปินจากเกาหลีใต้ อย่าง ไซ (PSY) กับเพลง Gangnam Style ที่ทำสถิติยอดผู้ชมคลิปมิวสิกวิดีโอใน Youtube เกิน 1,000 ล้านครั้ง ซึ่งกลายเป็นตัวจุดกระแสความเป็นไปได้ในการนำเคป็อป (Kpop) ก้าวเข้าสู่ตลาดเพลงเบอร์ 1 ของโลก จนมีศิลปินเกาหลีหลายคนเดินรอยตาม ไม่ว่าจะเป็น Wonder Girls, Big Bang, Girls’ Generation และอีกมากมาย จนสามารถจัดคอนเสิร์ตเคป็อปในอเมริกาได้

อาวุธหลักที่ทำให้เคป็อปเจาะตลาดอเมริกาได้สำเร็จ นอกจากเรื่องของผลงานเพลงและเพอร์ฟอร์แมนซ์ของตัวศิลปินแล้ว ก็คือ สื่อทางสังคมออนไลน์ อย่างเช่น ยูทูป เฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์ ที่ทำให้เคป๊อบเข้าถึงกลุ่มผู้ชมในฝั่งตะวันตกได้กว้างขวางยิ่งขึ้น ทำให้กลุ่มฐานแฟนคลับที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วไม่จำกัดแค่เชื้อชาติในเอเชียอีกต่อไป เพราะความไร้พรมแดนของโลกดิจิทัล

ไอดอลเกาหลีแต่ละวงยังมีการใช้กลยุทธ์ต่างๆ กัน อาทิ การจับมือทำงานร่วมกับศิลปินตะวันตกชื่อดัง ผ่านกิจกรรมในรูปแบบการแสดงหนัง แฟชั่น ซึ่งยิ่งเป็นการเปิดทางให้สื่อต่างชาติให้การตอบรับความสำเร็จที่พวกเขาทำให้เห็นอย่างดี

เช่นในกรณีที่ Los Angeles Times สื่อในอเมริกากล่าวถึง Bigbang ว่า เป็นกลุ่มศิลปินที่พิสูจน์ให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของตลาดเพลงเคป็อปในอเมริกาอย่างแท้จริง โดยสามารถยกระดับดนตรีเคป็อปด้วยการฉีกกฎเกณฑ์ใหม่

เว็บไซต์แฟชั่น Hypebeast จัดให้ จีดราก้อน กับ CL อยู่ใน 100 อันดับผู้ทรงอิทธิพลและผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมในปี 2016

หรือการที่วง BLACKPINK เกิร์ลกรุ๊ปจาก YG Entertainment สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการเคป็อปด้วยการเปิดตัวเพลง DDU-DU DDU-DU จากอัลบั้ม Square up ด้วยผลงานติดอันดับที่ 55 บนชาร์ต Billboard Hot 100 ซึ่งถือว่าเป็นอันดับที่สูงที่สุดจากเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี โดยก่อนหน้านั้นวงรุ่นพี่อย่าง Wonder Girls ที่เดบิวต์ด้วยเพลง Nobody ในปี 2009 เปิดตัวได้ที่อันดับ 76

สำหรับยุคนี้ ในด้านผลงานเพลง ไม่มีวงไหนที่จะประสบความสำเร็จไปมากกว่า BTS ที่กลายเป็นศิลปินกลุ่มเกาหลีที่ทำอันดับได้สูงที่สุดตลอดกาลบนชาร์ตอัลบั้ม Billboard 200 และบนชาร์ต Single Billboard Hot 100 จนล่าสุดได้มีโอกาสไปกล่าวสุนทรพจน์บนเวทีระดับโลกที่สำนักงานใหญ่แห่งองค์การสหประชาชาติ (UN) นิวยอร์ก

ความนิยมของ BTS หลังเปิดตัวยังทำให้ค่ายเพลงต้นสังกัดอย่าง Big Hit Entertainment มีชื่อเสียงและมูลค่าพุ่งสูงขึ้นอีกด้วย

ค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง SM Entertainment ของเกาหลีใต้ก็เคยส่ง BOA ไปชิมลางที่ตลาดอเมริกามาแล้ว โดยเปิดตัวซิงเกิลแรก EAT YOU UP ในปี 2008 หรือการที่ SNSD ปรากฏตัวในช่วงท้ายของรายการ CBS ‘The Late Show With David Letterman’ ด้วยการโชว์เปิดเวทีแสดงเพลง ‘The Boys’

นอกจากเพลงจากเกาหลีใต้ แน่นอนว่าตลาดเพลงระดับโลกอย่างอเมริกาก็เป็นเป้าหมายสำคัญของศิลปินและค่ายเพลงยักษ์ใหญ่จากทั่วทุกมุมโลกเช่นกัน ในฐานะที่เป็นตลาดเงินและตลาดพีอาร์อันดับ 1 ทำให้เม็ดเงินและส่วนแบ่งตลาดของตลาดอเมริกามีมูลค่าสูงมาก โดยปัจจุบันมีสัดส่วนด้าน Physical 15% Digital 75% และ Performance Rights 7% ตรงข้ามกับตลาดเพลงอันดับ 2 ของโลกอย่างญี่ปุ่นที่สัดส่วนด้าน Physical สูงกว่านั่นคือ 72% ในขณะที่ Digital 21% และ Performance Rights 5%

(ประเทศที่มีมูลค่าตลาดเพลงสูงสุด มูลค่าตลาดค้าปลีกเพลง (หน่วย: ดอลลาร์สหรัฐ)

ถึงยุค NCT 127 อาวุธใหม่จาก SM เจาะตลาดเพลงโลกตะวันตก

หลังจากที่ SM ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ของเกาหลีซึ่งยึดฐานที่มั่นและโกยเม็ดเงินในตลาดเอเชียมานาน ตอนนี้เริ่มมีกลยุทธ์ที่จะกลับมาลุยตลาดฝั่งตะวันตกอีกครั้ง โดยตัดสินใจส่ง NCT 127 ยูนิตเบสโซลมาเปิดตัวในตลาดอเมริกาด้วยแนวเพลงที่ค่อนข้างเฉพาะทาง กับคอนเซ็ปต์แหวกแนวไม่ว่าจะเป็น FIRE TRUCK, LIMITLESS, CHERRY BOMB ซึ่งได้รับผลตอบรับเชิงบวก มีการโฟกัสไปที่กิจกรรมในตลาดตะวันตกมากกว่าสมัยก่อน 

เพลงที่ออกไปสู่ตลาด ถือว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่นำเสนอให้ผู้ฟังได้เปิดใจลองสิ่งใหม่ และค่ายยังเตรียมปล่อย อัลบั้มเต็มชุดแรก ‘NCT #127 Regular-Irregular’ เวอร์ชั่นภาษาเกาหลี และภาษาอังกฤษที่กำลังจะออกมาในวันที่ 12 ต.ค. นี้

กลยุทธ์ใหม่เคป็อป ปั้นยูนิตเจาะตลาดเพลง 

ปัจจุบันตัวเมมเบอร์ของยูนิตโซลมีทั้งหมด 10 คน โดยเน้นความหลากหลายทางสัญชาติ ได้แก่ อเมริกา แคนาดา ญี่ปุ่น จีน และเกาหลี ซึ่งตรงกับคอนเซ็ปต์การตั้งวง To The World และการขยายตัวแบบไร้พรหมแดน เพื่อตอบรับการเข้าถึงกลุ่มแฟนต่างชาติที่มีเพิ่มมากขึ้น

โดยที่สมาชิกของ NCT 127 บางคนจะเป็นส่วน่ของเมมเบอร์ในยูนิตต่างๆ ที่ทางค่ายกำลังจะเปิดตัวในอีกไม่นานเช่น ยูนิตจีน ยูนิตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออีกหลายยูนิตที่กำลังตามมาในอนาคต มีโครงสร้างคล้ายกับใยแมงมุมที่มีลักษณะเชื่อมโยงกันทุกภาคส่วนโดยใช้พื้นที่ทางภูมิศาสตร์เป็นตัวกำหนด เช่น ตัวเลขที่อยู่ด้านหลังของ NCT 127 คือเส้นละติจูดเบสโซลของเกาหลีใต้

รวมทั้งเลือกใช้คอนเนกชั่นกับพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจที่เหมาะสมกับตลาดของประเทศนั้น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและความคล่องตัวในการกิจกรรม ทั้งยังสามารถเพิ่มเมมเบอร์ได้ตามที่ต้นสังกัดเห็นว่าเหมาะสม ซึ่งอัลบั้มนี้ได้เพิ่มสมาชิกเกาหลีอย่าง จองอู สายร้องของวงเข้ามา

ถ้าเทียบแล้ว NCT ก็เหมือนการทำวงดนตรีในรูปแบบของระบบเฟรนไชส์ที่ขยายสาขาไปทั่วโลกด้วยการใช้ยูนิตย่อยให้แอคทีฟตามประเทศต่างๆ โดยมีการใช้ไอดอลต่างเชื้อชาติและในท้องถิ่นมาทำงานเพื่อให้เข้าถึงพฤติกรรมและรสนิยมของกลุ่มแฟนที่ต่างกันไปในแต่ละประเทศ

เป็นการประยุกต์โมเดลทางธุรกิจและภาคดนตรีในรูปแบบหนึ่ง เพื่อชิงส่วนแบ่งทางการตลาดของแต่ละพื้นที่ เพื่อปรับตัวให้เข้ากับกระแสการแข่งขันทางธุรกิจดนตรีที่ทวีความดุเดือดมากยิ่งขึ้น รวมทั้งไม่เสียเปรียบรายการ Survival ที่สามารถเดบิวต์เด็กฝึก (เทรนนี) ต่างสังกัดออกมาสู่ตลาดได้เป็นจำนวนมากในระยะเวลาสั้นๆ เนื่องจากในภายหน้าถ้ามีการทำงานของทุกยูนิตเต็มรูปแบบ ระบบ NCT ที่มีเด็กฝึกเกือบครึ่งร้อยภายใต้สังกัด SM จะช่วยประหยัดเวลาและย่นระยะทางในการทำกิจกรรมไปได้ค่อนข้างมาก 

โดยครั้งนี้เริ่มที่ NCT 127 ยูนิตเบสโซลเป็นผู้ลงทำตลาดตะวันตกในภาพรวมก่อน ในฐานะ Flagship Store แห่งแรกซึ่งก็ไม่ได้เป็นการทำกิจกรรมเต็มรูปแบบ

แต่เป็นการอาศัยคอนเนกชั่นและฐานแฟนคลับที่มีอยู่เพื่อขยายตลาดและสร้างฐานแฟนกลุ่มใหม่ในอเมริกาซึ่งมีรสนิยมในการฟังเพลงที่ค่อนข้างเปิดกว้าง รวมไปถึงการต่อยอดด้านคอนเสิร์ตและอีเวนต์ในอนาคต

อย่างไรก็ตาม แม้จะมุ่งเจาะตลาดตะวันตก แต่ค่ายเพลงเกาหลีแต่ละก็ค่ายก็ไม่มีแนวคิดที่จะทิ้งตลาดเอเชียเพราะแต่ละตลาดมีจุดเด่นที่ต่างกัน อีกทั้งตลาดเอเชียมีสัดส่วนของการซื้ออัลบั้ม สินค้าถูกลิขสิทธิ์ถึง 72% และทัวร์คอนเสิร์ตอย่างเป็นล่ำเป็นสัน โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นฐานที่มั่นสำคัญของไอดอลเคป็อปนตั้งแต่ปี 2009 เป็นต้นมา 

กิจกรรมสำหรับตลาดเพลงแถบตะวันตกของ NCT 127 ในปีนี้

คลิปจาก  Up Next: NCT 127 | Beats 1 | Apple Music

ล่าสุด NCT 127ได้ถูกเลือกเป็นศิลปินเอเชียวงแรกที่มีชื่ออยู่ใน ‘UP NEXT’ ของ Apple Music ซึ่งเป็นโปรแกรมรายเดือนของ Apple Music เน้นการโปรโมตศิลปินหน้าใหม่ให้เป็นที่รู้จักในธีม Music’s Next Generation โดยศิลปินที่เข้ามาอยู่จะมีคลิปสั้นๆ และบทสัมภาษณ์ และมีโอกาสได้เข้าร่วมงานงานประกาศรางวัลขนาดใหญ่ของสหรัฐอเมริกา 2018 AMA’ ซึ่งพวกเขาจะไปร่วมเดินพรมแดง ที่จะถูกจัดขึ้นใน Microsoft Theater ที่แคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส ในวันที่ 9 ตุลาคม ซึ่งเป็นหนึ่งใน 3 งานประกาศรางวัลทางดนตรีขนาดใหญ่ของอเมริการ่วมกับ Billboard Music Awards และ Grammy Awards

ในปีนี้มี Mariah Carey, Ciara, Post Malone, Halsey, Dua Lipa ร่วมแสดง รวมทั้งไปปรากฏตัวในรายการ Jimmy Kimmel Live! Late-Night Talk Show ชื่อดังของสหรัฐอเมริกา

คลิปจาก NCT 127 엔시티 127 ‘Regular (English Ver.)’ MV

เป็นที่น่าสนใจว่าการเข้าสู่ตลาดของอเมริกา ของ SM หนึ่งในค่ายท็อปทรีของเกาหลีครั้งนี้ ที่ขยับออกจากคอมฟอร์ทโซนอย่างตลาดเอเชียอย่างจริงจัง จะมุ่งเข้าสู่ตลาดเงินและตลาดพีอาร์เบอร์หนึ่งอย่างอเมริกาซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่ามีข้อจำกัดอยู่หลายประการได้สำเร็จแค่ไหน ที่สำคัญการสร้างความสำเร็จให้กับเคป็อปด้วยไอดอลจากเชื้อสายนานาชาติยังถือเป็นอาวุธลับในอาวุธหลักที่แยบยล ที่จะทำให้เกิดฐานแฟนคลับจากหลายชาติในเอเชียที่คอยตามเชียร์แบบติดตามใกล้ชิดอีกด้วย.

ที่มา :

]]>
1192106
KCON 2018 THAILAND มหกรรมดนตรีสายเคป็อปที่เป็นมากกว่าคอนเสิร์ต https://positioningmag.com/1190297 Sat, 29 Sep 2018 10:00:29 +0000 https://positioningmag.com/?p=1190297 นับตั้งแต่กระแสเกาหลีฟีเวอร์ได้แพร่ขยายไปทั่วโลกผ่านด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น K-Pop, K-Beauty, K-Food และ K-Drama ทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง CJ E&M และช่องดนตรี Mnet กับ Koreaboo บริษัทดิจิทัลชื่อดังสายมีเดียร่วมมือกันจัดมหกรรมทางดนตรีในชื่อว่า KCON หรือ Korean Wave เป็นครั้งแรกที่เมืองเออร์วิน รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ภายใต้คอนเซ็ป “All Things Hallyu” ซึ่งได้รับการตอบรับจากแฟนเคป็อปอย่างล้นหลามด้วยจำนวนผู้เข้าชมกว่า 600,000 -700,000 คน ทำให้มีการขยายการจัดงานออกไปอีกหลายๆ เมืองสำคัญทั่วโลก

KCON เคยมีการจัดมาแล้วทั้งในอเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ฝรั่งเศส เม็กซิโก ออสเตรเลีย และล่าสุดเพิ่มกรุงเทพมหานคร เข้าไปอีกเมืองในปี 2018 นี้ ในชื่อว่า KCON 2018 Thailand โดยงานจะจัดขึ้นในวันที่ 29-30 กันยายน เป็นเวลา 2 วัน ณ IMPACT Arena และ Exhibition Center ซึ่งครั้งนี้ไม่ใช่แค่งานเทศกาลดนตรี K-POP ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในไทย และในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วย

CJ E&M มองเห็นถึงศักยภาพของตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กลายเป็นตลาดรุ่นใหม่ของเกาหลีใต้ด้วยประชากรกว่า 650 ล้านคน ซึ่งเกาหลีใต้ได้เผยแพร่คอนเทนต์ที่หลากหลายและไทยก็ถือว่าตอบโจทย์ของตลาดได้เป็นอย่างดี

ในแต่ละปีจะมีศิลปินและนักแสดงแถวหน้าเข้าร่วมงาน KCON กันอย่างคับคั่ง ทำให้ภายในงานแฟนๆ จะมีโอกาสได้ชมการแสดงคอนเสิร์ตของบอยแบนด์และเกิร์ลกรุ๊ปวงโปรด รวมถึงสเตจและอีเวนต์พิเศษสำหรับงานนี้โดยเฉพาะโดยทั่วไปแล้ว งานจะแบ่งเป็น 3 โซน 1.Convention 2.K-street food  3.Concert  แบ่งโซนตามแพ็กเก็จซึ่งจะได้สิทธิพิเศษไม่เท่ากัน

Kcon Thailand 2018 ได้ GOT7 นำทัพ

สำหรับบ้านเรานำทัพโดย GOT7 กลุ่มศิลปินที่เพิ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงกระแสความนิยมผ่านเวิลด์ทัวร์ใน 17 เมืองทั่วโลก

ตามด้วย (G)I-DLE (ยอจา อาอีดึล) ศิลปินหญิงดาวรุ่งพุ่งแรงของเกาหลีที่ได้รับการจับตามอง, Golden Child (โกลเดนไชลด์) ศิลปินเกาหลีที่ได้รับเลือกให้อยู่ใน 10 Best New K-Pop Acts in 2017 ของ Billboard, PENTAGON (เพนทากอน) ศิลปินเกาหลีที่กำลังได้รับความสนใจอย่างท่วมท้นจากการเป็นไอดอลที่เขียนและแต่งเพลงเอง และอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ Stray Kids (สเตรย์คิดส์), SUNMI (ซอนมี), The Boyz (เดอะบอยซ์), TheEastLight. (เดอะอีสท์ไลท์), CHUNGHA (ชองฮา), fromis_9 (ฟรอมิสไนน์), MONSTA X (มอนสตาเอ็กซ์) และ Wanna One (วอนนาวัน)

KCON 2018 THAILAND จะจัดขึ้นภายใต้ธีม “Let’s KCON” ซึ่งเป็นธีมที่อธิบายถึงหัวใจหลักของงานตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน เป็นการสร้างพื้นที่สำหรับการพบปะระหว่างแฟนคลับ, ระหว่างแฟนคลับกับศิลปิน และระหว่างแฟนคลับกับปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่หลากหลายของกระแส Korean Wave

จะดู Kcon ต้องเข้าใจก่อนว่า

คอนเสิร์ตลักษณะนี้จะเป็นฟูลแพ็กเก็จที่รวบรวมความเป็นเกาหลีไว้ในงานเดียว แต่อาจจะไม่เหมาะกับผู้ที่อยากดูการแสดงของวงเมนหรือวงที่ชอบมากที่สุดของตัวเองอย่างเดียว ด้วยความที่ช่วงหลังคอนเสิร์ตที่จัดในบ้านเรา มักจะเป็นแบบแฟนมิตติ้ง หรือคอนเสิร์ตของแต่ละวง ทำให้แฟนๆ บางส่วนก็จะทุ่มไปตรงนั้น คือเน้นกันที่วงเมนตัวเองไปเลย

แต่คนที่ชอบดูคอนเสิร์ตรวมนี่ฟินแน่นอน เพราะศิลปินที่คัดมาก็การันตีความดังมาแล้ว แถมราคาบัตรโดยเฉลี่ยก็ถือว่าไม่ได้แพงเกินไป และได้สิทธิ์อื่นๆ อีก อย่างบัตรงาน “KCON2018 THAILAND” นั้น มีทั้งบัตรที่สามารถชมคอนเสิร์ตได้ 1 วัน โดยราคาเริ่มต้นที่ 1,800 บาท และบัตรเข้าชมคอนเสิร์ต 2 วัน มีส่วนลด และเข้างานนิทรรศการได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

นอกจากนี้ ยังสามรถซื้อบัตรเพื่อเข้าร่วมงาน Meet & Greet กับศิลปินเพิ่มเติมได้ และลุ้นรับสิทธิในการเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษได้อีกด้วย.

]]>
1190297