โดยคณะรัฐมนตรีของประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง เปิดเผยถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาวเป็นวงเงินสูงถึง 1 แสนล้านยูโร (ราว 1.8 แสนล้านเหรียญสหรัฐ) เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของฝรั่งเศส ที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการเเพร่ระบาดของ COVID-19

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนี้มีชื่อว่า “France Relaunch” คิดเป็นการใช้งบประมาณราว 4% ของมูลค่า GDP ฝรั่งเศส ซึ่งเป็นสัดส่วนมากที่สุดของการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังโรคระบาดในบรรดาประเทศมหาอำนาจยุโรป

โดยจะมีการแบ่งงบประมาณออกเป็นก้อนใหญ่ๆ อย่าง การเสริมสร้างความแข็งแกร่งภาคธุรกิจในประเทศ ราว 3.5 หมื่นล้านยูโร การส่งเสริมการพัฒนาพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ราว 3 หมื่นล้านยูโร เเละสำหรับสนับสนุนการจ้างงาน ฝึกอบรม ราว 2.5 หมื่นล้านยูโร พร้อมตั้งเป้าเพิ่มการจ้างงานให้ได้ 160,000 ตำแหน่งในปีหน้า นอกจากนี้ ยังมีแผนการลดหย่อนภาษีให้ภาคธุรกิจอีก 1 หมื่นล้านยูโรต่อปีด้วย

ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ได้ประกาศเเผนทุ่มเงิน 8 พันล้านยูโร (ราว 2.8 เเสนล้านบาท) เพื่อฟื้นฟูอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศ หวังขึ้นเป็นเบอร์ 1 ผู้ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของยุโรป

“เราจะเร่งเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์พลังงานสะอาด เน้นการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าเเละรถยนต์ไฮบริด โดยตั้งเป้าที่จะผลิตให้ได้ 1 ล้านคันต่อปี เพื่อก้าวขึ้นเป็นผู้นำอุตฯ ยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป”

• เปิดเเผน “ฝรั่งเศส” อัดงบฟื้นอุตฯยานยนต์ หวังพลิกวิกฤตสู่เบอร์ 1 รถยนต์ไฟฟ้าเเห่งยุโรป

ทั้งนี้ ฝรั่งเศสเข้าสู่ภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจครั้งรุนเเรงที่สุด นับจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาส 2 ของปีนี้ หดตัวถึง -13.8% และมีเเนวโน้มที่ GDP ทั้งปีจะหดตัว -11%

รัฐบาลฝรั่งเศส คาดว่ามาตรการ “France Relaunch” จะช่วยให้เศรษฐกิจของฝรั่งเศสกลับมาเท่ากับช่วงก่อนเกิดการระบาดของ COVID-19 ได้ภายในปี 2022 ซึ่งหากทุกอย่างเป็นไปตามเเผนเเละมีการฟื้นฟูเศรษฐกิจได้จริงก็จะเป็นปัจจัยหนุนต่อความนิยมของประธานาธิบดีมาครง ที่กำลังจะสนามหาเสียงเลือกตั้งอีกครั้งในปีดังกล่าวด้วย

• ฝรั่งเศสเริ่มออกกฎบังคับ “สวมหน้ากากภายในอาคาร” ที่สาธารณะ ฝ่าฝืนปรับ 5,000 บาท

ที่มา : Reuters , Bloomberg