ซีอาร์ซี ไทวัสดุ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 25 Jul 2024 13:59:05 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม พระราม 3” ปักหมุดสาขาแรกกลางกรุงเทพฯ ค้าปลีกวัสดุก่อสร้างโตดี เพราะซ่อมบ้านรอไม่ได้ https://positioningmag.com/1483998 Thu, 25 Jul 2024 10:11:28 +0000 https://positioningmag.com/?p=1483998
  • “ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม พระราม 3” สาขาแรกที่ซีอาร์ซี ไทวัสดุ เปิดในทำเลกรุงเทพฯ ชั้นใน บุกด้วยรูปแบบร้าน “ไฮบริด” ตอบโจทย์ทั้งผู้รับเหมาและเจ้าของบ้าน
  • มองตลาดวัสดุก่อสร้างภาพรวมทรงตัว แต่ไทวัสดุยังเติบโตต่อเนื่องเพราะเป็นร้านค้าปลีกที่เน้นกลุ่มซ่อมแซมบ้าน ซึ่งเรื่องซ่อมบ้านเป็นเหตุฉุกเฉินที่ลูกค้ารอไม่ได้
  • “สุทธิสาร จิราธิวัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เปิดตัวร้านสาขาล่าสุด “ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม พระราม 3” ตั้งอยู่บนถนนพระราม 3 ช่วงใกล้สะพานพระราม 9 ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา บนที่ดินเนื้อที่ 19 ไร่ พื้นที่ขาย 20,000 ตร.ม. โดยเป็นไทวัสดุแห่งแรกที่มีอาคารจอดรถ 4 ชั้น รองรับรถยนต์ได้ 450 คัน

    สาขานี้นับเป็นสาขาที่ 101 ของซีอาร์ซี ไทวัสดุ (สาขาที่ 84 ของไทวัสดุ และสาขาที่ 17 ของบีเอ็นบี โฮม) และยังเป็นสาขาแรกที่บุกใจกลางกรุงเทพฯ จากเดิมในเขตกรุงเทพฯ จะมีสาขาไทวัสดุเฉพาะย่านชานเมือง เช่น สาขาพระราม 2, สุขสวัสดิ์, ถ.นวมินทร์ หรือออกไปในเขตจังหวัดปริมณฑล เช่น สาขาบางนา, แจ้งวัฒนะ, บางใหญ่ ถือเป็นการปักหมุดความสำเร็จตามกลยุทธ์ ‘ป่าล้อมเมือง’ ของไทวัสดุ

    ไทวัสดุ
    “ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม พระราม 3”

    เป้าหมายของสาขาใหม่บน ถ.พระราม 3 เชื่อว่าจะตอบโจทย์ประชากรโดยรอบที่อาศัยอยู่กว่า 200,000 ครัวเรือนในพื้นที่ตั้งแต่ย่านพระราม 3 เจริญกรุง นางลิ้นจี่ สีลม สาทร พระราม 4 ซึ่งล้วนเป็นพื้นที่มีกำลังซื้อสูง เป็นกลุ่มที่อยู่อาศัยระดับกลางถึงลักชัวรี รวมถึงมีศูนย์การค้า, คอมมูนิตี้ มอลล์, โรงเรียนเอกชน, อาคารสำนักงาน อีกหลายแห่งที่จะเกิดดีมานด์ต้องการซ่อมแซม ต่อเติม ก่อสร้าง และแต่งบ้าน

    สาขานี้เป็นร้านในรูปแบบ “ไฮบริด” หรือ “White Format” มีทั้งไทวัสดุ และ บีเอ็นบี โฮม ในทำเลเดียว ภายในมีสินค้ากว่า 50,000 รายการ แบ่งสัดส่วนสินค้า 40% เป็นสินค้ากลุ่ม Hard DIY (วัสดุก่อสร้าง, อุปกรณ์ไฟฟ้า, ประปา, เครื่องมือช่าง ฯลฯ) และ 60% เป็นสินค้ากลุ่ม Soft DIY (ของแต่งบ้าน, เฟอร์นิเจอร์, อุปกรณ์จัดเก็บ ฯลฯ)

    ไทวัสดุ

     

    ครึ่งปีหลังคาดเปิดใหม่ 2-3 สาขา

    สำหรับการเปิดสาขาใหม่ของซีอาร์ซี ไทวัสดุ ปี 2567 ช่วงครึ่งปีแรกเปิดแล้ว 4 สาขา ได้แก่ 1.ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาอุดรธานี กุดสระ 2.ไทวัสดุ สาขาอรัญประเทศ 3.ไทวัสดุ สาขาสระแก้ว และ 4.ไทวัสดุ สาขาแกลง

    ในครึ่งปีหลังประเดิมสาขาที่ 5 คือ ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม สาขาพระราม 3 ที่เพิ่งเปิดใหม่นี้ โดยสุทธิสารกล่าวต่อถึงแผนของปีนี้ว่า ในครึ่งปีหลังจะมีการเปิดสาขาใหม่อีก 2-3 สาขา เช่น สาขาอุทัยธานี, แพร่, กาฬสินธุ์ และจะมีการรีโนเวตเปลี่ยนรูปแบบอีก 2-3 สาขา เช่น ไทวัสดุ สาขาสุขาภิบาล 3 จะเปลี่ยนเป็น White Format เพิ่มส่วนบีเอ็นบี โฮม

    รูปแบบร้าน White Format ผสมผสาน ไทวัสดุ x บีเอ็นบี โฮม

    รูปแบบ White Format ของซีอาร์ซี ไทวัสดุเริ่มทดลองสาขาแรกที่ จ.ภูเก็ต มาตั้งแต่ปี 2562 ซึ่งได้รับผลตอบรับดี ช่วยขยายฐานลูกค้า ทำให้บริษัทวางกลยุทธ์ขยายสาขารูปแบบนี้อย่างต่อเนื่อง โดยพระราม 3 เป็นสาขาที่ 11 ที่เปิดในแบบ White Format

    “วิธีเลือกทำเลที่จะเปิดแบบ White Format คือเป็นสาขาที่ได้ลูกค้ากลุ่มคนเมืองหรืออยู่ในแหล่งท่องเที่ยว เพราะกลุ่มนี้จะต้องการสินค้าที่มากกว่าวัสดุก่อสร้างพื้นฐาน ต้องการของตกแต่ง มีดีไซน์ แบบในบีเอ็นบี โฮม” สุทธิสารกล่าว

     

    ซ่อมบ้านรอไม่ได้ ค้าปลีกวัสดุก่อสร้างยังโตต่อ

    ด้านภาพรวมสภาวะตลาดสินค้าวัสดุก่อสร้างปี 2567 สุทธิสารกล่าวว่า ภาพรวมไม่ได้หวือหวาตามสภาวะของตลาดอสังหาริมทรัพย์กลุ่มบ้านสร้างใหม่ชะลอตัว

    อย่างไรก็ตาม เฉพาะกลุ่มร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างยังเติบโตได้ต่อเนื่องเพราะจับตลาดซ่อมแซมบ้านมากกว่าสร้างใหม่ และกลุ่มซ่อมแซมบ้านเป็นกลุ่มจำเป็นฉุกเฉิน โดยเฉพาะฤดูฝนแบบนี้มีดีมานด์สูงเพราะต้องซ่อมหลังคา สำหรับซีอาร์ซี ไทวัสดุเองยอดขายเติบโตดีเช่นกัน และโตได้ทั้งจากอัตราเติบโตยอดขายของสาขาเดิม (SSSG) และจากการเปิดสาขาใหม่

    “สุทธิสาร จิราธิวัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล

    ขณะที่ บล.กสิกรไทย ออกบทวิเคราะห์หุ้นกลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง ได้แก่ โกลบอลเฮ้าส์ ดูโฮม และ โฮมโปร ในช่วงไตรมาส 2/2567 คาดการณ์ว่า SSSG ของกลุ่มค้าปลีกปรับปรุงบ้านจะติดลบประมาณ -5% YoY เพราะความเชื่อมั่นการบริโภคอ่อนแอและการเบิกจ่ายงบประมาณรัฐล่าช้า แต่ในแง่การทำกำไรคาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น 7% YoY จากการเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้นของผลิตภัณฑ์บางตัว เช่น เหล็ก

    บล.กสิกรไทยคาดการณ์ด้วยว่า ทิศทางไตรมาส 3/2567 กลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้างน่าจะปรับตัวดีขึ้นได้ เพราะเริ่มมีการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ

    เป้าหมายของซีอาร์ซี ไทวัสดุนั้นต้องการจะเติบโตแบบก้าวกระโดด จากเมื่อปี 2566 ทำรายได้ไป 40,000 ล้านบาท สุทธิสารเคยประกาศเป้าไว้ว่าจะเพิ่มรายได้เป็น 70,000 ล้านบาทภายในปี 2571 ผ่านการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง

    ไทวัสดุ

    ]]>
    1483998
    “โก! ว้าว” ท้าชน MR.DIY! ปี 2565 เปิดให้ครบ 70 สาขา ทดลองโมเดลนอกห้างฯ https://positioningmag.com/1383210 Thu, 28 Apr 2022 04:57:15 +0000 https://positioningmag.com/?p=1383210 โก! ว้าว (Go! Wow) น้องใหม่ในตลาด “สินค้าเบ็ดเตล็ด” แต่มีแบ็กอัปคือกลุ่มทุนใหญ่อย่างเซ็นทรัล หลังเปิดตัวปีก่อนกระจาย 15 สาขาแรก ปี 2565 จะเปิดให้ครบ 70 สาขา และเริ่มสาขา “สแตนด์อโลน” อยู่นอกห้างฯ เพื่อทดลองโมเดลใหม่ หาสูตรที่ใช่ในธุรกิจ

    ยังเป็นแบรนด์เล็กๆ ในเครือใหญ่ แต่โอกาสของ “โก! ว้าว” (Go! Wow) ก็น่าจับตามอง “สุทธิสาร จิราธิวัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด วางตัวร้านสินค้าเบ็ดเตล็ดนี้เป็นหนึ่งในกลยุทธ์เพื่อหาตลาดใหม่ของเครือ แม้วันนี้โก! ว้าวยังมีสัดส่วนรายได้เป็นเลขหลักเดียวในธุรกิจมูลค่ามากกว่า 30,000 ล้านของซีอาร์ซี ไทวัสดุ แต่วันข้างหน้าอาจขยายได้อีก

    สุทธิสารตอบสั้นๆ กับ Positioning ถึงโอกาสของโก! ว้าวว่า สามารถเปิดได้ถึง 1,000 สาขาทั่วประเทศ เพราะโมเดลธุรกิจใกล้เคียงกับ “ร้านทุกอย่าง 20 บาท” ซึ่งมีเปิดอยู่ทุกหัวระแหงในไทย

    โก! ว้าว Go! Wow สินค้าเบ็ดเตล็ด
    “สุทธิสาร จิราธิวัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด

    หลังเปิดตัวเมื่อปีก่อน โก! ว้าวประเดิมด้วย 15 สาขาแรก ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในศูนย์การค้าเครือเซ็นทรัล หรือบีเอ็นบี โฮมที่เป็นร้านสินค้าตกแต่งบ้านในเครือซีอาร์ซี ไทวัสดุ ซึ่งสุทธิสารระบุว่า ไม่ได้ตั้งใจจะเกาะอยู่กับศูนย์การค้าเท่านั้น แต่เป็นการใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีในเครือเพื่อเริ่มต้นธุรกิจ

    ทำให้ปี 2565 โก! ว้าวตั้งเป้าขยายเพิ่มเป็น 70 สาขาภายในสิ้นปี และจะมีการตั้งสาขา “สแตนด์อโลน” อยู่นอกศูนย์การค้ามากขึ้น เพื่อทดลองโมเดลทำเลแบบอื่นว่าจะ ‘เวิร์ก’ หรือไม่

    โก! ว้าว Go! Wow สินค้าเบ็ดเตล็ด
    บรรยากาศร้าน โก! ว้าว

    คอนเซปต์ของโก! ว้าวที่สุทธิสารมองว่าจะเป็นกุญแจตีตลาดคือ “ร้านใหญ่กว่า” โดยขนาดร้านจะอยู่ที่ 400-800 ตร.ม. เทียบกับเจ้าอื่นจะอยู่ที่ 200-300 ตร.ม. ทำให้วางสินค้าได้หลากหลาย มีให้เลือกมากกว่า ในร้านมีของจิปาถะสารพัดตั้งแต่ของใช้ในบ้าน เครื่องครัว ของใช้สำนักงาน ของใช้ในการเดินทาง ของเล่น ฯลฯ รวมทั้งหมดกว่า 14,000 SKUs

    อีกส่วนคือการเทียบราคา ลูกค้าต้องรู้สึกว่าได้ของราคาถูก ทำให้โก! ว้าวตั้งราคาเริ่มต้นที่ 5 บาท จนถึงของราคาหลักร้อยบาท

    “70 สาขานี่ยังเล็กมากในตลาด จริงๆ ร้านแบบนี้ไปได้ทั่วหมด ไปในแหล่งชุมชน ให้เขาสะดวกซื้อ ปีนี้เราจะทดลองโมเดลหลายๆ แบบ” สุทธิสารกล่าว

    MR.DIY คู่แข่งสำคัญของโก! ว้าว (สาขาในภาพ: ตลาดรุ่งโรจน์เจริญทรัพย์ จ.กาญจนบุรี)

    หากพูดถึงตลาดสินค้าเบ็ดเตล็ดเจ้าใหญ่ และชนกับโก! ว้าวโดยตรงคือ “MR.DIY” (มิสเตอร์ดีไอวาย) ซึ่งเป็นเชนจากมาเลเซีย หลังเข้าไทยมา 6 ปี ปัจจุบันขยายไป 450 สาขา มีทั้งบนศูนย์การค้าและในตลาดหรือแหล่งชุมชน

    ที่บอกว่าตลาดจะแข่งขันกันโดยตรงเพราะเน้นการขายสินค้าราคาถูกเช่นกัน ราคาเริ่มต้นต่ำตามสโลแกน ‘Always Low Price’ และสินค้ามีความคล้ายกัน มีเครื่องมือช่าง ของใช้ในบ้าน เครื่องครัว

    อีกเจ้าหนึ่งที่อยู่มานานในไทยคือ “Daiso” (ไดโซ) จากญี่ปุ่น ปัจจุบันมี 107 สาขา แต่จะมีความต่างด้วยราคาสินค้าที่พรีเมียมกว่า ราคาเริ่มต้นที่ 60 บาท และสินค้ามีกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นสูง มีสินค้าบางกลุ่มที่แตกต่าง เช่น เครื่องสำอาง รวมถึงทำเลก็จะเลือกอยู่บนศูนย์การค้าหรือคอมมูนิตี้ มอลล์

    ส่วนธุรกิจท้องถิ่นของไทยก็มีอีกหลายเจ้าที่เปิดขายแฟรนไชส์ร้านทุกอย่าง 20 บาท หรือที่เปิดแบบไม่มีแบรนด์ก็อีกมาก ทำให้เห็นโอกาสชัดเจนว่าทำไมตลาดสินค้าเบ็ดเตล็ดกลายเป็นมหาสมุทรที่เจ้าใหญ่หมายตา

    ]]>
    1383210
    “CRC ไทวัสดุ” โหมบุกตลาด! วางเป้า 10 ปีข้างหน้าโตปีละ 18% ขยายสาขาพรึบชิงมาร์เก็ตแชร์ https://positioningmag.com/1383065 Wed, 27 Apr 2022 08:27:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1383065
  • “CRC ไทวัสดุ” กางเป้าหมายบริษัทช่วง 10 ปีข้างหน้าต้องการทำรายได้โตเฉลี่ยปีละ 18% และกำไรโตเฉลี่ยปีละ 30%
  • ปีนี้วางงบลงทุน 7,000 ล้านบาท กระหน่ำขยายสาขาทั้งไทวัสดุ, บีเอ็นบี โฮม, ออโต้วัน และ โก! ว้าว จากทั้งเครือขณะนี้มี 95 สาขา สิ้นปี 2565 จะเพิ่มเกือบเท่าตัวเป็น 183 สาขา
  • วางแผนลดต้นทุนทำกำไร ติดตั้งโซลาร์รูฟครบทุกสาขา เปลี่ยนมาใช้รถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า (EV) ครึ่งหนึ่งของฟลีทรถขนส่งทั้งหมด
  • คาดปี 2565 ตลาดวัสดุก่อสร้างกระเตื้อง 2-3% แต่ CRC ไทวัสดุตั้งเป้าโตไม่ต่ำกว่า 13% จากการขยายตัวอย่างรวดเร็ว
  • ธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง-ตกแต่งบ้านในเครือเซ็นทรัลรีเทลกำลังจะกลับมาโหมตลาดอีกครั้ง หลังผ่อนคันเร่งลงไปในช่วง COVID-19 โดย “สุทธิสาร จิราธิวัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ประกาศเป้าหมายในอนาคต บริษัทต้องการชิงอันดับ 1 ในธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง ผ่านแผนการการลงทุน พัฒนาธุรกิจ และลดต้นทุนหลายกลยุทธ์

    เป้าหมายในเชิงตัวเลขของซีอาร์ซี ไทวัสดุช่วง 10 ปีต่อจากนี้ คือการทำรายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 18% และทำกำไรเติบโตเฉลี่ยปีละ 30% จากเมื่อปี 2564 บริษัททำรายได้มากกว่า 30,000 ล้านบาท เป้าหมายเหล่านี้ถือเป็นตัวเลขที่น่าตื่นตาตื่นใจท่ามกลางเศรษฐกิจไทยที่เพิ่งฟื้นจากโรคระบาด

    “สุทธิสาร จิราธิวัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด

    บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุเริ่มก่อตั้งจากวิสัยทัศน์ของสุทธิสารที่เล็งเห็นโอกาสในตลาดเมื่อปี 2553 เริ่มต้นจากร้าน “ไทวัสดุ” สาขาแรกใน อ.บางบัวทอง ก่อนจะขยายตัวต่อเนื่อง พร้อมกับแตกแบรนด์ใหม่ๆ ออกมา ได้แก่ “บ้าน แอนด์ บียอนด์” (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น บีเอ็นบี โฮม) ขายของตกแต่งบ้านประเภท Soft DIY, “วีฟิกซ์” แผนกบริการงานช่างให้ลูกค้า, “ออโต้วัน” ธุรกิจซ่อมรถ ดูแลรถ และ “โก! ว้าว” (Go! Wow) ร้านสินค้าเบ็ดเตล็ด ที่เพิ่งเปิดใหม่เมื่อปี 2564

    สุทธิสารกล่าวว่า เป้าหมายที่วางไว้จะไปถึงได้ด้วย 5 กลยุทธ์ ดังนี้

    1. Thriving ขยายสาขา
    2. Omnichannel ผสมผสานการขายออฟไลน์และออนไลน์ เปิดแอปพลิเคชันไทวัสดุ เพิ่มฟีเจอร์ให้การซื้อชุดครัว หลังคา เหล็ก ทำได้ง่ายขึ้น และตั้งเป้าเพิ่มยอดขายออนไลน์ 150%
    3. Supply Chain & Logistics Expansion ขยายคลังสินค้าและพัฒนาระบบโลจิสติกส์ ใช้รถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า
    4. Driving Sustainability ทำต่อเนื่องในด้านการสนับสนุน “คน” ทุกกลุ่ม ทั้งผู้พิการ ผู้สูงอายุ นักศึกษา และพัฒนาสิ่งแวดล้อม ชุมชนบ้านเกิดพนักงาน
    5. New Market Penetration ชูโรงธุรกิจออโต้วันและโก! ว้าวให้มากขึ้น

     

    สาขารวมโตเกือบเท่าตัวในปีเดียว!

    เจาะกลยุทธ์แต่ละส่วนที่น่าสนใจ ปีนี้ซีอาร์ซี ไทวัสดุเตรียมงบลงทุนถึง 7,000 ล้านบาท ซึ่งจะใช้กับการซื้อที่ดิน ขยายสาขา รีโนเวตสาขาเดิม และลงทุนด้านเทคโนโลยี

    สุทธิสารกล่าวว่า ถือเป็นการลงทุนที่มากใกล้เคียงกับเมื่อปี 2557 ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัทยังขยายตัวสูง และเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจากช่วง COVID-19 ปี 2564 ซึ่งบริษัทใช้งบลงทุนไปเพียง 2,000 ล้านบาท เพราะเป็นช่วงที่ต้องระมัดระวังการลงทุน

    CRC ไทวัสดุ

    การขยายสาขาปี 2565 นี้จะเกิดขึ้นในทุกๆ แบรนด์ภายในเครือ โดยรวมทั้งเครือ ณ สิ้นปี 2564 มี 92 สาขา จนถึงสิ้นปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 183 สาขา โดยแบ่งได้ดังนี้

    • ไทวัสดุ จาก 59 สาขา เพิ่มเป็น 70 สาขา
    • บีเอ็นบี โฮม จาก 6 สาขา เพิ่มเป็น 13 สาขา
    • ออโต้วัน จาก 12 สาขา เพิ่มเป็น 30 สาขา
    • โก! ว้าว จาก 15 สาขา เพิ่มเป็น 70 สาขา
    CRC ไทวัสดุ
    ร้านไทวัสดุแบบมาตรฐาน ใช้พื้นที่ประมาณ 18 ไร่

    สำหรับกลุ่มค้าปลีกวัสดุก่อสร้าง จะเน้นการเปิด ไทวัสดุโมเดลมาตรฐาน (ร้านใหญ่สีแดง) และจะปรับเซกเมนต์ภายในร้าน ขยายส่วนขายเฟอร์นิเจอร์จาก 200-300 ตร.ม. เป็น 600 ตร.ม. พร้อมกับเปิดแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า และมีโซนพลาซ่าร้านอาหาร-ช้อปปิ้งมากขึ้น เพื่อตอบสนองลูกค้าได้หลากหลาย

    นอกจากนี้จะเพิ่มสาขาที่เป็น โมเดลไฮบริดซึ่งรวมไทวัสดุกับบีเอ็นบี โฮมไว้ในสาขาเดียว เพราะพิสูจน์แล้วจากสาขาแรกที่ศรีสมาน หลังเปิดในปี 2564 ทำยอดขายได้ดีกว่าสาขาปกติ พบว่าโมเดลนี้ ‘เวิร์ก’

    CRC ไทวัสดุ
    โมเดลใหม่แบบไฮบริด รวมร้านไทวัสดุกับบีเอ็นบี โฮม เปิดสาขาแรกที่ศรีสมาน

    ส่วน บีเอ็นบี โฮม ที่รีแบรนด์มาจากบ้าน แอนด์ บียอนด์ จะเปลี่ยนโมเดลธุรกิจให้เข้าใกล้คนเมืองมากกว่าเดิม มีการเปิดใกล้ๆ หรืออยู่ในศูนย์การค้ามากขึ้น เช่น เซ็นทรัล ราชพฤกษ์ ซึ่งจะก่อสร้างบนที่ดินเดิมของบ้าน แอนด์ บียอนด์ ต่อไปสาขานี้จะรีแบรนด์เป็นบีเอ็นบี โฮม และเข้าไปเป็นร้านค้าภายในศูนย์ฯ แทน

    ขณะที่การขยายร้าน ออโต้วัน จะยังคงเกาะไปกับไทวัสดุ จากแนวคิดเดิมที่ร้านซ่อมรถเกิดขึ้นเพื่อ ‘utilize’ ใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเห็นโอกาสจาก ‘รถช่าง’ ที่เข้าออกร้านบ่อย

    ปิดท้ายกับน้องใหม่ร้าน โก! ว้าว ปีนี้จะเน้นการออกไปเปิดสาขาสแตนด์อะโลนนอกห้างฯ เพื่อทดลองโมเดลธุรกิจใหม่ๆ (ขณะนี้สาขาเกือบทั้งหมดอยู่ในศูนย์การค้าหรือบีเอ็นบี โฮม)

     

    ขยาย DC + เปลี่ยนมาใช้รถบรรทุก EV

    สุทธิสารกล่าวต่อถึงการขยายคลังสินค้า อ.วังน้อย จ.อยุธยา จากพื้นที่ 120 ไร่ บริษัทยังใช้ไม่ถึงครึ่งหนึ่ง ทำให้จะขยายคลังต่อเนื่องเพื่อรองรับการขยายสาขา และการขายออนไลน์ที่สินค้าหลายชิ้นจะส่งออกจากคลังโดยตรง

    เตรียมปรับมาใช้รถบรรทุก EV ลดค่าพลังงาน และลดการปล่อยคาร์บอน

    อีกส่วนที่สำคัญคือการเปลี่ยนมาใช้ “รถบรรทุกพลังงานไฟฟ้า” (EV) จากปัจจุบันฟลีทขนส่งของไทวัสดุมีกว่า 100 คัน เดือนพฤษภาคมนี้จะปรับมาใช้ EV นำร่อง 6 คัน และปี 2566 จะปรับไปใช้ EV เป็น ‘ครึ่งหนึ่ง’ ของฟลีทรถบรรทุกทั้งหมด รวมถึงการติดตั้งโซลาร์รูฟบนหลังคาทุกสาขา จะปรับให้ครบทั้งหมดภายในปี 2566

    สิ่งเหล่านี้จะช่วยลดต้นทุนให้บริษัท เพราะการใช้รถ EV จะช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ 50% ของค่าพลังงานในการขนส่ง และการใช้โซลาร์รูฟช่วยลดค่าไฟฟ้าได้ 50% เช่นกัน เป็นคีย์หลักในการไปสู่เป้าหมายการทำกำไรเพิ่ม

     

    สรุป: ชิงมาร์เก็ตแชร์จากการเปิดสาขา

    การเติบโตของตลาดค้าปลีกวัสดุก่อสร้างปี 2565 ซึ่งมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท สุทธิสารคาดว่าจะโตราว 2-3% แต่ CRC ไทวัสดุ ต้องการโตไม่ต่ำกว่า 13% โตมากกว่าตลาดจากการระดมเปิดสาขาดังกล่าวซึ่งจะช่วยให้ดึงมาร์เก็ตแชร์ได้มากขึ้น

    นอกจากนี้ยังมีการปรับโมเดล ปรับสินค้าขายให้ครอบคลุมสินค้าหลากหลาย หรือรวมสองแบรนด์ไว้ด้วยกัน มีทั้งวัสดุก่อสร้าง แต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ครบจบในที่เดียว

    ส่วนผลกระทบระยะสั้นจากปัจจัยลบที่ยังเรื้อรัง เช่น ฟลีทเรือขนส่งที่ยังมีปัญหา บริษัทได้แก้ปัญหาล่วงหน้าแล้วด้วยการสั่งสินค้านำเข้ามากักตุน ขณะที่ปัญหาราคาวัสดุก่อสร้างพาเหรดกันขึ้นราคา สินค้าบางตัวที่มีราคาตลาด เช่น เหล็ก ปูน บริษัทไม่สามารถตรึงราคาได้ แต่สินค้าประเภทอื่นจะพยายามตรึงไว้อีก 90 วันเป็นอย่างน้อย เช่น สินค้ากลุ่มโคมไฟ ก๊อกน้ำ เครื่องมือช่าง

    “เลี่ยงไม่ได้ที่สินค้าจะราคาขึ้น แต่เราจะพยายามตรึงให้นานที่สุด เพราะถ้าราคาแพงขึ้น เราก็จะขายไม่ได้เหมือนกัน” สุทธิสารกล่าว

    ]]>
    1383065