ดองกิ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 05 Apr 2022 00:32:06 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “ดองกิ” บุกต่างจังหวัด! เตรียมเปิด “เจพาร์ค ศรีราชา นิฮอน มูระ” กันยายนนี้ https://positioningmag.com/1380386 Mon, 04 Apr 2022 14:12:52 +0000 https://positioningmag.com/?p=1380386 หลังจากเดินหน้าขยายสาขาในกรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง ได้เวลาที่ “ดองกิ” เตรียมบุกต่างจังหวัดแล้ว เตรียมเปิดสาขาที่ “เจพาร์ค ศรีราชา นิฮอน มูระ” เดือนกันยายนนี้ ถือเป็นการบุต่างจังหวัดครั้งแรก และเป็นสาขาที่ 6 ในไทย

บริษัท ดองกิ (ประเทศไทย) จำกัด ร้านจิปาถะชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น ในเครือบริษัท แพน แปซิฟิค อินเตอร์เนชั่นแนล โฮลดิงส์ จำกัด (PPIH) เดินหน้าขยายตลาดสู่โซนภาคตะวันออกเต็มตัว ด้วยการลงนามบันทึกข้อตกลงการเป็นพันธมิตรกับ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ในการพัฒนา ดอง ดอง ดองกิ สาขาเจพาร์ค ศรีราชา ซึ่งจะเป็นสาขาที่ 6 ในไทย และเป็นสาขาหัวเมืองโซนภาคตะวันออกสาขาแรกในไทยด้วยเช่นกัน

โดยมีกำหนดการเปิดตัวในเดือนกันยายน 2565 ณ เจพาร์ค ศรีราชา นิฮอน มูระ คอมมูนิตี้ มอลล์ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี

นายโยซูเกะ ชิมานุกิ ประธานกรรมการ บริษัท ดองกิ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า

“สำหรับการร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ในครั้งนี้ เรามองว่าด้วยคอนเซ็ปต์ของเจพาร์ค ศรีราชา นิฮอน มูระ ตอบโจทย์ทั้งในด้านภาพลักษณ์ของการเป็นผู้นำด้านคอมมูนิตี้มอลล์สไตล์ญี่ปุ่น ศูนย์รวมร้านค้าญี่ปุ่นแบบครบครันกลางเมืองศรีราชา  ซึ่งจะช่วยส่งเสริมและชูภาพลักษณ์ความเป็น Japan Brand Specialty Store ผู้นำด้านการจำหน่ายสินค้าของใช้ และอาหารนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นของดองกิได้อย่างชัดเจน

โดยสาขาเจพาร์ค ศรีราชา นับว่าเป็นสาขาที่ 6 และเป็นสาขาแรกของดอง ดอง ดองกิ ในโซนภาคตะวันออกของประเทศไทย ที่มีทำเลที่ตั้งอยู่ในย่านที่พักอาศัย การเดินทางสะดวกสบาย อีกทั้งมีปริมาณผู้ใช้บริการทั้งชาวไทยและชาวญี่ปุ่นในพื้นที่ค่อนข้างสูง ซึ่งดองกิคาดหวังว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคที่มีไลฟ์สไตล์ญี่ปุ่นในพื้นที่ ทั้งกลุ่มลูกค้าแฟนคลับสินค้าและอาหารต้นตำรับอันมีเอกลักษณ์จากประเทศญี่ปุ่น และกลุ่มลูกค้าใหม่ให้มาลองใช้สินค้าญี่ปุ่นคุณภาพดีและบริการที่ครบครันภายในร้านดอง ดอง ดองกิ ได้สะดวกสบายมากขึ้นโดยไม่ต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ”

ทางด้าน วิชัย กุลสมภพ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนา เจพาร์ค ศรีราชา นิฮอน มูระ กล่าวเสริมว่า

“ด้วยบริษัทฯ มีแผนพัฒนาโครงการฯ ในเฟส 2 ด้วยการเปิดโซนใหม่เพื่อรองรับการเติบโตของชุมชน และเป็นการขยายตลาดให้กว้างขึ้น โดยเน้นตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบวิถีชีวิต และไลฟ์สไตล์แบบญี่ปุ่นอยู่แล้ว จึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับทางดองกิ ประเทศไทย ในการขยายสาขาเพิ่มเติมในครั้งนี้ ซึ่งเรามองว่าลูกค้าในย่านศรีราชาเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อค่อนข้างสูง เหมาะกับสินค้าและบริการของดองกิ พร้อมตรงกับความต้องการของผู้บริโภคที่มีไลฟ์สไตล์เฉพาะได้เป็นอย่างดี โดยคาดหวังว่าการเปิดตัวดอง ดอง ดองกิสาขาใหม่ล่าสุด ณ เจพาร์ค ศรีราชา นิฮอน มูระ จะช่วยเติมเต็มให้เราเป็นแหล่งรวมร้านค้าสไตล์ญี่ปุ่นที่ครบวงจรและตอบสนองความต้องการที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น พร้อมเดินหน้าสู่การเป็นผู้นำคอมมูนิตี้มอลล์สไตล์ญี่ปุ่นของเมืองไทยอย่างแท้จริง”

สำหรับ ดอง ดอง ดองกิ สาขาเจพาร์ค ศรีราชา มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 2,000 ตารางเมตร ภายในร้านแบ่งสินค้าออกเป็นโซนต่างๆ อาทิ โซนมันหวาน โซนคิวามิโชคุปัง โซนอาหารสด (ผักผลไม้ ปลา เนื้อสัตว์ อาหารพร้อมทาน) โซนขนม โซนของแห้ง โซนครัว และโซนเครื่องสำอาง โดยมีสินค้านำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นที่มีคุณภาพ ตลอดจนสินค้าที่มีจำหน่ายเฉพาะดองกิเท่านั้นมากกว่า 12,000 ชนิด

นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกของดองกิ ประเทศไทยที่มีการเปิดร้านซูชิ “鮮選寿司” (เซนเซนซูชิ) โดยเชฟใช้เทคนิคการปั้นซูชิแบบญี่ปุ่น และเสิร์ฟบนซูชิบาร์ ในราคาเริ่มต้นเพียงจานละ 40 บาท เพื่อให้คนศรีราชาได้สัมผัสกับซูชิรสชาติต้นตำรับในราคาที่เอื้อมถึง เพื่อส่งมอบประสบการณ์แบบญี่ปุ่นสู่ผู้บริโภคชาวไทยอย่างใกล้ชิด

]]>
1380386
“ดองกิ” ตั้งเป้าปักธงทุกมุมเมืองกทม. ลุ้นดัมพ์ราคา ถ้าขยายครบ 5 สาขา https://positioningmag.com/1356216 Tue, 12 Oct 2021 07:35:46 +0000 https://positioningmag.com/?p=1356216 ร้านค้าขวัญใจแฟนคลับญี่ปุ่น “ดองกิ” กางแผนขยายสาขาให้ไทยให้ครบทุกมุมเมืองในกรุงเทพฯ โดยจับโซนทั้งใจกลางเมือง และนอกเมือง เพื่อเข้าถึงคนไทยให้มากที่สุด ล่าสุดได้เปิดตัวสาขาที่ 3 ที่ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ จับโซนกรุงเทพฯ ตะวันออก ผู้บริหารเผยว่า มีสิทธิ์ได้ดัมพ์ราคาสินค้าลงอีก ถ้าขยายสาขาครบ 5 แห่ง เนื่องจากสเกลในการนำเข้าสินค้าใหญ่มากพอ

บุกชานเมืองเป็นครั้งแรก!

เชื่อว่าใครที่เป็นแฟนคลับประเทศญี่ปุ่น แล้วได้เดินทางไปเยือนอยู่บ่อยครั้ง ต้องคุ้นเคยกับร้าน “ดองกิ” เป็นแน่ เนื่องจากเป็นแหล่งละลายทรัพย์ชั้นดีสำหรับคนไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติ ขายสินค้าทุกประเภทตั้งแต่ของกิน ของใช้ เครื่องสำอาง สินค้าแบรนด์เนม อีกทั้งยังเป็นร้านที่นักท่องเที่ยวสามารถคืนภาษีได้อีกด้วย

ร้านดองกิได้เริ่มบุกตลาดประเทศไทยเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมานี่เอง ตอนนั้นสร้างเสียงฮือฮาอย่างมาก เพราะร้านขวัญใจของหลายๆ คนได้มาอยู่ใกล้บ้านแล้ว เป็นความร่วมมือกันระหว่าง บริษัท ดองกิ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง จํากัด และบริษัท สหพัฒนะ อินเตอร์โฮลดิ้ง จํากัด (มหาชน)

donki

ใช้ชื่อว่า “ดอง ดอง ดองกิ” เปิดสาขาแรกที่ทองหล่อ หลังจากนั้นเมื่อปี 2563 ได้ขยายสาขาที่ 2 ที่ศูนย์การค้าเดอะมาร์เก็ต ย่านราชประสงค์ และล่าสุดได้เปิดสาขาที่ 3 ที่ศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ ถือเป็นการขยายออกนอกเมืองเป็นครั้งแรก หลังจาก 2 สาขาปักหลักใจกลางเมือง

โยซูเกะ ชิมานุกิ ประธานกรรมการบริษัท ดองกิ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า

“สำหรับดอง ดอง ดองกิ สาขาที่ 3 ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ ถือได้ว่าเป็นการเปิดสาขาในแถบชานเมืองเป็นครั้งแรกของเรา โดยมีจุดเด่นที่แตกต่างจากสาขาอื่นๆ คือ อาหารญี่ปุ่นที่ทานง่ายอร่อย และมีโซนผลิตภัณฑ์ดูแลผิวพรรณแบบญี่ปุ่นที่มีให้เลือกมากมาย ซึ่งในฐานะที่เราเป็นร้านขายสินค้าเฉพาะทางแบรนด์ญี่ปุ่นเราไม่เพียงคำนึงถึงแค่ความอร่อย ความปลอดภัย และสุขภาพ แต่ยังมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนดอง ดอง ดองกิ สาขาซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ ให้เป็นร้านค้าที่เข้าถึงผู้บริโภคได้ในชีวิตประจำวัน”

ที่สาขาซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์นั้น มีพื้นที่กว่า 2,147 ตารางเมตร แบ่งสินค้าออกเป็นประเภทต่างๆ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์อาหาร, อาหารสด (ผัก ผลไม้ ปลา เนื้อสัตว์ อาหารพร้อมทาน), เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, เครื่องสำอาง, สินค้าเบ็ดเตล็ด, อุปกรณ์กีฬา, ของเล่น และนันทนาการ, อาหารสัตว์ และอื่นๆ รวมมากกว่า 30,000 ชนิด ภายใต้คอนเซปต์ Japan Specialty Store

พร้อมจัดโซนกิจกรรม และแนะนำสินค้า เช่น ชุดปรุงอาหารญี่ปุ่นสำเร็จรูปแบบง่ายๆ (Meal Kit) เซตซูชิเทมากิซึ่งวางขายที่ดองดองดองกิในประเทศไทยเป็นครั้งแรก รวมถึงสร้างครัวร้อนในธีม “ตะลุยชิมทั่วเกาะญี่ปุ่น” เพื่อนำเสนอเมนูสไตล์ร้านอาหารริมถนนที่มีทั่วทุกมุมของญี่ปุ่น ซึ่งสามารถนั่งทานบริเวณนั้นได้เลย อาทิ ยากิโซบะแบบฉบับเมืองโยโกเตะ, โอเด้งสไตล์คันไซ และไคเซนนกเคะโมริ (ข้าวปลาดิบหน้าล้นจากฮอกไกโด) เป็นต้น

มีการเพิ่มเมนูอาหารพร้อมทานที่ทำมาจากข้าวญี่ปุ่นหุงสดใหม่ภายในร้าน เช่น โอนิกินิซูชิ หรือคร็อกเก้ต่างๆ และยังมีด้วยเชฟที่มาปรุงอาหารกันตรงหน้า ช่วยเพิ่มกลิ่นอายราวกับว่ากำลังท่องเที่ยวอยู่ในญี่ปุ่น และพิเศษกับโซน Cosmetic DONKI ที่รวบรวมแบรนด์ผลิตภัณฑ์สกินแคร์แบรนด์ดังจากญี่ปุ่นภายใต้การดูแลของทีมพนักงานส่งเสริมการขายที่มีความรู้เฉพาะทางมาคอยแนะนำจุดเด่นและวิธีใช้ของแต่ละผลิตภัณฑ์อีกด้วย

และเป็นครั้งแรกในประเทศไทยที่มีการเปิดเป็นร้านเฉพาะ “คิวามินามะโชคุปัง” สำหรับ Hokkaido Milk Kiwami Bread ขนมปังปอนด์สุดพรีเมียมสไตล์ญี่ปุ่นหนึ่งในสินค้ายอดนิยมของดองกิที่ฮิตมากอันดับต้นๆ ในญี่ปุ่น รวมถึงประเทศไทย สามารถเลือกนั่งรับประทานในบริเวณพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ภายในร้าน หรือจะซื้อกลับบ้านก็ได้เช่นกัน

จับทุกมุมเมือง ไม่กระจุกแค่กลางเมือง

การเปิดสาขาที่ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์นั้น ถือเป็นยุทธศาสตร์ในการบุกรอบนอกเมือง จับลูกค้าทางกรุงเทพฯ ตะวันออก ได้แก่ โซนศรีนครินทร์ พัฒนาการ บางกะปิ ประเวศ โซนนี้ถือว่ามีกลุ่มผู้พักอาศัยเยอะ ครอบครัวอยู่เยอะ

อีกทั้งยังเป็นการกระจายความเสี่ยง เนื่องจาก 2 สาขาแรกของดองกิอยู่ในทำเลใจกลางเมือง ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยว พนักงานออฟฟิศ แต่เมื่อมีการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ทำให้ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามา รวมถึงหลายคนทำงานอยู่บ้าน จึงส่งผลกระทบต่อสาขานั้นๆ

donki

ทำให้แผนการขยายสาขาต่อไปในอนาคตจะเน้นทำเลในทุกโลเคชั่น ไม่ว่าจะเป็นใจกลางเมือง และรอบๆ เมือง มีความตั้งใจว่าจะขยายสาขาตามหัวมุมเมืองในกรุงเทพฯ ให้ครบ หวังเข้าถึงลูกค้าคนไทยให้ได้มากที่สุด

สำหรับในปีนี้ดองกิมีแผนเปิดสาขาที่ 4 ที่ศูนย์การค้า MBK ส่วนในปีหน้ายังอยู่ในช่วงดูพื้นที่ และดูสถานการณ์ก่อน

ดัมพ์ราคาลงแน่ ถ้ามีครบ 5 สาขา

ความท้าทายของดองกิ ประเทศไทยในปัจจุบัน มีทั้งเรื่องราคา และการเปิดโซนใหม่ๆ ต้องบอกว่าเรื่องราคาก็เป็นเรื่องหนึ่งที่สำคัญมาก เพราะถ้าใครที่เป็นแฟนของดองกิจะทราบดีว่าจำหน่ายในราคาถูก แต่เมื่อมีการอิมพอร์ตมาที่ไทย ทำให้ต้องผ่านกระบวนการของ อย. และภาษี ทำให้ราคาสินค้าต้องบวกขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว

โยซูเกะ บอกว่า ตอนนี้ที่ประเทศไทยราคาสูงกว่าที่ญี่ปุ่นเฉลี่ย 3 เท่า เพราะตอนนี้สาขายังมีจำนวนไม่เยอะ ทำให้การนำเข้าสินค้าได้น้อย ที่ญี่ปุ่นมีสินค้ารวมกว่า 60,000-70,000 รายการ ที่ไทยมีสินค้าเพียงแค่หมื่นกว่าๆ รายการเท่านั้น สเกลยังเล็กอยู่ มองว่าถ้าในประเทศไทยมีสาขาครบ 5 แห่งเมื่อไหร่ จะทำราคาให้กดลงมาได้อีก เพราะมีสเกลในการนำเข้าสินค้าได้มากขึ้น  

donki

สำหรับที่สาขาซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ มีการตั้งเป้าคนเข้าใช้บริการในวันธรรมดาวันละ 1,000-1,300 บิล ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์วันละ 2,000-3,000 บิล มียอดใช้จ่ายเฉลี่ย 1,000 บาท

กลุ่มสินค้าขายดี ได้แก่ ซูชิ, ขนม, อาหารพร้อมทาน และซอสเครื่องปรุง

ส่วนคำถามที่ว่า มีโอกาสหรือไม่ที่ในประเทศไทยจะได้เห็นอาณาจักรดองกิหลายๆ ชั้นเหมือนที่ประเทศญี่ปุ่น ที่มักจะมีแลนด์มาร์กอยู่ตามเมืองท่องเที่ยวสำคัญอยู่เสมอ โยซูเกะบอกว่าตอนนี้ยังไม่มีแผนนั้น เพราะพฤติกรรมคนไทยไม่ชอบเดินขึ้นลงศูนย์การค้า และมองว่าอยากอยู่ในศูนย์การค้าก่อน มีแม็กเน็ตหลายเจ้าช่วยดึงลูกค้า ยังไม่เปิดโมเดลสแตนด์อโลน

]]>
1356216
โฉมใหม่ MBK “ดองกิ” มาแทนโตคิว ผุดโซนกินดื่มมัดใจคนทำงาน https://positioningmag.com/1317279 Sun, 31 Jan 2021 16:55:05 +0000 https://positioningmag.com/?p=1317279 อัปเดตแผน MBK พลิกโฉมครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่เปิดห้างฯ 40% ของศูนย์การค้าเตรียมปรับใหม่เพื่อดึงคนไทยมากขึ้น เปิดสารพัดแม่เหล็กสำคัญ ตั้งแต่ “ดองกิ” ที่จะเหมาชั้น 2 ของโตคิวเดิม เปิดแบบ 24 ชั่วโมง ฟากศูนย์การค้าชั้น 2 จะมีโซนแฮงก์เอาต์กินดื่ม อิซากายะ ข้าวต้มรอบดึก เพิ่มอาณาจักรไอทีอย่าง Advice, Mi, JD Central เปิดร้านรับยุค O2O พบกันไตรมาส 3 ปีนี้

MBK Center กำลังโยกย้ายปรับโซนนิ่งในศูนย์การค้าใหม่ มีโจทย์สำคัญคือการเปลี่ยนศูนย์ฯ ให้เป็น “ห้างฯ ของคนรุ่นใหม่” สำหรับคนไทย โดยไม่ทิ้งชาวต่างชาติ ด้วยร้านค้าที่ดึงดูดมากกว่าเดิม

“สมพล ตรีภพนารถ” กรรมการผู้จัดการธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ศูนย์ฯ อยู่ระหว่างปรับพลิกโฉมครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่เปิดบริการเมื่อ 36 ปีก่อน โดย 40% ของพื้นที่ขายรวม 84,000 ตร.ม. จะมีการเปลี่ยนแปลง คอนเซ็ปต์ใหม่เป็นคำตอบของการตีโจทย์ “ดึงคนไทยเดินห้างฯ” ให้มากขึ้น จากปกติก่อน COVID-19 มีชาวต่างชาติ 70% คนไทย 30% หลังจากนี้จะปรับสัดส่วนให้เป็น 50 : 50

สมพลกล่าวว่า แผนการปรับศูนย์ฯ เริ่มศึกษามาตั้งแต่ปี 2561 แล้ว โดยบริษัทเล็งเห็นว่าศูนย์ฯ ควรจะต้องดึงดูดคนไทยให้ได้มากกว่านี้ หลังจากรอบข้างมีการแข่งขันสูงขึ้นเรื่อยๆ ดังที่เห็นว่าที่ผ่านมา MBK มีการใช้ “ไอดอล มาร์เก็ตติ้ง” มีเธียเตอร์ BNK48 เข้ามาเปิด

จากแผนที่ได้ศึกษาไว้แล้ว ประกอบกับ “โตคิว” ต้องการถอนการลงทุนด้านรีเทลในไทย ทำให้มีโอกาสรวบพื้นที่ส่วนนี้ 4 ชั้น 12,000 ตร.ม. มาปรับปรุงใหม่พร้อมๆ กัน และครั้งนี้ MBK จะปล่อยเช่าเองทั้งหมด ต่างจากเดิมที่เป็นห้างสรรพสินค้ารายใดรายหนึ่งเช่ารวมเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ ทำให้ยิ่งเห็นแผนการสร้างบรรยากาศใหม่ที่ชัดขึ้น

สรุปแผนของ MBK สมพลแจกแจงไล่ไปทีละชั้น จะมีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้

ชั้น G – ฝั่งโตคิวเดิม จะมีร้านค้าแบรนด์ใหม่ลงทุนโดย ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล (เครือสหพัฒน์) เหมาทั้งชั้นสินค้าเป็นกลุ่มแฟชัน ส่วนฝั่ง MBK โซนด้านหน้าติดถนนพญาไททั้งหมดจะเป็นร้านอาหาร โดยเน้นกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา ที่เปิดเผยได้แล้วคือร้าน “ป้อน” จะเข้ามาเปิดในโซน B ส่วนบริเวณ Tops Supermarket จะมีการขยายพื้นที่ซูเปอร์มาร์เก็ตให้ใหญ่ขึ้น และปรับปรุงทางเข้าออกจุด drop-off ให้กว้างขวางขึ้น

ร้านป้อน ชั้น G

ชั้น 2 – ฝั่งโตคิวเดิม จะเป็นซูเปอร์มาร์เก็ต DON DON DONKI หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ “ดองกิ” ขนาด 3,000 ตร.ม. และเปิด 24 ชั่วโมง เป็นแฟลกชิปสโตร์สาขาใหญ่สุดในประเทศไทย ส่วนด้านนอกโตคิว จะเป็นโซนร้านอาหารอีกเช่นกันแต่เน้นจับกลุ่มวัยทำงาน มีไฮไลต์เป็นโซนกินดื่ม พร้อมด้วยร้านข้าวต้มรอบดึกตอบโจทย์การแฮงก์เอาต์ นอกจากจะมีร้านอาหาร เช่น Tim Hortons, ฮองมิน, Shinkanzen Sushi, S&P ซึ่งสองร้านหลังจะเปิดยาวถึงตี 1

DON DON DONKI หรือ ดองกิ เตรียมเปิดบนชั้น 2 และเป็นสาขาใหญ่ 3,000 ตร.ม.

ชั้น 3 – ฝั่งโตคิวเดิม ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างพิจารณาผู้เช่า โดยมีผู้เช่าติดต่อแล้วแยกเป็น 2 กลุ่ม ส่วนด้านนอกโตคิว จะเป็นโซน “ไทย-เทศ” ชั้นนี้จะร้านค้าขายของฝาก ของดีเมืองไทย

ชั้น 4 – ฝั่งโตคิวเดิมที่เคยเป็นซูเปอร์มาร์เก็ต จะกลายเป็นอาณาจักรไอที เพื่อให้ต่อเนื่องกับพื้้นที่ชั้น 4 ของ MBK ที่ทุกคนรู้จักดีว่าเป็นดินแดนมือถือ-แกดเจ็ต มีร้านใหม่ๆ ที่จะเข้ามา เช่น Advice, Mi, JD Central, CSC ส่วนพื้นที่ขายมือถือจะปรับจำนวนตู้ขายลง 50% เพื่อเพิ่มพื้นที่ร้านแต่ละห้องให้ใหญ่ขึ้น และทางเดินโปร่งขึ้น พร้อมคอนเฟิร์มว่า “ร้านขนมเบื้อง” ซิกเนเจอร์ MBK จะยังอยู่ที่ชั้นนี้

ชั้น 5 – พลิกโฉมใหม่หมดจด จากเคยเป็น Outlet กลายเป็น Learning Hub และโซนธุรกิจบริการ มีสถาบันกวดวิชาที่เซ็นสัญญาแล้ว 24 ราย (บางส่วนเปิดที่ชั้น 4 และ 6 ด้วย) นำโดย “ออนดีมานด์” ที่ใช้พื้นที่มากกว่า 2,000 ตร.ม. และอีกหลายแห่ง เช่น DA’VANCE, Positive Learning, EP Focus, The BTS, Sup’K, Monkey Monkey, Math Logik และชั้นนี้มี ศูนย์บริการพาสปอร์ต เปิดแล้ว รวมถึงบริการอื่นๆ เช่น Kerry Express, ซ่อมคอมพิวเตอร์

สถาบันกวดวิชาออนดีมานด์ ชั้น 5

ชั้น 6 – เป็นโคเวิร์กกิ้งสเปซและออฟฟิศ TTA Space by Draftboard ส่วนฝั่งฟู้ดคอร์ทและกลุ่มร้านอาหาร ยังคงไว้เช่นเดิม แต่จะมีการรีโนเวตให้สวยงามขึ้น

ชั้น 7โซนโรงหนัง SF และกิจกรรมความบันเทิง คาราโอเกะ โบว์ลิ่ง เธียเตอร์ BNK48 ร้าน Animate ตู้เกม โดยโรงหนัง SF จะมีการปรับโรงภาพยนตร์ VIP ใหม่

นอกจากมีร้านใหม่ลงจำนวนมากแล้ว MBK จะปรับสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มด้วย โดยมี “ลิฟต์แก้ว” ตัวใหม่บริเวณหน้าโตคิวเดิมวิ่งขึ้นลงชั้น 2-7 และจะปรับบันไดเลื่อนใหม่ 8 จุด ทั้งหมดนี้ใช้งบรวมไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท

 

ไตรมาส 3 พร้อมเปิดตัว

สมพลกล่าวว่า ขณะนี้มีผู้เช่าเซ็นสัญญาแล้ว 80% และวางเป้าไตรมาส 3 ปีนี้จะเปิดตัวแบบแกรนด์โอเพนนิ่ง และร้านต่างๆ จะเปิดครบ 100% ภายในสิ้นปีนี้

บรรยากาศปัจจุบันบนชั้น 5

ส่วนกรณีผู้เช่าเดิม สมพลกล่าวว่า หากยังไม่หมดสัญญาบริษัทจะมีการเจรจาว่าขณะนี้ศูนย์ฯ ต้องรีโนเวตใหม่ มีการจัดโซนนิ่ง เช่น ร้านขายของฝาก ช้อปปิ้ง จะย้ายไปรวมบนชั้น 3 ผู้เช่าที่ยินดีย้ายห้องตามการจัดโซนนิ่งมีการย้ายไปแล้ว ส่วนผู้เช่าที่ไม่ต้องการย้ายจะยังอยู่ที่เดิมไปจนกว่าจะหมดสัญญา และขณะนี้ MBK ยังคงให้ส่วนลดค่าเช่า 70% เพื่อบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

สมพลยังระบุถึงบางร้านที่เป็นตำนานของ MBK เช่น กลุ่มร้านเฟอร์นิเจอร์บนชั้น 5 บางร้านยังต่อสัญญากับศูนย์ฯ หรือร้านอาหารฮองมินที่อยู่กับศูนย์ฯ มาหลายสิบปีก็ยังไปต่อ โดยยอมปรับย้ายไปอยู่บนชั้น 2 ที่จะเป็นโซนร้านอาหาร

 

ปี’64 เน้นคนไทย รอต่างชาติมาสมทบปีหน้า

“ปี’64 นี้จะยังเป็นกลุ่มลูกค้าคนไทย โดยเชื่อว่าจะเริ่มดีขึ้นในไตรมาส 3 เพราะตามแผนจะเริ่มมีวัคซีนเข้ามา ทำให้คนมั่นใจในการใช้ชีวิต ดังนั้น ถ้าเราพลิกโฉมให้ทันไตรมาส 3 เราจะพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้” สมพลกล่าว “ส่วนต่างชาติเป็นปี’65 ที่น่าจะเริ่มเข้ามาได้ประมาณ 50% ของตัวเลขก่อนเกิด COVID-19 โดยเป็นการทำวัคซีนพาสปอร์ต แสดงตนว่าได้รับการฉีดวัคซีนแล้วจึงเข้ามาเที่ยวในไทยได้”

สมพลระบุว่า ก่อน COVID-19 มีทราฟฟิกเข้า MBK วันละ 80,000 คน แบ่งเป็นต่างชาติราว 50,000 คน และคนไทยราว 30,000 คน

แต่หลัง COVID-19 เกิดขึ้น ปัจจุบันลดเหลือทราฟฟิก 28,000-30,000 คน เพราะมีเฉพาะลูกค้าคนไทย เคยลงไปต่ำสุดคือวันละ 22,000 คน และเคยขึ้นมาดีที่สุดคือวันละ 40,000 คน เป็นช่วงก่อนจะเกิดการระบาดรอบใหม่และรัฐอนุญาตให้จัดอีเวนต์ได้

เมื่อปรับโฉมต่างๆ แล้ว ความคาดหวังคือต้องการดันยอดคนไทยไปถึงวันละ 50,000 คน และต่างชาติที่น่าจะกลับมาวันละ 50,000 คนได้อีกครั้งเมื่อเปิดประเทศ เพราะ MBK มีกลยุทธ์ในการดึงนักท่องเที่ยวกลุ่มทัวร์เข้ามาอยู่แล้ว และเชื่อว่าแม่เหล็กของ MBK ต่อชาวต่างชาติจะยังอยู่ จุดสำคัญนอกจากมาช้อปปิ้งแล้ว ยังมีพ่อค้าแม่ค้าชาวอินเดีย อินโดนีเซียรับหิ้วมือถือมือสองจากชั้น 4 ที่จะกลับมาอีกครั้ง

ความคาดหวังเมื่อไทยเปิดประเทศได้เต็มที่อีกครั้ง MBK จะมีทราฟฟิกไปแตะวันละ 100,000 คน

 

ดองกิ-โซนกินดื่ม-กวดวิชา แม่เหล็กดึงคนไทย

จากการปรับเปลี่ยนทั้งหมด สมพลกล่าวว่า “ดองกิ” คือแม่เหล็กสำคัญที่จะดึงคนได้ถึงวันละ 20,000 คน (เมื่อเปิดประเทศได้เต็มที่) ที่สำคัญก็คือคนไทยซึ่งรู้จักดองกิเป็นอย่างดี โดยดองกิสาขานี้จะใหญ่ที่สุด และจะชูจุดขายสินค้าสดนำเข้าจากญี่ปุ่นในราคาที่ถูกกว่าซูเปอร์มาร์เก็ตเจ้าอื่น

รวมถึงโซนกินดื่มบนชั้น 2 จะดึงคนทำงานได้จำนวนมาก หลักๆ คือกลุ่มหนุ่มสาวออฟฟิศจากสำนักงาน SIAMSCAPE ฝั่งสยามสแควร์ (โบนันซ่าเดิม) ซึ่งกำลังก่อสร้าง และ MBK จะเชื่อมสะพานลอยตรงเข้าไปที่ตึกด้วย เมื่อดูจากจำนวนคนที่ใช้บริการ Groove เซ็นทรัลเวิลด์ขณะนี้ จุดนี้มีสิทธิ์ “ฮิต” สูงมาก

นอกจากนี้ยังมีโซนกวดวิชา แค่เพียงออนดีมานด์เจ้าเดียวคาดว่าจะมีนักเรียนเข้ามาวันละ 1,500 คน ยังไม่รวมอีก 23 สถาบัน ซึ่งตรงนี้ยังมีจุดที่น่าสนใจอีกประการคือ คอร์สเรียนหลายคอร์สเปิดสอนตั้งแต่เช้า ทำให้ร้านอาหารบางร้านสามารถจับจุดนี้และให้บริการเช้าได้

เมื่อมีทั้งแม่เหล็ก เช้าตรู่ ยามดึก และดองกิ 24 ชม. ทำให้ MBK จะเป็นศูนย์ฯ ที่แทบไม่มีเวลาหลับใหลเลยทีเดียว!

]]>
1317279
แผนเดิม! don don donki เตรียมเปิดสาขา 2 ที่ THE MARKET ราชประสงค์ 31 มี.ค. https://positioningmag.com/1270817 Mon, 30 Mar 2020 10:48:34 +0000 https://positioningmag.com/?p=1270817 ไม่หวันพิษ COVID-19 “ดองกิ ทองหล่อ” ตัดสินใจเปิด “ดอง ดอง ดองกิ” สาขา THE MARKET อังคารที่ 31 มี.ค. นี้ ขนสินค้าอุปโภค บริโภคให้ช้อปยามกักตัว

ขอเป็นส่วนหนึ่งให้ช้อปสินค้าจำเป็น

ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 รวมถึงประเทศไทยที่กำลังเผชิญวิกฤตนี้กันอยู่ หลายธุรกิจได้รับผลกระทบทั้งเรื่องเศรษฐกิจ และมาตรการปิดเมือง ปิดศูนย์การค้าต่างๆ แต่ในวิกฤตก็ยังพอมีโอกาสอยู่เสมอ

เมื่อปี 2562 ห้าง “ดองกิ” ได้บุกประเทศไทยเป็นครั้งแรก ที่ศูนย์การค้าดองกิ มอลล์ ทองหล่อ (Donki Mall Thonglor) ย่านทองหล่อ ซอย 10 หรือ เอกมัยซอย 5 เมื่อเดือน .. 2562 บริหารโดย บริษัท ดองกิ ทองหล่อ จำกัด แต่แล้วผ่านไปครึ่งปีก็ได้ฤกษ์ประกาศทำเลสาขา 2 คราวนี้ยึดใจกลางเมืองย่านราชประสงค์ ก็คือ ศูนย์การค้า THE MARKET ของกลุ่มแพลตินัม กรุ๊ป โลเคชั่นตรงข้ามเซ็นทรัลเวิลด์

ในวันที่เซ็นสัญญามีการวางแผนไว้คร่าวๆ ว่าจะเปิดทำการช่วงไตรมาส 1 ปี 2563 แต่ยังไม่ได้กำหนดวันที่ชัดเจน แต่เมื่อมีวิกฤตไวรัส COVID-19 เข้ามา ก็ยังคงเดินหน้าเปิดให้บริการตามแผน

มีการคอนเฟิร์มอย่างเป็นทางการแล้วว่า don don donki สาขา 2 ที่ The Market Bangkok จะเปิดให้บริการวันแรก 31 มีนาคม นี้ ตั้งแต่เวลา11.00 น. – 20.00 น. บริเวณชั้น 1 สาขานี้จะกลายเป็นแฟล็กชิพ สโตร์ บนพื้นที่ 4,000 ตารางเมตร

ภายในสินค้ากว่า 13,000 รายการ ทั้งอาหารสด ผักผลไม้นำเข้าจากญี่ปุ่น อาหารปรุงสำเร็จ พร้อมบริโภค อาหารสำเร็จรูป และสิ่งของจำเป็นในการดำรงชีวิตให้ลูกค้าได้จับจ่ายใช้สอย

ชิมานุกิ โยซูเกะ ประธานกรรมการ บริษัท ดองกิ ทองหล่อ จำกัด กล่าวว่า

“ทางบริษัทได้ดำเนินการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคมาล่วงหน้าหลายเดือนเพื่อเตรียมเปิดให้บริการ ดอง ดอง ดองกิ เดอะ มาร์เก็ต ตามแผนงานภายในไตรมาสแรกของปี พ.ศ. 2563 ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 จนกระทั่งรัฐบาลได้ประกาศมาตรการ “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ขึ้น

ทางบริษัทจึงได้ปรึกษาคณะทำงานร่วมกันแล้ว ในสถานการณ์เช่นนี้จึงเห็นพ้องต้องกันว่า พร้อมขอประกาศยืนยันที่จะเปิดให้บริการดอง ดอง ดองกิ สาขาเดอะ มาร์เก็ต เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการกระจายสินค้าถึงมือผู้บริโภค ด้วยความพร้อมด้านการจัดจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตไม่ว่าจะเป็น อาหารสด เนื้อสัตว์ผักผลไม้ อาหารญี่ปุ่นปรุงสำเร็จแบบ Take away อาหารแห้ง อาหารสำเร็จรูป ของใช้เพื่อรักษาความสะอาดต่างๆรวมถึงสินค้าเบ็ดเตล็ดต่างๆ รวมกว่า 13,000 รายการโ ดยส่วนใหญ่เป็นสินค้านำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น”

นอกจากนี้ยังเปิด SHOP IN SHOP แบรนด์ “โจเนทซึ คาคาคุ” แห่งแรกในประเทศไทย จำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าเบ็ดเตล็ดที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต ภายใต้การควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานโดยกลุ่มบริษัท PPIH ซึ่งเป็นบริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่น

เพิ่มมาตรการความปลอดภัย

การเปิดให้บริการ ดอง ดอง ดองกิ เดอะ มาร์เก็ต ภายใต้สถานการณ์ป้องกันการแพร่ระบาดไวรัส COVID-19 ได้เพิ่มมาตรการพิเศษ ได้แก่

  • จำกัดทางเข้าออกให้เหลือเพียงประตูเดียว
  • ตรวจวัดอุณหภูมิลูกค้า และพนักงานทุกคนบริเวณทางเข้า-ออก
  • จำกัดจำนวนลูกค้าในการเข้าซื้อแต่ละรอบตามความเหมาะสม
  • จัดเตรียมจุดบริการเจลแอลกอฮอล์
  • เช็ดทำความสะอาดตะกร้าสินค้า แคชเชียร์จุดบริการอาหาร ตลอดจนบริเวณจุดสัมผัสสาธารณะพื้นทางเดิน ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้ออย่างสม่ำเสมอ
  • พนักงานผู้ให้บริการทุกคนต้องได้รับการตรวจสุขภาพตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา สำหรับผู้ประกอบอาหารจะต้องสวมถุงมือ และล้างมืออย่างสม่ำเสมอด้วย
  • ให้พนักงานล้างมือทุกครั้งก่อน และหลังสัมผัสอุปกรณ์สิ่งของ เครื่องใช้ ที่มีผู้สัมผัสจำนวนมาก
  • จำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จสำหรับนำไปบริโภคที่อื่น (Take away) เท่านั้น
]]>
1270817