ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 23 Aug 2023 08:18:59 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 BRC เตรียมรีแบรนด์ซูเปอร์ฯ “AbouThai” ใน “ฮ่องกง” เป็น “บิ๊กซี” พร้อมแผนจดทะเบียนในตลาดหุ้น https://positioningmag.com/1442037 Wed, 23 Aug 2023 08:08:03 +0000 https://positioningmag.com/?p=1442037 สื่อนอก South China Morning Post รายงาน “บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์” เทกโอเวอร์เชนซูเปอร์มาร์เก็ต “AbouThai” 24 สาขาบนเกาะฮ่องกงสำเร็จ และเตรียมรีแบรนด์เปลี่ยนมาใช้ชื่อ “Big C พร้อมวางแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงควบคู่กับการจดทะเบียนในไทย

South China Morning Post สัมภาษณ์พิเศษ “อัศวิน เตชะเจริญวิกุล” ซีอีโอและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BRC โดยอัศวินเปิดเผยว่า บริษัทเข้าซื้อกิจการเชนซูเปอร์มาร์เก็ต “AbouThai” ที่มีการดำเนินธุรกิจอยู่ 24 สาขาในฮ่องกงเรียบร้อยแล้ว และบริษัทจะรีแบรนด์เปลี่ยนชื่อเป็น “Big C” เริ่มตั้งแต่เดือนกันยายนนี้

“เราเชื่อมั่นในอนาคตและศักยภาพการเติบโตของฮ่องกง” อัศวินกล่าว “แม้ว่าจะมีความท้าทายบ้างจากโควิด-19 แต่ฮ่องกงก็ฟื้นตัวกลับมาได้เร็ว ฮ่องกงเป็นฮับด้านการเงินชั้นนำของเอเชียและเชื่อมโยงตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เข้ากับจีนแผ่นดินใหญ่ได้”

ปัจจุบันบิ๊กซีมีธุรกิจรีเทลกว่า 2,000 สาขาภายใต้แบรนด์หลากหลาย และดำเนินการในหลายประเทศ ได้แก่ ไทย ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ส่วนฮ่องกงนั้นถือเป็นพื้นที่นอกเขตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แห่งแรงที่บิ๊กซีเข้าไปลงทุน

“อัศวิน เตชะเจริญวิกุล” ซีอีโอและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BRC

สำหรับการเข้าซื้อกิจการ AbouThai นั้น บิ๊กซีไม่ได้เปิดเผยมูลค่าการลงทุน แต่อัศวินกล่าวว่า บริษัทมีการวางงบใน 3 ปีข้างหน้าไว้ 158 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 704 ล้านบาท) เพื่อขยายบิ๊กซีเพิ่มอีก 25 สาขาต่อปี และจะทำให้บริษัทมีบิ๊กซีบนเกาะฮ่องกงครบ 99 สาขาภายในปี 2569 รวมถึงมีการจ้างงานพนักงานกว่า 500 ตำแหน่ง

“99 เป็นเลขนำโชค ในวัฒนธรรมจีนหมายถึงอายุยืนยาว” อัศวินกล่าว “เรายังมีวิสัยทัศน์ระยะยาวในฮ่องกงด้วย โดยเราจะเปลี่ยน Big C ให้เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตไทยระดับพรีเมียมที่ดีที่สุด”

อัศวินยังบอกด้วยว่า บริษัทมีแผนจะจดทะเบียนควบ (dual listing) ทั้งในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงและตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ก่อนหน้านี้ BRC มีการยื่นไฟลิ่งกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ไปแล้วเมื่อเดือนเมษายน 2566 และบริษัทกำลังวางแผนที่จะยื่นไฟลิ่งในฮ่องกงด้วย

โดยบริษัทหวังว่าจะยื่นไฟลิ่งในฮ่องกงได้เร็วที่สุดคือภายในไตรมาส 4 ปีนี้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของทางตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ อัศวินขอยังไม่ให้ความเห็นว่าจะระดมทุนจากตลาดหุ้นฮ่องกงเท่าไหร่ แต่นักวิเคราะห์ประเมินว่า บิ๊กซีสามารถระดมทุนได้มากที่สุดคือ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณกว่า 34,000 ล้านบาท)

“การได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงจะช่วยกรุยทางสู่โอกาสในอนาคตในการร่วมงานกับบริษัทชั้นนำอื่นๆ ที่จดทะเบียนอยู่ในฮ่องกง” อัศวินกล่าว “ปริมาณการซื้อขายของตลาดฮ่องกงและการเปิดโอกาสสู่นักลงทุนจีนและนักลงทุนระดับสากล ทำให้เป็นโลเคชันในอุดมคติที่ BRC จะจดทะเบียนในต่างแดน”

ตระกูลสิริวัฒนภักดีนั้นมีสำนักงานครอบครัวตั้งอยู่ในฮ่องกงมานานหลายปี เพื่อเป็นช่องทางในการลงทุนมาตลอด

“ทั้งพ่อตาของผม (เจริญ สิริวัฒนภักดี) และตัวผมเองนั้นมีบรรพบุรุษเป็นคนจีน” อัศวินกล่าว “เราพูดภาษาจีนกันในบ้าน ลูกๆ ของผมทั้งสามคนพูดจีนกลาง เราเดินทางมาเที่ยวและทานอาหารที่ฮ่องกงกันตลอด และมีความทรงจำดีๆ ที่นี่”

ที่มา: South China Morning Post

]]>
1442037
Alibaba หุ้นพุ่ง! หลังเปิดตลาดหุ้นฮ่องกง ขึ้นแท่นบริษัทใหญ่ที่สุดในเอเชีย https://positioningmag.com/1255122 Thu, 28 Nov 2019 13:14:38 +0000 https://positioningmag.com/?p=1255122 Alibaba Group Holding หุ้นพุ่งสะใจในการซื้อขายช่วงต้นการเปิดตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ขีดเส้นเป็นหลักไมล์สำคัญของบริษัทเทคโนโลยีจีนที่ผ่านกระบวนการเสนอขายหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในโลกประจำปีนี้ได้สำเร็จ เสริมให้ Alibaba กลายเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียเรียบร้อย

สนนราคาหุ้นเปลี่ยนมือของ Alibaba Group Holding เพิ่มขึ้นเป็น 188.20 เหรียญฮ่องกงในเวลา 10.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น คิดเป็นสัดส่วนเพิ่มขึ้น 6.9% จากราคาเสนอขายเริ่มต้น 176 เหรียญฮ่องกง ก่อนหน้านี้หุ้นพุ่งเกิน 189.50 เหรียญสหรัฐ ถือว่าไล่ตามอยู่ 2% เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดตลาดเมื่อวันจันทร์ด้วยราคา 190.45 เหรียญสหรัฐ

หากมูลค่าหุ้น Alibaba ไม่ร่วงลงไปเสียก่อน Alibaba Group Holding จะได้รับการจัดอันดับเป็นหุ้น the best first-day performances หรือหุ้นที่ยอดเยี่ยมที่สุดในการเปิดตลาดวันแรก ซึ่งจะต่อยอดจากการที่ Alibaba สามารถเสนอขาย IPO ครั้งแรกในมูลค่าสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2005 อันดับรองลงมาคือกลุ่ม AIA (17.1%) ธนาคารแห่งประเทศจีน (15.3%) ธนาคารอุตสาหกรรมและพาณิชย์ของจีน (14.7) %) และ China Unicom (8.9%)

การเข้าตลาดหุ้นฮ่องกงของ Alibaba ถือว่าเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เมืองกำลังพยายามฟื้นตัวจากวิกฤตการณ์ทางการเมืองที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ยังมีพิษเศรษฐกิจถดถอยจนทำให้ตลาดหุ้นหงอยเหงาที่สุดในรอบ 4 ไตรมาสที่ผ่านมา

การประเมินเบื้องต้นพบว่า มูลค่าหุ้นที่เพิ่มขึ้นทำให้ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจีนสามารถระดมทุนอย่างน้อย 11,300 ล้านเหรียญสหรัฐจากการซื้อขายในตลาดหุ้น ตัวเลขนี้เสริมให้ Alibaba กลายเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชีย เมื่อคำนวณจากมูลค่าตลาด และถือเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่สุดอันดับ 7 ของโลก

Source

]]>
1255122