“บิ๊กซี” รีโนเวตไฮเปอร์มาร์เก็ตเป็น “Big C Place” เริ่ม 2 สาขาแรกที่ “ลำลูกกา” – “รัชดาฯ”

Big C Place บิ๊กซี
“บิ๊กซี” เตรียมรีโนเวตไฮเปอร์มาร์เก็ตสาขา “ลำลูกกา” และ “รัชดาภิเษก” เป็นรีเทลโมเดลใหม่ Big C Place” เน้นพื้นที่เช่าประเภทแหล่งช้อปปิ้ง-ไลฟ์สไตล์ พร้อมเปิดให้เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง ตอบสนองคนยุคใหม่ชอบใช้ชีวิตในห้างฯ

“อัศวิน เตชะเจริญวิกุล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ BRC เปิดเผยกลยุทธ์การปรับโมเดลรีเทลรูปแบบใหม่ของบริษัทในชื่อ “Big C Place” ที่จะเริ่มเห็นสาขาแรกในปี 2566

คอนเซ็ปต์ของ Big C Place คือการปรับพื้นที่ไฮเปอร์มาร์เก็ตให้มีพื้นที่เช่ามากขึ้น บรรยากาศเหมาะกับการมาแฮงเอาต์ เดินช้อปปิ้ง ทานอาหาร ซึ่งตรงกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่ไม่ได้มาไฮเปอร์มาร์เก็ตเพื่อซื้อของที่ต้องการเท่านั้น แต่ต้องการมาใช้ชีวิตในด้านอื่นๆ ด้วย

ในภาพนำเสนอการปรับเป็น Big C Place ระบุว่าจะมีการเพิ่มพื้นที่ช้อปปิ้ง พื้นที่เล่นเกม พื้นที่ด้านการศึกษาผสานความบันเทิง (Edutainment) บริการสุขภาพและความงาม ร้านอาหาร-เครื่องดื่ม และพื้นที่ไลฟ์สไตล์ต่างๆ เช่น Co-working Space, Event Space นอกจากนี้ยังจะปรับให้เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง (Pet-Friendly)

อัศวินกล่าวเพิ่มเติมว่า เป้าหมายของการปรับเปลี่ยนจะทำให้ลูกค้าใช้เวลาในพื้นที่นานขึ้น มีการใช้บริการหลากหลาย มียอดใช้จ่ายที่สูงขึ้นในการมาแต่ละครั้ง

ภาพการออกแบบเบื้องต้น Big C Place สาขารัชดาฯ

แผนงานไฮเปอร์มาร์เก็ต 2 สาขาแรกที่จะรีโนเวตปรับเป็น Big C Place ก่อน ได้แก่ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาลำลูกกา และ บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า สาขารัชดาภิเษก ทั้ง 2 สาขานี้มีการสำรวจมาแล้วว่าลูกค้าโดยรอบมีความต้องการไลฟ์สไตล์ในห้างฯ ในลักษณะนี้ คาดว่าจะใช้งบในการรีโนเวตแต่ละสาขาไม่เกิน 500 ล้านบาท โดยสาขาแรกคือที่ลำลูกกาจะเปิดตัวก่อนภายในปี 2566

สำหรับโมเดลร้านค้าของ “บิ๊กซี” ในไทยปัจจุบันมีอยู่หลายรูปแบบ เช่น “บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์” ซึ่งเป็นไฮเปอร์มาร์เก็ต “บิ๊กซี มาร์เก็ต” ซูเปอร์มาร์เก็ตเน้นทำเลในชุมชน “บิ๊กซี ฟู้ดเพลส” ซึ่งเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตที่เน้นอาหารสด-ของสด เป็นต้น

ปัจจุบันเฉพาะกลุ่มไฮเปอร์มาร์เก็ต บิ๊กซีถือเป็นอันดับ 2 ในตลาด มีส่วนแบ่งตลาด 41.9% บริษัทจึงต้องแข่งขันหาโมเดลและกลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อดึงลูกค้าเพิ่มขึ้น