นักออกแบบ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 17 Feb 2025 16:32:29 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 สยามพิวรรธน์ ย้ำจุดยืน Creative Powerhouse ผู้พัฒนาจุดหมายปลายทางระดับโลก ร่วมสนับสนุน Bangkok Design Week 2025 จัดโชว์เคสผลงานสุดสร้างสรรค์ในทุกโครงการ https://positioningmag.com/1509988 Mon, 10 Feb 2025 12:39:54 +0000 https://positioningmag.com/?p=1509988

สยามพิวรรธน์  ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจค้าปลีกชั้นนำ ตอกย้ำผู้นำความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาโครงการจุดหมายปลายทางระดับโลก ร่วมสนับสนุนการจัดงาน Bangkok Design Week 2025 (BKKDW2025) จัดโชว์เคสผลงานศิลปินและนักออกแบบทั้งชาวไทยและระดับโลก รวมทั้งกิจกรรมมากมายในพื้นที่ศูนย์การค้าที่เป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก ทั้งสยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม สร้างปรากฏการณ์งานอาร์ตและดีไซน์ ที่สะท้อนการเป็นขุมพลังความคิดสร้างสรรค์  (Creative Powerhouse) บุกเบิกการสร้างประสบการณ์แปลกใหม่เหนือระดับและแรงบันดาลใจให้กับผู้มาเยือน ร่วมส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของโลก

 

ชนิสา แก้วเรือน ผู้บริหารกลุ่มงานสร้างสรรค์และนวัตกรรม บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า  “สยามพิวรรธน์ มุ่งมั่นสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกตื่นตาตื่นใจ (Be Amazed), ได้รับแรงบันดาลใจ (Be Inspired) และเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิวัติวงการ (Be Revolutionary) มาโดยตลอดทุกยุคทุกสมัย เราเป็นศูนย์การค้าแรกที่เปิดพื้นที่สร้างสรรค์ให้ศิลปะกลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันและ เป็นผู้บุกเบิกประสบการณ์ใหม่ที่ผสานศิลปะ วัฒนธรรม นวัตกรรม และสุนทรียศาสตร์เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างการเข้าถึงที่เท่าเทียมสำหรับทุกคน

ศูนย์การค้าของสยามพิวรรธน์เป็นศูนย์รวมของความคิดสร้างสรรค์ แรงบันดาลใจ โดยได้ร่วมงานกับศิลปินไทยและศิลปินระดับโลก ดีไซเนอร์ และศิลปินรุ่นใหม่มาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน เพื่อร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานระดับโลกภายในศูนย์การค้า นอกจากนี้ เรายังส่งเสริมให้เกิดคอมมูนิตี้ของผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ และพัฒนาไปสู่ Art Community ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย”

ในปี 2568 สยามพิวรรธน์ร่วมมือกับ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA พร้อมพันธมิตร เป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนการจัดงาน Bangkok Design Week 2025 หรือเทศกาลออกแบบกรุงเทพฯ 2568 ภายใต้ธีม “Design Up+Rising: ออกแบบพร้อมบวก+” ในวันที่ 8-23 กุมภาพันธ์ 2568  โดยสยามพิวรรธน์ เปิดพื้นที่ให้กับศิลปินชาวไทยนักออกแบบรุ่นใหม่ และศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลกได้แสดงศักยภาพ ทั้งย่านสยาม คือ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และย่านคลองสาน ไอคอนสยามโดยมีกิจกรรมสำคัญดังนี้


สยามพารากอน เวทีของผลงานศิลปะร่วมสมัยสุดเอ็กซ์คลูซีฟ

  • Siam Paragon’s Arena of Arts เวทีนำเสนอ ผลงานศิลปะร่วมสมัยสุดเอ็กซืคลูซีฟผ่านแนวคิด Luxury for all ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ เป็นเวทีที่ศิลปินทั่วโลกสามารถมาแสดงผลงานได้เต็มที่และหมุนเวียนกันตลอดเวลา ผลงานไฮไลต์สำคัญ อาทิ

  • JAIME HAYON FOR SIAM PARAGON ครั้งแรกในประเทศไทย กับผลงานศิลปะ Sculpture ที่มีเพียงหนึ่งเดียว “The Future in Our Hand” ชั้น 1 สยามพารากอน โดยจับมือกับ Jaime Hayon (ไฮเม่ ฮายอน) ศิลปินนักออกแบบระดับโลกผู้ทรงอิทธิพลแห่งยุค Co-Create รังสรรค์สุดยอดผลงานสุดเอ็กซ์คลูซีฟเพื่อสยามพารากอนโดยเฉพาะ

  • Red Bubble ประติมากรรมร่วมสมัย โดย Donghoon Oh ศิลปินเกาหลีใต้ ถ่ายทอดรูปร่างคนโดยเล่นกับรูปทรงกลม ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากฟองสบู่ที่เด็กๆ เป่าลอยอยู่ในอากาศได้ไม่นาน แล้วหายไป ราวกับความจริงและภาพลวงตาใกล้กันนิดเดียว
  • Reflection You ผลงานของ Cheese Arnon หรือ อานนท์ เนยบุญสูง ศิลปินกราฟิติ ที่มีผลงานมากมายทั้งในและต่างประเทศกับตัวคาแรคเตอร์สุนัขจิ้งจอก นำเสนอผลงานจัดวางที่สะท้อนตัวตนในมุมมองหลากหลายผ่านภาพสะท้อนภายในกล่องลูกบาศก์ สร้างความตื่นเต้น เคลื่อนไหวด้วยเนื้อหาภาพที่สร้างมิติและเสนอสิ่งที่ไม่เหมือนเดิม

  • Visual Merchandising ผลงานสร้างสรรค์เพื่อการเฉลิมฉลองเทศกาลตรุษจีน ในธีม Harmony of Prosperity ; A New Year’s Awakening นำเสนอสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมผนวกกับความออกแบบสมัยใหม่ ตั้งอยู่หลายพื้นที่ในสยามพารากอน อาทิ Origami Serpent of Light บริเวณ Jewel Area ประติมากรรมงูในสไตล์ที่ทันสมัยออกแบบด้วยเทคนิคพับกระดาษแบบญี่ปุ่น และ Reflective Serpent of Fortune ชิ้นงาน Installation รูปงูที่ตระการตา ยาวตลอดพื้นที่ Cascade


สยามเซ็นเตอร์

  • Visual Merchandising ผลงานสร้างสรรค์ที่สะท้อนความเป็นเมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ของสยามเซ็นเตอร์ ในธีม Harmony of Prosperity: A New Year’s Awakening นำเสนอความหมายของการเฉลิมฉลองในเทศกาลตรุษจีน ออกแบบด้วยการสร้างงูในสไตล์สนุกสนาน มีชีวิตชีวา เพิ่มการเคลื่อนไหว และตกแต่งสีสันที่สุดใส นำเสนอประสบการณ์ที่แตกต่างและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
  • Siam Center x Memori Studio Pop up Space สุดยอดการออกแบบที่สั่นสะเทีอนวงการ Art Toy ด้วยนวัตกรรม 3D ฟิกเกอร์โมเดลเสมือนจริงครั้งแรกในประเทศไทยจาก MEMORI STUDIO ยกระดับความเหมือนจริงด้วยเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อถ่ายทอดมุมมองของบุคคลได้อย่างล้ำสมัยด้วยดีเทลถึง 90% ผ่านเครื่องสแกน 360 องศา และเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ที่ใช้วัสดุพรีเมียมคุณภาพสูง สร้างความทรงจำพิเศษกับของขวัญที่มีชิ้นเดียวในโลก

สยามดิสคัฟเวอรี่

  • Color Meets Function by ODS นิทรรศการที่ผสมผสานผ่านสีสันและฟังก์ชั่นการใช้งาน เข้าด้วยกันอย่างลงตัว ในบรรยากาศของบ้านสีขาวที่เรียบง่ายและสะอาดตา ทุกชิ้นงานในนิทรรศการไม่ใช่แค่ของตกแต่ง แต่เป็นงานศิลปะและออกแบบที่ใช้งานได้จริง
  • Future Lab Volume 4: Design Culture x PatPixels พื้นที่เปิดกว้างให้ทุกคนมาตามหาเอกลักษณ์ความเป็นตัวเอง นำเสนอปรากฏการณ์ Co-Create & Collaborate แห่งปี ร่วมกับกรุงเทพมหานคร Yuedpao – ยืดเปล่า, ODS และ สยามดิสคัฟเวอรี่ ร่วมมือกับศิลปิน PatPixels เพื่องาน Bangkok Design Week 2025 โดยเฉพาะ สร้างสรรค์เป็นนิทรรศการนำเสนอผ่าน Lab สะท้อนแนวคิด Design Culture ด้วยลวดลายแตกต่างแบบชิ้นเดียวในโลกในแบบ Hyper Personalized
  • Reflection You ผลงานศิลปะจัดวางสะท้อนตัวตนในมุมมองหลากหลายผ่านภาพสะท้อนที่เกิดขึ้นภายในกล่องทรงลูกบาศก์ที่น่าตื่นเต้น เคลื่อนไหวด้วยเนื้อหาภาพที่สร้างมิติ และเสนอสิ่งที่ไม่เหมือนเดิมในตัวตน โดยมีคาร์แรคเตอร์สุนัขจิ้งจอก สัญลักษณ์ของความเจ้าเล่ห์แสนกลของศิลปินสุดฮอตอย่าง Cheese Arnon (อานนท์ เนยสูงเนิน) ที่อยู่ในท่าทางต่างๆ มาช่วยสร้างสีสันความสนุก และเชื่อมต่อพื้นที่จากสยามพารากอน จนถึงสยามดิสคัฟเวอรี่ นำเสนอปฎิสัมพันธ์ระหว่างผู้คนกับความหลากหลายที่เกิดขึ้นในพื้นที่ตอบทุกความต้องการและไลฟสไตล์ให้กับผู้คน ที่ไม่ใช่แค่เพียงแต่การช็อปปิ้งเพียงอย่างเดียว

ไอคอนสยาม แลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตอกย้ำผู้นำในการสร้างประสบการณ์ Art in Mall แห่งแรกที่ใหญ่ที่สุด ด้วยการนำเสนอผลงานสร้างสรรค์ งานศิลปะสุดเอ็กซ์คลูซีพ และกิจกรรม จับมือองค์กรพันธมิตร คัดสรรงานศิลปะสุดเอ็กซ์คลูซีฟ อาทิ

  • ICONCRAFT X THANIYA : The Stellar Zodiac Collection นิทรรศการบอกเล่าเรื่องราวของท้องฟ้า ดวงดาว จักรราศี ที่ส่งผลต่อชีวิต ความเชื่อ ศรัทธา ที่มีต่อโชคชะตา โดยจะพาคุณออกเดินทางไปในโลกของงาน Craft งานศิลปะที่รังสรรค์อย่างประณีตบรรจง ผ่านปลายพู่กันอย่างประณีตบรรจงของช่างฝีมือลงบนเครื่องปั้นเซรามิกจากแบรนด์ Thaniya1988 พร้อมผสานกลิ่นที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อสร้างสรรค์เรื่องราว พร้อมพาคุณไปสู่เรื่องราวของกลิ่น และดวงดาวไปด้วยกัน จาก MN Formula ออกเดินทางค้นพบความเชื่อมโยงของโลก
  • ICONSIAM ART & CULTURE พบกับไฮไลต์งานศิลป์ไทยระดับมาสเตอร์พีซอันทรงคุณค่า เชิดชูศิลปะไทยสู่งานอาร์ตระดับโลก ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่ไอคอนสยามมุ่งมั่นสร้างให้เป็นศูนย์กลางศิลปะระดับโลก ส่งเสริมและสนับสนุนผลงานของศิลปินทั้งชาวไทยและต่างประเทศ พร้อมเปิดพื้นที่ให้ทุกคนได้เข้าถึงและสัมผัสได้อย่างใกล้ชิดได้ทุกวัน อาทิ

  • เสาจารึกสีทอง ณ ประตูบานแรกแห่งเมืองไอคอนสยาม ชั้น G โซน ICONLUXE
  • พลังแห่งสายน้ำที่เคลื่อนไหวสู่แรงบันดาลใจของประติมากรรมกนกเปลวสามมิติโซน
  • แชนเดอเลียร์พวงมาลัยแก้วแสนพิเศษขนาดใหญ่ชิ้นเดียวในโลก ออกแบบโดย Petra Junova ดีไซเนอร์แห่ง LASVIT บริษัทออกแบบชื่อดังจากสาธารณรัฐเช็ก
  • ลวดลายโอ่งและผนังที่แฝงวัฒนธรรมไทยจากภาคต่างๆ ชั้น G สุขสยาม
  • ประติมากรรม “ทองหยอด” ศิลปะร่วมสมัยสีทองเหลืองรูปทรงทองหยอด ที่เคยนำไปแสดง งานทิทรรศกาลระดับโลกอย่าง Venice Biennale มาแล้ว
  • ลวดลายพิมพ์ใบไม้ผ่าน “เสาแห่งมงคล” สีทองสุกสกาว ทองอร่ามทั้ง 8 ต้น สร้างสรรค์โดยศาสตราจารย์ถาวร ไกอุดมวิทย์ ศิลปินไทยที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ
  • กำแพงศิลป์สไตล์อิมเพรสชันนิสม์ “แสงสยาม” สร้างสรรค์ความงามด้วยกระจกสี Art Wall ขนาดใหญ่ที่ทอดยาว 60 เมตร ที่คุณ คุณสิทธิ์วุธ ยาวิชัย ศิลปินรุ่นใหม่ได้หยิบยกเอา “กระจกสี” หนึ่งในงานของช่างสิบหมู่ของไทย งานพุทธศิลป์ที่หาดูได้ยากในปัจจุบัน มาสร้างสรรค์ผลงานสไตล์อิมเพรสชันนิสม์ด้วยเทคนิคร่วมสมัย
  • “รวมพลังความเป็นไทย” รังสรรค์โดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ประทีป สุธาทองไทย ผู้มีชื่อเสียงด้านศิลปะภาพพิมพ์และ Photo Collage ระดับแถวหน้า สร้างสรรค์งานศิลป์สุดไอคอนนิกด้วยเทคนิคคอลลาจ (Collage) ผ่านภาพที่รวบรวมทุกมิติของความเป็นไทยในแง่มุมต่างๆ ที่รวบรวมองค์ประกอบของไอคอนสยามที่แฝงเอกลักษณ์ของไทย พร้อมภาพจากผู้คนที่บอกเล่าถึงวัฒนธรรมที่ดีงามของประเทศในมิติต่างๆ กว่า 35,000 ภาพ มารวมหลอมไว้เป็นภาพขนาดใหญ่ยักษ์ 10 x 27 เมตร จารึกด้วยคำว่า ‘ไทย’ ถือเป็นแลนด์มาร์กที่หลอมรวมทุกอณูของไอคอนสยามไว้ด้วยกัน บริเวณสุราลัย ฮอลล์ชั้น 7

  • ประติมากรรมเชื่อมสัมพันธ์ไทย-จีน ในงาน “Lancang to ChaoPraya” เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยกับสาธารณรัฐประชาชนจีน พร้อมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมไทย – จีนผ่านงานนิทรรศการระดับโลก โดยจัดผลงานประติมากรรมชุดพิเศษ Chubby Woman with Dragon & Naga นับเป็นความร่วมมือครั้งแรกระหว่าง ศิลปินแห่งชาติของไทย ศาสตราจารย์เกียรติคุณปรีชา เถาทอง และศิลปินชาวจีนชื่อดัง มิสเตอร์ ซูหวงเฟย ที่ได้รังสรรค์ผลงานที่แสดงถึงความเชื่อมโยงของทั้งสองประเทศให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น เป็นการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมอย่างสมบูรณ์
  • Trace of Sunlight & February by ArtVentureNFT ร่องรอยของแสงแดดและกุมภาพันธ์ โดย ArtVentureNFT นิทรรศการศิลปะที่สะท้อนถึงความงดงามและความทรงจำที่แสงตะวันทิ้งไว้ รังสรรค์โดย 5 ศิลปิน ได้แก่ ORON (จักรกฤษณ์ โสมหิรัญ), TOMATO HEAD (พรพพิน หล้าทา), 29 Art-Studio (วุฒิภัทร วงศ์ดี), Captain Mozmo (ณัฐชา ลีวันแสงทอง), Lookplu8 (อรญา ลัดดากลม) และแขกพิเศษ นริศรา เพียรวิมังสา ณ ICON Art & Culture Space ชั้น 8 ไอคอนสยาม Traces of Sunlight เป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้น สะท้อนถึงขบวนการเติบโตของดอกไม้ทั้ง 5 สายพันธุ์ ที่ศิลปินออกแบบขึ้นโดยใช้แสงเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่เมล็ดพันธุ์ที่งอกเงยไปจนถึงช่วงเวลาที่ผลิบานอย่างเต็มที่

Bangkok Design Week 2025 จัดขึ้นในพื้นที่ย่านต่าง ๆ ในกรุงเทพฯ ที่จะพาทุกคนร่วมสัมผัสประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายในทุกมิติ ผ่านงานศิลปะ และการออกแบบจากแนวคิดการผสมผสาน Art & Culture ของศิลปินไทยและต่างชาติ ติดตามรายละเอียดการจัดแสดงในพื้นที่ศูนย์การค้าในเครือสยามพิวรรธน์ ผ่านช่องทาง FB Page Siam Piwat และ ศูนย์การค้าในเครือได้ที่ https://www.siampiwat.com/assets/bangkokdesignweek2025 หรือสแกน QR Code ด้านล่าง

]]>
1509988
คุยกับ Tim Kobe นักออกแบบ ‘ประสบการณ์’ จากยุค Apple Store แห่งแรกจนถึงยุค ‘เมตาเวิร์ส’ https://positioningmag.com/1376217 Thu, 03 Mar 2022 08:09:38 +0000 https://positioningmag.com/?p=1376217 Tim Kobe ให้คำจำกัดความตนเองว่าเป็นนักออกแบบ “ประสบการณ์” เขาคือเบื้องหลังการดีไซน์ Apple Store แห่งแรกในสมัย Steve Jobs และยังทำงานต่อเนื่องกับ Tim Cook ปรัชญาการออกแบบของเขาคือการค้นให้ลึกถึง “คุณค่า” ของแบรนด์ๆ หนึ่ง ก่อนจะถ่ายทอดผ่านการทำงานกับอารมณ์ความรู้สึกโดยสัญชาตญาณของผู้บริโภค

Positioning มีโอกาสได้พูดคุยกับ Tim Kobe (ทิม โคเบ) ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท Eight Inc. ระหว่างทริปจากเกาะฮาวาย เมืองที่พำนักหลักของเขา มาเยี่ยมเยือนลูกค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เหตุผลที่การพูดคุยครั้งนี้น่าสนใจ เพราะชายร่างใหญ่ในชุดเสื้อยืดสีดำผู้นี้คือเบื้องหลังการออกแบบ “ประสบการณ์” ของแบรนด์ Apple ผ่านบรรยากาศและฟีเจอร์ใน Apple Store ตั้งแต่แห่งแรกที่เปิดเมื่อปี 2001 ในนิวยอร์ก จนถึงปัจจุบันเขาก็ยังทำงานร่วมกับ Tim Cook อยู่

ความสำเร็จของ Apple Store คือบทพิสูจน์วิธีทำงานของ Kobe ประสบการณ์ที่ผู้บริโภคได้รับใน Apple Store ทำให้ผู้บริโภคสัมผัสและซึมซับคุณค่าของแบรนด์ Apple ไปโดยไม่รู้ตัว

Apple Store สาขา Fifth Avenue นิวยอร์ก

นอกจาก Apple แล้ว บริษัท Eight Inc. ของเขายังทำงานร่วมกับแบรนด์ระดับโลกอีกมาก เช่น Nike, Citibank, Virgin Atlantic Airways, Xiaomi เป็นต้น โดยมีสตูดิโอ 11 แห่งใน 3 ทวีปพร้อมให้บริการลูกค้า

เบื้องหลังผลงานของ Kobe คือการออกแบบที่มองในระดับ “มาสเตอร์แพลน” ของแบรนด์ มากกว่าการออกแบบแค่สิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือสถานที่หนึ่ง เราจะมาเจาะลึกปรัชญาการออกแบบของเขากันว่ามีวิธีคิดอย่างไร และในโลกยุคใหม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้างหรือไม่

 

“มาสเตอร์แพลน” มาก่อน แทคติคส์มาทีหลัง

“หลายบริษัทมักจะเข้ามาหาเราแล้วบอกว่า ‘คู่แข่งเราทำแบบนี้ เราอยากจะทำบ้าง’ แต่จริงๆ สิ่งที่เห็นนั้นเป็นสิ่งสุดท้ายที่ต้องคิด ไม่ใช่สิ่งแรก” Kobe กล่าวถึงความผิดพลาดที่มักจะเกิดขึ้นกับการออกแบบ คือการมองโซลูชันของคู่แข่งแล้วต้องการจะทำแบบเดียวกัน

กลับกัน Kobe ไล่เรียงวิธีคิด 3 ขั้นตอนเบื้องหลังวิธีออกแบบของเขา คือ

  1. สร้างคุณค่า (Create Value)บริษัทต้องกำหนดคุณค่าของบริษัทเองให้ได้ว่าคืออะไร และคุณค่าของบริษัทที่กำหนดขึ้นนั้นต้องสร้างประโยชน์ให้กับลูกค้าได้จริงด้วย
  2. วางกลยุทธ์ที่เชื่อมโยงกับความเป็นมนุษย์ (Human Outcome Strategy) – เมื่อรู้แล้วว่าสิ่งที่จะสื่อคืออะไร จึงมาออกแบบกลยุทธ์ว่าจะสื่อสารออกไปอย่างไรบ้าง โดยต้องคำนึงถึงว่ากลยุทธ์นั้นจะเชื่อมโยงกับมนุษย์ (Human Outcome)
  3. วางวิธีการในเชิงแทคติคส์ (Tactics Solutions) – ในแต่ละช่องทางการสื่อสาร จะมีแทคติคส์ต่างๆ ที่นำมาใช้เป็นเครื่องมือ นั่นคือสิ่งที่ผู้บริโภคจะเข้ามาสัมผัส หากเป็นร้านค้าปลีกก็เป็นการออกแบบแต่ละ touchpoint ในร้านว่าจะเป็นอย่างไร

“ยกตัวอย่างวิธีคิดตามขั้นตอนนี้ หากจะสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ขึ้นมาสักแห่งหนึ่ง สิ่งแรกที่ควรคิดถึงคือ ‘ประสบการณ์’ ที่คนจะได้รับเมื่อเข้ามาในโครงการนี้คืออะไร มากกว่าเริ่มต้นจากวางโครงร่างสถาปัตยกรรมว่าจะมีทั้งหมดกี่ตึก” Kobe กล่าว

Tim Kobe
Tim Kobe ผู้ก่อตั้ง Eight Inc.

เขายังอธิบายเพิ่มด้วยว่า วิธีการทำงานแบบนี้เหมือนกับสร้าง “มาสเตอร์แพลนของการสัมผัสประสบการณ์แบรนด์” ขึ้นมาก่อน จากนั้นจึงลงรายละเอียดว่าจะทำอะไรบ้าง ในขั้นตอนเหล่านี้ถึงจะเป็นการพูดคุยเรื่องงบประมาณ และความทะเยอทะยานของเจ้าของแบรนด์

ผลที่ออกมาจึงผ่านการวางแผนมาตั้งแต่ต้น “ลองคิดถึง Apple คุณเข้าใจแบรนด์นี้จากอะไรบ้าง? จากตัวสินค้า จากโฆษณา จากพนักงานในร้าน ทุกอย่างประกอบกัน” Kobe กล่าวย้ำ

Apple Store
Apple Store สาขาชิบูย่า ประเทศญี่ปุ่น

 

แบรนด์เก่าก็ “เปลี่ยน” ตัวเองให้ “โดดเด่น” ได้

การสร้างคุณค่าของตัวเอง ไม่จำเป็นว่าจะต้องยึดติดกับสิ่งที่แบรนด์เคยนำเสนอมาตลอด Kobe ยกตัวอย่างงานที่ประสบความสำเร็จงานหนึ่งของเขาในฟิลิปปินส์ Eight Inc. มีโอกาสร่วมงานกับ Globe Telecom ซึ่งในอดีตเคยเป็นเบอร์ 3 ในตลาดโทรคมนาคมของประเทศ

สิ่งที่สตูดิโอเข้าไปเปลี่ยน Globe Telecom คือ ‘วิธีคิด’ โดยปรับใหม่ให้บริษัทไม่ใช่ผู้บริการโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ต แต่เป็น “บริษัทบริการความบันเทิง”

“อย่าไปคิดว่าเรากำลังขายท่อส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ต แต่เราขาย ‘ช่องทาง’ ให้คุณเข้าถึง ‘คอนเทนต์’ เมื่อคิดแบบนี้และสื่อสารแบบนี้ คนจะรู้สึกเชื่อมสัมพันธ์กับแบรนด์ได้มากกว่า” Kobe กล่าว

Globe Telecom ฟิลิปปินส์ จากบริษัทโทรคมนาคม วางคุณค่าแบรนด์ตัวเองใหม่ว่าเป็นบริษัทบริการความบันเทิง

โชคดีที่ซีอีโอของ Globe Telecom ต้องการจะฉีกแนวบริษัทให้แตกต่างอยู่แล้ว เขาจึงตอบรับการเปลี่ยนมุมมอง จนปัจจุบันบริษัทแตกไลน์ธุรกิจไปเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์เองแล้วด้วย และส่งให้บริษัทขึ้นไปเป็นเบอร์ 1 ของตลาดโทรคมนาคมฟิลิปปินส์ มีมาร์เก็ตแชร์เพิ่มจาก 22% เป็น 56%

เรียกว่าเป็นบทพิสูจน์ความคุ้มค่าและจับต้องได้ในทางธุรกิจ จากเดิมที่ผู้บริหารมักจะมองว่าการออกแบบประสบการณ์ของแบรนด์เป็นเรื่องนามธรรม และไม่ส่งผลอะไรกับยอดขาย

 

“เมตาเวิร์ส” ต้องคิดแบบใหม่

วิธีคิดพื้นฐานในการออกแบบของ Kobe เกิดขึ้นตั้งแต่กว่า 30 ปีก่อน แล้วเมื่อเข้าสู่โลกยุคใหม่ที่มีเครื่องมือใหม่ๆ พื้นที่ใหม่ๆ อย่างเช่น “เมตาเวิร์ส” จะมีอะไรเปลี่ยนหรือไม่

“เมตาเวิร์สก็เป็น touchpoint อย่างหนึ่ง” Kobe กล่าว “เพียงแต่ในนั้นเป็นจินตนาการใหม่โดยสิ้นเชิง เพราะไม่มีกฎฟิสิกส์มากำกับการออกแบบเหมือนกับโลกจริง”

อย่าคิดแบบเดียวกับโลกกายภาพ จะน่าเสียดายมากหากแบรนด์ไหนเข้าไปในโลกเมตาเวิร์สแล้วใช้วิธี Copy + Paste ลอกเลียนโลกกายภาพมาตรงๆ เพราะไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นสำหรับผู้บริโภคเลย

เขามองว่าช่วงนี้เป็นเหมือนยุค ‘ตื่นทอง’ ของโลกเมตาเวิร์ส ทุกคนต่างรีบเข้าไปจับจองพื้นที่ เข้าไปทดลองสิ่งต่างๆ แต่อาจจะยังไม่มีใครเจอสูตรสำเร็จว่าควรออกแบบอย่างไร ซึ่งเขาเห็นว่าถ้าใครก็ตามมีความคิดสร้างสรรค์มากพอ ก็จะได้พลังการสร้างประสบการณ์ผ่านเมตาเวิร์สก่อนคนอื่น

“ที่แน่ๆ คืออย่าคิดแบบเดียวกับโลกกายภาพ จะน่าเสียดายมากหากแบรนด์ไหนเข้าไปในโลกเมตาเวิร์สแล้วใช้วิธี Copy + Paste ลอกเลียนโลกกายภาพมาตรงๆ เพราะไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นสำหรับผู้บริโภคเลย” Kobe กล่าว

 

โลกเปลี่ยนเร็ว การออกแบบต้องพร้อมเปลี่ยนให้ทัน

Kobe ยังตอบคำถามของเราด้วยว่า ในยุคที่ผู้บริโภคเปลี่ยนรสนิยมเร็วขึ้น เบื่อง่ายขึ้น ปรัชญาการออกแบบจะเป็นอย่างไร

เขายกตัวอย่างข้อคิดเห็นของนักเขียนรายหนึ่งซึ่งมองว่า สังคมโลกเราในอดีตเคยเติบโตเป็นเส้นตรง (linear) การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นช้า จนกระทั่งเมื่อเร็วๆ นี้เองที่สังคมกำลังเปลี่ยนด้วยความเร็วของกราฟทรงโค้งขึ้น (exponential) เรากำลังอยู่ในโค้งที่จะยิ่งโค้งเร็วขึ้นเรื่อยๆ

ดังนั้น ผู้ที่จะรับมือได้ต้องมีโมเดลการปรับตัวที่พร้อมขยับปรับเปลี่ยนเสมอ (dynamics) เพื่อให้ทันกับความต้องการใหม่ๆ ซึ่ง Kobe เองมองบวกว่าในสายงานของเขา เห็นว่าการใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อสร้างโซลูชันยังตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของโลกอยู่

น่าสนใจว่าการมาเมืองไทยของเขาครั้งนี้ เขามีลิสต์ลูกค้าในมือแน่นเอี้ยด Kobe กล่าวว่าขณะนี้เขากำลังทำงานร่วมกับแบรนด์หลายภาคธุรกิจ เช่น เครือสินธร (โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ), AIS ซึ่งจะมีการปฏิรูปประสบการณ์ลูกค้า, Jaspal และ CPS แบรนด์เสื้อผ้าในเครือยัสปาล รวมถึงธนาคารขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของไทยซึ่งเขาขออุบไว้ก่อนว่าเป็นใคร

สะท้อนให้เห็นว่าเจ้าของแบรนด์ไทยก็พร้อมแล้วที่จะลงทุนสร้างมาสเตอร์แพลนการออกแบบประสบการณ์ และผู้บริโภคน่าจะได้เห็นมิติใหม่ของการแข่งขันทางธุรกิจที่น่าสนใจขึ้นในอนาคต

]]>
1376217