บริษัท บิวเทรี่ยม จำกัด – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 10 Jul 2024 04:01:52 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “Beautrium x Bonchon” คอลแลปข้ามขั้ว ส่งลิปทินต์ “ซอสไก่เกาหลี” จับกระแส “K-Beauty” https://positioningmag.com/1481965 Tue, 09 Jul 2024 07:53:36 +0000 https://positioningmag.com/?p=1481965 “Beautrium x Bonchon” จับมือข้ามขั้วอุตสาหกรรมสร้างผลิตภัณฑ์คอลแลป “Korean Spicy Chicken Tint Oil” ทำการตลาดเรียกเสียงฮือฮาด้วยผลิตภัณฑ์แหวกแนวที่จะเป็นของแถมแบบ Limited Edition ให้กับลูกค้าร้านบิวเทรี่ยม

ตัวผลิตภัณฑ์เป็นลิปสติกแบบเหลวที่ใช้แรงบันดาลใจจาก “ซอสไก่เกาหลี” ของบอนชอน ออกมาเป็น “ลิปทินท์” สีแดงขุ่นเหมือนซอส ทาแล้วทิ้งสเตนบนปากเหมือนเพิ่งรับประทานไก่บอนชอน (Bonchon) แต่ให้กลิ่นหอมหวานเหมือนลิปสติกปกติ พร้อมด้วยสารบำรุงริมฝีปาก

Korean Spicy Chicken Tint Oil เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีวางจำหน่าย แต่จะมอบให้กับลูกค้าร้านบิวเทรี่ยมที่ช้อปในสาขา Siam Square Flagship Store ครบ 999 บาท (มีจำนวนจำกัด) เท่านั้น

Beautrium x Bonchon
Korean Spicy Chicken Tint Oil จะมาในกล่องแพ็กเกจไก่ทอดของจริงของบอนชอน!

“อติโรจน์ โรจน์รัตนวลี” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท บิวเทรี่ยม จำกัด เปิดเบื้องหลังการจับมือคอลแลประหว่างวงการ “อาหาร” กับ “บิวตี้” ครั้งนี้ เกิดจากแคมเปญการตลาดของบิวเทรี่ยมเองที่มีแคมเปญใหญ่แห่งปี “Beautrium K-Beauty Fest” พุ่งเป้าตลาดเครื่องสำอางและความงามแบบเกาหลี นำแบรนด์เครื่องสำอางเกาหลีจัดโปรโมชันมากมายในร้าน

ทำให้บริษัทต้องการจะสร้างแรงกระเพื่อมเพิ่มขึ้นในกลุ่ม K-Beauty จึงใช้กลยุทธ์การตลาด “คอลแลป” สินค้าซึ่งกำลังเป็นที่นิยมและผู้บริโภคให้ความสนใจสูง โดยเลือกอุตสาหกรรมอาหารเพื่อความแปลกแหวกแนว จึงออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ลิปที่ได้แรงบันดาลใจจากอาหาร

ส่วนสาเหตุที่เลือกผนึกกำลังกับ “บอนชอน” เพราะมองว่าเป็นแบรนด์ร้านอาหารเกาหลีที่อยู่มานานในประเทศไทย มีฐานลูกค้าใกล้เคียงกันคือเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ และบอนชอนใช้สีแดงเป็นสีหลักเหมือนบิวเทรี่ยม ทำให้ภาพลักษณ์แบรนด์ไปด้วยกันได้

อติโรจน์กล่าวด้วยว่า กระแส K-Beauty ยังคงเป็นที่นิยมในไทย เฉพาะยอดขายของบิวเทรี่ยมนั้นเมื่อปี 2566 สินค้าบิวตี้ของเกาหลีทำยอดขายเติบโตถึง 200% จากปีก่อนหน้า และคาดว่าปี 2567 น่าจะโตต่อเนื่องอีก 150% เพราะทางร้านมีการจัดแคมเปญการตลาดและมีการนำเข้าแบรนด์เครื่องสำอางเกาหลีใหม่ๆ เข้ามาอีกจำนวนมาก

ตลาดเครื่องสำอางนำเข้าในไทยนั้น “เครื่องสำอางเกาหลี” ถือเป็นเครื่องสำอางจากต่างประเทศอันดับ 3 ที่มีการนำเข้า โดยข้อมูลจากสำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า เมื่อปี 2566 ตลาดเครื่องสำอาง สบู่ และสกินแคร์ 5 อันดับแรกที่ประเทศไทยนำเข้ามามูลค่าสูงสุด ได้แก่ 1.ฝรั่งเศส (สัดส่วน 18.6%) 2.จีน (สัดส่วน 16.1%) 3.เกาหลีใต้ (สัดส่วน 12.1%) 4.สหรัฐอเมริกา (สัดส่วน 9.4%) และ 5.อินโดนีเซีย (สัดส่วน 8.7%)

]]>
1481965
BEAUTRIUM จากร้านเล็กๆ ที่ประตูน้ำ บุกเบิกโดย 2 พี่น้อง สู่อาณาจักรบิวตี้ 2,000 ล้าน https://positioningmag.com/1451163 Thu, 09 Nov 2023 08:19:55 +0000 https://positioningmag.com/?p=1451163 ตลาดมัลติแบรนด์สโตร์ยังคงเป็นตลาดเนื้อหอม โดยเฉพาะบิวตี้สโตร์ ตอนนี้มีหลากหลายแบรนด์ทั้งแบรนด์ไทย และต่างชาติต่างตบเท้าเข้ามา ยกตัวอย่างเช่น EVEANDBOY, Shephora, Multy, BEAUTRIUM และ KIS Beauty Store

BEAUTRIUM เป็นหนึ่งในแบรนด์ใหญ่สัญชาติไทย ที่มีอายุ 12 ปีแล้ว กำลังก้าวเข้าสู่รายได้หลัก 2,000 ล้านบาท โดยที่จุดเริ่มต้นของแบรนด์เกิดจากร้านเล็กๆ ที่ประตูน้ำเท่านั้น

BEAUTRIUM ได้เริ่มก่อตั้งในปี 2555 โดย 2 พี่น้อง บอย – จิรวุฒิ โรจน์รัตนวลี CEO และ แจ็ค – อติโรจน์ โรจน์รัตนวลี CMO ในขณะนั้นบอยอายุได้ 30 ปี และแจ็คอายุ 27 ปีเท่านั้น จริงๆ แล้วทั้งคู่มีธุรกิจครอบครัวเป็นโรงงานผลิตเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย รับผลิตแบบ OEM ให้แบรนด์ต่างๆ แต่เริ่มมองเห็นโอกาสของตลาดบิวตี้ เครื่องสำอางว่า ในยุคนั้นยังไม่มีร้านที่มีสินค้าแบบครบวงจรอยู่ในที่เดียว ใครที่อยากหาสกินแคร์ เครื่องสำอางต้องหาซื้อตามตู้กระจกตามศูนย์การค้า หรือดรักสโตร์ ประกอบกับทั้งคู่มีคอนเนกชั่นของกลุ่มเพื่อนที่อยู่ในแวดวงเครื่องสำอางอยู่ด้วย เลยตัดสินใจลงมาทำธุรกิจนี้

BEAUTRIUM
BEAUTRIUM สาขาแรกที่ประตูน้ำ

เลือกโลเคชั่นที่เลือกเปิดสาขาแรกก็คือ “ประตูน้ำ” (ศูนย์การค้าวอเตอร์เกท พาวิลเลี่ยน) เพราะตอนนั้นมีทั้งขายส่ง และขายปลีก เลยเลือกที่ประตูน้ำเพราะมีการขายส่งเสื้อผ้าเยอะ เป็นร้านเล็กๆ เป็นแค่โมเดลซื้อมาขายไป แต่พอเปิดร้านไปได้พักหนึ่งก็พบว่า ลูกค้าส่วนใหญ่จะซื้อปลีกเยอะ จึงย้ายร้านมาที่สยามสแควร์ ในตอนนี้เป็นดิจิทัลเกตเวย์ แต่ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็นเซ็นเตอร์พอยท์ ออฟ สยามสแควร์

คำว่า BEAUTRIUM มาจากการรวมกันของคำว่า Beauty สินค้าความสวยความงาม และ Atrium อาณาจักร ที่กว้างๆ รวมกันเป็นแหล่งรวบรวมสินค้า และนวัตกรรมต่างๆ

BEAUTRIUM

หลังจากเปิดสาขาที่สยามแล้ว ในปี 2559 ก็เริ่มจำหน่ายสินค้าอินเตอร์แบรนด์มากขึ้น ปี 2561 เริ่มจำหน่ายช่องทางออนไลน์ และปี 2566 ก็เริ่มขยายสาขาที่ต่างจังหวัดครั้งแรก ทำให้ปัจจุบัน BEAUTRIUM มีสาขารวมทั้งหมด 34 สาขา ภายในปีนี้จะเปิดเพิ่มอีก 3 สาขา สิ้นปีก็จะมีครบ 37 สาขา

ปัจจุบัน BEAUTRIUM มีสินค้าพันกว่าแบรนด์ รวมกว่า 100,000 SKU ภายในร้านเป็นกลุ่มสกินแคร์ และเครื่องสำอาง 70% ได้ขยายเพิ่มไลน์อื่นๆ เช่น บิวตี้ แกดเจ็ต, ไลฟ์สไตล์, น้ำหอม, ขนม และเครื่องดื่ม เพื่อให้ครอบคลุมทุกเจน และทุกไลฟ์สไตล์มากขึ้น

โอกาสอยู่ที่ต่างจังหวัด ต้องเปิดให้ครบทุกภาค

BEAUTRIUM มีพื้นที่ร้านค้าเฉลี่ยอยู่ที่ 200-700 ตารางเมตร แบ่งเป็น 4 โมเดล ได้แก่ แฟลกชิปสโตร์ มีพื้นที่ขนาดใหญ่สุด, เมก้า สโตร์, ร้านขนาดปกติ และร้านขนาดเล็ก พื้นที่ 150 ตารางเมตร เป็นโมเดลทดลองเน้นเข้าพื้นที่ชุมชน ลองเปิดสาขาแรกที่ตึกจี ทาวเวอร์ และกำลังศึกษาผลตอบรับอยู่

ในปีนี้ได้ประกาศงบลงทุน 2,000 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศภายในปี 2570 แต่แผนในระยะสั้นต้องการขยายสาขาให้ครบทุกภูมิภาคก่อนในปี 2567 ตอนนี้ยังขาดสาขาที่ภาคเหนือ ในปีหน้าจะขยายสาขาอีก 10 สาขา

BEAUTRIUM

จิรวุฒิ โรจน์รัตนวลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวเทรี่ยม จำกัด บอกว่า

“ในสิ้นปีนี้ BEAUTRIUM มีสาขารวม 37 แห่ง ใน 10 จังหวัด ตั้งเป้าว่าปีหน้าจะเปิดสาขาให้ครบทุกภูมิภาค ก่อนที่จะขยายให้ครบทุกจังหวัดภายในปี 2570 ซึ่งพื้นที่ต่างจังหวัดมีโอกาสสูง คู่แข่งน้อยกว่า ส่วนใหญ่จะเป็นร้านท้องถิ่นเจ้าใหญ่ที่อาจจะมีสินค้าไม่ครบ ตอนนี้พฤติกรรมของคนต่างจังหวัดไม่ต่างจากคนกรุงเทพฯ เท่าไหร่ มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ต้องการสินค้าเหมือนกับคนกรุง”

อาณาจักรบิวตี้ 2,000 ล้าน

ในปีนี้ BEAUTRIUM มีอายุครบ 12 ปี เมื่อถามถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญของบริษัท สร้างการเติบโตแบบกก้าวกระโดดนั้น ต้องย้อนกลับไปปี 2561 ที่เริ่มขยายสาขาเยอะขึ้น และมีแบรนด์ใหม่ๆ เข้ามาเติม ทำให้ยอดขายเริ่มเติบโตสูงขึ้นเรื่อยๆ

และเมื่อปี 2565 ที่ผ่านมานี่เอง BEAUTRIUM มีรายได้แตะพันล้านครั้งแรก ซึ่งเป็นช่วงที่เริ่มคลายล็อกดาวน์ และเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวอย่างเต็มที่หลังจากสถานการณ์ COVID-19

BEAUTRIUM

คาดว่าปีนี้จะมีรายได้แตะ 2,000 ล้านบาท มีการเติบโต 112% แบ่งสัดส่วนรายได้เป็น สกินแคร์ 37% เครื่องสำอาง 35% น้ำหอม 8% และอื่นๆ 20% โดยที่ลูกค้ามีการใช้จ่ายเฉลี่ยที่ 800 บาท/บิล

หลังจากที่ขยายสาขาในไทยได้ครอบคลุมแล้ว ตอนนี้ยังเริ่มศึกษาตลาดต่างประเทศเพิ่มเติม เริ่มจากโซน CLMV และเอเชีย มีการศึกษาด้านกฎหมาย อ.ย. และสภาพธุรกิจแต่ละประเทศ ตอนนี้มองว่าประเทศเวียดนามน่าสนใจมากที่สุด เพราะมีหลายๆ อย่างใกล้เคียงประเทศไทย

]]>
1451163