บ้านปู เน็กซ์ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 18 Jul 2023 03:45:45 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 “บ้านปู เน็กซ์” เปิดตัว “คาเฟ่พลังงานสะอาด 100%” หวังเป็นโมเดลต้นแบบให้กลุ่มธุรกิจรีเทล https://positioningmag.com/1438029 Mon, 17 Jul 2023 16:26:50 +0000 https://positioningmag.com/?p=1438029 “บ้านปู เน็กซ์” ร่วมกับ “Roots” เปิดตัวร้านกาแฟ pop-up “Infinite Café Powered by Banpu NEXT” ภายในสวนเบญจกิติ โดยเป็น “คาเฟ่พลังงานสะอาด 100%” ใช้ไฟฟ้าจากระบบโซลาร์ Off-grid พร้อมออกแบบเมนูที่ช่วยลดการปลดปล่อยคาร์บอนสู่โลก หวังเป็นโมเดลต้นแบบให้กับกลุ่มธุรกิจรีเทล หันมาใช้โซลูชันเพื่อความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

“สินนท์ ว่องกุศลกิจ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด เปิดตัวโปรเจ็กต์ใหม่ “Infinite Café Powered by Banpu NEXT” ร้านกาแฟ pop-up ที่จะเป็นโปรโตไทป์ของร้านกาแฟที่ใช้พลังงานสะอาด 100% ในการทำธุรกิจทุกขั้นตอน

ร้านกาแฟ Infinite Café นี้ตั้งอยู่ใน “สวนเบญจกิติ” บริเวณลานจอดรถ โดยตัวร้านมีขนาด 4 x 4 x 4 เมตร ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป และรอบบริเวณร้านมีที่นั่งพักผ่อน (rest area) ซึ่งติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเช่นกัน รวมแล้วใช้พื้นที่ร้านและที่นั่งพักผ่อน 92 ตารางเมตร

ระบบโซลาร์รูปท็อปนี้มีขนาด 19 kW และภายในร้านยังติดตั้งแบตเตอรีขนาด 69 kWh เพื่อกักเก็บไฟฟ้าไว้ใช้ในยามฝนตกหรือแดดอ่อนอีกด้วย ทำให้ระบบไฟฟ้าของ Infinite Café เป็นระบบพลังงานสะอาด Off-grid ไม่ต้องพึ่งพาไฟฟ้าจากโครงข่ายหลักได้แบบ 100%

คาเฟ่พลังงานสะอาด บ้านปู
Infinite Café Powered by Banpu NEXT มีโซลาร์รูฟบนหลังคาร้านและที่นั่งพักผ่อนโดยรอบ

Infinite Café จะเปิดจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม – 24 กันยายน 2566 เปิดทุกวัน เวลา 07:00-13:00 น.

ด้าน “วรัตต์ วิจิตรวาทการ” เจ้าของร้าน Roots เชนร้านกาแฟที่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความยั่งยืนซึ่งปัจจุบันขยายไปแล้ว 11 สาขา และได้เข้ามาเป็นพันธมิตรเพื่อทดลองการพัฒนาร้านคาเฟ่พลังงานสะอาดนี้

วรัตต์ระบุว่า ภายในร้านต้นแบบมีการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า ได้แก่ ตู้แช่เย็น, เครื่องชงกาแฟ, เครื่องกรองน้ำ, หน้าจอแคชเชียร์ และพัดลมทำความเย็นให้พนักงาน (เป็นร้าน pop-up ไม่ติดแอร์) ซึ่งหลังจากทดลองระบบมา 4 วัน พบว่าระบบไฟฟ้าจากบ้านปู เน็กซ์มีเสถียรภาพ จ่ายไฟได้ไม่สะดุด และเพียงพอต่อความต้องการเหล่านี้ โดยจะเห็นว่าระดับพลังงานไฟฟ้าที่กักเก็บในแบตเตอรียังไม่เคยลดต่ำกว่า 96% อย่างไรก็ตาม จะประเมินผลกันอีกครั้งหลังจากจบระยะเวลาจำหน่ายจริงประมาณ 2 เดือน

คาเฟ่พลังงานสะอาด บ้านปู
แก้วเครื่องดื่มของร้านใช้วัสดุที่สามารถย่อยสลายได้ภายใน 45 วัน

นอกจากเป็น “คาเฟ่พลังงานสะอาด 100%” แล้ว Roots ยังเข้ามาช่วยในการออกแบบเมนูที่ลดคาร์บอนให้ได้มากที่สุดที่ทำได้ โดยมีการคัดสรรแหล่งเมล็ดกาแฟออร์แกนิกที่มีกระบวนการผลิตที่รบกวนธรรมชาติให้น้อยที่สุด มีการใช้นมโอ๊ตทดแทนนมวัวในทุกเมนูเพราะเป็นประเภทนมที่ทำลายสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า และ 50% ของเมนูในร้านนี้จะเป็นกาแฟสกัดเย็น (cold brew) ซึ่งลดการใช้พลังงาน

Roots ยังออกแบบเมนูพิเศษที่มีจำหน่ายเฉพาะ Infinite Café คือ Sugarcane Cold Brew & Honey Foam ซึ่งคัดแหล่งที่มาของวัตถุดิบให้ลดการปล่อยคาร์บอน ทำให้เมนูนี้จะลดการปล่อยคาร์บอนลง 750 กรัมเมื่อเทียบกับเครื่องดื่มแบบเดียวกันโดยทั่วไป

(ซ้าย) “สินนท์ ว่องกุศลกิจ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด และ (ขวา) “วรัตต์ วิจิตรวาทการ” เจ้าของร้าน Roots

สินนท์กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าให้การจำหน่ายสินค้าตลอด 2 เดือนของ Infinite Café จะมีส่วนช่วยให้ลดการปลดปล่อยคาร์บอนได้รวม 5,000 กิโลกรัมเมื่อเทียบกับการจำหน่ายเครื่องดื่มในร้านปกติ และเป็นร้านที่ช่วยสร้างการตระหนักรู้เรื่องสังคมไร้คาร์บอน

 

โมเดลต้นแบบที่หวังเป็นแรงบันดาลใจให้ “รีเทล” ขนาดเล็ก

บ้านปู เน็กซ์ นั้นเป็นผู้ให้บริการโซลูชันพลังงานสะอาดแบบครบวงจร ที่ผ่านมามีการติดตั้งระบบพลังงานหมุนเวียนและแบตเตอรีให้กับธุรกิจต่างๆ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม คลังสินค้า ศูนย์การค้า ตลาด โรงเรียน โรงพยาบาล โรงแรม ฯลฯ

อย่างไรก็ตาม โครงการส่วนใหญ่ที่ต้องการติดตั้งจะเป็นโครงการขนาดใหญ่หลายร้อยกิโลวัตต์ต่อแห่ง แต่โมเดลต้นแบบของร้าน Infinite Café คาเฟ่พลังงานสะอาด 100% นี้จะเป็นแรงบันดาลใจว่าธุรกิจรีเทลขนาดเล็กแบบนี้ก็สามารถติดตั้งระบบพลังงานสะอาดได้

บริเวณด้านหลังร้านคือที่เก็บแบตเตอรี และมีถังทิ้งช่วยแยกขยะ

“เราลงทุนร้านนี้เพื่อเป็นโชว์เคสว่าขนาดร้านเท่านี้ก็ทำได้เหมือนกัน” สินนท์กล่าว “จากนี้ขอดู 2 เดือนหลังจากนี้ก่อนว่าร้าน pop-up ได้รับผลตอบรับอย่างไร จะต่อยอดไปในทางไหน และลูกค้าอาจจะได้เห็นไอเดียว่าโซลูชันของเราสามารถปรับแบบไหนได้บ้าง”

ทั้งนี้ บ้านปู เน็กซ์ระบุว่าโซลูชันของบริษัทเหมาะที่จะติดตั้งให้กับลูกค้าที่ต้องการใช้ไฟฟ้าขนาดเริ่มต้น 10 kW หรือมีค่าไฟฟ้ารายเดือน 10,000 บาทขึ้นไป ซึ่งเป็นระดับค่าไฟฟ้าที่เหมาะสมจะเปลี่ยนมาลงทุนระบบพลังงานสะอาดแล้วสามารถคืนทุนได้เร็ว

โครงการนี้คาดหวังจะสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ประกอบการหรือผู้บริหารที่มีการลงทุนร้านรีเทลหลายสาขา และสนใจด้านความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม ให้เห็นความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนระบบไฟฟ้าของร้านมาใช้พลังงานสะอาดทดแทน

]]>
1438029
เเผนเเก้เกมของ “บ้านปู” หลังกำไรลด 41% จากปีก่อน รุก EV – ทุ่มซื้อเเหล่งก๊าซในสหรัฐฯ https://positioningmag.com/1267320 Sat, 07 Mar 2020 06:41:50 +0000 https://positioningmag.com/?p=1267320 ในปี 2562 ที่ผ่านมา แนวโน้ม “ธุรกิจพลังงาน” สะท้อนถึงความท้าทายจากปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่างๆ ทั้งการชะลอตัวเศรษฐกิจโลก สงครามการค้า ความต้องการใช้พลังงานชะลอตัวจากปัจจัยสภาวะอากาศที่ไม่หนาวมากในข่วงฤดูหนาวของซีกโลกเหนือ และการแข็งค่าของเงินบาท

บริษัทธุรกิจพลังงานรายใหญ่ของเอเชีย-แปซิฟิกอย่าง บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU รับผลกระทบนี้ไปเต็มๆ เเม้จะยังมีกำไรถึง 2 หมื่นล้านบาท แต่ก็ลดลงกว่า 41% จากปีก่อน

โดยภาพรวมการดำเนินงานปี 2562 ของบริษัท มีรายได้จากการขายรวม 2,759 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 85,660 ล้านบาท) ลดลงจากปีก่อน 722 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 22,416 ล้านบาท) คิดเป็น 21% โดยมีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายตัดจ่าย (EBITDA) รวม 695 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 21,578 ล้านบาท) ลดลง 41% จากปีก่อนหน้า

เเละมีกำไรสุทธิก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน 75 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2,329 ล้านบาท) ลดลง 66% จากปี 2561 จากการแข็งค่าของเงินบาทอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเหรียญสหรัฐในปีที่ผ่านมาทำให้เกิดผลขาดทุนจากการแปลงค่างบการเงินจำนวน 95 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2,950 ล้านบาท) งบการเงินรวมจึงบันทึกขาดทุนสุทธิ 20 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 621 ล้านบาท)

“ผลขาดทุน 20 ล้านเหรียญนี่ถือว่าเราทำได้ดีเเล้ว เพราะบริษัทต้องใช้บริการเงินตราต่างประเทศถึง 10 สกุล เเละเราเป็นเงินดอลลาร์ โดยปีที่ผ่านมาค่าเงินบาทไทยเเข็งค่ามาก เเละอัตราเเลกเปลี่ยนก็ผันผวน เเต่มองว่าปีนี้ค่าเงินบาทจะอ่อนตัวขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อเราเเล้ว” สมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) กล่าว

ทั้งนี้ ผู้บริหารบ้านปู มองแนวโน้มการอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทว่า เริ่มอ่อนค่าลง จากสิ้นปี 2562 อยู่ที่ 30.35 บาทต่อดอลลาร์ แต่ช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ เงินบาทเริ่มอ่อนค่าลงกว่า 1 บาทต่อดอลลาร์แล้ว ถือเป็นสัญญาณที่ดีขึ้น

ปีนี้จึงเป็นปีที่ “บ้านปู” หวังจะพลิกกลยุทธ์ “ฟื้นกำไร” ขึ้นมา เเม้ยังต้องเจอกับจากปัจจัยเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวเเละผลกระทบจากไวรัสโคโรนา โดยบริษัทวางเเผนดำเนินธุรกิจปี 2563 ไว้ หลักๆ 3 ด้านดังนี้

ลุยซื้อเเหล่งก๊าซฯ ในสหรัฐฯ หวัง “บาร์เนตต์” คืนทุนได้ใน 6 ปี

เมื่อเดือนธันวาคม ปี 62 บ้านปูได้ลงทุนเป็นจำนวน 770 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 23,907 ล้านบาท) เพื่อเข้าซื้อแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ในมลรัฐ เท็กซัส สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีอุปสงค์การใช้ก๊าซธรรมชาติมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาคิดเป็น 15% ของความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติรวมของประเทศ ทำให้บ้านปูขึ้นติดท็อป 20 กลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติในอเมริกา

“การเข้าซื้อบาร์เนตต์ ยังมีโอกาสคืนทุนได้เร็ว โดยคาดการณ์ว่าสามารถคืนทุนให้บ้านปูได้ภายใน 6 ปี ขณะที่มีปริมาณสำรองการผลิตระยะยาวอย่างน้อย 16 ปี”

ซีอีโอบ้านปูบอกอีกว่า การเข้าซื้อกิจการแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์นั้น อยู่ในช่วงเวลาและราคาที่น่าพึงพอใจ มีความเสี่ยงและมีต้นทุนการดำเนินการต่ำ ทำให้พอร์ตของบ้านปูหลากหลายขึ้น จากเดิมที่มีแหล่งก๊าซธรรมชาติ Marcellus ในพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือของมลรัฐเพนซิลเวเนียอยู่แล้ว

ทั้งนี้ ยอดขายก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ 2 แหล่งที่บ้านปูมีอยู่ทั้งบาร์เนตต์ เเละ Marcellus จะอยู่ที่ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ขณะที่ราคาขายคาดว่าจะอยู่ที่ 3-4 เหรียญต่อล้านบีทียู จากปี 2562 อยู่ที่ 1.38 เหรียญต่อล้านบีทียู

โดยบริษัทตั้งงบลงทุนปีนี้ อยู่ที่ 930 ล้านเหรียญสหรัฐ แบ่งเป็น สัดส่วน 90% (840 ล้านเหรียญ) จะใช้สำหรับขยายการลงทุนในธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และพลังงานหมุนเวียนเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตตามแผน ส่วนอีก 10% หรือ 90 ล้านเหรียญ จะใช้สำหรับซ่อมบำรุงเครื่องจักรในเหมืองถ่านหินต่างๆ เช่น ในออสเตรเลีย

พร้อมตั้งเป้าหมายจะมีกำลังผลิตถ่านหินรวม อยู่ที่ 46.7 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2562 มีกำลังผลิตรวม อยู่ที่ 45.3 ล้านตัน ขณะที่ราคาขายจะใกล้เคียงช่วงไตรมาส 3-4 ของปีก่อน อยู่ที่ประมาณ 70 เหรียญต่อตัน

ยอดขายถ่านหินของบ้านปู เเบ่งตามรายประเทศ ในปีพ.ศ. 2562

ตั้ง “บ้านปู เน็กซ์” เน้นพลังงานสะอาด รุก EV เเละแบตเตอรี่ไฟฟ้า

สำหรับบริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด ที่มีทุนจดทะเบียน 7,919 ล้านบาท แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมาจะดำเนินงานเป็นบริษัทหลัก (Flagship) ของกลุ่มบริษัทบ้านปู เพื่อมุ่งลงทุนและพัฒนาธุรกิจพลังงานสะอาด

การดำเนินธุรกิจต่างๆ เช่น ธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน การให้บริการวางระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด การออกแบบและผลิตยานยนต์ไฟฟ้า การผลิตและจำหน่ายแบตเตอรี่ไฟฟ้า ระบบกักเก็บพลังงาน และระบบการจัดการเทคโนโลยีพลังงาน พัฒนาสมาร์ทโซลูชันด้านพลังงาน

“ความคืบหน้าในปี 2562 เราขยายพอร์ตธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคากับลูกค้าพรีเมียมทั่วประเทศ รวมถึงร่วมมือด้านโลจิสติกส์ทั้งการขนส่งสินค้าและพัสดุไปรษณีย์ด้วยยานยนต์ไฟฟ้า และการขยายกำลังผลิตโรงงานแบตเตอรี่ลิเธียมอิออน 1 กิกะวัตต์ต่อชั่วโมง”

เป้าหมายของ “บ้านปู เน็กซ์” ในปีพ.ศ. 2568

เล็งตลาดใหม่ อินเดีย-บังกลาเทศ

ปัจจุบันบ้านปูทำธุรกิจใน 10 ประเทศทั่วเอเชีย-แปซิฟิก โดยธุรกิจที่สร้างรายได้หลักให้บริษัทคือกลุ่มธุรกิจแหล่งพลังงาน โดยบริษัทกำลังพิจารณาถึงตลาดที่มีศักยภาพใหม่อย่าง อินเดียและบังกลาเทศ

“ธุรกิจผลิตพลังงาน เราจะตั้งเป้าหมายการมีกำลังการผลิตรวม 5.3 กิกะวัตต์เทียบเท่า ภายในอีก 5 ปี เน้นเทคโนโลยีประสิทธิภาพสูงและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามกลยุทธ์ Greener & Smarter”

เมื่อถามถึง 3 ปัจจัยเสี่ยงของธุรกิจพลังงานในปีนี้ สมฤดีตอบว่า อันดับเเรก คือ Covid-19 เป็นปัจจัยเสี่ยงภายนอกที่ยังควบคุมได้ลำบาก เเต่เชื่อว่าเเต่ละประเทศน่าจะมีมาตรการรองรับที่ดี โดยตอนนี้ความเสี่ยงที่เชื้อเเพร่กระจายไปสู่ยุโรป ก็ส่งผลต่อความตื่นตระหนก ความคิดของนักลงทุน ส่งผลต่อตลาดหุ้นทั่วโลกรวมทั้งไทย

“โรงงานเเละเหมืองถานหินของบ้านปูในจีน ยังไม่ได้รับผลกระทบมากนัก อาจจะมีเเค่เรื่องเเรงงาน ซึ่งตอนนี้กลับมากลับมาทำงานตามปกติเเล้ว”

ตามมาด้วยอันดับที่ 2 คือ การลดลงของราคาเเก๊สธรรมชาติเเละถ่านหิน ที่มีโดยตรงต่อรายได้ของบ้านปู เเละอันดับ 3 คือเรื่อง กำลังการผลิต “ปีที่เเล้วเราตกเป้าที่ออสเตรเลียเพราะไฟป่า เเละที่ลาวมีเเผ่นดินไหว ปีนี้เริ่มฟื้นกลับขึ้นมาเเล้ว ซึ่งเราก็ต้องมีมาตรการรองรับในจุดนี้”

“ในกรณีสถานการณ์เลวร้ายมาก เราก็มีเป้าหมายจะลดต้นทุนในเเง่ของการดำเนินงานจะสามารถรับมือได้โดยเฉพาะของบ้านปูเน็กซ์ เเละหากการระบาดดีขึ้น รัฐคงจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ซึ่งการใช้พลังงานก็จะเพิ่มขึ้น
ส่วนการเลือกตั้งสหรัฐฯ ในช่วงปลายปีนี้ ดีมานด์ในไตรมาส 4 ในตลาดก็น่าจะขึ้นพอสมควร”

 

*คำนวณโดยอ้างอิงอัตราเเลกเปลี่ยนที่ USD 1 : THB 31.0476 

]]>
1267320