มั่นคงเคหะการ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 11 Sep 2020 04:50:16 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 คิกออฟ! “รักษ” ศูนย์เวลเนส จาก 3 บิ๊กเนม “มั่นคง-บำรุงราษฎร์-ไมเนอร์” มูลค่า 2,000 ล้านบาท https://positioningmag.com/1296408 Fri, 11 Sep 2020 03:41:31 +0000 https://positioningmag.com/?p=1296408 มั่นคงเคหะการ พัฒนาโครงการ “รักษ” (อ่านว่า รัก-ษะ) ศูนย์เวลเนส รีทรีต 200 ไร่บนคุ้งบางกระเจ้า จ.สมุทรปราการ ดึงพันธมิตรศูนย์ VitalLife รพ.บำรุงราษฎร์ บริหารด้านการแพทย์ และไมเนอร์ดูแลด้านการบริการและอาหาร ราคาแพ็กเกจเริ่มต้น 60,000 บาท จับกลุ่มลูกค้าที่สนใจด้านสุขภาพ-เวลเนสทั่วโลก อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ COVID-19 ทำให้อัตราเข้าพักช่วงปีแรกน่าจะลดลงครึ่งหนึ่งจากที่เคยคาดการณ์ไว้

“วรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) หรือ MK เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดบริการโครงการ “รักษ” ศูนย์บูรณาการสุขภาพและการแพทย์แบบองค์รวม ในเดือนธันวาคม 2563 มูลค่าลงทุนโครงการนี้เฉพาะเฟสแรก 2,000 ล้านบาท

ลักษณะโครงการ “รักษ” จะเป็นเวลเนส รีทรีต รีสอร์ต ดูแลสุขภาพเชิงป้องกันพร้อมกับการพักผ่อน ตั้งอยู่บนที่ดินรวม 200 ไร่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณคุ้งบางกระเจ้า จ.สมุทรปราการ แบ่งเฟสการพัฒนา เฟสแรก 60 ไร่ ภายในประกอบด้วยวิลล่า 60 หลัง (ช่วงเปิดตัวมีบริการก่อน 27 หลัง) พื้นที่ศูนย์สุขภาพต่างๆ แวดล้อมด้วยทะเลสาบและต้นไม้ ส่วนเฟสต่อไปยังอยู่ระหว่างพิจารณาการลงทุน

บริเวณโครงการรักษ (RAKxa) บนคุ้งบางกระเจ้า ริมแม่น้ำเจ้าพระยา (หมายเหตุ : กรอบรอบพื้นที่ดินไม่ได้ขีดเส้นตามความเป็นจริง เป็นเพียงการคาดคะเนโดยประมาณเท่านั้น)

วรสิทธิ์กล่าวว่า ลักษณะความร่วมมือครั้งนี้ มั่นคงฯ เป็นผู้ถือหุ้นและลงทุนโครงการ 100% แต่ทำสัญญากับพันธมิตร 2 รายเข้ามาช่วยบริหารโครงการ คือ รพ.บำรุงราษฎร์ เป็นผู้บริหารด้านการแพทย์ แบ่งรายได้ระหว่างกันประมาณ 50 : 50 แต่ในกำไรส่วนที่ รพ.บำรุงราษฎร์ ได้จากบริการทางการแพทย์จะแบ่งคืนให้กับมั่นคงฯ 15% ส่วนสัญญากับ ไมเนอร์ เป็นการจ้างบริหารงานบริการโรงแรมและอาหาร

 

ชูจุดเด่นโปรแกรมที่ออกแบบจาก “พันธุกรรม” รายบุคคล

ภายในพื้นที่โครงการรักษ นอกจากมีการ์เดนวิลล่า พูลวิลล่า และเพรสซินเดนเชียลวิลล่า ตกแต่งด้วยเครื่องประดับจากจิม ทอมป์สันสำหรับเป็นที่พักสำหรับผู้เข้ารับการรักษาแล้ว จะมีศูนย์สุขภาพในด้านต่างๆ จาก รพ.บำรุงราษฎร์ มาตั้งในพื้นที่พร้อมบุคลากรทางการแพทย์ ได้แก่

  • VitalLife’s Scientific Wellness Clinic : ศูนย์วิเคราะห์สุขภาพด้วยเทคโนโลยีแพทย์แผนปัจจุบัน เพื่อออกแบบโปรแกรมดูแลสุขภาพรายบุคคลให้ตรงกับพันธุกรรม ฮอร์โมน และวิถีชีวิตของบุคคลนั้นๆ
  • RAKxa Jai – Holistic Wellness Centre : ศูนย์ผสานศาสตร์การบำบัดหลายแขนง เช่น แพทย์แผนจีน แพทย์แผนไทย ธาราบำบัด อบไอน้ำ ฯลฯ
  • RAKxa Gaya – Medical Gym : ศูนย์ออกกำลังกายเชิงการแพทย์ มีนักกายภาพบำบัดและนักวิทยาศาสตร์การกีฬาให้คำแนะนำ แก้ไขปัญหาหรือเพิ่มประสิทธิภาพร่างกาย ฝึกกล้ามเนื้อ เส้นประสาท
  • RAKxa Wellness Cuisine : เชฟและนักโภชนาการจาก VitalLife ปรุงอาหารที่เหมาะกับผู้รับการรักษา ใช้อาหารที่ทราบถึงแหล่งที่มาแบบ Farm-to-Table ปลอดสารพิษ และดีต่อสุขภาพ
วิลล่าที่พักในรักษ เวลเนส รีทรีต

จากฟังก์ชันที่มีทั้งหมดในโครงการรักษ “ภญ.อาทิรัตน์ จารุกิจพิพัฒน์” ผู้อำนวยการด้านบริหาร รพ.บำรุงราษฎร์ กล่าวว่า โครงการนี้จะมีจุดเด่นที่เป็นเวลเนส รีทรีทแบบมี ‘Scientific Base’ ออกแบบโปรแกรมผ่านการวิเคราะห์อย่างเป็นวิทยาศาสตร์และเจาะลึกถึงระดับพันธุกรรมของแต่ละบุคคล ค้นหาประวัติโอกาสเป็นโรคใดบ้าง เช่น มะเร็ง เบาหวาน

ประกอบกับศูนย์ VitalLife ของ รพ.บำรุงราษฎร์เปิดมานานย่างเข้าปีที่ 20 และเป็นศูนย์เวชศาสตร์เชิงป้องกันแห่งแรกของเอเชีย ทำให้สร้างความน่าเชื่อถือได้ในระดับสากล

ด้าน “วิลเลียม อี. ไฮเน็ค” ประธานกรรมการ บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า บริษัทรับบริหารโรงแรมมากกว่า 500 แห่งอยู่ใน 60 ประเทศทั่วโลก โดยที่โครงการรักษคือแห่งแรกที่บริษัทรับบริหารในลักษณะเวลเนส รีทรีต เชื่อว่าฐานลูกค้าที่ไมเนอร์มีอยู่ทั้งหมดจะสานต่อให้เข้ามาใช้บริการที่นี่ได้

สำหรับค่าใช้จ่ายแพ็กเกจ “ดุษฎี ตันเจริญ” กรรมการผู้จัดการ บมจ.มั่นคงเคะหะการ กล่าวว่า ราคาเริ่มต้นที่ 60,000 บาท เป็นแพ็กเกจตรวจสุขภาพพร้อมที่พัก 1 คืน ส่วนแพ็กเกจรักษาบำบัดจะมีตั้งแต่ 3-14 คืน ขึ้นอยู่กับว่าเป็นโปรแกรมอะไร เช่น โปรแกรมดูแลสุขภาวะทางเดินอาหาร โปรแกรมเสริมภูมิคุ้มกัน โปรแกรมควบคุมน้ำหนัก โปรแกรมผ่อนคลายความเครียด ราคาแพ็กเกจบำบัดเริ่มต้น 180,000 บาทต่อ 3 คืน

ตารางโปรแกรมในโครงการรักษ

ทั้งหมดหลังจากจบคอร์สแล้วแพทย์จะมีการติดตามต่อเนื่องหลังลูกค้ากลับออกจากรีทรีต และภายในโครงการจะไม่มีการเปิดให้พักผ่อนทั่วไป แขกที่เข้าพักจะต้องสมัครแพ็กเกจโปรแกรมใดโปรแกรมหนึ่ง

นอกจากแพ็กเกจรายครั้งแล้ว รักษจะมีระบบสมาชิกรายปีด้วย เพื่อตอบสนองลูกค้าชาวไทยซึ่งสามารถแวะมาได้บ่อยครั้งกว่า ราคาสมาชิกเริ่มต้น 500,000 บาทต่อคนต่อปี

 

ตั้งเป้ากลุ่มต่างชาติ แต่ปีแรกยังติดปัญหา COVID-19

วรสิทธิ์กล่าวว่า โครงการนี้เดิมตั้งเป้ากลุ่มลูกค้าต่างชาติจากทั่วโลก แต่เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ทำให้ลูกค้ายังบินเข้ามาไม่ได้ ทำให้ปีแรกที่จะเปิดบริการเต็มปีคือปี 2564 น่าจะมีอัตราเข้าพักเพียง 30% ต่ำกว่าที่เคยคาดไว้ว่าปีแรกจะมีอัตราเข้าพัก 60%

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าระยะยาวเวลเนสจะยังได้รับความนิยม ในปี 2565 อัตราเข้าพักคาดว่าจะขึ้นมาเป็น 50% และเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงอานิสงส์ชื่อเสียงของประเทศไทยที่รับมือ COVID-19 ได้ดีในช่วงนี้ จะเป็นปัจจัยบวกกับโครงการในภายหลัง เพราะทำให้ต่างชาติเชื่อถือในระบบสาธารณสุขของประเทศไทยมากยิ่งขึ้น

วรสิทธิ์มองว่า โครงการนี้จะเป็นส่วนสำคัญในผลประกอบการบริษัท โดยหวังว่าจะทำกำไรคิดเป็นสัดส่วน 15% ในกำไรรวมของบริษัทประจำปี 2564 ส่วนอีก 85% ที่เหลือนั้น 35% มาจากค่าเช่าคลังสินค้าและสนามกอล์ฟ ส่วนอีก 50% มาจากรายได้การขายที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นธุรกิจหลักของมั่นคงฯ มาตั้งแต่ช่วงก่อนเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นและผู้บริหาร

(จากซ้าย) “วรสิทธิ์ โภคาชัยพัฒน์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน), “ภญ.อาทิรัตน์ จารุกิจพิพัฒน์” ผู้อำนวยการด้านบริหาร รพ.บำรุงราษฎร์ และ “วิลเลียม ไฮเน็ค” ประธานกรรมการ บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล

 

ธุรกิจเวลเนสเติบโต “ดับเบิลดิจิต”

ราคาที่แม้จะสูงขนาดนี้ แต่มีลูกค้ารอรับบริการอยู่ทั่วโลก และประเทศไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่กำลังมาแรง โดยการจัดอันดับของ Global Wellness Institute รายงานว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทยติดอันดับ 13 ของโลก ทำรายได้มากกว่า 9,400 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนตลาดโลกนั้น ภญ.อาทิรัตน์กล่าวว่าอุตสาหกรรมด้านเวลเนสเติบโตดับเบิลดิจิตต่อเนื่องมาแล้ว 5 ปี สะท้อนโอกาสที่มีสูงมาก

หากมองคู่แข่งเฉพาะในไทย ดุษฎีมองว่าโครงการรักษจะใช้จุดเด่นเรื่องการมีแพทย์แผนปัจจุบัน มีวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัยเป็นแกน โดยมีศูนย์ของโรงพยาบาลและแพทย์ผู้รักษาประจำในโครงการ จะต่างจากโครงการเวลเนส รีทรีตอื่นๆ ที่เคยมีมาซึ่งมักจะใช้การบำบัดแบบแพทย์ทางเลือกเป็นหลัก หรือเป็นเวลเนสเพื่อฟื้นฟูในเชิงจิตใจมากกว่าร่างกาย และไม่ได้มีแพทย์ประจำ

ดังนั้น เชื่อว่าโครงการรักษจะขึ้นแท่นเป็นจุดหมายระดับ World Class ของนักท่องเที่ยวที่สนใจสุขภาพ และเป็นธุรกิจ “ไข่ทองคำ” เพราะลูกค้ากลุ่มนี้มักจะกลับมาบำบัดในสถานที่เดิมอย่างต่อเนื่องด้วย

]]>
1296408
COVID-19 ไม่กระทบคลังสินค้า “พรอสเพค” พัฒนาเพิ่ม 150 ไร่รับธุรกิจจีนย้านฐานผลิต https://positioningmag.com/1279979 Thu, 21 May 2020 12:25:20 +0000 https://positioningmag.com/?p=1279979 ธุรกิจโรงงาน-คลังสินค้าเช่ายังแฮปปี้ท่ามกลาง COVID-19 “พรอสเพค” บริษัทลูกในเครือมั่นคงเคหะการ ขยายโครงการ Bangkok Free Trade Zone ต่ออีก 150 ไร่ ชี้สถานการณ์ไวรัสระบาดกระทบธุรกิจน้อย อัตราการเช่ายังอยู่ที่ 92% และยังเป็นปัจจัยบวกด้วย เพราะประเทศไทยได้อานิสงส์การย้ายฐานผลิต กระจายความเสี่ยงโรคระบาด ครึ่งปีหลังจัดตั้งกองรีทมูลค่า 2,200 ล้าน

“รัชนี มหัตเดชกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ในเครือมั่นคงเคหะการ เปิดเผยความคืบหน้าโครงการ Bangkok Free Trade Zone (BFTZ) โครงการโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าบริเวณถนนบางนา-ตราด กม.23 ขณะนี้มีพื้นที่ให้เช่า 194,000 ตร.ม. และกำลังก่อสร้างเพิ่มอีก 100,000 ตร.ม. โดยคาดว่าจะทยอยเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 3-4 ปีนี้ ทำให้สิ้นปี 2563 โครงการ BFTZ จะมีพื้นที่เช่ารวม 294,000 ตร.ม. สูงขึ้นจากปีก่อน 52%

อัตราการเช่าพื้นที่ในขณะนี้อยู่ที่ 92% และมียอดจองพื้นที่ 100,000 ตร.ม.ที่กำลังจะสร้างเสร็จมาแล้วมากกว่า 30% บวกกับดีมานด์ตลาดที่ยังอยู่ในระดับสูง บริษัทจึงจัดซื้อที่ดินเพิ่มเติมอีก 2 แปลงในบริเวณใกล้เคียงกันรวม 150 ไร่ เพื่อพัฒนาโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าเฟส 2-3 จะเริ่มพัฒนาปลายปี 2563 หากพัฒนาครบทั้งหมดจะทำให้บริษัทมีพื้นที่เช่ารวม 450,000 ตร.ม.

“รัชนี มหัตเดชกุล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด

สำหรับข้อมูล ณ สิ้นปี 2562 จากเน็กซัส พร็อพเพอร์ตี้ พบว่าดีมานด์ตลาดโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าเพิ่มขึ้นมากกว่าซัพพลาย เนื่องจากสงครามการค้าทำให้บริษัทต่างประเทศโดยเฉพาะ “จีน” มีการย้ายฐานผลิตสู่ประเทศไทยเพิ่มขึ้น แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มธุรกิจ ดังนี้

  • โรงงานให้เช่า มีซัพพลาย 2.49 ล้านตร.ม. เติบโต 3.1% ดีมานด์ 1.9 ล้านตร.ม. เติบโต 5.4%
  • คลังสินค้า มีซัพพลาย 3.9 ล้านตร.ม. เติบโต 1.9% ดีมานด์ 3.6 ล้านตร.ม. เติบโต 10%

 

COVID-19 กระทบผิวๆ ระยะยาวเป็นบวกกับไทย

ด้านสถานการณ์เศรษฐกิจจากการระบาดของไวรัส COVID-19 รัชนีกล่าวว่ากระทบกับ BFTZ น้อยมาก โดยยังไม่พบคู่ค้าที่ขอยกเลิกสัญญาหรือยกเลิกโครงการลงทุน แต่จะมีผลกระทบทางอ้อมเนื่องจากการปิดประเทศตามนโยบายรัฐ ทำให้ลูกค้าไม่สามารถเดินทางเข้ามาเพื่อตรวจสอบสถานที่ได้ การตัดสินใจเซ็นสัญญาบางส่วนจึงชะลอออกไปก่อนจนกว่าไทยจะเปิดประเทศ

แม้จะมีข่าวการปิดโรงงานหรือย้ายฐานผลิตเป็นระยะ แต่สำหรับ BFTZ อาจกระทบน้อยกว่าเนื่องจากกระจายผู้เช่าในหลายตลาดทั้งในแง่สัญชาติและกลุ่มอุตสาหกรรม ดังนี้

“กลุ่มสัญชาติ”
– ญี่ปุ่น 25%
– ยุโรป 24%
– จีน 19%
– ไทย 19%
– อื่นๆ 13%

“กลุ่มอุตสาหกรรม”
– ชิ้นส่วนอุปกรณ์ 15%
– กระดาษ 15%
– โลจิสติกส์ 12%
– พลาสติก, รีไซเคิล, อาหารและเครื่องดื่ม อย่างละ 10%
– ชิ้นส่วนยานยนต์ 7%
– อื่นๆ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักร แฟชั่น 41%

Bangkok Free Trade Zone (BFTZ) โครงการโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าบริเวณถนนบางนา-ตราด กม.23

รัชนีกล่าวด้วยว่า ในระยะยาวสถานการณ์ COVID-19 น่าจะเป็นบวกกับประเทศไทยด้วย เพราะหลายบริษัทอาจพิจารณาการกระจายฐานผลิตมากขึ้น ป้องกันความเสี่ยงจากโรคระบาดที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต

ที่ผ่านมา ประเทศไทยพิสูจน์ความพร้อมเพราะไม่ได้ดำเนินนโยบายขั้นสูงสุดคือการปิดโรงงานผลิต อีกทั้งสามารถจัดหาวัตถุดิบผลิตในประเทศได้ บางอย่างไม่จำเป็นต้องนำเข้า ทำให้โรงงานส่วนใหญ่สามารถผลิตได้ต่อเนื่อง ร่วมกับระบบสาธารณสุขที่ดีสามารถคุมการระบาดได้ ดังนั้นประเทศไทยน่าจะเป็นตัวเลือกหากมีการย้ายฐาน

 

รายได้เติบโต 38% ตั้งกองรีทครึ่งปีหลัง

ด้านผลประกอบการของพรอสเพคเอง ทำรายได้ไตรมาส 1/63 รวม 101 ล้านบาท เติบโต 38% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และผลกำไรสุทธิยังคิดเป็น 30% ของผลกำไรบริษัทแม่คือ บมจ.มั่นคงเคหะการ

จากผลการเติบโตสม่ำเสมอ บริษัทเตรียมจัดตั้งกองทุนรวมเพื่อสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ (กองรีท) แบ่งสินทรัพย์เป็นพื้นที่เช่าขนาด 130,000 ตร.ม. ขายเข้ากองรีทดังกล่าวคิดเป็นมูลค่า 2,200 ล้านบาท คาดว่าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะอนุญาตให้จัดตั้งและเทรดได้ภายในครึ่งปีหลังปีนี้ โดยเงินทุนที่ได้จะนำมาหมุนเวียนก่อสร้างโครงการเฟส 2-3 และชำระหนี้

]]>
1279979