“หมอเสริฐ” ดึง MOVENPICK แปลงโฉม “ปาร์คนายเลิศ” สู่ ศูนย์สุขภาพคู่ รร. “Movenpick BDMS Wellness Resort”

ปิดฉากตำนาน 33 ปี “โรงแรม สวิส โฮเต็ล ปาร์ค นายเลิศ” อย่างถาวร หลังขายที่ดิน 15 ไร่ และสิ่งปลูกสร้างทั้งโรงแรมและอาคาร Promenade ด้วยมูลค่า 10,800 ล้านบาท ให้กับ บริษัท บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก จำกัด (BDMS Wellness Clinic) ภายใต้เครือกรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) ของ น.. ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ไปเมื่อ 3 ปีก่อน

ครั้งนั้น BDMS ได้ระบุว่า ได้เตรียมใช้งบลงทุนอีก 2,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงการศูนย์สุขภาพแบบครบวงจร BDMS Wellness Clinic ซึ่งเป็นธุรกิจด้านบริการสุขภาพ มุ่งดูแลให้ผู้ใช้บริการมีสุขภาพที่แข็งแรงในองค์รวมทั้งด้านร่างกายและจิตใจ รวมถึงมีอายุยืนยาว (Longevity) 

สาเหตุที่ BDMS สนใจใจทำคลินิคด้านนี้โดยตรงด้วยพบว่าอายุเฉลี่ยของประประชากรโลกเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 71 ปี หากดูแลตัวเองดีๆ สามารถมีอายุได้ถึง 85 ปี จึงทำให้ผู้บริโภคนใจเรื่อง Wellness แต่ละปีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เติบโตกว่า 7% ภาพรวมทั่วโลกมีมูลค่ากว่า 560,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

ขณะเดียวกันในเมืองไทยถือเป็นจุดหมายปลายทางที่ชาวต่างชาติ นิยมเดินทางเข้ามารับการรักษาหรือท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Medical Tourist) มาขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้อุตสาหกรรมบริการด้านสุขภาพมีมูลค่า 6 แสนล้านบาท เติบโต 8% ต่อปี

ในปัจจุบันไทยเป็นศูนย์กลางบริการด้านสุขภาพของเอเชียโดยมีส่วนแบ่ง 38% ของตลาดบริการด้านสุขภาพในภูมิภาคนี้ ซึ่งเป็นส่วนแบ่งตลาดที่สูงเป็นอันดับ 1 และคาดการณ์ว่าจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งตลาดขึ้นอีก 14% ต่อปี

กลางปีที่แล้ว BDMS Wellness Clinic ได้เริ่มเปิดให้บริการประกอบด้วย 7 คลินิก ที่เน้นใช้นวัตกรรมทางเวชศาสตร์ป้องกันและชะลอวัย (Preventive & Regenerative Medicine) หรือการป้องกันก่อนที่จะเจ็บป่วย โดยจากรายงานของ BDMS ที่แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ระบุปี 2018 BDMS Wellness Clinic มีรายได้102.91 ล้านบาท

ขณะเดียวกันในส่วนของโรงแรมได้จัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ชื่อ บริษัท บีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท จำกัด ทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท เพื่อร่วมมือกับ MOVENPICK Hotel & Resort ในการบริหารจัดการ Wellness Resort ภายใต้ชื่อ “Movenpick BDMS Wellness Resort”

สำหรับเครือ Movenpick เป็นเชนโรงแรมสวิสที่เปิดมาตั้งแต่ปี 1940 หรือกว่า 79 ปีแล้ว ก่อนจะถูกซื้อโดยเครือโรงแรมขนาดใหญ่ของโลกไปเมื่อปีที่แล้ว ปัจจุบันมีอยู่มากกว่า 85 แห่งใน 25 ประเทศทั่วโลก ในจำนวนนี้ 7 แห่งอยู่ในเมืองไทย

เรย์มอนด์ ช็อง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีเอ็มเอส เวลเนสคลินิก ให้เหตุผลที่เลือก Movenpick มาบริหารเกิดจาก 3 ปัจจัยคือ1.เป็นเชนโรงแรมระดับโลก 2.ต้องมีความรู้เกี่ยวกับHealth&Wellness และ 3.ต้องมีอาหารและเครื่องดื่มแนวสุขภาพ

การปรับโฉมโรงแรม สวิส โฮเต็ล ปาร์ค นายเลิศ มาเป็นโรงแรมใหม่ หลักๆ จะเปลี่ยนในห้องพักมีทั้งหมด 293 ห้อง ทุกห้องมีเสื่อโยคะ ปรับความนุ่มแข็งของเตียงได้ เป็นต้น ห้องอาหารก็เปลี่ยนรูปแบบของอาหารใหม่ มีอาหารออร์แกนิก นอกจากนี้ยังมีพื้นที่จัดงานถึง 2,000 ตารางเมตร ประกอบด้วย ห้องบอลรูมขนาดใหญ่ และห้องประชุมอเนกประสงค์อีก 6 ห้อง

เป้าหมายของโรงแรมจะรองรับนักท่องเที่ยว 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มที่ต้องรักษาระยะยาว เช่นเกี่ยวกับทันตกรรมต้องรักษา 2-3 เดือน, 2. รักษาระยะสั้นซึ่งทาง BDMS จะเริ่มขายคอร์สในเดือนหน้า เช่น ลดน้ำหนักหรือพัฒนาสมอง กลุ่มนี้จะพัก 6-7 วัน และสุดท้ายกลุ่มไมซ์มาพักพร้อมสัมมนาด้วย

เป้าหมายของ BDMS Wellness เบื้องต้นจะเป็นฐานลูกค้าของเครือ BDMS ที่มีกว่า 2-3 ล้านคน โดยจะมุ่งไปที่กลุ่ม AEC จีนและ ออสเตรเลีย ด้วยนิยมเข้ามารักษาในเมืองไทย

เรย์มอนด์ ยอมรับว่า ในระยะแรกนี้ฐานลูกค้ายังเป็นกลุ่มที่ 3 เยอะ และมีอัตราเข้าพัก 40% แต่เชื่อว่าด้วยลูกค้าของ Wellness Clinic ที่กำลังเดิมโตเดือนละ 100% ภายในสิ้นปีนี้อัตราเข้าพักจะถึง 60-70% ได้ไม่ยาก

ภายใน 3-5 ปี หรือเร็วกว่านั้นภายใน 2 ปี สิ่งที่ BDMS อยากเห็นคือรายได้จาก Wellness Clinic จะคิดเป็นสัดส่วน 80% ในขณะที่รายได้จากโรงแรมอยู่ที่ 20% แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้น BDMS ต้องเร่งสร้างการรับรู้เกี่ยวกับ Wellness ให้กลุ่มลูกค้าฟังเสียก่อนโดยจะมีการออกโรดโชว์ไปยังโรงพยาบาลในเครือ.