ยูนิลิเวอร์ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 19 Nov 2020 09:49:43 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Plant-Based เทรนด์อาหารแห่งอนาคต Unilever ขยับรุกตลาดจริงจัง ตั้งเป้าทำเงิน 3.6 หมื่นล้าน https://positioningmag.com/1306712 Thu, 19 Nov 2020 09:19:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1306712 บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก ขยับมูฟใหม่เข้าสู่ตลาด Plant-Based กันอย่างต่อเนื่อง ตามเทรนด์อาหารโลกที่กำลังเปลี่ยนไป

ล่าสุด Unilever (ยูนิลิเวอร์) ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคเจ้าใหญ่ ตั้งเป้าปั้มยอดขายในส่วนของผลิตภัณฑ์อาหารเนื้อสัตว์ที่ทำจากพืช หรือ Plant-Based เพิ่มเป็น 1 พันล้านยูโร (ราว 3.6 หมื่นล้านบาท) ภายใน 5-7 ปีนี้

เป้าหมายดังกล่าว ชี้ให้เห็นว่าบริษัทคาดว่าตลาด Plant-Based จะเติบโตสูงมากในอนาคตอันใกล้นี้ เมื่อเทียบกับเป้าหมายของยอดขายปัจจุบันที่ 200 ล้านยูโร (ราว 7.2 พันล้านบาท) ตามที่บริษัทตั้งไว้ในปีนี้

กลุ่มสินค้าแบรนด์เนื้อมังสวิรัติ กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จากกระเเสรักษ์โลกของผู้บริโภคยุคใหม่ที่เปลี่ยนพฤติกรรมหันมาบริโภคอาหารที่ทำมาจากพืช มากกว่าการบริโภคเนื้อสัตว์จริงๆ เพราะเห็นว่ากระบวนการผลิตเนื้อสัตว์ มีการปล่อยคาร์บอนที่เป็นภัยต่อการเปลี่ยนเเปลงของสภาพภูมิอากาศ (Climate Change)

Hanneke Faber ประธานฝ่ายอาหารของ Unilever ซึ่งเป็นส่วนที่สร้างยอดขายให้บริษัทได้ถึง 1.93 หมื่นล้านยูโร (6.9 แสนล้านบาท) ในปี 2019 ระบุว่าในประเทศที่พัฒนาแล้ว สินค้า Plant-Based ยังมีส่วนเเบ่งการตลาด ราว 5% เเต่ต่อไปจะสามารถขยายตัวเเละครองตลาดได้ถึง 50%”

โดยต่อไป Unilever จะให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ Plant-Based ในกลุ่มไอศกรีมที่ปราศจากนมและมายองเนสไปจนถึงอาหารทดแทนเนื้อสัตว์จากถั่วเหลืองและสาหร่าย ฯลฯ

นักวิเคราะห์ มองว่า การที่บรรดาเจ้าใหญ่ในวงการกระโดดลงมาเล่นสนาม Plant-Based กันคึกคัก จะส่งผลให้ผลิตภัณฑ์อาหารจากพืชมีราคาถูกลงตามด้วยกำลังการผลิตและการจัดจำหน่ายที่เพิ่มมากขึ้น เเละจะทำให้อุตสาหกรรมนี้มีการขยายตัวครั้งใหญ่

อย่างการที่ Nestlé คู่แข่งรายสำคัญ หันมาทุ่มลงทุนในการพัฒนาสินค้าทางเลือกให้ผู้บริโภคสามารถทานอาหารที่มีรสชาติและผิวสัมผัสเหมือนเนื้อสัตว์จริง แต่ไม่มีกระบวนการปศุสัตว์ที่สร้างผลกระทบต่อโลก ก็เป็นการกระตุ้นการเเข่งขันในตลาดนี้ได้ดีทีเดียว 

ตอนนี้ผู้ผลิต Plant-Based ส่วนใหญ่จะเป็นพันธมิตรกับเชนฟาสต์ฟู้ดรายใหญ่เเละมุ่งเข้าตีตลาดซูเปอร์มาร์เก็ต เช่น Impossible Foods จับมือกับ Burger King ส่วน Beyond Meat กำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์กับ McDonald’s ในสหรัฐฯ สำหรับแพลตฟอร์ม McPlant ขณะที่ Nestlé ส่งวัตถุดิบเมนูเบอร์เกอร์จากพืชให้ McDonald’s ในเยอรมนี

สำหรับตลาด Plant-based Food ในประเทศไทย ก็เริ่มมีเชนร้านอาหารนำเนื้อทำจากพืชมาปรุงเป็นเมนูหลัก เช่น Sizzler ในเครือไมเนอร์ หรือร้านฌานาในเครือฟู้ดแพชชั่น รวมถึงมีนำเข้าจากต่างประเทศมาวางจำหน่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ตบางแห่งด้วย

จากข้อมูลของ NRF ผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ของไทย ระบุว่า ตลาดเนื้อที่ทำจากพืชปัจจุบันมีมูลค่ารวมทั่วโลก 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ มีแนวโน้มเติบโตขึ้นไปเป็น 80,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายใน 5 ปี เนื่องจากผู้บริโภคเห็นข้อดีของวัตถุดิบอาหารรูปแบบนี้มากขึ้น

ไม่ใช่เเค่ NRF รายเดียวที่กำลังเล็งตลาดนี้ เพราะบริษัทยักษ์ด้านอาหารของไทยอย่าง “เครือซีพี” และ “ไทยยูเนี่ยน” ก็กำลังมองความเป็นไปได้ในตลาด Plant-base Food เช่นกัน

อ่านต่อ : NRF ขอเป็น Foxconn แห่งตลาด Plant-based Food กางแผนขยายโรงงานทั่วโลก

 

ที่มา : Financial Times , The Guardian

]]>
1306712
‘Unilever’ ทุ่ม 1.2 พันล้าน หวังเลิกใช้ ‘เชื้อเพลิงฟอสซิล’ ในการผลิตสินค้าภายในปี 2573 https://positioningmag.com/1295301 Thu, 03 Sep 2020 06:45:37 +0000 https://positioningmag.com/?p=1295301 ยูนิลีเวอร์ (Unilever) บริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่มียอดขายสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก ทุ่มเงิน 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อยุติการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลในการผลิตผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและซักอบรีด เช่น โอโม, ซันไลต์ โดยจะเปลี่ยนไปใช้คาร์บอนหมุนเวียนหรือรีไซเคิลเท่านั้น ซึ่งหมายถึงการใช้ปิโตรเคมีที่มาจากพืชและสาหร่ายทะเล ตลอดจนวัสดุที่รีไซเคิลจากขยะพลาสติกภายในปี 2573

“ในฐานะอุตสาหกรรม เราต้องเลิกพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลเป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตภัณฑ์ของเรา เราต้องหยุดสูบคาร์บอนจากใต้พื้นดินเมื่อมีคาร์บอนบนดินที่เพียงพอ ถ้าเราสามารถเรียนรู้ที่จะใช้มันในระดับที่เหมาะสม” Peter ter Kulve ประธานแผนกดูแลบ้านของกลุ่มบริษัท กล่าว

เพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมาย Unilever กำลังทำงานร่วมกับบริษัทในอินเดียที่ทำเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่จะช่วยให้ คาร์บอน (CO2) สามารถใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตโซเดียมคาร์บอเนตหรือโซดาแอช ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในน้ำยาซักผ้า จากเดิมที่ผลิตด้วยพลังงานจากฟอสซิล นอกจากนี้ยังร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพในสโลวาเกีย เพื่อพัฒนาส่วนผสมที่สามารถหมุนเวียนและย่อยสลายได้ในทางชีวภาพเพื่อใช้ในน้ำยาล้างจาน ส่วนผสมนี้ถูกนำไปใช้ในน้ำยาล้างจานซันไลต์ที่จำหน่ายในชิลีและเวียดนามแล้ว

ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ของ Unilever มีผู้ใช้กว่า 2.5 พันล้านคนในแต่ละวัน จาก 190 ประเทศทั่วโลก โดยบริษัทให้คำมั่นเมื่อต้นปีนี้ว่าจะลดการปล่อยมลพิษจากผลิตภัณฑ์ให้เป็น 0 ภายในปี 2582 นอกจากนี้ยังระบุว่า จะทำให้ผลิตภัณฑ์กว่า 70,000 ชนิดย่อยสลายได้ด้วยตัวเองและใช้บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากพลาสติกให้น้อยลงในอีก 10 ปีข้างหน้า

Unilever ได้รับการยอมรับจาก CDP ซึ่งดำเนินการระบบการเปิดเผยคาร์บอนทั่วโลกในฐานะผู้นำองค์กรด้านความโปร่งใสและประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อม เป็นหนึ่งในบริษัทไม่กี่แห่งที่ได้รับการจัดอันดับสูงสุดขององค์กรการกุศลในด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศป่าไม้และความมั่นคงทางน้ำ

Source

]]>
1295301