รถยนต์บินได้ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 24 Oct 2022 08:48:25 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 XPeng ทดสอบ “รถยนต์บินได้” ในที่สาธารณะสำเร็จ บริษัทคาดอีก 5 ปีคนทั่วไปได้ใช้จริง https://positioningmag.com/1405297 Mon, 24 Oct 2022 06:26:41 +0000 https://positioningmag.com/?p=1405297 ภาพจากภาพยนตร์ไซ-ไฟที่เราเคยเห็นกำลังจะเกิดขึ้นจริง ล่าสุดบริษัทจีน XPeng ทดสอบ “รถยนต์บินได้” รุ่น X2 ในที่สาธารณะสำเร็จแล้ว โดยบินโชว์ตัวเป็นเวลา 90 วินาทีในงาน GITEX เอ็กซ์โปด้านเทคโนโลยีที่เมืองดูไบ

XPeng X2 สามารถบินขึ้นจากพื้นดินได้โดยตรง ไม่ต้องใช้รันเวย์ทางวิ่ง ซึ่งเป็นการออกแบบที่เหมาะกับการใช้งานภายในเมือง ตัวรถสามารถจุผู้โดยสารได้ 2 ที่นั่ง และใช้พลังงานไฟฟ้า 100%

กำลังของรถบินได้คันนี้สามารถยกตัวขึ้นสู่อากาศได้ 2 เมตรต่อวินาที และทำความเร็วได้สูงสุด 80 ไมล์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 128.7 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)

แม้ว่าการทดสอบ “รถยนต์บินได้” จะทำการทดสอบเพียง 90 วินาที แต่ Liu Xinyin หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญด้านการบินจาก XPeng Aeroht กล่าวว่า เทคโนโลยีนี้ใกล้จะพร้อมใช้ในที่สาธารณะจริงๆ แล้ว แต่สิ่งที่ยังต้องรออีกสักพักคือกฎหมายการกำกับควบคุมรถยนต์บินได้

XPeng วางแผนที่จะทำงานกับรัฐบาลต่างๆ เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานในการกำกับควบคุมรถบินได้ในเขตเมือง และ Liu เชื่อว่าคนทั่วไปจะได้เริ่มใช้รถบินได้ในพื้นที่ที่มีกฎหมายควบคุมภายในเวลา 5 ปีข้างหน้า ซึ่งก็สอดคล้องกับแผนมุ่งสู่อนาคตของรัฐบาลจีนที่ต้องการจะเปิดทำการ “แท็กซี่บินได้” ภายในปี 2025

XPeng รถยนต์บินได้
(Photo: GITEX 2022)

สเปกของรถ XPeng X2 ยังมีระบบ AI ออโต้ด้วย ทำให้รถสามารถเปลี่ยนไปใช้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติได้โดยไม่ต้องใช้คนขับ “มันเรียนรู้ที่จะหลบเลี่ยงการจราจร หลบอาคารและผู้คนได้” Liu กล่าว

การมีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติในรถยนต์บินได้ น่าจะยิ่งทำให้การกำกับควบคุมยุ่งยากขึ้นไปอีก เพราะขณะนี้แค่เพียงรถยนต์บนพื้นดินที่ไม่ต้องใช้คนขับ ก็ก่อให้เกิดคำถามจากสาธารณชนแล้วว่ามีความปลอดภัยจริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม XPeng ระบุว่า รถยนต์บินได้ที่ใช้ระบบอัตโนมัตินั้นจะปลอดภัยกว่าให้มนุษย์เป็นผู้บังคับเครื่องเอง

รถยนต์บินได้จากค่ายอื่นๆ ที่กำลังพัฒนา (Photo : SkyDrive Inc.)

ขณะนี้มีมากกว่า 10 บริษัททั่วโลกที่กำลังพัฒนา “รถยนต์บินได้” และหลายคันบินได้แล้วจริงๆ เช่น BlackFly รถของบริษัท Opener จากแคนาดา, รถรุ่น SD-03 จากบริษัท SkyDrive Inc, รถรุ่น AirCar จาก Klein Vision ซึ่งรุ่นหลังสุดนี้สามารถทดสอบการบินสำเร็จไปแล้วเมื่อปีก่อน โดยบินเป็นเวลาถึง 35 นาทีระหว่างเมืองสองเมืองในประเทศสโลวาเกีย

หากว่ารถยนต์บินได้สามารถนำมาใช้ได้จริงในที่สาธารณะ ประโยชน์ของมันไม่ใช่แค่ความหวือหวาแฟนตาซี แต่มันจะปฏิวัติการขนส่งภายในเขตเมือง ทำให้การจราจรบนท้องถนนติดขัดน้อยลง คนเดินถนนและจักรยานก็จะปลอดภัยขึ้นด้วย

Source

]]>
1405297
Suzuki x SkyDrive ดีลร่วมพัฒนา ‘รถยนต์บินได้’ ประเดิมเจาะตลาดอินเดีย https://positioningmag.com/1378646 Tue, 22 Mar 2022 12:25:03 +0000 https://positioningmag.com/?p=1378646 ‘Suzuki Motor’ ค่ายรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น จับมือ ‘SkyDrive’ ร่วมทีมวิจัย พัฒนาและทำการตลาดยานยนต์ไฟฟ้าบินได้

แถลงการณ์ร่วมของทั้งสองบริษัท ระบุว่า จะมีการมุ่งมั่นเปิดตลาดใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงเเรกจะประเดิมที่ตลาดอินเดียก่อน เนื่องจากปัจจุบัน Suzuki ครองส่วนแบ่งยอดขายกว่าครึ่งหนึ่งของรถยนต์ใหม่ในอินเดีย 

โดยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา Suzuki เพิ่งประกาศแผนลงทุนกว่า 1.37 พันล้านดอลลาร์กับโรงงานในอินเดียเพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี่

Suzuki หวังว่าการขยายไปสู่รถยนต์บินได้จะเป็นธุรกิจใหม่ นอกเหนือจากรถยนต์ รถจักรยานยนต์และเครื่องยนต์ติดท้ายเรือ

ส่วน SkyDrive ก่อตั้งขึ้นในปี 2018 เป็นบริษัทผู้พัฒนา ‘flying car’ รถยนต์ไฟฟ้าบินได้ มีสำนักงานใหญ่ในกรุงโตเกียว โดยมีกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นอย่าง Itochu Corp , บริษัทเทคโนโลยี NEC Corp และหน่วยงานด้านพลังงานของ Eneos Holdings เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นหลัก

ในปี 2020 บริษัทระดมทุนได้ 42 ล้านดอลลาร์ เป็นสตาร์ทอัพระดับ Series B ปัจจุบัน SkyDrive มุ่งพัฒนารถยนต์บินได้สองที่นั่งขนาดกะทัดรัด และมีแผนในการผลิตเต็มรูปแบบ เเละยังกำลังพัฒนาโดรนขนส่งสินค้าพร้อมเป้าหมายที่จะเปิดตัวบริการรถบินได้ที่เมืองโอซาก้าในปี 2025 ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่ญี่ปุ่นได้เป็นเจ้าภาพจัดงาน World Expo

สำหรับเป้าหมายในการพัฒนารถบินได้ของ SkyDrive หลักๆ คือต้องการให้มีรถยนต์บินได้ที่เข้าถึงได้ สร้างการคมนาคมที่สะดวกสบาย ผู้คนสัมผัสได้ถึงความปลอดภัย อุ่นใจ และความสะดวกสบายในชีวิต อีกทั้งยังมีประโยชน์ในแง่การขนส่งสินค้า

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเทคโนโลยีรถบินได้ ยังต้องเผชิญความท้าทายที่สำคัญ อย่างเรื่องแบตเตอรี่ กฎการควบคุมการจราจรทางอากาศของเเต่ละประเทศ เเละปัญหาโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับรถบินได้ 

 

ที่มา : Reuters 

]]>
1378646
ฝันใกล้เป็นจริง ญี่ปุ่นทดลอง “รถยนต์บินได้” สำเร็จ คาดเริ่มขายปี 2023 ราคา 9-15 ล้านบาท https://positioningmag.com/1294795 Mon, 31 Aug 2020 12:30:59 +0000 https://positioningmag.com/?p=1294795 บริษัทญี่ปุ่นสานฝันให้เป็นจริง ทดลอง “รถยนต์บินได้แบบมีคนขับ” สำเร็จแล้ว คาดเริ่มขายปี 2023 หวังต่อไปผู้คนนำใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง

SkyDrive สตาร์ทอัพดาวรุ่งที่ได้รับการสนับสนุนจากทุนใหญ่อย่างโตโยต้า พานาโซนิค และบันไดนัมโค ผู้พัฒนาวิดีโอเกมชื่อดัง ประกาศความสำเร็จในการทดลองรถยนต์ไฟฟ้าบินได้แบบมีคนขับรุ่น SD-03 ด้วยการบินเหนือพื้นดิน 3 เมตร เป็นเวลาราว 4 นาที นับเป็นการสาธิตรถบินได้สู่สาธารณะครั้งแรกในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น หลังริเริ่มมาตั้งเเต่ปี 2012

Tomohiro Fukuzawa ซีอีโอของ SkyDrive บอกว่า เเม้ตอนนี้ทั่วโลกจะมีโครงการพัฒนารถบินได้ไม่ต่ำกว่า 100 โครงการ แต่กลับผู้ที่ประสบความสำเร็จเพียงไม่กี่เจ้าเท่านั้น ซึ่ง SD-03 เป็นรถยนต์บินได้ที่มีขนาดกะทัดรัดที่สุด ใช้พื้นที่จอดเท่ากับรถยนต์สองคัน มีการติดตั้งเครื่องยนต์ไว้ถึง 8 ตัว เพื่อให้เเน่ใจว่า ปลอดภัยในสถานการณ์ฉุกเฉิน”

สำหรับเป้าหมายในการพัฒนารถบินได้ของ SkyDrive หลักๆ คือต้องการให้มีรถยนต์บินได้ที่เข้าถึงได้ สร้างการคมนาคมที่สะดวกสบาย ผู้คนสัมผัสได้ถึงความปลอดภัย อุ่นใจ และความสะดวกสบายในชีวิต อีกทั้งยังมีประโยชน์ในแง่การขนส่งสินค้า

อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีรถบินได้ ยังต้องเผชิญความท้าทายที่สำคัญ อย่างเรื่องแบตเตอรี่ กฎการควบคุมการจราจรทางอากาศ เเละปัญหาโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับรถบินได้ 

The New York Times สัมภาษณ์ความเห็นของ Ella Atkins ศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมการบินและอวกาศ มหาวิทยาลัยมิชิแกน มองว่า ตามสภาพสังคมจริง อาจจะต้องใช้เวลาอีก 20 ปี กว่าที่คนทั่วไปจะสามารถเข้าถึงรถยนต์บินได้ ด้วยความที่เเม้จะใช้พลังงานน้อยกว่าเฮลิคอปเตอร์ เเต่ก็ยังใช้พลังงานมากกว่ารถยนต์ทั่วไป ทำให้จะมีราคาเเพงมาก นอกจากนี้ ยังต้องดูเรื่องคมนาคมพื้นฐานของเเต่ละพื้นที่ด้วย

SkyDrive วางแผนจะขายรถยนต์บินได้ในเชิงพาณิชย์ให้ได้ ภายในปี 2023 ซึ่งราคาเปิดตัวคาดว่าจะอยู่ที่ราว 3-5 เเสนเหรียญสหรัฐ (ราว 9.3 – 15.5 ล้านบาท) เเต่มองว่าราคาจะเริ่มตกลงมาหลังปี 2030 เพราะว่าเทคโนโลยีใหม่ๆ จะมีราคาแพงมากในช่วงแรกเท่านั้น

 

 

ที่มา : nytimes , CNN

]]> 1294795