ราคาที่ดิน – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Thu, 25 Sep 2025 11:54:52 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ราคาเสนอขายที่ดินลดลง 10% รับอสังหา ปี 68 ขาลง ลุ้นฟื้นตัวปีหน้า https://positioningmag.com/1539656 Thu, 25 Sep 2025 11:16:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1539656 ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปี 2568 ยังคงเผชิญความท้าทายสูง จากทั้งปัจจัยภายนอกและภายในประเทศ!

ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธุรกิจที่อยู่อาศัยได้ผ่าน “จุดต่ำสุด” ไปแล้วในไตรมาส 2 หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่เมียนมา ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในอาคารสูงของไทย

ข้อมูลล่าสุด ช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน ดีมานด์เริ่มฟื้นตัวราว 90% เมื่อเทียบกับช่วงก่อนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว และคาดว่าภาพรวมไตรมาส 4 จะดีกว่าไตรมาส 3

กำไรกลุ่มอสังหาต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

ปี 2568 กลุ่มอสังหาฯ ต้องเผชิญแรงกดดันหลายด้าน ทั้งผลกระทบจาก “แผ่นดินไหว” และ “ภาษีทรัมป์” จนมีความเสี่ยงรายได้ไม่เป็นไปตามเป้า

การแข่งขันยังสูงขึ้น จากกำลังซื้อที่จำกัด เนื่องจากหนี้ครัวเรือนกดดันผู้บริโภค พฤติกรรมลูกค้าจึงเปลี่ยนจากการมองหาของแถม มาเป็นขอส่วนลดราคาโดยตรง เพื่อให้กู้ซื้อบ้านหรือคอนโดได้ง่ายขึ้น

ด้านผู้ประกอบการ หันมาใช้กลยุทธ์ด้านราคา ส่งผลให้ อัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit : GP) ของกลุ่มอสังหาฯ ต่ำกว่า 30% ติดต่อกัน 4 ไตรมาส (Q3/67 ถึง Q2/68) ถือเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และกระทบโดยตรงต่อกำไรสุทธิ (Net Profit : NP)

นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)
นายไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)

ศุภาลัยเร่งสะสมที่ดิน หลังราคาลดลง 10%

แม้ตลาดชะลอตัว แต่ศุภาลัยยังเห็นโอกาสจากการลงทุนที่ดิน โดยราคาเสนอขายที่ดินปรับตัวลดลงกว่า 10% จาก 2-3 ปีก่อน

“ราคาที่ดินลดลง 10% ด้วยไม่มีคนซื้อที่ดิน เพราะตลาดที่อยู่อาศัยด้อยลง ผู้ประกอบการขอสินเชื่อโครงการยาก และมีปัญหาการออกหุ้นกู้ เขาจึงเอาเงินไปใช้อย่างอื่นแทน เพื่อเอาแคลชโฟลว์เข้าดีกว่า”

ยกตัวอย่าง ที่ดินโครงการใหม่ ‘ศุภาลัย พรีเมียร์ ตากสิน-วงเวียนใหญ่’ บริษัทฯ ได้ราคาที่ดินเทียบเท่ากับเมื่อ 10 ปีก่อน จึงสามารถทำต้นทุนโครงการได้ถูกลง ทำให้ราคาเฉลี่ยคอนโดเหลือ 77,000 บาท/ตร.ม. ต่ำกว่าราคาตลาดที่ 90,000-110,000 บาท/ตร.ม. ได้

คอนโด ศุภาลัย
ศุภาลัย พรีเมียร์ ตากสิน-วงเวียนใหญ่

สำหรับปีนี้ บริษัทตั้งงบลงทุนซื้อที่ดินไว้ 8,000 ล้านบาท และได้ใช้ไปแล้วครึ่งหนึ่ง (4,000 ล้านบาท) โดยพิจารณาทั้งทำเลที่เคยทำตลาดได้ดี เช่น เชียงใหม่ รวมถึงจังหวัดใหม่ที่ยังไม่เคยเข้าไปลงทุน

ไตรเตชะ ระบุว่า ปัจจุบันมีเจ้าของที่ดินและผู้พัฒนาโครงการหลายรายนำที่ดินมาเสนอขายให้บริษัท ซึ่งถือเป็นโอกาสดีในการเก็บสะสมต้นทุนต่ำเพื่อรองรับการฟื้นตัวในอนาคต

ในวิกฤตมีโอกาส ถ้าจับถูกตลาด

แม้ตลาดอสังหาจะหดตัวแต่ยังมีโอกาสเสมอ ถ้าจับตลาดให้ถูกต้อง ทั้งทำเลและราคาที่เหมาะสม

ยกตัวอย่าง

  • โครงการ ศุภาลัย เอลีท สุขุมวิท 39 ที่เพิ่ง Sold Out ไป ในทำเลนั้นศุภาลัยเข้าไปเติมซัพพลายห้องขนาดใหญ่ 3 ห้องนอน ที่มีดีมานด์สูง แต่ขาดตลาด ในราคา 15 ล้านบาทขึ้นไป ‘แม้ไม่ได้มีราคาถูก แต่ก็ขายได้’
  • โครงการ ศุภาลัย พรีเมียร์ ตากสิน-วงเวียนใหญ่ ราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท/ยูนิต ด้วยทำเลนี้ซัพพลายน้อย และมักมีราคาขายสูงกว่า 3 ล้านบาท/ยูนิต ขณะที่ดีมานด์จำนวนมากในย่านนี้ต้องการคอนโดระดับราคา  2-3 ล้านบาท/ยูนิต
คอนโด ศุภาลัย
ศุภาลัย เอลีท สุขุมวิท 39

ผลงานครึ่งปีแรก-แผนเปิดโครงการใหม่

สำหรับครึ่งปีหลัง 2568 ศุภาลัยเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ 8 โครงการ แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 2 โครงการ และแนวราบ 6 โครงการ (ในต่างจังหวัด 2 โครงการ)

ปัจจุบัน บริษัทมีแบ็กล็อกมูลค่า 12,600 ล้านบาท โดยคาดว่าจะทยอยโอนในปีนี้ 7,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือโอนในปีถัดไป โดยครึ่งปีแรกทำรายได้แล้ว 11,000 ล้านบาท

ตลาดเปิดตัวโครงการใหม่ต่ำสุดในรอบทศวรรษ

ปี 2568 เป็นช่วงที่มีการเปิดตัวโครงการใหม่ ’น้อยกว่า‘ Sold Out โครงการเก่ากว่า 10%

ทำให้ประเมินว่า ปีนี้จะมีการเปิดตัวโครงการใหม่เพียง 55,000 ยูนิต/ปี ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปกติที่ราว 100,000 ยูนิตต่อปี และต่ำกว่าสถิติสูงสุดปี 2556 ที่ 130,000 ยูนิตต่อปี

อย่างไรก็ตาม คาดว่าปี 2569 ตลาดมีโอกาสฟื้นตัวกลับมาเปิดโครงการใหม่ราว 70,000 ยูนิต/ปี หรือเติบโต 60-70% เมื่อเทียบกับปี 2566

]]>
1539656
เปิด TOP 5 ที่ดิน กทม.-ปริมณฑล ราคาขยายตัวสูงสุด ไตรมาส 2/68 https://positioningmag.com/1531538 Wed, 30 Jul 2025 03:52:29 +0000 https://positioningmag.com/?p=1531538 ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) รายงาน ดัชนีราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนา ในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล ไตรมาสที่ 2 ปี 2568 พบว่า มีค่าดัชนีเท่ากับ 415.2 จุด เพิ่มขึ้น 4.3% (YoY) แต่ลดลง -4.1% (QoQ) โดยปัจจัยหลักมาจาก

  • ความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา “ทำให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัว”
  • การเลื่อนประกาศใช้ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานคร ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 4 จากปี 2569 ไปเป็นปี 2570 สร้างความไม่ชัดเจนเรื่องการใช้ประโยชน์ที่ดินในอนาคต ทำให้ผู้ประกอบการหลายรายชะลอการตัดสินใจสะสมที่ดิน (Land Bank)
Reic
ดัชนีราคาที่ดินเปล่า กทม.-ปริมณฑล ไตรมาส 2 ปี 2568 (อ้างอิง REIC)
  • ภาระจากภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ส่งผลให้บางรายทยอยขายที่ดินเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย
  • ผู้พัฒนาโครงการบางส่วนได้ปรับกลยุทธ์ กระจายการลงทุนไปยังหัวเมืองหลักในภูมิภาคและจังหวัดท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูง เช่น ภูเก็ต ชลบุรี ระยอง และเชียงใหม่ แทนทำให้ราคาที่ดิน กทม. – ปริมณฑล ชะลอตัวลง

อย่างไรก็ตาม ความต้องการที่ดินเปล่าในปริมณฑล ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการพัฒนาโครงการจัดสรรที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ปานกลางถึงสูง โดยเฉพาะใน “โซนสมุทรปราการ”

โดย 5 ทำเลที่มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้นสูงสุด ในเขต กทม. – ปริมณฑล ได้แก่

5 ทำเลที่ดินเปล่า กทม.-ปริมณฑล ราคาขยายตัวสูงสุด ในไตรมาส 2 ปี 2568 (อ้างอิง REIC)

อันดับ 1 เมืองสมุทรปราการ-พระประแดง-พระสมุทรเจดีย์ ราคาที่ดินสูงขึ้น 39.6% เนื่องจาก เป็นทำเลที่มีการขยายโครงสร้างพื้นฐานของเมืองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองและ EEC ได้สะดวก

อันดับ 2  บางกรวย-บางใหญ่-บางบัวทอง-ไทรน้อย ราคาที่ดินสูงขึ้น 38.0%

อันดับ 3  นครปฐม ที่มีอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ดินสูงขึ้น 15.5%

อันดับ 4  เขตบางพลี-บางบ่อ-บางเสาธง ที่มีอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ดินสูงขึ้น 15.4%

อันดับ 5  เขตราษฎร์บูรณะ-บางขุนเทียน-ทุ่งครุ-บางบอน-จอมทอง ราคาที่ดินสูงขึ้น 11.0%

ภาพจาก Unsplash


การเปลี่ยนแปลงราคาที่ดิน 5 อันดับแรกสะท้อนว่า ที่ดินในพื้นที่ปริมณฑลมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เนื่องจากการขยายตัวของเมือง ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากการพัฒนาขยายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง การก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้า

ประกอบกับราคาที่ดินในพื้นที่ปริมณฑลยังคงมีราคาไม่สูงมากนัก และสามารถนำไปใช้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบที่สอดคล้องกับความสามารถในการซื้อของผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยแนวราบได้

ขณะที่ทำเลใจกลางเมืองซึ่งมีที่ดินเปล่ารอการพัฒนามีจำนวนจำกัด จึงทำให้การซื้อขายที่ดินที่มีขนาดแปลงไม่ใหญ่ แต่มีมูลค่าสูง

โดยช่วงที่ผ่านมามีการก่อสร้างโครงการ Mixed-use ตลอดแนวรถไฟฟ้าหลายโครงการ ทำให้ผู้ประกอบการที่มีที่ดินเปล่า (Land Bank) ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์และรอจังหวะที่ตลาดกลับมาเอื้อต่อการลงทุน

ด้านราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนาตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า ในไตรมาสที่ 2 ปี 2568 พบว่า เส้นทางรถไฟฟ้า 5 อันดับแรก ที่มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้นสูงสุดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)  ส่วนใหญ่เป็นที่ดินที่มีโครงการรถไฟฟ้าเปิดให้บริการแล้ว และโครงการที่เป็นส่วนต่อขยายในอนาคต

Top 5 ที่ดินเปล่าแนวรถไฟฟ้า ขยายตัวสูงสุด คือ

อันดับ 1 รถไฟฟ้าสายสีเขียว (สมุทรปราการ-บางปู) และสายสีเขียว (แบริ่ง-สมุทรปราการ) เพิ่มขึ้น 39.6% YoY

โดยรถไฟฟ้าทั้งสองสายมีค่าดัชนีเท่ากับ 331.1 จุด และ 326.3 จุด ตามลำดับ แต่มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้นเท่ากัน คือ 39.6% (YoY)

ทั้งนี้ ราคาที่ดินในพื้นที่พระสมุทรเจดีย์ พระประแดง และเมืองสมุทรปราการ เป็นบริเวณที่มีราคาปรับเพิ่มขึ้นมาก

อันดับ 2 รถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-เตาปูน) มีค่าดัชนีเท่ากับ 489.4 จุด โดยมีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้น 10.1% (YoY)

โดยราคาที่ดินในพื้นที่เมืองนนทบุรี บางบัวทอง และบางใหญ่ เป็นบริเวณที่มีราคาปรับเพิ่มขึ้นมาก

อันดับ 3 รถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท มีค่าดัชนีเท่ากับ 470.1 จุด โดยมีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้น 8.8% (YoY)

โดยราคาที่ดินในพื้นที่พระโขนง วัฒนา และบางนา เป็นบริเวณที่มีราคาปรับเพิ่มขึ้นมาก

อันดับ 4 รถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) มีค่าดัชนีเท่ากับ 424.5 จุด โดยมีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้น 8.5% (YoY)

โดยราคาที่ดินในพื้นที่วังทองหลาง และสวนหลวง เป็นบริเวณที่มีราคาปรับเพิ่มขึ้นมาก

อันดับ 5 รถไฟฟ้า MRT และรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม (บางซื่อ-หัวลำโพง) เพิ่มขึ้น 7.9% YoY

โดยรถไฟฟ้าทั้งสองสายมีค่าดัชนีเท่ากับ 603.0 จุด และ 593.6 จุด ตามลำดับ แต่มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้นเท่ากัน คือ 7.9% (YoY)

ทั้งนี้ ราคาที่ดินในพื้นที่วัฒนา และห้วยขวาง เป็นบริเวณที่มีราคาปรับเพิ่มขึ้นมาก

ราคาที่ดินเปล่าแนวรถไฟฟ้า ราคาเพิ่มขึ้นสูงสุด ไตรมาส 2 ปี 2568
]]>
1531538
ราคาที่ดินปริมณฑล กอดคอขึ้นยกแผง “นครปฐม” ขึ้นสูงสุด 59% https://positioningmag.com/1510619 Wed, 12 Feb 2025 05:04:50 +0000 https://positioningmag.com/?p=1510619 “ที่ดิน” เป็นสินทรัพย์เพียงไม่กี่อย่าง ที่แทบไม่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ แถมราคายังมีแต่จะสูงขึ้นเรื่อย ๆ “แม้ในช่วง 1 ปีมานี้จะเพิ่มขึ้นในอัตราชะลอตัวลงก็ตาม“

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) ระบุว่า ราคาที่ดินที่ขยายตัว ส่วนใหญ่เกาะกลุ่มอยู่พื้นที่ชานเมืองของ กทม. และปริมณฑล โดยมี 5 อันดับแรก ดังนี้

อันดับ 1 ที่ดินย่านนครปฐม มีอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ดินสูงขึ้น 59.6%

อันดับ 2 ที่ดินย่านสมุทรสาคร มีอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ดินสูงขึ้น 44.2%

อันดับ 3 ที่ดินในย่านเมืองปทุมธานี-ลาดหลุมแก้ว-สามโคก มีอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ดินสูงขึ้น 27.3%

อันดับ 4 ที่ดินย่านกรุงเทพชั้นใน (ประกอบด้วย เขตจตุจักร ห้วยขวาง ยานนาวา วัฒนา คลองเตย พญาไท บางคอแหลม ป้อมปราบศัตรูพ่าย บางซื่อ ดินแดง ราชเทวี และบางรัก) ที่มีอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ดินสูงขึ้น 16.4%

อันดับ 5 ที่ดินย่านบางเขน-สายไหม-ดอนเมือง-หลักสี่-มีนบุรี-หนองจอก-คลองสามวา-ลาดกระบัง ที่มีอัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาที่ดินสูงขึ้น 1.2%

REIC ระบุว่า การขยายตัวของราคาที่ดินปริมณฑล มาจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ อาทิ ถนนทางหลวง ทางพิเศษระหว่างเมือง เอื้อการเข้าออกสะดวก ส่วนที่ราคาเพิ่มสูง เพราะโดยรวมราคาที่ดินยังไม่แพงเท่าไร

ขณะที่พื้นที่ กทม. อัตราการขยายตัวราคาต่ำกว่า เพราะ ขนาดที่ดินแปลงไม่ใหญ่ และมีราคาที่ดินแพงมากอยู่แล้ว ส่วนใหญ่นิยมพัฒนาโครงการรูปแบบมิกซ์ยูส มีทั้งออฟฟิศ โรงแรม ศูนย์การค้า และคอนโด รวมกันที่เดียว

นอกจากนี้ REIC ยังได้ จัดอันดับราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนาในแนวเส้นทางที่มีรถไฟฟ้าผ่าน พบว่า ทำเลที่มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้นสูงสุด เป็นที่ดินที่มีโครงการรถไฟฟ้าเปิดให้บริการแล้ว และเป็นทำเลที่มีสถานีเชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟฟ้าหรือสามารถเดินทางเชื่อมถึงกันได้ง่าย

โดย 5 อันดับแรกที่มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้นสูงสุด ประกอบด้วย

อันดับ 1 ได้แก่ รถไฟฟ้า MRT และรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม (บางซื่อ-หัวลำโพง)

  • มีค่าดัชนีเท่ากับ 590.3 จุด และ 581.1 จุด ตามลำดับ แต่มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้นเท่ากันคือ 16.4% (YoY)
  • ราคาที่ดินในพื้นที่คลองเตย ดินแดง และจตุจักร ซึ่งเป็นพื้นที่บริการตามแนวรถไฟฟ้า MRT เป็นบริเวณที่มีราคาปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุด

อันดับ 2 ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) และรถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม (บางซื่อ-มธ.รังสิต)

  • มีค่าดัชนีเท่ากับ 540.2 จุด และ 531.9 จุด ตามลำดับ แต่มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้นเท่ากัน คือ 15.6% (YoY)
  • ราคาที่ดินในพื้นที่ธัญบุรี สามโคก และคลองหลวง ซึ่งเป็นพื้นที่บริการตามแนวที่รถไฟฟ้าสายสีแดงเข้ม เป็นบริเวณที่มีราคาปรับเพิ่มขึ้นมาก

อันดับ 3 ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีเขียว (คูคต-ลำลูกกา)

  • มีค่าดัชนีเท่ากับ 345.6 จุด โดยมีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้น 10.1% (YoY)  
  • ราคาที่ดินในพื้นที่ลำลูกกา และสายไหม เป็นบริเวณที่มีราคาปรับเพิ่มขึ้นมาก

อันดับ 4 ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-เตาปูน)

  • มีค่าดัชนีเท่ากับ 469.3 จุด โดยมีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้น 10.0% (YoY)
  • ราคาที่ดินในพื้นที่บางบัวทอง จตุจักร และบางซื่อ เป็นบริเวณที่มีราคาปรับเพิ่มขึ้นมาก

อันดับ 5 ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน (หัวลำโพง-บางแค), รถไฟฟ้าสายสีทอง (ธนบุรี – ประชาธิปก) และสายสีส้ม(ตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม)

  • โดยรถไฟฟ้าทั้งสามสายมีค่าดัชนีเท่ากับ 570.8 จุด 562.6 จุด และ 553.9 จุด ตามลำดับ แต่มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้นเท่ากัน คือ 9.2% (YoY)
  • ราคาที่ดินในพื้นที่ภาษีเจริญ ธนบุรี และบางกอกใหญ่ ซึ่งเป็นพื้นที่บริการของรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย เป็นบริเวณที่มีราคาปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุด
]]>
1510619
เปิด 5 ทำเลที่ดินติดรถไฟฟ้า ดัชนีราคาขึ้นสูงสุด https://positioningmag.com/1506669 Thu, 16 Jan 2025 10:47:35 +0000 https://positioningmag.com/?p=1506669 แม้เศรษฐกิจจะรุ่งหรือร่วง แต่ “ที่ดิน” เป็นสินทรัพย์ที่ราคาเพิ่มขึ้นแทบทุกปี โดยเฉพาะปี 2568 ที่ได้อานิสงส์จากการขยายตัวของแนวรถไฟฟ้าและถนนทางหลวงออกสู่ชานเมือง

ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ (REIC) รายงานดัชนีราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนา ในกรุงเทพฯ – ปริมณฑล ไตรมาสที่ 3 ปี 2567 มีค่าดัชนี 391.1 เพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) แต่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลังในช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิด 

ทั้งนี้ เริ่มเห็นสัญญาณการกลับมาซื้อที่ดินสำหรับการลงทุนก่อสร้างโครงการจัดสรรตามแนวรถไฟฟ้ามากขึ้น เห็นได้จากราคาที่ดินในหลายพื้นที่ขยับเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งคาดว่าปี 2568 ราคาที่ดินเปล่าจะขยายตัวต่อเนื่อง

5 อันดับแรก ที่ดินแนวรถไฟฟ้าที่มีการเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาฯ เมื่อเทียบปีต่อปี (YoY) ได้แก่

1.รถไฟฟ้า สายสีน้ำเงิน (บางแค-พุทธมณฑล สาย 4) มีค่าดัชนีเท่ากับ 458.8 เพิ่มขึ้น 7.0% โดยราคาที่ดินที่ปรับเพิ่มสูงขึ้นในเขตบางแค และหนองแขม

2.รถไฟฟ้า สายสีน้ำเงิน (หัวลำโพง-บางแค) มีค่าดัชนีเท่ากับ 534.5, รถไฟฟ้าสายสีทอง (ธนบุรี-ประชาธิปก) มีค่าดัชนีเท่ากับ 526.8 และรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม) มีค่าดัชนีเท่ากับ 518.7

โดยมีอัตราการเพิ่มขึ้นของราคาที่ดินเท่ากันที่ 6.4% ราคาที่ดินที่ปรับเพิ่มขึ้นมากส่วนใหญ่อยู่ในเขตภาษีเจริญ, บางกอกใหญ่ และบางกะปิ

3.รถไฟฟ้า สายสีลม มีค่าดัชนีเท่ากับ 503.6, รถไฟฟ้า สายสีน้ำเงิน (บางซื่อ-ท่าพระ) มีค่าดัชนีเท่ากับ 495.9 และรถไฟฟ้า สายสีแดงเข้ม (หัวลำโพง-มหาชัย) มีค่าดัชนีเท่ากับ 501.4

โดยมีอัตราเพิ่มขึ้นของราคาที่ดิน 6.3% เท่ากันทั้ง 3 สาย ราคาที่ดินที่ปรับเพิ่มขึ้นอยู่ในเขตภาษีเจริญ, สาทร และบางกอกใหญ่

4.รถไฟฟ้าใต้ดิน ตลอดเส้นทาง มีค่าดัชนีเท่ากับ 552.4 และรถไฟฟ้า สายสีแดงเข้ม (บางซื่อ-หัวลำโพง)  มีค่าดัชนีเท่ากับ 543.8

โดยมีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้น 6.2% เท่ากันทั้ง 2 สาย โดยเฉพาะในเขตสาทร, คลองเตย และดินแดง

5.รถไฟฟ้า สายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) มีค่าดัชนีเท่ากับ 508.2 และรถไฟฟ้า สายสีแดงเข้ม (บางซื่อ-มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต) มีค่าดัชนีเท่ากับ 500.3

มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้น 5.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยราคาที่ดินที่ปรับเพิ่มขึ้นมากอยู่ในเขตสามโคก, ธัญบุรี และบางเขน

“แนวโน้มการเพิ่มขึ้นของราคาที่ดินในพื้นที่แนวเส้นทางรถไฟฟ้า ที่มีผลต่อการเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาที่ดินเปล่าก่อนการพัฒนา มักอยู่ในพื้นที่ที่มีการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าหลายสาย (Interchange) และบริเวณที่เป็นสถานีสำคัญ”

]]>
1506669
เพลิตจิต-ชิดลม ราคาที่ดินขึ้นแพงสุด 3.75 ล้านบาท/ตร.ว. คาดปี 68 ราคาที่ดินทั่วไทยเพิ่ม 5-10% https://positioningmag.com/1504996 Thu, 26 Dec 2024 03:51:19 +0000 https://positioningmag.com/?p=1504996 “โปรสเปค แอพเพรซัล” ผู้เชี่ยวชาญด้านการประเมินราคาที่ดิน รายงานการสำรวจและวิเคราะห์ภาพรวมราคาที่ดินปี 2567 และแนวโน้มราคาที่ดินในปี 2568 ดังนี้

ทำเลที่มีราคาซื้อ-ขายสูงสุดในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล 10 อันดับแรก

  1. ถนนชิดลม-เพลินจิต 3,750,000 บาท/ตารางวา
  2. ถนนวิทยุ 3,100,000 บาท/ตารางวา
  3. ถนนสุขุมวิทตอนต้น 2,940,000 บาท/ตารางวา
  4. ถนนสุขุมวิท 21 อโศก 2,730,000 บาท/ตารางวา
  5. ถนนสีลม  2,700,000 บาท/ตารางวา
  6. ถนนสาทร 2,400,000 บาท/ตารางวา
  7. ถนนสุขุมวิท เอกมัย 1,950,000 บาท/ตารางวา
  8. ถนนเยาวราช 1,900,000 บาท/ตารางวา
  9. ถนนพญาไท 1,850,000 บาท/ตารางวา
  10. ถนนพหลโยธินตอนต้น 1,800,000 บาท/ตารางวา

ทำเลต่างจังหวัดที่มีราคาซื้อ-ขายที่ดินสูงสุด

  • สงขลา สูงสุดเฉลี่ย 400,000 บาทต่อตารางวา
  • เชียงใหม่ สูงสุดเฉลี่ย 250,000 บาทต่อตารางวา

แนวโน้มราคาที่ดินทั่วประเทศปี 2568 ปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 5-10%

ปัจจัยหลัก มาจากการขยายตัวของเมือง และการพัฒนาที่อยู่อาศัยเพิ่ม จำแนกการคาดการณ์รายพื้นที่ ดังนี้

1.พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ปรับตัวสูงขึ้นสุด 3.75 ล้านบาท/ตารางวา

  • ทำเลที่ดินที่ได้รับความสนใจและมีการปรับราคาสูงขึ้นจะอยู่ในทำเลที่ใกล้กับแนวรถไฟฟ้าทั้งสายใหม่และสายเก่า ส่วนบริเวณพื้นที่ปริมณฑล เป็นโซนรองรับการขยายตัวของเมือง
  • ทำเลสุดน่าสนใจ กทม. คือ เขตทวีวัฒนา บางแค บางพลัด ธนบุรี ตลิ่งชัน ดอนเมือง บางนา วัฒนา สะพานสูง สายไหม มีนบุรี สวนหลวง
  • ทำเลน่าสนใจใน นนทบุรี คือ อำเภอเมืองนนบุรี อำเภอบางบัวทอง อำเภอบางใหญ่
  • ทำเลน่าสนใจ ปทุมธานี คือ อำเภอลำลูกกา อำเภอธัญบุรี
  • ทำเลน่าสนใจ สมุทรปราการ คือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ อำเภอบางพลี

2.พื้นที่ในต่างจังหวัดที่ราคามีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นจะอยู่ในจังหวัดที่เป็น “เมืองท่องเที่ยว” ได้แก่

  • โซนภาคเหนือ คือ เชียงใหม่ มีแนวโน้มที่ราคาที่ดินจะปรับตัวสูงขึ้น ในปี 2568 ประมาณเฉลี่ย 5-10% (YoY) ปัจจุบันมีการขยายพื้นที่เมืองออกไปทาง อำเภอสันทราย อำเภอสันกำแพง และอำเภอฝาง ซึ่งมีการขยายตัวของโครงการที่พักอาศัย ชุมชนพักอาศัย และพาณิชยกรรม ออกจากเมืองเชียงใหม่เพิ่มมากขึ้น ที่น้ำไม่ท่วม ประกอบกับมีโครงการสนามบินนนานาชาติ เชียงใหม่แห่งที่ 2 ในพื้นที่ ทำให้ราคาที่ดินมีการปรับตัวสูงขึ้น
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่ นครราชสีมา จะมีแนวโน้มปรับตัวของราคาที่ดินสูงขึ้นเฉลี่ย 5-10% (YoY) โดยเฉพาะอำเภอปากช่อง (เขาใหญ่) ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งมีการขยายตัวของโครงการที่พักอาศัย ทั้งบ้านจัดสรรและคอนโด เกิดขึ้นจำนวนมาก ทำให้ราคาที่ดินมีการปรับตัวสูงขึ้น
  • ภาคตะวันออก ได้แก่  ชลบุรี จะมีแนวโน้มปรับตัวของราคาที่ดินสูงขึ้นในปี 2568 ประมาณเฉลี่ย 5-10% (YoY) โดยเฉพาะอำเภอบางละมุง เมืองพัทยา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งมีการขยายตัวของโครงการที่พักอาศัย ทั้งบ้านจัดสรรและคอนโด เกิดขึ้นจำนวนมาก ทำให้ราคาที่ดินมีการปรับตัวสูงขึ้น  
  • ภาคใต้ คือ ภูเก็ต จะมีแนวโน้มปรับตัวของราคาที่ดินสูงขึ้นในปี 2568 ประมาณเฉลี่ย 10-15% (YoY) โดยเฉพาะพื้นที่ที่ติดหาดที่สามารถพัฒนาเป็นโครงการที่อยู่อาศัยได้ ซึ่งมีการขยายตัวของโครงการที่พักอาศัย ทั้งบ้านจัดสรรและคอนโด เกิดขึ้นจำนวนมาก ทำให้ราคาที่ดินมีการปรับตัวสูงขึ้น  

“ราคาที่ดินปี 2568 ปรับตัวสูงขึ้นตามความต้องการลงทุนทั้งเพื่อการพัฒนาอาคารในเชิงพาณิชย์ และ การพัฒนาที่อยู่อาศัย ทำเลที่ราคาปรับตัวสูง ส่วนใหญ่ จะเป็นทำเลที่การเดินทางสะดวก ใกล้แนวรถไฟฟ้า และมีสิ่งอำนวยความสะดวก รวมทั้งแหล่งงาน ที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยเป็นหลัก”

]]>
1504996
“ราคาที่ดิน” Q3/2566 ยังปรับขึ้นแต่ “ชะลอตัว” ทำเล “นครปฐม” มาแรง ราคาขึ้น 62.5% จากปีก่อน https://positioningmag.com/1450234 Wed, 01 Nov 2023 06:43:55 +0000 https://positioningmag.com/?p=1450234
  • REIC สำรวจ “ราคาที่ดิน” Q3/2566 ปรับขึ้นเพียง 3.0% จากปีก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นการชะลอตัวลง เทียบกับก่อนโควิด-19 ราคาที่ดินขึ้นช้าลงถึง 5 เท่า
  • เหตุจากดีมานด์ซื้อลดลง ผู้ประกอบการชะลอการเปิดโครงการใหม่ตามภาวะเศรษฐกิจ และลดการเก็บสะสมที่ดินหลังรัฐเรียกเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเต็มอัตรา
  • อย่างไรก็ตาม บางทำเลราคาที่ดินยังพุ่งกระฉูด อันดับ 1 ประจำไตรมาสนี้คือ “นครปฐม” ราคาพุ่ง 62.5% YoY
  • ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ REIC เปิดเผยข้อมูลการสำรวจ “ราคาที่ดิน” ประจำไตรมาส 3/2566 พบว่า ราคาที่ดินมีการปรับขึ้น 0.9% QoQ หรือปรับขึ้น 3.0% YoY

    โดยรวมตลอดปี 2566 ราคาที่ดินเริ่มมีการเติบโตแบบชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับช่วง 5 ปีก่อนโควิด-19 (ปี 2558-62) ช่วงนั้นราคาที่ดินมีการเติบโตเฉลี่ย 14.8% ต่อปี ราคาที่ดินที่ปรับขึ้นในไตรมาสล่าสุดจึงถือว่าชะลอจากช่วงก่อนโควิด-19 ถึง 5 เท่า

    ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์  เปิดเผยว่า ปัจจัยที่ทำให้ราคาที่ดินเปล่ามีการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอตัวลง เกิดจากปัจจัยลบสำคัญ คือ ผู้ประกอบการมีการหาซื้อที่ดินเปล่าลดลง

    เหตุที่ผู้ประกอบการเริ่มหาซื้อที่ดินเปล่าน้อยลง เกิดจากผู้ประกอบการมีการชะลอเปิดขายโครงการใหม่ จากกำลังซื้อของผู้บริโภคในตลาดที่ลดลง หลัง กนง. ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นมาหลายครั้งจนขณะนี้อยู่ที่ 2.50% สวนทางกับภาวะหนี้ครัวเรือนที่สูงถึง 90% ของ GDP

    อีกทั้งผู้ประกอบการยังกังวลเรื่องการจ่ายภาระภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ปีนี้รัฐเรียกเก็บเต็มอัตรา ดังนั้น หากมีการซื้อที่ดินสะสมไว้จำนวนมาก อาจจะเป็นต้นทุนเพิ่มในการพัฒนาโครงการต่อไปในอนาคต

    เมื่อดีมานด์เริ่มลดลงจึงเป็นแรงสะท้อนให้ราคาที่ดินปรับขึ้นได้ช้ากว่าที่เคยเป็นมา

    อย่างไรก็ตาม บางทำเลก็ยังคงร้อนแรง โดยในไตรมาส 3 ปี 2566 นี้ พบว่า โซนที่มีอัตราการขยายตัวของราคาที่ดินเพิ่มขึ้นสูงสุด 5 อันดับแรกเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (YoY) มีดังนี้

    อันดับ 1 ได้แก่ ที่ดินในโซนนครปฐมมีอัตราการเปลี่ยนราคามากถึงร้อยละ 62.5

    อันดับ 2 ได้แก่ ที่ดินในโซนบางพลี-บางบ่อ-บางเสาธง มีอัตราการเปลี่ยนราคาร้อยละ 22.3

    อันดับ 3 ได้แก่ ที่ดินในโซนเมืองสมุทรปราการ-พระประแดง-พระสมุทรเจดีย์ มีอัตราการเปลี่ยนราคา  ร้อยละ 17.9

    อันดับ 4 ได้แก่ ที่ดินในโซนตลิ่งชัน-บางแค-ภาษีเจริญ-หนองแขม-ทวีวัฒนา-ธนบุรี-คลองสาน-บางพลัด-บางกอกน้อย-บางกอกใหญ่ มีอัตราการเปลี่ยนราคา  ร้อยละ 14.9

    อันดับ 5 ได้แก่ ที่ดินในโซนกรุงเทพชั้นใน มีอัตราการเปลี่ยนราคาร้อยละ 6.8

    อันดับที่ดินที่ราคาเพิ่มขึ้นมากที่สุดช่วงไตรมาส 3/2566 เห็นได้ว่าจะเป็นเขตชานเมืองทางปริมณฑลมากกว่าในเมือง ทาง REIC วิเคราะห์ว่าเกิดจากผู้ประกอบการมีแผนจะพัฒนาโครงการในเขตจังหวัดปริมณฑล เพราะต้องการพัฒนาเป็นโครงการแนวราบ อีกทั้งชานเมืองยังเป็นเขตที่ราคาที่ดินยังไม่สูง จึงมีโอกาสเติบโตด้านราคาอีกมาก

    REIC กล่าวด้วยว่า โซนเหล่านี้ถ้าย้อนกลับไปดูสถิติในช่วงครึ่งปีแรก 2566 ทำเลเหล่านี้คือพื้นที่ที่มีการเปิดโครงการใหม่และยอดขายใหม่มากที่สุดด้วย จึงน่าจะมีส่วนช่วยผลักดันราคาเพราะเห็นว่าเป็นพื้นที่ที่ตลาดมีความต้องการสูง

    ]]>
    1450234
    ราคาที่ดินในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 2 ปีติดต่อกันแล้ว จากเทรนด์ท่องเที่ยว ตั้งโรงงานผลิตชิป และซื้อบ้านนอกเมือง https://positioningmag.com/1444895 Wed, 20 Sep 2023 06:13:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1444895 รัฐบาลญี่ปุ่นได้สำรวจราคาที่ดินมากถึง 21,000 แห่งทั่วประเทศ โดยตัวเลขราคาที่ดินในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 2 ปีติดต่อกันแล้ว ขณะที่ราคาที่ดินตามต่างจังหวัดกลับมาเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 31 ปี หลังฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์แตกในยุค 1990

    รัฐบาลญี่ปุ่นได้เปิดเผยราคาเฉลี่ยที่ดินในประเทศเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งสำรวจราคาที่ดินมากถึง 21,000 แห่งทั่วประเทศ ราคาเฉลี่ยที่ดินทั่วประเทศเพิ่มมากขึ้น 1% และเป็นการเพิ่มขึ้น 2 ปีติดต่อกันแล้ว

    โดยราคาที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการเชิงพาณิชย์เฉลี่ยเพิ่มมากขึ้นถึง 1.5% ขณะที่ราคาที่ดินสำหรับที่อยู่อาศัยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 0.7%

    ปัจจัยที่ทำให้ราคาที่ดินญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นก็คืออัตราดอกเบี้ยสำหรับซื้อบ้านในญี่ปุ่นยังถือว่าถูก เมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศพัฒนาอื่นๆ จากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย

    ขณะเดียวกันเทรนด์การซื้อบ้านนอกเมืองใหญ่ก็กำลังฮิตในชาวญี่ปุ่น เนื่องจากราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ถูกกว่าตามเมืองใหญ่ หรือแม้แต่ชาวต่างชาติที่สนใจเริ่มซื้ออสังหาริมทรัพย์ในแดนอาทิตย์อุทัยที่เพิ่มมากขึ้น

    ทางด้านภาคการท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคักหลังการเปิดประเทศ โดยราคาที่ดินในเมือง Sapporo ที่เกาะ Okinawa หรือแม้แต่ที่ Nagano เพิ่มขึ้นจากปัจจัยดังกล่าว

    ไม่เพียงเท่านี้ ความต้องการที่ดินสำหรับการตั้งโรงงานผลิตชิปและสินค้าที่เกี่ยวข้องที่เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาที่ดินในเมือง Chitose เพิ่มขึ้นจากปัจจัยดังกล่าวโดยเฉพาะ หรือแม้แต่ราคาที่ดินในจังหวัด Kumamoto ที่ราคาที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้น 32% จากการเข้ามาตั้งโรงงานผลิตชิปของ TSMC

    ผลที่เกิดขึ้นทำให้ราคาที่ดินตามพื้นที่ต่างจังหวัดได้ปรับเฉลี่ยขึ้น 0.1% และเป็นการปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 31 ปี หลังจากฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ในญี่ปุ่นแตกในช่วงยุค 1990 ซึ่งสร้างผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นในช่วงถัดมา

    Ide Takeshi จาก Tokyo Kantei บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ ได้กล่าวกับ NHK ว่า แนวโน้มขาขึ้นของราคาที่ดินจะดำเนินต่อไป โดยได้ปัจจัยการฟื้นตัวของจำนวนนักท่องเที่ยว และมีการสร้างโรงงานเพิ่มขึ้น ขณะที่ปัจจัยด้านลบไม่มีเลย

    แต่เขาก็เตือนว่ามีช่องว่างระหว่างราคาที่ดินกับเศรษฐกิจที่แท้จริง และต้องรอดูสัญญาณดังกล่าวว่าจะเป็นฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์หรือไม่

    ที่มา – NHK, Kyodo News, Bloomberg

    ]]>
    1444895
    ราคาประเมินที่ดินรอบปี 2566-69 กรุงเทพฯ “ตารางวาละล้าน” ช่วงไข่แดงกลางเมือง https://positioningmag.com/1414866 Mon, 09 Jan 2023 07:04:23 +0000 https://positioningmag.com/?p=1414866 การประเมินราคาที่ดินโดย “กรมธนารักษ์” รอบก่อนในปี 2559-62 มีถนนเพียงสายเดียวที่มีราคาประเมินแตะ “1 ล้านบาทต่อตารางวา” คือ ถนนสีลม แต่มารอบปี 2566-69 ถนนหลายสายในกรุงเทพฯ ถูกปรับราคาประเมินขึ้นไปสู่ระดับ “วาละล้าน” โดยราคาประเมินรอบใหม่จะเริ่มใช้ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2566

    ]]>
    1414866
    “ราคาที่ดิน” กรุงเทพฯ ต้นปี’65 เติบโตต่ำ ผลจากเศรษฐกิจชะลอตัว-ภาษีที่ดินเก็บเต็มเม็ด https://positioningmag.com/1383826 Wed, 04 May 2022 07:13:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1383826 ยังทรงตัวต่อเนื่อง REIC ประเมิน “ราคาที่ดิน” กรุงเทพฯ ไตรมาส 1/2565 ยังเติบโตในระดับต่ำ ผลกระทบตั้งแต่เกิดโรคระบาด และเศรษฐกิจยังคงไม่ฟื้นตัว สำทับด้วยปัจจัยภาษีที่ดินที่เก็บเต็ม 100% ทำให้ผู้ประกอบการไม่ต้องการสต็อกที่ดิน

    ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) เปิดข้อมูลดัชนี “ราคาที่ดิน” ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ไตรมาส 1/2565 อยู่ที่ 341.0 จุด เพิ่มขึ้น 0.6% QoQ และเพิ่มขึ้น 4.5% YoY

    แม้ว่าราคาที่ดินจะยังปรับเพิ่ม แต่ถ้าเทียบกับช่วงก่อนหน้าเกิดโรคระบาด COVID-19 ถือว่า ราคาที่ดินกรุงเทพฯ มีการเติบโตแบบชะลอตัว เพราะค่าเฉลี่ย 5 ปีก่อนโรคระบาด (2558-2562) ราคาที่ดินจะปรับเพิ่มเฉลี่ย 4.1% ต่อไตรมาส และขึ้นเฉลี่ยถึง 14.8% ต่อปี

    เมื่อดูกราฟช่วงก่อนและหลังเกิดโรคระบาด จะเห็นว่าราคาที่ดินเคยปรับขึ้นสูงมากในช่วงปี 2561-2562 นี้เอง โดยเคยขึ้นสูงสุดช่วงไตรมาส 4/2561 ที่ขึ้น 32.6% YoY เพราะเป็นช่วงที่มีการประกาศแผนก่อสร้างรถไฟฟ้าหลายสาย ทั้งสายสีส้ม ศูนย์วัฒนธรรมฯ–มีนบุรี สายสีเหลือง สำโรง–ลาดพร้าว และสายสีชมพู มีนบุรี-แคราย

    แต่หลังจากเผชิญโรคระบาดช่วงไตรมาส 2/2563 การเติบโตของราคาที่ดินก็เริ่มชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง จนถึงช่วงไตรมาส 1/2564 การเติบโตของราคาที่ดินลดจนต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 5 ปีก่อนโรคระบาด และเป็นไตรมาส 1/2564 นี้เองที่ราคาที่ดินถึงกับปรับตัว “ลดลง” เป็นครั้งแรก โดยลดลง-2.2% QoQ

    REIC ประเมินว่า แม้ว่าปี 2565 ประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่ช่วงคลี่คลายจากโรคระบาด แต่เนื่องจากเกิดสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทย จนกำลังซื้อที่อยู่อาศัยยังไม่ฟื้นตัวมากนัก ผู้ประกอบการจึงชะลอการลงทุนซื้อที่ดินเปล่า

    ประกอบกับ การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งเคยให้ส่วนลด 90% ในปี 2562-2563 มาถึงปี 2564 เริ่มเก็บเต็ม 100% แล้ว ซึ่งมีผลทำให้ผู้ประกอบการต้องระมัดระวังในการสต็อกที่ดินรอก่อนเริ่มพัฒนาโครงการ โดยรวมแล้วทำให้ดีมานด์ต่อที่ดินยังไม่สูงดังเก่า

     

    “ตลิ่งชัน-ศาลายา” ราคาที่ดินขึ้นสูงสุด

    ค่าเฉลี่ยราคาที่ดินปรับเพิ่มต่ำ แต่บางทำเลก็ยังปรับราคาได้สูง ส่วนใหญ่จะเป็นบริเวณที่มีแผนก่อสร้างรถไฟฟ้าสายใหม่ หรือยังอยู่ระหว่างก่อสร้าง ดังนี้

    อันดับ 1 สายสีแดงอ่อน (ตลิ่งชัน-ศาลายา) โครงการที่กำลังจะก่อสร้างในอนาคต ราคาที่ดินปรับขึ้น 8.5% YoY โดยเฉพาะในเขตทวีวัฒนาและตลิ่งชัน

    อันดับ 2 สายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง มีความคืบหน้าการก่อสร้างไปแล้วกว่าร้อยละ 90.7 คาดเปิดใช้ภายในปี 2565 ราคาที่ดินปรับเพิ่มขึ้น 8.2% YoY เขตหลักสี่และเขตคันนายาว เป็นบริเวณที่ราคาที่ดินปรับเพิ่มขึ้นมากที่สุด

    อันดับ 3 สายสีม่วง (บางใหญ่-เตาปูน) โครงการที่เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2559 ราคาที่ดินปรับขึ้น 6.7% YoY ราคาที่ดินในอำเภอเมืองนนทบุรี และอำเภอบางบัวทอง เป็นบริเวณที่มีราคาปรับเพิ่มขึ้นมาก

    อันดับ 4 สายสีน้ำเงิน (บางแค-พุทธมณฑล สาย 4) โครงการส่วนต่อขยายที่กำลังจะก่อสร้างในอนาคต ราคาที่ดินปรับขึ้น 6.3% YoY โดยราคาที่ดินในเขตหนองแขมและเขตบางแค เป็นบริเวณที่มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นมาก

    อันดับ 5 สายสีเขียว (สมุทรปราการ-บางปู) โครงการส่วนต่อขยายที่กำลังจะก่อสร้างในอนาคต และ สายสีเขียว (แบริ่ง-สมุทรปราการ) เป็นโครงการที่เปิดให้บริการแล้ว โดยราคาที่ดินทั้ง 2 เส้นทาง ราคาที่ดินปรับขึ้นเท่าๆ กันที่ 5.8% YoY โดยพบว่าอำเภอเมืองสมุทรปราการ เป็นบริเวณที่มีราคาที่ดินเพิ่มขึ้นมาก

    ]]>
    1383826
    ราคา “ที่ดิน” กรุงเทพฯ ท่ามกลาง COVID-19 ยังปรับขึ้น…แต่ขึ้นช้าลง https://positioningmag.com/1344123 Tue, 27 Jul 2021 11:02:45 +0000 https://positioningmag.com/?p=1344123 สำรวจราคา “ที่ดิน” เปล่าในกรุงเทพฯ-ปริมณฑลโดย REIC พบว่าการเติบโตของราคาที่ดินยังปรับขึ้นอยู่ แต่ปรับขึ้นช้าลง ขึ้นต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีมาติดต่อกัน 3 ไตรมาส สะท้อนผลกระทบจาก COVID-19

    ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคารอาคารสงเคราะห์ และรักษาการผู้อำนวยการ ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (REIC) เปิดข้อมูลจากการสำรวจราคาที่ดินเปล่ากรุงเทพฯ-ปริมณฑลรายไตรมาส พบว่า ณ ไตรมาส 2/64 ราคาที่ดินเปล่าปรับขึ้น 7.8% YoY หรือปรับขึ้น 2.0% QoQ 

    อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าการปรับขึ้นชะลอตัวลง ราคาที่ดินเติบโตในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี (2559-2563) ติดต่อกันมาแล้ว 3 ไตรมาส เริ่มตั้งแต่ไตรมาส 4/63

    สะท้อนว่าวิกฤต COVID-19 มีผลทำให้ความต้องการซื้อที่ดินลดลงแล้ว และเจ้าของที่ดินเองมีความต้องการขายสูงขึ้น โดยในระยะต่อไปขึ้นอยู่กับว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจจะทำให้เจ้าของที่ดินมีการระบายขายที่ดินออกมามากขึ้นหรือไม่ หากมีซัพพลายสูงขึ้น น่าจะทำให้ราคาที่ดินปรับขึ้นแบบชะลอตัวต่อเนื่อง

    บางแค-สาย 4 มาแรงสวนตลาด

    ด้านราคาที่ดินเปล่าที่ปรับขึ้นแยกตามทำเลที่มีรถไฟฟ้าผ่าน 5 อันดับแรก ปรับขึ้นในระดับใกล้เคียงกัน แต่ทำเลที่ปรับขึ้นมาแรงสูงสุดคือบริเวณ บางแค-พุทธมณฑลสาย 4 ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนต่อขยายในอนาคตของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ล่าสุดปรับขึ้น 29.4% YoY และเป็้นการปรับขึ้นสูงสุดเป็นอันดับ 1 ติดต่อกันมา 3 ไตรมาสแล้ว

    สำหรับ 5 อันดับแรกทำเลแนวรถไฟฟ้าที่ราคาที่ดินปรับขึ้นสูงสุด มีดังนี้

    อันดับ 1
    – สายสีน้ำเงิน บางแค-พุทธมณฑลสาย 4 +29.4%
    อันดับ 2
    – สายสีทอง ธนบุรี-ประชาธิปก +27.7%
    – สายสีน้ำเงิน หัวลำโพง-บางแค +27.7%
    – สายสีส้ม ตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม +27.7%
    – สายสีส้ม ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี +27.7%
    อันดับ 3
    – สายสีน้ำเงิน ช่วงบางซื่อ-จตุจักร +27.1%
    อันดับ 4
    – สายสีแดงเข้ม บางซื่อ-หัวลำโพง +27.0%
    อันดับ 5
    – สายสีเขียว ช่วงอโศก-บางนา +26.0%

    ]]>
    1344123