รายการกีฬา – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 13 Dec 2023 12:19:24 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 กลยุทธ์ “Netflix” ถ่ายทอดสด “กีฬา” แมตช์พิเศษ ดึงคนดูกลุ่มใหม่-เพิ่มคอนเทนต์ให้หลากหลาย https://positioningmag.com/1455541 Wed, 13 Dec 2023 11:03:34 +0000 https://positioningmag.com/?p=1455541 กลยุทธ์ใหม่ของ “Netflix” ในการครองบัลลังก์สตรีมมิ่งคือการเจาะเข้าสู่ตลาดถ่ายทอดสด “กีฬา” เพื่อดึงคนดูกลุ่มใหม่ๆ และเพิ่มคอนเทนต์ให้หลากหลาย ช่วยดึงสมาชิกเก่าไม่ให้บอกเลิกสมาชิกไปเสียก่อน

คอกีฬาฮือฮากันทันทีเมื่อ “Netflix” ประกาศโปรแกรมถ่ายทอดสด “กีฬา” รายการใหม่ “The Netflix Slam” จับคู่หยุดโลกในวงการเทนนิส “ราฟาเอล นาดาล ปะทะ คาร์ลอส อัลคาราซ” แชมป์แกรนด์สแลม 22 สมัยประจันหน้ากับนักเทนนิสมือวางอันดับ 2 ของโลกคนปัจจุบัน

แมตช์นี้จะพบกันวันที่ 3 มีนาคม 2024 เป็นแมตช์พิเศษที่จัดขึ้นในลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา และ Netflix เป็นสตรีมมิ่งแพลตฟอร์มที่จะถ่ายทอดสดไปในกลุ่มประเทศที่พูดภาษาอังกฤษและภาษาสเปน

Netflix กีฬา
รายการเทนนิสนัดพิเศษ The Netflix Slam

การถ่ายทอดสดกีฬานัดนี้ไม่ใช่ครั้งแรกของ Netflix เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2023 แพลตฟอร์มนี้มีการถ่ายทอดสดกีฬาครั้งแรกในรายการ “The Netflix Cup” เป็นกีฬากอล์ฟแมตช์พิเศษ โดยสร้างสรรค์ไอเดียจับคู่นักกอล์ฟอาชีพจากรายการ PGA Tour กับนักแข่งรถฟอร์มูลาวันมาเป็นทีมกอล์ฟทีมเดียวกัน รวมทั้งหมด 4 ทีมเพื่อแข่งขันหาแชมป์รายการ และมีการถ่ายทอดสดไปหลายประเทศ

เหตุที่ Netflix สนใจการถ่ายทอดสดกีฬา มาจากสถิติจากวงการโทรทัศน์แบบดั้งเดิมและเคเบิลทีวี สถานการณ์วงการโทรทัศน์นั้นมีคนดูน้อยลงเรื่อยๆ แต่กลุ่มที่ยังเปิดโทรทัศน์ปกติดูอยู่เป็นเพราะต้องการชมถ่ายทอดสดกีฬานั่นเอง

โดยข้อมูลจาก Neilsen พบว่า ผู้ชมในสหรัฐฯ​ เปิดโทรทัศน์ดูถ่ายทอดสดกีฬาเพิ่มขึ้นถึง 360% เมื่อฤดูกาลใหม่ของรายการอเมริกันฟุตบอล National Football League (NFL) เริ่มต้นขึ้น

นั่นทำให้ Netflix รู้ว่า บรรดาคอกีฬาถือเป็นกลุ่มผู้ชมที่แข็งแรงมาก และหันมาทำคอนเทนต์เกี่ยวกับกีฬามากขึ้นโดยเฉพาะสารคดีเจาะลึกวงการกีฬาต่างๆ เช่น “Formula 1: Drive to Survive” เพื่อเจาะลึกในรายการแข่งขันรถฟอร์มูลาวัน “Full Swing” เจาะลึกเบื้องหลังการแข่งขัน PGA Tour หรือ “Quarterback” เจาะลึกวงการกีฬาอเมริกันฟุตบอลรายการ NFL เป็นต้น

ซีรีส์สารคดี Formula 1: Drive to Survive

อย่างไรก็ตาม Netflix ยังไม่มีแผนที่จะเข้าไปประมูลชิงลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดกีฬาตามฤดูกาลใดๆ ทั้งสิ้น ยืนยันโดย “สเปนเซอร์ นอยมานน์” ซีเอฟโอบริษัท เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เหตุเพราะประเมินแล้วคิดว่าการลงทุนหลายพันล้านเหรียญสหรัฐไปกับค่าลิขสิทธิ์คงจะไม่ได้กำไรกลับมามากเท่าไหร่นัก

“เท็ด ซารานดอส” ซีอีโอร่วมของ Netflix ก็เคยประกาศไว้เมื่อเดือนกรกฎาคม 2023 ว่าบริษัทไม่ได้สนใจประมูลถ่ายทอดสดกีฬาทั้งฤดูกาล แต่ต้องการจะลงทุนเฉพาะคอนเทนต์ที่ “เกี่ยวกับกีฬา” เท่านั้น โดยหวังว่าจะได้กลุ่มคนดูประเภท “คอกีฬา” กลุ่มเดียวกับที่ชมถ่ายทอดสดในโทรทัศน์ปกติ ให้หันมาดูสารคดีและแมตช์พิเศษใน Netflix ด้วย

เทรนด์การถ่ายทอดสดกีฬาผ่านสตรีมมิ่งแพลตฟอร์มนั้นไม่ได้มีแต่ Netflix ที่เล็งเห็น แพลตฟอร์มอื่นก็มีการใช้กลยุทธ์นี้เช่นกัน เช่น “Amazon Prime” ชิงลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดรายการ Thursday Night Football การแข่งขัน NFL ในคืนวันพฤหัสบดีมาได้ หรือ “AppleTV” ก็ชิงลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดรายการ Friday Night Baseball การแข่งขันเบสบอลเมเจอร์ลีกทุกคืนวันศุกร์ และรายการฟุตบอล Major League Soccer ของสหรัฐฯ

ที่มา: Reuters, The Verge, CNBC

]]>
1455541
เจาะอินไซต์การรับชม ‘กีฬา’ และ ‘อีสปอร์ต’ ที่แบรนด์ต้องรู้ก่อนจะลงเงินโฆษณา https://positioningmag.com/1338835 Thu, 24 Jun 2021 11:28:21 +0000 https://positioningmag.com/?p=1338835 หากพูดถึงเรื่อง กีฬา และ กีฬาอีสปอร์ต เชื่อว่าเป็นหนึ่งในคอนเทนต์ที่คนไทยหลายคนให้ความสนใจ ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่มาคู่กันก็คือ สปอนเซอร์ แต่หลายแบรนด์อาจจะยังไม่แน่ใจว่าในส่วนของรายการกีฬานั้นมีผู้ชมมากน้อยแค่ไหน เป็นใคร และจะได้อะไรกลับมา ดังนั้น นีลเส็น ประเทศไทย จึงได้ออกมาเปิดเผยถึงอินไซต์ว่าภาพรวมเป็นอย่างไรบ้าง

ประชากรไทย 43 ล้านคนชมกีฬา

จากผลสำรวจในช่วง 12 เดือน ที่ผ่านมาพบว่า ผู้ชมชาวไทย 84% หรือกว่า 43 ล้านคน กลับมารับชมกีฬา และมากกว่า 20 ล้านคน รับชมกีฬาในสนามแข่ง โดยคนไทย 19 ล้านคน เล่นกีฬา

แพลตฟอร์มในการรับชมกีฬา 5 อันดับ ได้แก่

  • ฟรีทีวี (74%)
  • โซเชียลมีเดีย (69%)
  • สตรีมมิ่งแพลตฟอร์ม (46%)
  • OTT แพลตฟอร์ม (44%)
  • เพย์ทีวี (37%)

คนดูโหยหารายการกีฬา

แม้ว่าช่วงการระบาดของ COVID-19 จะทำให้ไม่สามารถจัดแข่งขันกกีฬาได้ ซึ่งส่งผลกระทบให้ไม่มีรายการกีฬาถ่ายทอดสด จากยอดการรับชมเดือนละ 40-45 ล้านคนกลายเป็นศูนย์ในช่วงเดือนเมษายน 2020 แต่พอช่วงที่มีการผ่อนปรน มีการจัดแข่งขันกีฬาสดคนก็กลับมาชมกีฬาเหมือนเดิม อย่างที่ผ่านมา รายการ วอลเลย์บอลหญิงเนชั่นลีก 2021 สามารถทำเรตติ้งได้ 5.3%

ส่งผลให้โฆษณาสามารถเข้าถึงคนดูได้มากขึ้น อาทิ มิตซูบิชิ สามารถเข้าถึงคนดูได้ 3.9 ล้านคน จากการแข่งขัน AFC U23 Championship Thailand 2020, Coca-Cola เข้าถึงคนดู 1.8 ล้านคนจากรายการ Thai Fight, Leo Soda เข้าถึงคน 1.1 ล้านคน จากรายการ Toyota Thai League และ Nescafe เข้าถึคนดู 5 ล้านคน จากรายการวอลเลย์บอลหญิงเนชั่นลีก 2021 สำหรับการแข่งขัน ฟุตบอลยูโร 2020 มียอดผู้ชมสะสม 8.1 ล้านคนในช่วง 12 วันที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นว่ารายการกีฬาที่สำคัญยังสามารถดึงดูดคนได้อยู่

คนดูกีฬามักมีรายได้สูงกว่า

ผู้ชมกีฬาส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่มีรายได้ สูง เมื่อเทียบกับผู้ชมทั่วไป โดยประเภทรายการกีฬาที่คนไทยสนใจมากสุดคือ

  • ฟุตบอล (61%) ผู้ชมส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อมากกว่าคนไทยทั่วไป ส่วนใหญ่อาศัยในกรุงเทพฯ และเขตเทศบาลต่างจังหวัด ส่วนใหญ่เป็นเพศชาย
  • วอลเลย์บอล (53%) มีทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ส่วนใหญ่อาศัยในกรุงเทพฯ และเขตเทศบาลต่างจังหวัด กำลังซื้อระดับปานกลาง
  • แบตมินตัน (42%) ผู้ชมส่วนใหญ่รายได้ปานกลางถึงสูง อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ เป็นหลัก
  • มวยไทย (41%) จับกลุ่มรายได้น้อย ส่วนใหญ่อยู่ต่างจังหวัด

 

โซเชียลช่องทางหลักติดตามข่าว

โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางอันดับ 1 (80%) ตามด้วยทีวี (78%) แพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่ง (75%) Social Messaging (63%) และ เว็บไซต์ต่าง ๆ (60%) ทั้งนี้ ช่องทางการติดตามโซเชียล 5 อันดับ ดังนี้

  • Facebook 93%
  • YouTube 92%
  • Instagram 66%
  • Twitter 61%
  • TikTok 55%

สำหรับรายการแข่งขันที่คนไทยให้ความสนใจ ได้แก่ FIFA Would Cup 61%, Asian Game 55%, Sea Game 54% และ Asian Volleyball Cup 53%

ส่วนการแข่งขันที่จัดเป็นฤดูการที่คนไทยสนใจ ได้แก่ Premier League 55%, UEFA Champions League 49%, UEFA Europa League 44% และ Toyota Thai League 43%

ในส่วนของกีฬาโอลิมปิกที่จะจัดแข่งในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้พบว่า คนไทยให้ความสนใจเพียง 43% แม้ว่าจะรู้จักเกือบ 100% อย่างไรก็ตาม หากวัดตามจำนวนผู้ที่มีรายได้สูงกว่า 60,000 บาทพบว่าพวกเขาให้ความสนใจ 53% สูงกว่าค่าเฉลี่ย

สปอนเซอร์มีภาพลักษณ์ที่ดีสำหรับแฟนกีฬา

  • 65% ของผู้ชมเห็นด้วยว่าแบรนด์ผู้สนับสนุนกีฬาได้รับความสนใจจากผู้ชมมากขึ้น
  • 63% รู้สึกจดจำชื่อแบรนด์ได้
  • 60% รู้สึกว่าแบรนด์มีความรับผิดชอบต่อสังคม
  • 55% จะเลือกใช้แบรนด์สปอนเซอร์มากกว่าแบรนด์คู่แข่ง

ที่น่าสนใจคือ สำหรับแฟนกีฬาจะให้ความสำคัญกับสปอนเซอร์มากกว่าผู้ชมทั่วไป โดยจะมีความภักดีต่อแบรนด์มากกว่า รักแบรนด์มากกว่า

แฟนอีสปอร์ตเป็นวัยรุ่นรายได้สูง

จากการสำรวจแฟนกีฬาอีสปอร์ตในพื้นที่กรุงเทพมหานครพบว่า 65% เป็นเพศชาย เป็นกลุ่มนักศึกษาหรือ Fist Jobber อายุเฉลี่ยประมาณ 27 ปี มีรายได้สูงกว่าเฉลี่ยคนกรุงที่ 45,000 บาท โดยเฉลี่ยมักจะใช้เวลา 8 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในการ เล่นเกม และใช้เวลา 5 ชั่วโมง ต่อสัปดาห์โดยเฉลี่ยในการ รับชมการแข่งขันอีสปอร์ต ดย  79% ดูเพราะชื่นชอบ 74% ดูเป็นงานอดิเรก และ 61% ดูเพื่อพัฒนาทักษะการเล่นเกม

 

โทรศัพท์มือถือ เป็นอุปกรณ์หลักสำหรับใช้เล่นเกมและรับชมการแข่งขันมากถึง 88% ส่วนการเล่นเกมบน พีซี คิดเป็น 54% และมีเพียง 45% ที่ใช้เกม คอนโซล ส่วนแพลตฟอร์มที่ชาวอีสปอร์ตไทยใช้รับชมการแข่งขันอีสปอร์ต ได้แก่

  • YouTube 77%
  • Twitch 48%
  • Facebook 16%
  • mixer 12%
  • Garena 11%

ทั้งนี้ 71% ของแฟนอีสปอร์ตมองว่าสปอนเซอร์ช่วยทำให้ประสบการณ์ดีขึ้น 69% รู้สึกว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มคอมมูนิตี้อีสปอร์ต และ 55% รู้สึกว่าแบรนด์ที่ได้รับการแนะนำจากนักกีฬาหรือสตรีมเมอร์ให้ความรู้สึกว่ามีความจริงใจ

สรุป คนดูกีฬามีอำนาจการซื้อสูงกว่า โดยทีวียังคงเป็นช่องทางหลักในการรับชม แต่โซเชียลมีความสำคัญในการติดตามข่าวสาร ส่วนแบรนด์สปอนเซอร์จะได้รับผลบวกจากการสนับสนุนแน่นอน และแม้การแข่งขันกีฬาจะได้รับผลกระทบจาก COVID-19 แต่ผู้ชมกีฬาไม่เคยหายไปไหน อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจอาจยังไม่ฟื้นจากพิษ COVID-19 แต่หากไม่ลงโฆษณาอาจทำให้แบรนด์ไม่ได้สื่อสาร ทำให้ถูกลืมและถูกคู่แข่งแทรกขึ้นมาได้ ดังนั้น ต้องวางแผนอย่างรัดกุมและเฉียบขาดมากขึ้น

]]>
1338835