คนดูไหวไหม? Netflix อาจ “ขึ้นราคา” สตรีมมิ่งเร็วๆ นี้ หลังข้อตกลงกับกลุ่มนักเขียนบทกระทบต้นทุน

ภาพจาก Shutterstock
Netflix มีแผนจะ “ขึ้นราคา” บริการสตรีมมิ่งเร็วๆ นี้ หลังการประท้วงหยุดงานของกลุ่มนักเขียนบทฮอลลีวูดได้ข้อยุติ และอาจมีผลกระทบกับต้นทุนของบริษัท

The Wall Street Journal รายงานข่าวว่า Netflix เตรียมจะ “ขึ้นราคา” บริการสตรีมมิ่ง “ในหลายประเทศทั่วโลก” โดยจะเริ่มจากตลาดสหรัฐอเมริกาและแคนาดาก่อน โดยยังไม่ชัดเจนว่าจะขึ้นราคามากแค่ไหนและเริ่มเมื่อไหร่

เมื่อปีที่แล้ว Netflix เพิ่งจะปรับขึ้นราคสตรีมมิ่งในสหรัฐฯ ไป ปัจจุบันราคามาตรฐานในสหรัฐฯ เริ่มต้นที่ 15.49 เหรียญต่อเดือน และจากการขึ้นราคาทำให้บริษัทมีแพ็กเกจใหม่เข้ามาเสริม คือ แพ็กเกจราคา 6.99 เหรียญต่อเดือน แต่มีโฆษณาคั่น

หลังจากนั้น เมื่อต้นปีนี้เอง Netflix เริ่มเข้มงวดกับการ “แชร์พาสเวิร์ด” ทั่วโลก ทำให้แชร์พาสเวิร์ดกับคนภายนอกบ้านหลังเดียวกันไม่ได้ ยกเว้นจ่ายเพิ่มสำหรับจำนวนคนที่เพิ่มเข้ามาในบัญชีเดียวกัน

การห้ามแชร์พาสเวิร์ดนี้ได้ผลในการเพิ่มจำนวนสมาชิกให้ Netflix ดูได้จากในช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน 2023 ซึ่งเป็นช่วงที่บริษัทเริ่มแบนการแชร์พาสเวิร์ด สตรีมมิ่งเจ้านี้ได้สมาชิกเพิ่มมาถึง 5.9 ล้านคน

ภาพจาก Shutterstock

เป็นที่น่าสังเกตว่า กระแสข่าวการพิจารณาขึ้นราคาสตรีมมิ่งของ Netflix ออกมาในช่วงที่การประท้วงหยุดงานของกลุ่มนักเขียนบทฮอลลีวูด (WGA) เพิ่งจะได้ข้อยุติ และข้อตกลงระหว่างสตูดิโอฮอลลีวูดกับกลุ่มนักเขียนบทนั้นน่าจะส่งผลให้ธุรกิจสตรีมมิ่งเกิดความเปลี่ยนแปลง

ข้อตกลงดังกล่าวคือข้อที่ระบุว่า กลุ่มสตรีมมิ่ง เช่น Netflix, Disney Plus, Hulu ฯลฯ จะต้องเปิดข้อมูลสตรีมมิ่งกับ WGA เพื่อให้นักเขียนได้ทราบว่าคอนเทนต์ของตนเองมียอดวิวมากน้อยแค่ไหน และจะได้ตกลงโบนัสสำหรับคอนเทนต์ที่ได้ยอดวิวสูง รวมถึงมีการกำหนดค่าจ้างเขียนบทขั้นต่ำที่เพิ่มขึ้นจากเดิม 18% สำหรับภาพยนตร์ต้นทุนสูง ทั้งนี้ WGA มีการคำนวณพบว่าการเพิ่มต้นทุนค่าเขียนบทจะกระทบรายได้ของ Netflix เพียง 0.2% เท่านั้น

ในขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ประท้วงสายนักแสดงก็ยังคงสไตรค์กันอยู่ ทำให้โปรดักชันเดินต่อไม่ได้ ดังนั้น Netflix น่าจะรอจนการประท้วงทั้งหมดสิ้นสุดก่อนที่จะขึ้นราคาสตรีมมิ่ง เพราะการขึ้นราคาขณะที่ไม่ค่อยมีคอนเทนต์ใหม่ๆ มาบริการก็ออกจะเป็นการไม่ฉลาดเกินไป หากนักแสดงและนักเขียนบทกลับมาทำงานแล้ว คอนเทนต์ใหม่ๆ จะได้เข้าฉายมากขึ้น และเป็นจังหวะเหมาะในการขึ้นค่าบริการ

นอกจากความเคลื่อนไหวจากฝั่ง Netflix แล้ว ยังมีรายงานด้วยว่า Disney Plus กำลังพิจารณาเพิ่มแพ็กเกจ “กีฬา” เข้าไปในตลาดที่ไม่ใช่สหรัฐฯ ด้วย เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่จะต่อสู้ในศึกสตรีมมิ่งยุคนี้

Source