‘ดิสนีย์’ ประกาศจะ ‘ลดต้นทุน’ อีก 2 พันล้านเหรียญฯ มั่นใจธุรกิจ ‘สตรีมมิ่ง’ ทำกำไรภายในปีหน้า

ภาพจาก Shutterstock
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์หลาย ๆ เรื่องรายได้ไม่เข้าเป้า แถมค่อนไปทางขาดทุน เลยทำให้ ดิสนีย์ (Disney) ต้องวางแผนลดต้นทุนอีกระลอกหรือเปล่า หลังจากที่เคยประกาศว่าต้องการลดต้นทุนให้ได้ 5.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ดิสนีย์ ประกาศว่า จะลดค่าใช้จ่ายลงอีก 2 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มเติมจากที่เคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะลดต้นทุน 5.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งทำให้บริษัทต้อง ลดจ้างงาน 7,000 ตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม แผนการลดต้นทุนในครั้งนี้ บริษัทยืนยันว่า ไม่มีแผนเลิกจ้างเพิ่มเติม

โดย Bob Iger ซีอีโอ ดิสนีย์ กล่าวว่า ที่บริษัทยังคงลดต้นทุน เนื่องจากบริษัทกำลัง การสร้างธุรกิจใหม่ ในสภาพแวดล้อมของสื่อที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน บริษัทยังคง ขาดทุน ในธุรกิจสตรีมมิ่ง Disney+ แม้ว่าบริษัทจะลดการขาดทุนได้อย่างมากแล้วก็ตาม โดยในไตรมาส 4 ตามปีงบประมาณ (ก.ค.-ต.ค.) บริษัทลดการขาดทุนในธุรกิจสตรีมมิ่งเหลือ 420 ล้านดอลลาร์ จากเดิมขาดทุนถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์ ในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว โดยรายได้ในกลุ่มสตรีมมิ่งเพิ่มขึ้น +12%

“ผลประกอบการของเราในไตรมาสนี้สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าที่สำคัญที่เราได้ทำในปีที่ผ่านมา แต่เรายังมีงานที่ต้องทำ ความพยายามเหล่านี้ช่วยให้เราก้าวข้ามช่วงเวลาแห่งการแก้ไขนี้ และเริ่มสร้างธุรกิจของเราอีกครั้ง” Bob Iger ซีอีโอกล่าว

สำหรับรายได้ของดิสนีย์ในไตรมาส 4 อยู่ที่ 2.12 หมื่นล้านดอลลาร์ แม้รายได้จะต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดเล็กน้อย แต่หุ้นของดิสนีย์สูงขึ้นมากกว่า 3% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการ โดยถือว่า ดีดตัวจากระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 10 ปี

ทั้งนี้ รายได้ในช่วงไตรมาส 3 ของดิสนีย์ถือเป็นช่วงที่หยักหน่วงของบริษัท เพราะต้องดันธุรกิจสตรีมมิ่งที่ต้องใช้เงินสด, ความล้มเหลวของภายนตร์ฟอร์มยักษ์หลาย ๆ เรื่อง รวมถึงปัจจัยภายนอกอย่างการที่นักแสดงประท้วงหยุดงาน แต่ธุรกิจ สวนสนุก กลายเป็นดาวเด่นของดิสนีย์ โดยเติบโตขึ้นกว่า 30% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ในส่วนของ Disney+ ที่ดิสนีย์ทุ่มเงินไปแล้วกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2562 จำนวนสมาชิกยังคงเติบโตขึ้น โดยฐานในสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเพิ่มขึ้น +1% ส่วนในต่างประเทศเพิ่มขึ้น +11% โดยเฉพาะแพ็กเกจโฆษณา สามารถเพิ่มการสมัครสมาชิกมากกว่า 2 ล้านครั้ง โดย Bob Iger มั่นใจว่า ธุรกิจสตรีมมิ่งจะ ทำกำไร ภายในสิ้นปี 2567

Source