รีโนเวต – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 03 Jan 2025 05:06:25 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 บ้านมือสอง พุ่งสุดรอบ 15 ปี “คนรุ่นใหม่” เน้นรีโนเวต ชี้บ้านเก่าตั้งอยู่ทำเลทอง-ราคาดี https://positioningmag.com/1505186 Fri, 03 Jan 2025 03:00:58 +0000 https://positioningmag.com/?p=1505186 แม้ภาพรวมบ้านมือหนึ่งชะลอตัว โดยประเมินหน่วยเปิดตัวใหม่ลดลง 20-40% (อ้างอิง LWS) แต่ “บ้านมือสอง” กลับเติบโตสวนทาง จากเทรนด์คนรุ่นใหม่ หันรีโนเวตบ้านเก่า และซื้อบ้านมือสองทำเลดียังมาแรง ซึ่งมีราคาถูกกว่าบ้านมือหนึ่งในทำเลเดียวกันประมาณ 20-30%

เศรษฐกิจ-กำลังซื้อชะลอตัว หนุนรีโนเวตบ้านมือสอง

นางศุภนิดา ตั้งตงฉิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮมรัน พร็อพเทค จำกัด ในเครือ AP Thailand ผู้พัฒนาอสังหารายใหญ่ กล่าวว่า ตลาดรีโนเวตประเภทที่อยู่อาศัยได้รับความสนใจและเติบโตอย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา

เบื้องต้น สถานการณ์ภาพรวมตลาดบ้านเก่าทั่วประเทศที่มีอายุ 10 ปีขึ้นไป มีมากกว่า 23.4 ล้านหลังคาเรือน คิดเป็นมูลค่ากว่า 234,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 400,000 หลัง

“ในภาวะเศรษฐกิจไม่ฟื้น กำลังซื้อหดตัว ทำให้ดีมานด์ตลาดรีโนเวตเพิ่มขึ้น และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2568”

นางศุภนิดา ตั้งตงฉิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮมรัน พร็อพเทค จำกัด

ทั้งนี้ การรีโนเวตบ้าน จะใช้งบประมาณแตกต่างกันตามสภาพบ้าน ถ้าบ้านสภาพดี ใช้งบ 15-20% ของราคาขายของบ้าน เช่น บ้านราคา 2 ล้านบาท ใช้งบรีโนเวต 3-4 แสนบาท เป็นต้น หรือหากเป็นบ้านที่ต้องใช้การพลิกโฉม ก็ต้องใช้งบสูงประมาณ 20-30% ของราคาขายบ้านนั้น ๆ หรือตกอยู่ 18,000-20,000 บาท/ตร.ม.

นอกจากนั้น ตลาดบ้านและคอนโดรีโนเวตพร้อมอยู่ก็มีการเติบโตขึ้นในปีที่ผ่านมาและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจาก ”ผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจซื้อบ้านเก่าที่อยู่ในโลเคชั่นที่ดี“ แต่ไม่อยากรีโนเวตปรับปรุงเอง เพราะไม่อยากเผชิญกับ 3 ปัญหาหลัก (Pain Point) ได้แก่

  • งบประมาณบานปลาย
  • คุณภาพงานที่ไม่ดี หรือ ไม่ได้มาตรฐาน
  • ปัญหาหาช่างยาก หรือช่างทิ้งงาน

ทำให้มีช่องว่างทางตลาดสำหรับบริษัทที่รับซื้อบ้านมารีโนเวต และขายออกแบบรีโนเวตใหม่พร้อมอยู่เป็นอีกทางเลือกให้กับผู้บริโภค ซึ่ง HOMERUN PROPTECH เป็นหนึ่งในนั้น

บ้านมือสองพุ่งสุดรอบ 15 ปี ยอดโอนกรรมสิทธิ์แซงมือหนึ่ง

ปัจจัยหลักการเติบโตตลาดที่อยู่อาศัยมือสอง มาจากการขาดพื้นที่สำหรับพัฒนาโครงการใหม่ในเขตเมือง แต่ความต้องการที่อยู่อาศัยในทำเลเมืองยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง เพราะคนต้องการที่อยู่ใกล้แหล่งเดิมหรือสะดวกต่อการเดินทาง

หากมองในแง่มูลค่าตลาดบ้านมือสอง พบว่ามีการเติบโตขึ้นทุกปี และมีแนวโน้มที่จะขยายตัวต่อเนื่อง สะท้อนจากยอดโอนกรรมสิทธิ์บ้านมือสองใน กทม.-ปริมณฑล ที่ขึ้นชื่อเป็นพื้นที่ที่มีข้อจำกัดสำหรับพัฒนาโครงการใหม่ พบว่า

สัดส่วนการโอนกรรมสิทธิ์บ้านมือสอง (ทั้งแนวราบและคอนโด) ที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา และสูงสุดในรอบ 15 ปี รวมทั้งยังแซงสัดส่วนการโอนกรรมสิทธิ์ของบ้านมือหนึ่งไปแล้ว โดยมูลค่ารวมของตลาดมือสอง อยู่ที่ 49,432 ล้านบาท สูงกว่า ตลาดบ้านมือหนึ่ง ที่มีมูลค่าอยู่ที่ 43,263 ล้านบาท

เทียบสัดส่วนการโอนฯ ระหว่างบ้านมือหนึ่ง กับ บ้านมือสอง คาดตลอดทั้งปี 2567 บ้านมือสอง จะมีสัดส่วนเพิ่มเป็น 54% ต่อเนื่องจากปี 2566 ที่อยู่ระดับ 50% ของตลาดรวมทั้งหมด ซึ่งเมื่อย้อนสถิติย้อนหลัง จะพบว่า เป็นตลาดที่มาแรงมากที่สุดในรอบ 15 ปี ตั้งแต่ปี 2552

HOMERUN รุกหนักตลาดรีโนเวตบ้านมือสองพร้อมขาย เป้ารายได้โต 100%

สำหรับ HOMERUN HOMERUN มีรูปแบบธุรกิจรับซื้อบ้านเข้ามาจากเจ้าของเดิม รีโนเวต และขายต่อให้เจ้าของใหม่ โดยเน้นบ้านในทำเลในเมืองหรือ “ไข่แดง” ของ กทม. เป็นหลัก ปัจจุบันพอร์ตฯ รับซื้อแบ่งเป็นคอนโด สัดส่วน 85% และบ้านแนวราบ (บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และบ้านแฝด) สัดส่วน 15%

ราคาทุกหลังจะเน้นความคุ้มค่าเมื่อเปรียบเทียบราคาต่อตารางเมตรกับโครงการมือหนึ่ง โดยมีราคาเฉลี่ย 1 แสนต้นๆ – 1 แสนกลาง ๆ ต่อตารางเมตร เมื่อเทียบกับมือหนึ่งใจกลางเมืองราคา 2 แสนบาทต่อตารางเมตร

ยกตัวอย่าง คอนโดรีโนเวตของ Homerun บนทำเล ทองหล่อ-เอกมัย 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่มีพื้นที่ใช้สอยเกือบ 120 ตารางเมตร ที่เราขายในราคา 13.9 ล้านบาท หรือตกตารางเมตรละ 120,000 บาท ซึ่งถ้าหากไปซื้อโครงการมือหนึ่งในโลเคชั่นใกล้กันอาจจะได้ห้องพื้นที่เพียง 60 ตารางเมตรในงบประมาณที่เท่ากัน

คอนโด

ทั้งนี้ ประเมินว่า กลุ่มธุรกิจนี้มีโอกาสและอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดในอีกหลายปีข้างหน้า เนื่องจากมีความต้องการจากตลาด

ขณะเดียวกันธุรกิจบ้านและคอนโดรีโนเวตยังไม่ได้มีบริษัทในธุรกิจนี้บริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทมหาชนที่ให้ทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง

อีกทั้งธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมากและการที่ได้รับการสนับสนุนเงินทุนทางเอพี ทำมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีจะสามารถช่วยหนุนให้ธุรกิจนี้เติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญได้ในอีกปีต่อจากนี้

“ในปี 2568 บริษัทมีเป้าหมายที่จะเติบโตเพิ่มขึ้นอีก 100% เพื่อตอบสนองความต้องการในตลาดและสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง”

]]>
1505186
“ดิ โอลด์ สยาม” รีโนเวตใหญ่ในรอบ 30 ปี เก็บเอกลักษณ์ตึกยุค ร.5 – ยกระดับ “ฟู้ดคอร์ท” ชั้น 3 https://positioningmag.com/1427702 Tue, 18 Apr 2023 11:27:52 +0000 https://positioningmag.com/?p=1427702 ศูนย์การค้าที่ยืนหนึ่งบนเกาะรัตนโกสินทร์ “ดิ โอลด์ สยาม พลาซ่า” ประกาศแผนรีโนเวตครั้งใหญ่นับตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี 2536 โดยใช้งบลงทุน 400 ล้านบาท เก็บเอกลักษณ์สถาปัตยกรรมตึกเก่ายุค ร.5 ไว้ทั้งหมด และจะยังเป็นศูนย์รวมผ้าไหม เพชร ทอง ขนมไทย ฯลฯ เช่นเดิม ส่วนที่จะยกระดับคือ “ฟู้ดคอร์ท” บนชั้น 3 ที่จะกลายเป็นจุดหมายปลายทางใหม่ของนักกิน

ครบรอบ 30 ปี “ดิ โอลด์ สยาม พลาซ่า” ศูนย์การค้าที่ยังคงยืนหนึ่งบนเกาะรัตนโกสินทร์ อยู่ตรงกลางระหว่างถนน 4 สายคือ ถนนพาหุรัด ถนนตรีเพชร ถนนเจริญกรุง และถนนบูรพา และปัจจุบันยังอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า MRT สามยอด ดิ โอลด์ สยามจึงนับเป็นทำเลทองกลางพื้นที่อนุรักษ์และแหล่งท่องเที่ยวของชาวต่างชาติที่เข้ามามากขึ้นทุกที ทำให้ทีมงานผู้บริหารเห็นโอกาสที่จะปรับโฉมครั้งใหญ่

“อภิชัย สิริดำรงพันธุ์” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจอาคารพาณิชย์ บริษัท สยามสินธร จำกัด เจ้าของโครงการ เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทเตรียมงบลงทุนถึง 400 ล้านบาทเพื่อรีโนเวตปรับ ดิ​ โอลด์ สยาม พลาซ่า ให้ร่วมสมัยมากขึ้น และบางส่วนก็จะเติมประสบการณ์ใหม่ๆ เข้ามาให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์นักท่องเที่ยวยุคปัจจุบัน

ดิ โอลด์ สยาม พลาซ่า นั้นมีจุดแข็งของตนเองเป็นทุนเดิม โดยโครงการตั้งอยู่บนที่ดินขนาดเกือบ 14 ไร่ แบ่งออกเป็น 2 อาคาร มีพื้นที่ให้บริการรวม 98,500 ตารางเมตร (เฉพาะพลาซ่าที่เป็นศูนย์การค้ามีพื้นที่ 17,945 ตารางเมตร) และมีที่จอดรถ 1,100 คัน

ดิ โอลด์ สยาม
บรรยากาศ ดิ โอลด์ สยาม พลาซ่า ในปัจจุบัน (Photo: Facebook@Theoldsiamshoppingplaza)

สถาปัตยกรรมของ ดิ โอลด์ สยาม มีเอกลักษณ์เด่นชัดเพราะเป็นอาคารสไตล์โคโลเนียลยุค ร.5 และที่จริงแล้วที่นี่ถือเป็นมิกซ์ยูสแห่งแรกๆ ของไทย เพราะชั้น 1-3 ของอาคารนั้นเป็นศูนย์การค้าที่เรารู้จักกันดี แต่ชั้น 4 เป็นที่อยู่อาศัยให้เช่าระยะยาว

ปัจจุบันสินค้าหลักในศูนย์การค้าประกอบด้วย ปืน ผ้าไหม ผ้าไทย เพชร ทอง เครื่องประดับ อาหารไทย ขนมไทย ซึ่งร้านค้าส่วนใหญ่กว่า 50% จะเป็นร้านค้าเก่าแก่อยู่มานาน และค้าขายแบบ B2B หรือค้าส่ง

ดิ โอลด์ สยาม
ภาพตัวอย่างการปรับโฉมใหม่

แผนการรีโนเวตดิ โอลด์ สยามจึงต้องการจะเก็บเอกลักษณ์เดิมไว้ ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล และกิจการการค้าที่แข็งแรง แต่จะเติมร้านที่เหมาะกับลูกค้ากลุ่ม B2C ให้มากขึ้น โดยมีรายละเอียดการแบ่งผังร้านค้าหลังรีโนเวต ดังนี้

ชั้น 1 แหล่งรวมร้านเพชร ร้านทอง เครื่องประดับ ผ้าลูกไม้นำเข้า ขนมไทยโบราณ

ชั้น 2 แหล่งรวมผ้าไหม เครื่องประดับ ห้องเสื้อ ชุดราตรี ชุดแต่งงาน

ชั้น 3 ศูนย์รวมร้านอาหารและตลาดโฉมใหม่ที่ยกระดับเป็น Food Experience

บรรยากาศบนชั้น 2 ยังเป็นแหล่งรวมผ้าไหม
ดิ โอลด์ สยาม
ชั้น 4 จะรีโนเวตใหญ่ กลายเป็นศูนย์รวมร้านอาหาร

ปรับส่วนที่อยู่อาศัยให้ทันสมัย เช่าเริ่ม 28,000 บาท/เดือน

ขณะที่บน “ชั้น 4” ซึ่งเป็นส่วนที่อยู่อาศัยก็จะปรับปรุงเช่นกัน โดยจะสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะกับคนวัยทำงาน นักเรียน นักศึกษา ในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ล็อบบี้ ห้องประชุม ฟิตเนส พาวิลเลียนที่นั่งพักผ่อนลอยฟ้า พื้นที่กลางแจ้ง เป็นต้น

ยูนิตพักอาศัยจะแบ่งเป็น 128 ยูนิต เป็นห้องแบบดูเพล็กซ์ 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอยต่อยูนิตเริ่มต้น 95 ตารางเมตร ฟังก์ชัน 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 1 ห้องครัว และ 1 ห้องรับแขก พร้อมที่จอดรถยูนิตละ 1 คัน เปิดสัญญาแบบให้เช่าระยะยาว 12+1 ปี ราคาเริ่ม 3.2 ล้านบาท หรือเช่าระยะสั้น 3 ปี เริ่มเดือนละ 28,000 บาท

ส่วนที่อยู่อาศัยให้เช่าบนชั้น 4

ถือเป็นราคาที่น่าสนใจด้วยทำเลห่างจาก MRT สามยอดเพียง 300 เมตร และบริเวณใกล้เคียงมีโรงเรียนชื่อดังหลายแห่ง เช่น โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย โรงเรียนเทพศิรินทร์ โรงเรียนสายปัญญา โรงเรียนสตรีวิทยา เป็นต้น

สำหรับทีมงานที่จะดูแลการรีโนเวตและบริหารคือทีมผู้บริหาร “เวลา สินธร วิลเลจ หลังสวน” ไลฟ์สไตล์มอลล์ย่านหลังสวนที่ประสบความสำเร็จ จึงน่าสนใจว่าทีมนี้จะสามารถผสมผสานร้านค้าเก่า ร้านค้าใหม่ รวมถึงยังเก็บลูกค้าดั้งเดิมไว้ และชักชวนลูกค้ากลุ่มใหม่เข้ามาได้หรือไม่

ทั้งนี้ ระหว่างการปรับโฉม ดิ โอลด์ สยาม พลาซ่า จะไม่มีการปิดศูนย์การค้า ยังเปิดบริการตามปกติทุกวัน เวลา 09:00-20:00

]]>
1427702