กางแผน “พันธุ์ทิพย์ เชียงใหม่” รีโนเวตพลิกโฉมเป็น THE PANTIP LIFESTYLE HUB ฉีกภาพศูนย์ไอทีดั้งเดิม กลายเป็นแหล่งรวมกิจกรรมเยาวชน เช่น กวดวิชา กิจกรรมเสริมประสบการณ์ สนามเด็กเล่น และแหล่งร้านอาหารท้องถิ่น หวังดึงกลุ่มเด็กและครอบครัวเข้าห้าง
ศูนย์การค้า “พันธุ์ทิพย์ เชียงใหม่” ก่อตั้งมานาน 18 ปี ด้วยจุดแข็งเดียวกับ พันธุ์ทิพย์ ประตูน้ำ ในสมัยนั้น คือ เป็นแหล่งรวมสินค้าไอที ร้านซ่อมคอมพิวเตอร์-มือถือ แต่ด้วยยุคสมัยเปลี่ยน การใช้อุปกรณ์ยุคนี้ลดการสั่งประกอบ มีการซื้อผ่านออนไลน์มากขึ้น การซ่อมน้อยลง ทำให้ศูนย์ฯ เริ่มไม่ตอบโจทย์ลูกค้าอีกต่อไป
“วัลลภา ไตรโสรัส” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป หรือ AWC เจ้าของศูนย์การค้าพันธุ์ทิพย์ เชียงใหม่ ระบุตรงไปตรงมาว่าปัจจุบันค่าเช่าของศูนย์ฯ แห่งนี้ไม่เป็นไปตามภาวะตลาด โดยปกติรีเทลในเชียงใหม่จะคิดค่าเช่ากันที่ 600-800 บาทต่อตร.ม.ต่อเดือน ทำให้ถึงเวลาที่จะต้องมีการปรับเปลี่ยน
โครงการพันธุ์ทิพย์ เชียงใหม่จึงเตรียมพลิกโฉมเป็น “THE PANTIP LIFESTYLE HUB” ที่จะเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ศูนย์การค้าใหม่หมดภายใต้แนวคิด “Every Happiness for Everyone” มูลค่าโปรเจ็กต์ 800 ล้านบาท
แนวคิดการปรับศูนย์ฯ จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักคือ
- 30% เป็นแหล่งรวมกิจกรรมของเยาวชนและคนในครอบครัว เช่น ศูนย์การเรียนรู้ กวดวิชา โรงเรียนดนตรี สนามเด็กเล่นในร่ม กิจกรรมเสริมประสบการณ์เด็ก ฟิตเนส ศูนย์สุขภาพและความงาม เป็นต้น
- 35% เป็น Food Lounge รวมร้านอาหารชั้นนำในจังหวัด ทั้งอาหารไทยและอาหารนาชาชาติ ในราคาจับต้องได้ง่าย จัดพื้นที่ในแบบ co-dining space ให้ทุกคนสามารถมานั่งทานอาหารพร้อมสังสรรค์กับครอบครัว/เพื่อนๆ ได้
- 35% เป็นพื้นที่ Lifestyle Market โซนตลาดขายสินค้าที่สะท้อนความเป็นเชียงใหม่ เช่น งานศิลปะ สินค้าทำมือ ของตกแต่งบ้าน อาหารปลอดสารพิษ ฯลฯ และโซนไอทีเดิมจะมารวมอยู่ในพื้นที่นี้
หากเป็นแผนผังพื้นที่ภายใน THE PANTIP LIFESTYLE HUB ทั้ง 4 ชั้น จะแบ่งดังนี้
ชั้น 1 LANNA GAD โซนค้าปลีก ซูเปอร์มาร์เก็ตบิ๊กซี และร้านอาหาร
ชั้น 2 LANNA ARTISAN โซนตลาดไลฟ์สไตล์ ไอที และร้านอาหาร
ชั้น 3 LANNA AESTHETIC โซนสินค้าแฟชั่น ศูนย์สุขภาพและความงาม แม่และเด็ก
ชั้น 4 LANNA AMUSEMENT โซนศูนย์การเรียนรู้ สนามเด็กเล่นในร่ม พื้นที่สร้างสรรค์
แน่นอนว่าภาพลักษณ์ของศูนย์ฯ จะต้องเปลี่ยนใหม่ จากเดิมที่เป็นศูนย์ไอทีจะไม่ได้ตกแต่งมากนัก แต่คอนเซ็ปต์ใหม่จะมากับสไตล์ตกแต่ง “ล้านนา โมเดิร์น” เพื่อให้เป็นศูนย์ฯ ที่ลูกค้ามาแฮงเอาต์ รับประสบการณ์ ทำกิจกรรม
“แต่ก่อนที่เป็นศูนย์ไอที เราจะตกแต่งมากไม่ได้ เพราะกลุ่มเป้าหมายจะมองว่าของในห้างฯ แบบนี้ ‘แพง’ แต่เมื่อเป็นไลฟ์สไตล์ ฮับ ก็จะต้องตกแต่งให้น่ามานั่ง มาทำกิจกรรมกัน” วัลลภากล่าว
![พันธุ์ทิพย์ เชียงใหม่](https://positioningmag.com/wp-content/uploads/2023/04/Pantip-Chiangmai-resize.jpg)
แผนการรีโนเวตพันธุ์ทิพย์ เชียงใหม่ เริ่มมาตั้งแต่ปลายปี 2565 แล้ว โดยไม่มีการปิดศูนย์ฯ AWC จะทยอยปรับปรุงไปพร้อมกับการหาผู้เช่าใหม่เข้ามาในพื้นที่ และคาดว่าจะเริ่มเห็นความสมบูรณ์ช่วงปลายไตรมาส 3 ปีนี้
“ขณะนี้ยังระบุชื่อผู้เช่าไม่ได้ แต่มีเจรจาอยู่ราว 60 ราย ในส่วน Food Lounge ที่จะเป็นแหล่งรวมร้านอาหาร เรามีการทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มเดลิเวอรีเจ้าหนึ่งด้วย เพื่อช่วยเราคัดเลือกร้านอาหารดังๆ ในเชียงใหม่เข้ามา” วัลลภากล่าวเสริม
ท่ามกลางศูนย์การค้าที่มีอยู่หลายแห่งในเชียงใหม่ วัลลภาเชื่อว่าจุดแข็งของ THE PANTIP LIFESTYLE HUB คือ “ทำเล” ที่อยู่กลางเมืองเชียงใหม่มากที่สุด ไม่ต้องวิ่งรถออกไปรอบนอก หลังเลิกเรียนนักเรียน-นักศึกษาเดินทางมาง่ายกว่าศูนย์การค้าที่อยู่รอบนอก รวมถึงอยู่กลางแหล่งท่องเที่ยว ทำให้จะได้ลูกค้าชาวต่างชาติด้วย
THE PANTIP LIFESTYLE HUB ถือเป็นจิ๊กซอว์ตัวหนึ่งในอาณาจักร AWC เชียงใหม่ ในบริเวณถนนช้างคลาน บริษัทนี้มีโครงการในพื้นที่รวม 12 แห่ง แบ่งเป็นโรงแรม 4 แห่ง คือ มีเลีย เชียงใหม่, ดุสิต ดีทู เชียงใหม่, อินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง (รีโนเวตจากอิมพีเรียล แม่ปิง) และ เลอ เมอริเดียน เชียงใหม่ (เตรียมรีโนเวตเป็น แมริออท) และมีพื้นที่รีเทลอีก 8 แห่ง เช่น ตลาดไนท์บาซาร์ ตลาดอนุสาร ซึ่งปีนี้บริษัทกำลังจะสร้างคอนเซ็ปต์ใหม่เพื่อปลุกย่านนี้ในชื่อ “ล้านนาทีค” คาดเปิดเฟสแรกได้ช่วงปลายปี 2566
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
- ทำไม AWC ต้องยกเครื่อง “พันธุ์ทิพย์” เป็นศูนย์ค้าส่ง ปิดฉาก 36 ปี ห้างไอทีในตำนาน
- “เอเชียทีค” ลงทุน 800 ล้านรีโนเวตพื้นที่ให้เที่ยวได้ “ทั้งวัน” จับมือ Disney สร้างกิจกรรมดึง “คนไทย”