เมื่อแฟชั่นไม่ใช่แค่เสื้อผ้า ทำให้แบรนด์ลักชัวรีหลายรายไม่ได้มีแค่ไลน์เสื้อผ้า เครื่องประดับ หรือเครื่องสำอาง แต่ยังขยายไปเปิด “ร้านอาหาร” ด้วยเช่นกัน เพื่อใช้เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสะท้อนนิยามหรือวิถีของแบรนด์
Positioning รวบรวม 5 ร้านอาหาร “แบรนด์เนม” ที่น่าสนใจ และเปิดอยู่ในภูมิภาคเอเชีย เพื่อเสนอเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางระหว่างการท่องเที่ยวในปีหน้า
เริ่มกันที่ประเทศยอดนิยมของคนไทย “ญี่ปุ่น” มีร้านอาหารแบรนด์ BULGARI เครื่องเพชรชื่อดังจากอิตาลีถึง 2 ร้าน การตกแต่งภายในร้านออกแบบโดย Antonio Citterio สถาปนิกชาวอิตาเลียน และเชฟประจำร้าน Luca Fantin คือเชฟมิชลินสตาร์ 1 ดาว 11 ปีซ้อน
อาหารที่เสิร์ฟจะเป็นอาหารสไตล์อิตาเลียน แต่เน้นการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นของญี่ปุ่น เมนูเด็ดแนะนำโดยมิชลินไกด์คือ “ตัลโยลีนีที่ทำจากอูนิกับน้ำแครอต”
ร้านในโตเกียวตั้งอยู่ที่ กินซ่า ทาวเวอร์ นอกจากร้านอาหารแล้วจะมี BULGARI Ginza Bar และ Il Cioccolato ร้านช็อกโกแลตแฮนเมด อยู่ในตึกเดียวกันด้วย
ร้านอาหารและคาเฟ่ของแบรนด์ Louis Vuitton ตั้งอยู่ในชั้น 4 และรูฟท็อปของอาคารแฟลกชิปสโตร์ของแบรนด์ที่โอซาก้า เชฟผู้รับผิดชอบคือ โยสุเกะ ซูงะ อดีตลูกศิษย์ของ Joel Robuchon เชฟมิชลินสตาร์ 32 สมัย
ภายในร้านมีทั้งโซนคาเฟ่ และโซนร้านอาหารไฟน์ไดนิ่งที่เปิดเฉพาะมื้อเย็น แนะนำควรจองก่อนเข้าไปทานอาหาร เนื่องจากที่นั่งมีจำกัด
คาเฟ่บนตึก Dior สีขาวสุดโดดเด่นที่ย่านกังนัม กรุงโซล ให้บริการโดย Pierre Herme เชฟขนมชาวฝรั่งเศสชื่อดัง ตกแต่งในธีมที่สื่อถึงแบรนด์ Dior ทั้งร้าน รวมถึงในขนม-เครื่องดื่มบางชิ้นด้วย เช่น ลาเต้อาร์ต ช็อกโกแลต แน่นอนว่าร้านนี้ต้องเสิร์ฟมาการอง ขนมขึ้นชื่อของ Pierre Herme และอีกเมนูไม่ควรพลาดคือครัวซองต์
อีกหนึ่งคาเฟ่แบรนด์เนมในย่านกังนัม กรุงโซล ตั้งอยู่ชั้นล่างในตึก Hermes แฟลกชิปสโตร์ ภายในคาเฟ่จะใช้เครื่องจานชามจาก Hermes ทุกชิ้น ขนมในร้านมาจากฝีมือทีมงานเชฟชาวเกาหลี มีซิกเนเจอร์เมนูคือช็อกโกแลตรูปร่างโลโก้ตัว H ของแบรนด์
คาเฟ่ในธีมของ Vivienne Westwood แบบจัดเต็ม! การตกแต่งแบบผสมผสานสไตล์วินเทจเข้ากับโลกโมเดิร์น และผสมทั้งแฟชั่น ดีไซน์ และอาหารเข้าด้วยกัน ที่นี่เสิร์ฟทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน โดยเน้นอาหารอังกฤษต้นกำเนิดของแบรนด์นี้ คาเฟ่ตั้งอยู่ในย่านจิมซาจุ่ย ฮ่องกง
]]>