วันหยุด – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Sat, 21 May 2022 11:26:47 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 หลายบริษัททดลอง “ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์” ให้พนักงานมีคุณภาพชีวิตที่ดี ดึงดูดทาเลนต์ https://positioningmag.com/1386182 Sat, 21 May 2022 11:26:33 +0000 https://positioningmag.com/?p=1386182 โลกยุคใหม่เริ่มทดลอง “ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์” โดยยังให้เงินเดือนปกติ เพราะพบว่าประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น พนักงานมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น และทำให้บริษัทที่มีนโยบายนี้สามารถดึงดูดทาเลนต์เข้าสู่องค์กรได้มากกว่า

การทดลองในหลายประเทศหรือหลายบริษัทเห็นผลเชิงบวกจากการ “ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์” ยกตัวอย่างเช่น ปีก่อนนี้ นักวิจัยใน “ไอซ์แลนด์” พบว่าการทำงาน 4 วันช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตและประสิทธิภาพการทำงานได้จริง

ผลการทดลองเหล่านี้ทำให้บางประเทศหยิบไปใช้เป็นนโยบายของรัฐ เช่น “สก็อตแลนด์” ที่มีแคมเปญใช้งบลงทุน 10 ล้านปอนด์อุดหนุนให้บริษัทต่างๆ ทดลองการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์มาตั้งแต่ปีก่อน ส่วน “ไอร์แลนด์” เริ่มทดลองการทำงาน 4 วันเป็นเวลา 6 เดือนในปีนี้ ขณะที่ “สเปน” ก็เริ่มทดลองการทำงาน 32 ชั่วโมงต่อสัปดาห์แล้ว โดยกรณีของสเปนมุ่งหมายเพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวจากโควิด-19

ในระดับองค์กรเอกชนทั่วโลกนั้น ความสนใจในการให้สิทธิประโยชน์พนักงานทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์เริ่มมีมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากผลทดลองของ Microsoft ประจำประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 2019 พบว่า การทดลองนี้ทำให้ประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น 40% ทำให้องค์กรอื่นสนใจทดลองบ้าง

Photo : Shutterstock

ยกตัวอย่างเช่นบริษัท Canon ประจำประเทศอังกฤษ ก็เริ่มมีการทดลองทำงาน 4 วันแล้ว ส่วนบริษัทอย่าง Kickstarter และ Bolt ในสหรัฐฯ ก็เริ่มแล้วเช่นกัน รวมถึงบริษัท Unilever สาขานิวซีแลนด์ก็ประกาศทดลองทำงาน 4 วัน หยุด 3 วัน

ในบริษัทที่การทำงาน 4 วันไม่ใช่แค่การทดลอง แต่นำมาใช้ถาวรแล้ว เช่น ธนาคาร Atom ในอังกฤษ ที่มีพนักงานอยู่ 430 คน ธนาคารพบว่า ทันทีที่บริษัทประกาศต่อสาธารณะว่าบริษัททำงานแค่ 4 วัน รวม 34 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยให้หยุดเพิ่มในวันจันทร์หรือวันศุกร์ ใบสมัครเข้าร่วมงานก็พุ่งขึ้นทันที 500%

 

พนักงานเครียดน้อยลง มีเวลากับครอบครัวมากขึ้น

จากการสำรวจของ Henley Business School ทำการสำรวจพนักงาน 2,000 คน และผู้นำ 500 คนในบริษัทต่างๆ ของอังกฤษ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2021 พบว่า 78% ของนายจ้างตอบว่าลูกจ้างของพวกเขารู้สึก “เครียดน้อยลง” ในที่ทำงาน เมื่อทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์

70% ของพนักงานมองว่าการทำงานที่สั้นลงในแต่ละสัปดาห์ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น และมี 2 ใน 3 ที่เห็นว่าสุขภาพจิตของตนดีขึ้นเมื่อการทำงานยืดหยุ่นมากขึ้นแบบนี้ รวมถึงมี 69% ที่เชื่อว่าชีวิตครอบครัวของตนจะดีขึ้นเมื่อทำงานน้อยลง

66% ของพนักงานคิดว่าตนเองจะใช้วันหยุดที่เพิ่มขึ้นต่อสัปดาห์ไปกับการใช้เวลากับครอบครัว

เหตุที่การทำงานน้อยวันลงไปเกี่ยวกับชีวิตครอบครัว เพราะผู้ตอบแบบสอบถาม 66% คิดว่าจะใช้วันหยุดที่เพิ่มขึ้นอยู่กับครอบครัว และคำตอบนี้เป็นคำตอบหลักของคนทุกวัยเลยทีเดียว ทำให้เห็นการจัดลำดับความสำคัญใหม่ของคนเราหลังจากเผชิญวิกฤตโควิด-19

รองลงมามี 54% ของผู้ตอบแบบสอบถามที่คิดว่าจะใช้เวลาวันหยุดไปช้อปปิ้ง ซึ่งน่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจดีขึ้นได้ด้วย นอกจากนี้มีคนประมาณ 25% ที่คิดว่าจะใช้เวลาวันหยุดไปทำงานการกุศลหรืออาสาสมัคร

บางส่วนของพนักงานอาจมองว่าการได้วันหยุดเพิ่ม ไม่ได้มีไว้สำหรับทำกิจกรรมอื่น แต่อาจจะนำไปใช้ทำงานเสริม เพราะ 37% ของพนักงานเห็นว่าการได้ทำงานหลายๆ งาน มีนายจ้างหลายคน เป็นวิถีชีวิตการทำงานที่ “เป็นที่น่าปรารถนา”

งานวิจัยยังพบว่า 68% ของฝั่งนายจ้างรู้สึกว่าการทำงานที่ยืดหยุ่นช่วยดึงดูดทาเลนต์เข้ามาสมัครงาน ซึ่งการทำงาน 4 วันเป็นหนึ่งในคุณสมบัติสำคัญ ร่วมกับคุณสมบัติอื่นๆ เช่น วันปลอดการประชุม

โดยสรุปแล้ว โลกยุคใหม่ทำให้วิถีการทำงานเปลี่ยน มุมคิดของพนักงานเปลี่ยนไป และนายจ้างควรจะลองพิจารณาการทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์มาเป็นตัวช่วยในการดึงดูดทาเลนต์ให้อยากทำงานกับองค์กรมากขึ้น

source

]]>
1386182
ไทยเอาบ้างไหม? ‘สเปน’ อนุมัติให้ลาหยุด 3 วัน/เดือน หาก ‘ปวดประจำเดือน’ https://positioningmag.com/1385179 Fri, 13 May 2022 09:33:06 +0000 https://positioningmag.com/?p=1385179 สำหรับอาการปวดประจำเดือน ถ้าไม่ใช่สาว ๆ คงไม่มีวันเข้าใจถึงความรู้สึก แน่นอนว่าอาการปวดประจำเดือนของสาว ๆ แต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน แต่ละคนก็มีอาการปวดมากน้อยแตกต่างกันออกไป แต่ถึงอย่างนั้นความเจ็บปวดก็อาจสร้างปัญหาจนส่งผลต่อการทำงาน จนหลาย ๆ ประเทศอนุมัติให้มีวันหยุดหากปวดประจำเดือน

ก่อนหน้านี้มีประเทศอย่าง ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, จีน, อินโดนีเซีย และแซมเบีย ที่มีกฎหมายให้สาว ๆ สามารถลาหยุดได้หากปวดประจำเดือน ล่าสุด รัฐบาลสเปนก็เล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องดังกล่าวโดยเตรียมผ่านร่างอนุญาตให้มีวันหยุด 3 วันต่อเดือน สำหรับสาว ๆ ที่มีอาการปวดประจำเดือนอย่างรุนแรง โดยสเปนถือเป็นชาติแรกในยุโรปที่มีกฎหมายนี้

ที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญและพนักงานหญิงส่วนใหญ่เล็งเห็นว่าทุกองค์กรควรตระหนักถึงปัญหาที่พนักงานหญิงต้องพบเจอในทุกเดือน และคิดว่าควรมีนโยบาย ‘Period Leave’ หรือการลาปวดประจำเดือน และจากการศึกษาของผู้หญิงเกือบ 43,000 คนในเนเธอร์แลนด์ ซึ่งตีพิมพ์ในปี 2019 พบว่า 85% มีมีอาการปวดท้องเมื่อมีประจำเดือน

ไม่ใช่แค่การมีวันหยุด แต่สิ่งที่สำคัญคือ ความเข้าใจ โดย Izumi Nakayama นักวิชาการจากUniversity of Hong Kong ผู้ศึกษาภาวะเจริญพันธุ์ของญี่ปุ่น ได้เปิดเผยว่า ในประเทศญี่ปุ่นแม้จะมีวันหยุดให้พนักงานสาวหากปวดประจำเดือน แต่นโยบายนี้ถูกใช้จริงเพียงเล็กน้อย

โดยผลการศึกษาของรัฐบาลปี 2014 พบว่า มีผู้หญิงน้อยกว่า 0.9% ใช้วันหยุดดังกล่าว เนื่องจากไม่กล้าลา รวมถึงหัวหน้าที่เป็นผู้ชายมักไม่เข้าใจในเหตุผลดังกล่าว นอกจากนี้ การวิจัยยังพบอีกว่า พนักงานหญิงมีโอกาสในการลาหยุดน้อยมากกว่าผู้ชาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพนักงานหญิงที่มีการศึกษาสูง

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลสเปนไม่ได้อนุมัติแค่วันหยุดเมื่อปวดประจำเดือน แต่การปฏิรูปนี้เป็นส่วนหนึ่งของข้อเสนอเกี่ยวกับอนามัยการเจริญพันธุ์ โดยนอกจากนี้ยังมีมาตรการอื่น ๆ อาทิ การอนุญาตให้เด็กผู้หญิงอายุ 16-17 ปีทำแท้งโดยไม่ต้องขออนุญาตจากพ่อแม่ นอกจากนี้ ร่างกฎหมายยังเสนอให้สถาบันการศึกษาต้องจัดหาผลิตภัณฑ์สุขอนามัยของผู้หญิงเมื่อจำเป็น โดยกฎหมายที่เสนอนี้มีกำหนดจะได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลสเปนในสัปดาห์หน้า

Source

]]>
1385179
‘Twitter’ เผยคนไทย 70% วางแผนซื้อ ‘ของขวัญ’ เกือบครึ่งเน้นออนไลน์เพราะยังกลัวโควิด https://positioningmag.com/1365557 Tue, 07 Dec 2021 06:25:22 +0000 https://positioningmag.com/?p=1365557 ช่วงของเทศกาลแห่งวันหยุดกำลังใกล้เข้ามา ทำให้บทสนทนาที่พูดถึงเทศกาลวันหยุดเพิ่มมากขึ้นบน ‘ทวิตเตอร์’ (Twitter) ประเทศไทย ล่าสุดทวิตเตอร์ได้ทำการศึกษาข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเทศกาลวันหยุดและพบว่า คนไทยราว 60% ยังคงระมัดระวังในการออกไปพบปะกัน แต่ยังรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เฉลิมฉลองเทศกาลวันหยุด โดยคนไทย 70% วางแผนที่จะซื้อของขวัญเนื่องในเทศกาลวันหยุด และ 42% วางแผนที่จะซื้อสินค้าออนไลน์

มาร์ติน ยูเรน ผู้อำนวยการแผนกงานวิจัย ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและระดับโลกของทวิตเตอร์ เปิดเผยว่า ในปี 2563 มีบทสนทนาเกี่ยวกับเทศกาลวันหยุดบนทวิตเตอร์ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมกันมากกว่า 8 ล้านทวีตส่วนประเทศไทยในปี 64 นี้ บทสนทนาในแพลตฟอร์มยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และเกิดขึ้นในช่วงระยะเวลาที่ยาวนานมากขึ้น ซึ่งบทสนทนานี้เป็นการเชื่อมต่อกับครอบครัว เพื่อนฝูง และการมองหาไอเดียในการเลือกซื้อของขวัญ

โดยเหลือเวลาอีกแค่หนึ่งเดือนก่อนที่จะหมดปี 2564 ทวิตเตอร์จึงได้ศึกษาเจาะลึกเทรนด์การช้อปปิ้งสินค้าในเทศกาลวันหยุดในประเทศไทยดังนี้

เริ่มฉลองกันแบบล่วงหน้า

ความรู้สึกรื่นเริงเนื่องในเทศกาลวันหยุดบนทวิตเตอร์ไม่เคยแผ่วลงเลย มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นและดียิ่งขึ้น โดยในปี 2563 ทวิตเตอร์ประเทศไทยมีบทสนทนาเกี่ยวกับเทศกาลวันหยุด 2.1 ล้านทวีต ชาวทวิตภพเริ่มมีการทวีตเกี่ยวกับเทศกาลวันหยุดตั้งแต่เดือนตุลาคม ซึ่งเป็นเวลาล่วงหน้าถึง 2 เดือน ก่อนจะถึงเทศกาลจริง

ในช่วงเวลาแบบนี้ แบรนด์จะออกผลิตภัณฑ์พิเศษเนื่องในเทศกาลของการเฉลิมฉลองและร้านค้าต่าง ๆ มีการตกแต่งร้านเพื่อต้อนรับเทศกาลซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของบทสนทนาที่เกี่ยวกับเทศกาลวันหยุดและความรื่นเริงของเทศกาลวันหยุด เมื่อห้างสรรพสินค้าเริ่มมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การประดับไฟต้นคริสต์มาสของบรรดาเซเลบและจัดแสดงโชว์ ปริมาณบทสนทนาบนทวิตเตอร์ก็ยิ่งมีเพิ่มมากขึ้น

ระดมสมองหาไอเดียซื้อของขวัญ

จากการศึกษาของทวิตเตอร์พบว่า คนไทย 35% กำลังประสบปัญหาในการเลือกซื้อของขวัญที่เหมาะสมในช่วงของเทศกาลวันหยุดปลายปีแบบนี้ เทรนด์สุดยูนีคในหมู่คนไทยบนทวิตเตอร์คือ การเข้ามารวมตัวรวมพลังกันปรึกษาพูดคุยถึงเรื่องการเลือกซื้อของขวัญซึ่งพบว่า 57% ใช้คำแนะนำและการรีวิวบนทวิตเตอร์ไปใช้ประกอบการตัดสินใจเพื่อเลือกซื้อสินค้า

นอกเหนือจากความคึกคักในชุมชนบนทวิตเตอร์ ยังพบว่า 47% ของคนไทยบนทวิตเตอร์ ได้แรงบันดาลใจจากความสนใจและหัวข้อต่าง ๆ ที่พวกเขากำลังติดตาม และ 46% ได้ไอเดียจากหัวข้อและแฮชแท็กที่กำลังติดเทรนด์ ซึ่งบทสนทนาบนทวิตเตอร์เหล่านี้สามารถแปรเปลี่ยนเป็นการขายได้ ทวิตเตอร์พบว่าโดยเฉลี่ยแล้วหากแบรนด์ที่สามารถกระตุ้นให้เกิดบทสนทนาเพิ่มขึ้น 10% จะช่วยเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น 3%

บทสนทนาช่วงเทศกาล 61% เป็นการอวยพร

บทสนทนาที่เกี่ยวกับเทศกาลวันหยุดในประเทศไทยส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของการอวยพรมากถึง 61% เนื่องจากผู้คนบนทวิตเตอร์จะส่งคำอวยพรไปถึงคนในครอบครัวและเพื่อนฝูง ตามมาด้วยเรื่องของความบันเทิง 20% และการช้อปปิ้ง 10% นอกจากนี้ การศึกษาบทสนทนาที่เกี่ยวกับเทศกาลวันหยุดบนทวิตเตอร์พบว่า 51% ของนักช้อปในประเทศไทยอยากจะให้แบรนด์ออกข้อเสนอหรือโปรโมชัน 32% กำลังมองหาตัวเลือกที่เป็นของขวัญจากแบรนด์ และ 31% คนไทยบนทวิตเตอร์หวังว่าแบรนด์จะทำคอนเทนต์ที่มีเนื้อหาอบอุ่นใจเพิ่มมากขึ้นในช่วงเทศกาล

ตัวเลือกในการเลือกซื้อของขวัญมีความหลากหลายตั้งแต่ของขวัญที่เป็นอาหารและเครื่องดื่ม ผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนตัว สินค้าแฟชั่นและเครื่องประดับ ไปจนถึงสินค้าด้านเทคโนโลยี ซึ่งคนไทยบนทวิตเตอร์ 28% กำลังวางแผนที่จะซื้อสินค้าไอทีในช่วงเทศกาลวันหยุดปีนี้ ซึ่งในการมองหาสินค้าแนวนี้พวกเขาจะพิจารณาถึงสองเรื่องนี้มากที่สุด คือ เรื่องของราคา (68%) และเรื่องของข้อเสนอและโปรโมชันที่ดี (57%)

]]>
1365557
คนอเมริกันกว่า 5 ล้านแห่เดินทาง ‘วันขอบคุณพระเจ้า’ แม้จะถูกห้ามเพื่อคุมการระบาดก็ตาม https://positioningmag.com/1307824 Thu, 26 Nov 2020 10:27:50 +0000 https://positioningmag.com/?p=1307824 ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคติดต่อของสหรัฐฯ ได้ขอความร่วมมือให้ชาวอเมริกัน ‘ไม่เดินทางในช่วงวันขอบคุณพระเจ้า’ แต่ดูเหมือนจะไม่สามารถขอกันได้ เพราะที่สนามบินสหรัฐฯ มีประชาชนกว่า 1 ล้านคนเดินทางในวันอาทิตย์ และมากกว่า 900,000 คนในวันอังคารที่ผ่านมา

สายการบินถือเป็นส่วนหนึ่งของความรับผิดชอบในการคัดกรองและเก็บข้อมูลเกี่ยวกับผู้ติดเชื้อ COVID-19 ได้เปิดเผยข้อมูลว่า มีประชากรเกือบ 5 ล้านคนได้ขึ้นเครื่องบินเพื่อเดินทางในช่วงวันหยุดขอบคุณพระเจ้า นับตั้งแต่ CDC หรือ Centers for Disease Control หน่วยงานป้องกันโรคติดต่อในสหรัฐอเมริกาออกคำเตือนให้ประชาชนชาวอเมริกากักตัวอยู่บ้าน เพื่อลดการแพร่ระบาดของ COVID-19

Photo : AFP

Andy Post โฆษกของหน่วยงานด้านความปลอดภัยในการเดินทางของประเทศสหรัฐอเมริกา (Transportation Security Administration) ระบุว่า ตั้งแต่เดือนกันยายนถึงเดือนตุลาคมจำนวนที่นั่งของเครื่องบินได้ถูกกำหนดให้รองรับได้ไม่เกิน 50% แต่เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้น จำนวนการจำกัดที่นั่งจึงลดลงเพียง 39% ในช่วงวันหยุดวันขอบคุณพระเจ้า ตามข้อมูลของ Airlines for America ซึ่งเป็นสมาคมการค้าที่เป็นตัวแทนของสายการบินรายใหญ่ในอเมริกาเหนือ

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สหรัฐฯ มีจำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ถึง 172,935 ราย และมีรายงานผู้เสียชีวิต 2,146 ราย ซึ่งวันอังคารถือเป็นวันที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดเป็นอันดับที่ 5 ส่งผลให้ขณะนี้สหรัฐฯ มีผู้ป่วยรายใหม่เฉลี่ย 174,225 รายต่อวันซึ่งเพิ่มขึ้น 11% จากสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่กังวลว่าวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้จะเป็นวันเดินทางที่คึกคักที่สุด และอาจส่งผลให้เกิดสถิติการติดเชื้อใหม่ในวันดังกล่าว

แม้จะมีการเดินทางจำนวนมาก แต่ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ก็เอาใจใส่คำเตือนจากเจ้าหน้าที่และผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ  โดย 61% ของชาวอเมริกันระบุว่าพวกเขาเปลี่ยนแผนวันขอบคุณพระเจ้า และที่น่าแปลกใจกว่านั้นคือ ชาวอเมริกันเกือบ 1 ใน 10 ที่ได้รับการสำรวจบอกว่าพวกเขาไม่ได้วางแผนที่จะเฉลิมฉลองวันหยุดเลย

Source

]]>
1307824