สวีเดน – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 25 Aug 2023 08:51:47 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ภาวะ “โลกเดือด” สร้างโอกาสในวิกฤตให้กับผู้ผลิต “ไวน์” ในสวีเดน รัสเซีย และอังกฤษ https://positioningmag.com/1442236 Fri, 25 Aug 2023 02:21:32 +0000 https://positioningmag.com/?p=1442236 2023 คือปีแห่งความท้าทายทางธรรมชาติ ภาวะ “โลกเดือด” ทำให้อากาศป่วน แต่ในวิกฤตยังมีโอกาสของกลุ่มผู้ผลิต “ไวน์” ในเขตหนาวอย่างสวีเดน รัสเซีย และอังกฤษ ซึ่งพบว่าฤดูเพาะปลูกในประเทศยาวขึ้นจากอากาศที่อุ่นผิดปกติ

ในปีแห่งภาวะโลกเดือด นักทำ “ไวน์” ในสวีเดนซึ่งปกติไม่ใช่แหล่งไวน์ที่มีชื่อเสียงแถวหน้าของโลก แต่ปีนี้จะเป็นปีที่พวกเขาคว้าโอกาส

“ผมเห็นการเติบโตของสิ่งต่างๆ ที่ไม่อาจฝันถึงได้เมื่อ 30-40 ปีก่อน” Göran Amnegård นักทำไวน์ที่เริ่มต้นธุรกิจในสวีเดนเมื่อ 20 ปีก่อน กล่าวกับสำนักข่าว AP

ขณะที่แหล่งผลิตไวน์แถวหน้าของโลก เช่น ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี ต่างได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อน ทำให้ขาดแคลนน้ำและอุณหภูมิในฤดูหนาวร้อนผิดปกติ แต่กลับกัน ในสวีเดนที่ปกติอากาศหนาวจัด ปีนี้อากาศจึงอุ่นขึ้นเหมาะแก่การผลิตไวน์คุณภาพดี

AP รายงานว่า อากาศที่อุ่นขึ้นในสวีเดนทำให้ฤดูเพาะปลูกยาวขึ้นอีกประมาณ 20 วัน ทำให้ปกติที่เพาะปลูกได้ 4 เดือนครึ่งถึง 5 เดือนต่อปี กลายเป็น 6 เดือนถึง 6 เดือนครึ่งต่อปี

จากปี 1961 มาจนถึงปี 2016 อากาศในสวีเดนมีอุณหภูมิสูงขึ้น 1 องศาเซลเซียส และคาดการณ์กันว่าภายในศตวรรษนี้ อากาศจะอุ่นขึ้นอีก 2-7 องศาเซลเซียส

ไม่ใช่แค่สวีเดนที่รับอานิสงส์จากภาวะโลกร้อน ตั้งแต่ปี 2016 ก็เคยมีรายงานแล้วว่า ทั้งรัสเซียและอังกฤษต่างมีแหล่งผลิตไวน์ที่คุณภาพดีขึ้นเพราะอากาศอุ่น

อย่างไรก็ตาม อุตสาหกรรมไวน์สวีเดนก็ยังโตช้า โดยในปี 2021 ไวน์สวีเดนมีการส่งออกมูลค่ารวม 26.3 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น แต่ในปีเดียวกันประเทศผู้ผลิตไวน์ดั้งเดิมอย่างฝรั่งเศสและอิตาลีสามารถส่งออกไวน์ด้วยมูลค่าสูงถึง 11,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 7,700 ล้านเหรียญสหรัฐตามลำดับ

ส่วนหนึ่งที่ยังมีการส่งออกน้อย เพราะอุตสาหกรรมไวน์สวีเดนเติบโตช้า ซัพพลายการผลิตมีการเติบโตเพียง 10% ต่อปี

อย่างไรก็ตาม ภาวะโลกร้อนอาจจะดีกับผู้ผลิต “ไวน์” แต่ไม่ได้ดีกับภาพรวมของประเทศแถบสแกนดิเนเวียเท่าไหร่นัก เมื่อต้นเดือนนี้เอง นอร์เวย์และสวีเดนประกาศแจ้งเตือนภัยพิบัติเพราะมีฝนตกหนักจนทำให้รถไฟตกราง มีผลกระทบต่อผู้โดยสารมากกว่า 100 คน และอุทกภัยยังมีผลต่อเส้นทางสัญจรบนถนนทั่วประเทศทั้งสอง

โลกร้อนไม่ได้ทำให้แหล่งผลิตไวน์เท่านั้นที่เปลี่ยนแปลงไป ความร้อนยังทำให้น้ำแข็งขั้วโลกเหนือละลาย และขั้วโลกเหนือนั้นอุดมไปด้วยน้ำมัน แร่ และปลา ทำให้หลายประเทศจับจ้องที่จะเข้าครองพื้นที่ โดยเฉพาะรัสเซียที่เริ่มเข้าไปยึดครองแล้วตั้งแต่ปี 2022

Source

]]>
1442236
“สวีเดน” สั่งศูนย์อาหารในห้างฯ เสิร์ฟเฉพาะ “ลูกค้ามาคนเดียว” เท่านั้น https://positioningmag.com/1321175 Sat, 27 Feb 2021 15:15:04 +0000 https://positioningmag.com/?p=1321175 สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อไม่นานนี้ สำนักสาธารณสุขสวีเดนตัดสินใจออกข้อจำกัดเพื่อป้องกันการระบาดของโรค COVID-19 ที่จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 1 มี.ค. เป็นต้นไป โดยกำหนดให้ร้านกาแฟและร้านอาหารในศูนย์อาหารของห้างสรรพสินค้าบริการเฉพาะลูกค้าที่มาคนเดียวเท่านั้น

จอน เพลลิง โฆษกสำนักฯ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวซินหัวว่า ข้อจำกัดนี้ถูกนำมาใช้ เนื่องจากร้านอาหารในศูนย์อาหารถูกมองเป็นสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง โดยทางการไม่อยากให้ประชาชนไปห้างสรรพสินค้าเพื่อจุดประสงค์อื่นนอกจากซื้อของ

ร้านอาหารไม่ควรถูกใช้เป็นสถานที่นั่งเล่นสำหรับพบปะผู้อื่น

ข้อจำกัดใหม่นี้มีผลบังคับใช้กับศูนย์อาหารที่ไม่มีทางเข้าแยกต่างหากของตัวเองเท่านั้น โดยผู้ใช้บริการที่มากับเด็กที่ต้องการการดูแลช่วยเหลือ จะได้รับการยกเว้นจากข้อจำกัดดังกล่าว ซึ่งถูกประกาศหลังจากรัฐบาลสวีเดนสั่งร้านอาหารทั้งหมด ยกเว้นร้านแบบซื้อกลับบ้าน ต้องปิดให้บริการภายใน 20.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น

]]>
1321175
อยู่ไม่ไหว! ชาวสวีเดนยื่นขอสัญชาติ “ฟินแลนด์” เพิ่มเป็นเท่าตัว ผวาแนวทางรับมือ COVID-19 https://positioningmag.com/1288443 Sat, 18 Jul 2020 14:43:25 +0000 https://positioningmag.com/?p=1288443 พบชาวสวีเดนที่ยื่นขอสิทธิความเป็นพลเมืองฟินแลนด์ เฉพาะตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน มีจำนวนมากกว่าตลอดทั้งปี 2019 ถึงเท่าตัว ด้วยเจ้าหน้าที่สถานทูตคาดเดาว่าสาเหตุหลักน่าจะมาจากแนวทางรับมือกับโรคระบาดใหญ่ไวรัส COVID-19 ที่ผิดแผกแตกต่างจากประเทศอื่นๆ ของสวีเดน

ตั้งแต่เข้าสู่ปี 2020 จนถึงปัจจุบัน มีพลเมืองสวีเดนกว่า 300 คนที่ยื่นขอสิทธิความเป็นพลเมืองฟินแลนด์ ผิดกับตลอดทั้งปี 2019 ซึ่งมีผชาวสวีเดนยื่นขอสัญชาติฟินแลนด์เพียง 152 คน

“เราได้รับคำร้องจำนวนมาก และนี่มันเพิ่งฤดูร้อนเอง” จัวนิ ลัคโซเน่น รองหัวหน้าสำนักงานด้านการทูต ณ สถานทูตฟินแลนด์ ประจำกรุงสตอกโฮล์ม เมืองหลวงของสวีเดนกล่าว

“เราไม่แน่ใจ เพราะคุณไม่จำเป็นต้องให้เหตุผลว่าทำไมคุณถึงยื่นขอเป็นพลเมืองฟินแลนด์ แต่บางทีมันอาจเป็นเพราะโคโรนาไวรัส ผู้คนอาจต้องการรับประกันว่าพวกเขาสามารถเดินทางไปยังฟินแลนด์ได้”

เจ้าหน้าที่เผยว่าผู้ยื่นคำร้องส่วนใหญ่เป็นอดีตพลเมืองฟินแลนด์ ที่หันไปถือครองสัญชาติสวีเดนก่อนปี 2003 เนื่องจากหลังจากปีดังกล่าว ฟินแลนด์ได้อนุญาตให้พลเมืองถือ 2 สัญชาติได้

Photo : Shutterstock

ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่ ฟินแลนด์ยังคงปิดชายแดนที่ติดกับสวีเดน สำหรับบุคคลใดก็ตามที่ไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะเดินทางเข้าประเทศ

ในเดือนมิถุนายน รัฐบาลฟินแลนด์ผ่อนปรนข้อจำกัดต่างๆ สำหรับผู้มาเยือนจากประเทศอื่น ที่มีอัตราส่วนผู้ติดเชื้อสูงสุดไม่เกิน 8 คนต่อประชากร 100,000 คนในช่วง 14 วันหลังสุด ซึ่ง ณ ปัจจุบัน สวีเดนยังไม่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มดังกล่าว

ทั้งสองประเทศใช้แนวทางตอบสนองต่อโรคระบาดใหญ่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยฟินแลนด์เลือกปิดชายแดนและกำหนดมาตรการล็อกดาวน์นานหลายสัปดาห์ ส่วนสวีเดน ปล่อยให้ประชาชนใช้ชีวิตตามปกติ โดยเพียงขอให้ประชาชนมีความรับผิดชอบ และปฏิบัติตามตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ด้านการเว้นระยะห่างทางสังคมเท่านั้น และยังอยู่บนพื้นฐานของความสมัครใจอีกด้วย

จำนวนผู้ติดเชื้อ COVID-19 ของสวีเดน เพิ่มขึ้นเท่าตัวนับตั้งแต่เข้าสู่เดือนมิถุนายน ส่งผลให้พวกเขากลายเป็นหนึ่งในชาติที่มีอัตราผู้ติดเชื้อต่อจำนวนประชากรสูงที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป โดยจนถึงวันที่ 17 ก.ค.

สวีเดนมีประชากร 10.23 ล้านคน พบผู้ติดเชื้อแล้ว 76,877 คน เสียชีวิต 5,593 คน ส่วน ฟินแลนด์ชาติที่มีประชากร 5.5 ล้านคน ยืนยันผู้ติดเชื้อ 7,301 คน เสียชีวิต 328 คน

Source

]]>
1288443
ถอดบทเรียน “สวีเดน” ไม่ล็อกดาวน์ แต่เศรษฐกิจก็ยังทรุด แถมอัตราตายจาก COVID-19 ก็สูงลิ่ว https://positioningmag.com/1282570 Tue, 09 Jun 2020 15:38:11 +0000 https://positioningmag.com/?p=1282570 สวีเดนไม่เหมือนกับประเทศอื่นๆ ส่วนใหญ่ หนึ่งในชาติที่สืบเชื้อสายจากพวกไวกิ้งรายนี้ไม่ได้ใช้มาตรการล็อกดาวน์ปิดเมืองเลย ในระหว่างเกิดการระบาดใหญ่ของไวรัส COVID-19 โดยยังคงอนุญาตให้ธุรกิจต่างๆ เปิดดำเนินการได้ต่อไปเป็นส่วนมาก

อย่างไรก็ตาม เมื่อดูจากผลลัพธ์ซึ่งเกิดขึ้นจนถึงเวลานี้ ปรากฏว่าเศรษฐกิจสวีเดนทำท่าถูกกระทบกระเทือนอย่างหนักหน่วงจากโรคระบาดคราวนี้ ไม่ได้แตกต่างอะไรจากชาติอื่นๆ ขณะที่อัตราการเสียชีวิตจาก COVID-19 โดยเฉพาะในหมู่คนชราที่พุ่งสูงลิ่วยิ่งกว่า

วิธีการที่สวีเดนใช้รับมือกับไวรัส COVID-19 นั้น บรรดาสถานบริการที่มีผู้คนชุมนุมแออัดกัน ใม่ว่าจะเป็น คาเฟ่, บาร์, ภัตตาคารร้านอาหาร รวมทั้งธุรกิจต่างๆ ส่วนใหญ่ต่างยังคงเปิดทำการได้ เช่นเดียวกับโรงเรียนสถานศึกษาสำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่า 16 ปี ถึงแม้มีการเรียกร้องแข็งขันให้ประชาชนทำตามกฎการเว้นระยะห่างทางสังคมและคำแนะนำด้านสุขอนามัยทั้งหลาย เช่น การล้างมือบ่อยๆ

แต่ไม่ว่าจะมีความคาดหมายอย่างไรในเรื่องที่นโยบายเช่นนี้ อาจช่วยบรรเทาแรงฟาดกระหน่ำใส่เศรษฐกิจของประเทศลงไปได้บ้าง เวลานี้ความวาดหวังเช่นนั้นดูเหมือนหนีหายไปกับสายลมเสียแล้ว

“เช่นเดียวกับในประเทศเกือบทั้งหมดของโลก เศรษฐกิจของสวีเดนในไตรมาส 2 ปีนี้ จะแสดงให้เห็นการถดถอยอย่างแรงเป็นสถิติใหม่เช่นกัน” นี่เป็นความเห็นของ โอลเล โฮล์มเกรน นักเศรษฐศาสตร์ของ เอสอีบี แบงก์ ธนาคารใหญ่ภาคเอกชนของสวีเดน

ต้องลำบากกันเป็น “เวลานาน”

การกระเตื้องดีขึ้นน่าจะเกิดขึ้นได้ในช่วงหลังของปีนี้ แต่ “เราคาดหมายเอาไว้ว่ามันจะต้องใช้เวลายาวนานทีเดียวก่อนที่สถานการณ์จะกลับคืนสู่ภาวะปกติ” นักเศรษฐศาสตร์ผู้นี้บอกกับสำนักข่าวเอเอฟพี

เพื่อความเป็นธรรม ควรต้องกล่าวให้ชัดเจนว่า พวกเจ้าหน้าที่สวีเดนยืนยันเรื่อยมาว่ายุทธศาสตร์ในการรับมือกับ COVID-19 ของพวกเขาแม้ผิดแผกไปจากชาติส่วนใหญ่ แต่ก็ทำไปด้วยจุดมุ่งหมายในทางสาธารณสุขเสมอมา ไม่เคยเลยที่จะเจาะจงมุ่งรักษาระบบเศรษฐกิจ

(Photo by Nils Petter Nilsson/Getty Images)

ไอเดียสำคัญของยุทธศาสตร์นี้ คือ การทำให้แน่ใจว่าโรงพยาบาลต่างๆ สามารถที่จะรับมือกับการระบาดได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน โดยจะต้องไม่ให้เกิดภาวะระบบสาธารณสุขพังครืน มีคนป่วยต้องได้รับการรักษากันล้นจนเตียงและอุปกรณ์ไม่เพียงพอ ขณะเดียวกันก็ต้องพิทักษ์คุ้มครองผู้สูงอายุตลอดจนกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงอื่นๆ

สวีเดนประสบความสำเร็จในเรื่องแรก แต่ยอมรับว่าล้มเหลวในเรื่องหลัง โดยที่ผู้เสียชีวิตจากไวรัสนี้จำนวนมากกว่า 3 ใน 4 เกิดขึ้นในหมู่คนชราซึ่งพำนักอาศัยตามสถานดูแลผู้สูงอายุ ตลอดจนในหมู่คนแก่ซึ่งรับการดูแลเยียวยาที่บ้านของพวกเขาเอง

“ตอนที่เราตัดสินว่าควรใช้มาตรการอะไรในการหยุดยั้งไม่ให้ไวรัสนี้แพร่ระบาดออกไปนั้น เราไม่ได้มีข้อพิจารณาในทางเศรษฐกิจใดๆ เลย เรามีแต่คอยทำตามคำแนะนำของพวกผู้เชี่ยวชาญ (ด้านสาธารณสุข) ของเราในประเด็นนี้” รัฐมนตรีคลัง มักดาเลนา แอนเดอร์สสัน กล่าวยืนยันในการแถลงต่อผู้สื่อข่าวตอนปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

แต่กระนั้น พวกเจ้าหน้าที่รับผิดชอบก็ยอมรับกันว่า การพยายามให้ธุรกิจต่างๆ สามารถเปิดทำการต่อไป ก็เป็นส่วนหนึ่งของข้อพิจารณาทางสาธารณสุขในภาพกว้าง เนื่องจากหากเกิดภาวะคนว่างงานในระดับสูง และเศรษฐกิจอ่อนแอ ก็มักต้องนำไปสู่ระบบสาธารณสุขที่ย่ำแย่ลงเป็นธรรมดาอยู่แล้ว

สวีเดนเป็นประเทศที่มีประชากร 10.3 ล้านคน รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจาก COVID-19 จำนวนรวม 4,639 คน เมื่อนับถึงวันที่ 5 มิ.ย. ที่ผ่านมา

นี่ทำให้ประเทศนี้กลายเป็นหนึ่งในประเทศซึ่งมีอัตราการเสียชีวิตจากไวรัสที่สูงที่สุดในโลก นั่นคือเสียชีวิต 459.3 รายต่อประชากรล้านคน เท่ากับกว่า 4 เท่าตัวของชาติเพื่อนบ้านไวกิ้งด้วยกันอย่างเดนมาร์ก ยิ่งเปรียบกับนอร์เวย์ ประเทศเพื่อนบ้านไวกิ้งอีกรายหนึ่งด้วยแล้ว ก็จะสูงกว่าเป็น 10 เท่าตัวทีเดียว โดยที่สองชาติหลังนี้ต่างใช้มาตรการจำกัดความเคลื่อนไหวของประชาชนที่เข้มงวดกวดขันยิ่งกว่าสวีเดนมาก

(Photo by Narciso Contreras/Anadolu Agency via Getty Images)

ตอนแรกๆ เศรษฐกิจที่ต้องพึ่งพาการส่งออกอย่างหนักของสวีเดน ทำท่าเหมือนกับเดินหน้าต่อไปได้ดีพอสมควร โดยที่ในไตรมาสแรกที่ผ่านมา จริงๆ แล้ว GDP มีอัตราเติบโตเป็นบวกอยู่ 0.1% ด้วยซ้ำ

ทว่า ตอนนี้ประเทศนี้ได้รับการคาดหมายว่าจะเดินไปบนเส้นทางเดียวกันกับชาติส่วนใหญ่ของยุโรป นั่นคือเศรษฐกิจจะติดลบเมื่อรวมตลอดทั้งปี 2020 ส่วนอัตราการว่างงานก็พุ่งแรง

GDP ลดต่ำ การว่างงานขึ้นสูง

เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา รัฐบาลพยากรณ์ว่าจีดีพีจะหดตัวลงราว 4% ในปี 2020 นี้ เปรียบเทียบกับที่เคยพยากรณ์เอาไว้ในเดือนมกราคมว่าจะเติบโตได้ 1.1%

ขณะที่คณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของสหภาพยุโรป มองภาพในแง่ลบยิ่งกว่า โดยเวลานี้บอกว่าการติดลบของสวีเดนจะอยู่ที่ 6.1% (เปรียบเทียบกับเยอรมนี ชาติที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดและมั่นคงที่สุดในอียู ได้รับการคาดการณ์จากอีซีว่าจะ -6.5% ส่วนยูโรโซนโดยรวมจะอยู่ที่ -7.7%) ยิ่งธนาคารกลางของสวีเดนด้วยแล้ว มองทิศทางอนาคตย่ำแย่กว่านี้อีก นั่นคือพยากรณ์ว่าจีดีพีอาจจะดำดิ่งติดลบกันถึง 10% ทีเดียว

นักเศรษฐศาสตร์บางคนมองว่า อัตราเติบโตของสวีเดนน่าจะฟื้นขึ้นมาได้อย่างเร็วคือในครึ่งหลังของปี 2020 แต่รัฐมนตรีคลังเตือนว่าสิ่งต่างๆ อาจย่ำแย่เลวร้ายลงไปอีก ก่อนที่จะฟื้นคืนดีขึ้นมา

ก่อนที่จะเกิดวิกฤตการณ์โรคระบาด ตลาดแรงงานของสวีเดนอยู่ในรูปทรงที่ใช้ได้ทีเดียว มีการสร้างงานใหม่ๆ อย่างแข็งแรง และอัตราการว่างงานกำลังลดลงไป

เวลานี้รัฐบาลคาดหมายว่าอัตราการว่างงานจะอยู่ที่ 9% ในตลอดปี 2020 และกระทั่งในปี 2021 เปรียบเทียบกับ 6.8% ในปี 2019

รัฐบาลมองแง่ดีว่า GDP ยังน่าจะฟื้นจนเติบโตได้ 3.5% ในปี 2021

(เก็บความจากเรื่อง Sweden didn’t lock down, but economy to plunge anyway ของสำนักข่าวเอเอฟพี)

Source

]]>
1282570