‘Boston Dynamics’ ก่อตั้งเมื่อปี 1992 เป็นธุรกิจที่แยกออกมาจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) โดยในปี 2013 ทาง Google ได้เข้ามาซื้อกิจการเป็นเจ้าเเรก ต่อมาได้ขายให้กลุ่ม SoftBank จากญี่ปุ่นในช่วงปี 2017
ทั้งนี้ หลังการเข้ามาของ Hyundai ทาง SoftBank จะยังคงถือหุ้นอยู่ราว 20%
Boston Dynamics โด่งดังมาจากการพัฒนา ‘Spot’ หุ่นยนต์สุนัขสีเหลืองขาลุย ที่สามารถสำรวจพื้นที่ต่างๆ เข้าไปในที่เเคบเเละมืด เเละปีนที่สูงในอย่างคล่องเเคล่ว ถูกนำไปใช้ในหลายอุตสาหกรรม อย่างธุรกิจขุดเจาะน้ำมันและก๊าซ สำรวจป่า เหมืองเเร่ หรือเเม้กระทั่งตอนจับคนไม่ใส่หน้ากากในช่วงโควิด-19
นอกจากนี้ ยังได้เปิดตัว ‘Stretch’ หุ่นยนต์เชิงพาณิชย์ตัวแรกของบริษัท ที่ออกแบบมาเฉพาะ สำหรับคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้า
การเข้าซื้อกิจการ Boston Dynamics ของ Hyundai ในครั้งนี้ มีเป้าหมายใหญ่ คือการสร้าง ‘Robotics Value Chain’ ที่ครอบคลุมเครือข่ายทั้งการผลิตส่วนประกอบเเละสร้างหุ่นยนต์ ระบบอัตโนมัติต่างๆ
พร้อมทรานส์ฟอร์มบริษัทสู่ผู้ให้บริการโซลูชัน ‘Smart Mobility’ การสัญจรอัจฉริยะ รองรับเทรนด์ในอนาคต ซึ่งก่อนหน้านี้ Hyundai ได้ทุ่มลงทุนไปในหลายเทคโนโลยี เช่น ระบบขับเคลื่อนด้วยตนเอง ปัญญาประดิษฐ์ โรงงานอัจฉริยะ ฯลฯ
“ในด้านวิทยาการหุ่นยนต์ บริษัทมีเป้าหมายที่จะพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงที่ช่วยยกระดับชีวิตของผู้คนและส่งเสริมความปลอดภัย เพื่อความก้าวหน้าของมนุษยชาติ”
ข้อตกลงนี้คาดว่าจะช่วยให้ Hyundai และ Boston Dynamics ใช้ประโยชน์จาก ‘จุดแข็ง’ ของกันและกัน ทั้งในด้านการผลิต โลจิสติกส์ การและระบบอัตโนมัติ ขยายไลน์สินค้า การบริการ และส่งออกไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก
เมื่อไม่นานมานี้ Boston Dynamics ถูกวิจารณ์เรื่องการนำหุ่นยนต์สุนัข Spot ไปใช้ในกองทัพ เเต่อย่างไรก็ตาม ในคลิปโปรโมตความร่วมมือใหม่ล่าสุดกับ Hyundai จะเป็นการนำหุ่นยนต์สุนัขมา ‘ช่วยนำทาง’ สำหรับคนตาบอดและเป็นผู้ช่วยในโรงพยาบาล เป็นต้น
ที่มา : Engadget , Techcrunch , hyundainews
]]>เป้าหมายของหุ่นตัวนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อใช้ในการสอดส่องความปลอดภัย มีการติดตั้งสารพัดเซ็นเซอร์ สามารถหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้อัตโนมัติภายในระยะ 1 เมตร แถมการที่มี 4 ขาจึงใช้งานในพื้นที่ต่างๆ ได้ดีกว่าหุ่นยนต์แบบติดล้อ สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย เช่น ส่งของ, ตรวจจับการรั่วไหลของแก๊ส แถมตอนนี้หลายๆ ประเทศเอามาประยุกต์ใช้เป็นหุ่นยนต์ telemedicine ติดแท็บเล็ตเข้าไป เพื่อช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์รับมือกับ COVID-19
การนำหุ่นยนต์มาทดสอบใช้งานนี้เป็นครั้งแรก เมื่อวันศุกร์ที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา เกิดจากความร่วมมือระหว่าง NParks และ Smart Nation and Digital Government Group (SNDGG) โดยหุ่นยนต์จะทำการลาดตระเวนไปรอบๆ สวนสาธารณะ พร้อมแจ้งเตือนให้คนที่เข้ามาเว้นระยะห่างทางสังคมมามาตรการที่ภาครัฐกำหนด
จะเห็นว่าด้านบนของหุ่นยนต์สุนัขมีกล้องติดไว้ ที่มาพร้อมกับซอฟต์แวร์ที่ทาง GovTech พัฒนาขึ้นเพื่อใช้ประเมินจำนวนผู้ที่เข้ามาใช้สวนสาธารณะ ซึ่งกล้องนี้จะไม่มีการเก็บข้อมูลหรือติดตามบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ รวมถึงไม่มีการเก็บข้อมูลส่วนตัวใดๆ ทั้งสิ้น
โดยการทดสอบใช้งานครั้งนี้จะใช้เวลา 2 สัปดาห์ ในการลาดตระเวนสวนสาธารณะระยะทาง 3 กิโลเมตร โดยจะนำมาใช้งานในช่วงเวลาที่คนเข้ามาใช้งานไม่เยอะก่อน หากการทดสอบประสบความสำเร็จก็จะนำมาใช้จริงจังในช่วงเช้าและช่วงเย็นที่มีคนมาใช้บริการมาก รวมถึงนำไปใช้ในสวนสาธารณะแห่งอื่นเพิ่มเติมอีกด้วย
]]>