การเเพร่ระบาดของ COVID-19 เร่งให้ตลาดแรงงาน เปลี่ยนจากการพึ่งพาแรงงานมนุษย์ ไปพึ่งพาแรงงาน “หุ่นยนต์” เร็วขึ้น
จากรายงาน World Economic Forum ฉบับล่าสุด เปิดเผยว่า การมาของ COVID-19 ที่ระบาดทั่วโลก เป็นปัจจัยสำคัญที่เร่งให้มีการเปลี่ยนเเปลงทางเทคโนโลยีในสถานที่ทำงาน โดยตำเเหน่งงานของมนุษย์กว่า 85 ล้านตำแหน่งจะถูกทดเเทนด้วย “ระบบอัตโนมัติ” ภายใน 5 ปีข้างหน้า
“กว่า 2 ใน 5 ของบริษัทขนาดใหญ่ที่ถูกสำรวจ มีแผนจะลดพนักงานลง เนื่องจากการผสมผสานเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน”
จากการสำรวจบริษัททั่วโลกเกือบ 300 แห่ง พบว่า 4 ใน 5 ของผู้บริหารระดับสูง กำลังวางเเผนที่จะปรับการทำงานให้เป็นดิจิทัลมากขึ้น ให้พนักงานทำงานจากที่บ้าน ประชุมงานผ่านวิดีโอคอล เเละจะมีการปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะในด้านคลาวด์คอมพิวติ้ง บริการอีคอมเมิร์ซ เเละการสื่อสารกับลูกค้าผ่านช่องทางออนไลน์
World Economic Forum ระบุว่า ภายในปี 2025 งานที่ถูกทำโดยมนุษย์จะถูกทดแทนด้วยระบบอัตโนมัติ มากถึง 85 ล้านตำแหน่ง ทั้งงานผู้ช่วยธุรการ พนักงานบัญชี ฝ่ายจัดการข้อมูล พนักงานบริการลูกค้า ฝ่ายบริการธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ยังมีความต้องการใช้ทักษะความสามารถของมนุษย์ มาช่วยควบคุมเเละดูเเลในงานที่มีความซับซ้อนมากขึ้นอย่าง ปัญญาประดิษฐ์ (AI) วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ระบบคลาวด์การพัฒนาผลิตภัณฑ์เเละธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนเเละสิ่งเเวดล้อม
“การเพิ่มขึ้นของระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์ ก็สามารถสร้างงานให้มนุษย์เพิ่มขึ้น 97 ล้านตำแหน่งทั่วโลก ภายใน 5 ปีข้างหน้าเช่นกัน”
ต่อไปนี้บริษัททั่วโลกจะมีการ “ฝึกอบรม” อัพสกิลเเละรีสกิลพนักงานที่มีอยู่มากขึ้น ซึ่งตอนนี้ยังมีพนักงานกว่าครึ่งหนึ่งที่ยังต้องเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ เพื่อให้ทำงานกับระบบอัตโนมัติในเร็ววันนี้
โดยบริษัทชั้นนำมองว่า ทักษะการคิดวิเคราะห์และการแก้ปัญหาอย่างมีวิจารณญาณ จะมีความสำคัญกับการทำงานในองค์กรในอนาคต เเละคาดว่าพนักงานจะมีทักษะความอดทน ยืดหยุ่น และการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ หลังผ่านพ้นวิกฤตโรคระบาด COVID-19