อินสตาแกรม – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Tue, 09 Apr 2024 04:56:08 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 รู้หรือไม่ Instagram สร้างรายได้ให้ Meta มากกว่า 1 ใน 4 ของรายได้ทั้งหมด แถมยังมากกว่า YouTube ในปีเดียวกันด้วยซ้ำ https://positioningmag.com/1469445 Tue, 09 Apr 2024 03:50:55 +0000 https://positioningmag.com/?p=1469445 ปกติแล้ว Meta ซึ่งเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มแชร์รูปภาพอย่าง Instagram จะไม่มีการเปิดเผยรายได้ของแพลตฟอร์มดังกล่าวแต่อย่างใด แต่ล่าสุดในการขึ้นศาลของบริษัทนั้นบริษัทได้กล่าวถึงรายได้ในส่วนดังกล่าวในปี 2021 นั้นบริษัททำรายได้มากกว่า 1.1 ล้านล้านบาท ซึ่งเทียบแล้วมากกว่า YouTube ในปีเดียวกันด้วยซ้ำ

Business Insider ได้รายงานข่าวโดยอ้างอิงข้อมูลที่ Meta ได้ยื่นข้อมูลกับศาลในสหรัฐอเมริกา ชี้ว่ารายได้ของ Instagram ในปี 2021 ที่ผ่านมานั้นทำรายได้ให้กับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่นั้นมากกว่า 1 ใน 4 ของรายได้รวมบริษัท ซึ่งถือว่าแพลตฟอร์มแชร์รูปดังกล่าวถือเป็นเครื่องจักรผลิตเงินที่สำคัญของบริษัท

Meta ได้ยื่นข้อมูลกับศาลของสหรัฐอเมริกาในคดีความกับ FTC ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแล รายได้ในปี 2018 อยู่ที่ 11,300 ล้านเหรียญสหรัฐ รายได้ในปี 2019 อยู่ที่ 17,900 ล้านเหรียญสหรัฐ รายได้ในปี 2020 อยู่ที่ 22,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ปี 2021 อยู่ที่ 32,400 ล้านเหรียญสหรัฐ และครึ่งปีแรกของปี 2022 อยู่ที่ 16,500 ล้านเหรียญสหรัฐ

หากนำรายได้ของปี 2021 ของ Instagram ที่คิดเป็นเงินไทยระดับ 1.1 ล้านล้านบาท มาเทียบรายได้รวมทั้งหมดของ Meta นั้นรายได้จะคิดเป็นสัดส่วนมากถึง 27% เลยทีเดียว และยังมีโอกาสที่สัดส่วนจะเพิ่มมากขึ้นด้วยซ้ำในอนาคต

ปกติแล้วบริษัทแม่ของแพลตฟอร์มอย่าง Facebook และ Instagram จะไม่มีการรายงานรายได้รวมของแต่ละหน่วยธุรกิจแต่อย่างใดในรายงานผลประกอบการแต่ละไตรมาส แต่บริษัทจะรายงานแค่รายได้จากส่วนของแอปพลิเคชันซึ่งรวมธุรกิจลูกทั้งหมด และส่วนรายได้ของ Reality Labs ซึ่งเป็นรายได้จากกลุ่ม Metaverse หรือ VR รวมกัน

และถ้าหากนำรายได้ของ Instagram ในช่วงเวลาปี 2021 นักวิเคราะห์ยังคาดว่าจะมีมากกว่ารายได้ของ YouTube ในปีเดียวกันด้วยซ้ำ โดยนักวิเคราะห์จาก MoffettNathanson คาดว่ารายได้ของแพลตฟอร์มวิดีโอดังกล่าวจะมีรายได้ 28,800 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น หรือคิดเป็นเงินไทยราวๆ 1 ล้านล้านบาท

อย่างไรก็ดี Alphabet บริษัทแม่ของ YouTube และ Google เองก็ไม่ได้รายงานรายได้ของแต่ละธุรกิจ ซึ่งรวมถึง YouTube ด้วยเช่นกัน

ในช่วงที่ผ่านมา Instagram ได้ปรับเปลี่ยนทิศทางการดำเนินการไม่น้อย เช่น เน้นการแชร์วิดีโอสั้นเพิ่มมากขึ้น เพื่อที่จะต่อสู้กับคู่แข่งอย่าง TikTok หรือแม้แต่การเปิดตัว Threads ซึ่งเป็นบริการที่คล้ายคลึงกับ Twitter หรือ X ในปัจจุบัน รวมถึงการหาช่องทางรายได้ใหม่ๆ จากผู้ลงโฆษณาที่เพิ่มมากขึ้น

การยื่นข้อมูลกับศาลของสหรัฐอเมริกาของ Meta ครั้งนี้ทำให้เราได้ทราบถึงความคุ้มค่าในการซื้อกิจการ โดย Facebook (ก่อนที่บริษัทจะเปลี่ยนชื่อ) ได้ซื้อกิจการของ Instagram ในปี 2012 ด้วยมูลค่าเพียงแค่ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ก่อนที่บริษัทจะสร้างรายได้อย่างงดงามและเป็นเครื่องจักรผลิตเงินให้กับ Meta ในทุกวันนี้

นอกจากนี้ Business Insider ได้เทียบว่าถ้าหากนำรายได้มาคำนวณสัดส่วนเมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดของ Meta ในปัจจุบันนั้น Instagram จะมีมูลค่ากิจการอย่างน้อย 440,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยมากกว่า 16 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นดีลที่คุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มในระยะเวลาเพียงแค่ 12 ปีเท่านั้น

]]>
1469445
‘Instagram’ กำลังทดสอบฟีเจอร์ ‘Gifts’ อีกช่องทาง ‘สร้างรายได้’ ให้ครีเอเตอร์ https://positioningmag.com/1400104 Wed, 14 Sep 2022 08:22:20 +0000 https://positioningmag.com/?p=1400104 TikTok ซึ่งเป็นคู่แข่งรายใหญ่ที่สุดของ Instagram ได้เพิ่มฟีเจอร์ให้ ทิป กับเหล่าครีเอเตอร์เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ Twitter ได้เปิดตัวฟีเจอร์ Tip Jar ไปเมื่อเดือนพฤษภาคม 2021 ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้มีวิธีในการให้ทิปครีเอเตอร์ได้อย่างรวดเร็วด้วยการแตะเพียงไม่กี่ครั้ง แม้แต่ Tumblr ก็มีฟีเจอร์ที่เปิดตัวเมื่อต้นปีนี้

ไม่รู้ว่าช้าไปไหม เพราะ Instagram กำลังทดสอบฟีเจอร์สำหรับให้ ของขวัญ (Gifts) ที่จะเป็นการให้ทิปครีเอเตอร์บนแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้ชื่นชอบ เพื่อเป็นอีกช่องทางในการหารายได้ให้เหล่าครีเอเตอร์ อย่างไรก็ตาม ทาง Meta ยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียด โดยระบุเพียงว่า ฟีเจอร์ดังกล่าวยังเป็นเพียงต้นแบบที่ทดสอบภายในและยังไม่ได้ทดสอบกับภายนอก

อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ดังกล่าวถูกค้นพบครั้งแรกโดย Alessandro Paluzzi ซึ่งเป็นนักวิจัยแอปเมื่อเดือนกรกฎาคม โดย Instagram กำลังพัฒนาฟีเจอร์ดังกล่าวภายใต้ชื่อ Content Appreciation โดยฟีเจอร์ดังกล่าวจะช่วยให้แฟน ๆ ครีเอเตอร์สามารถส่ง ของขวัญ ให้กับพวกเขาได้

สำหรับฟีเจอร์ดังกล่าวหากเปิดตัว มันจะไม่ใช่ฟีเจอร์สำหรับให้ทิปครีเอเตอร์เพียง อย่างเดียว ของ Meta grikt ในปี 2020 Instagram ได้เปิดตัว Badges ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่อนุญาตให้ผู้ใช้แสดงการสนับสนุนครีเอเตอร์ระหว่างไลฟ์สดวิดีโอ ผ่านการส่งดาวโดยมีราคาเริ่มต้นที่ $0.99, $1.99 หรือ $4.99 ซึ่งช่วยให้ครีเอเตอร์มีช่องทางในการสร้างรายได้ผ่านทั้งสตรีมสดและฟีเจอร์ Reels

ก็คงต้องรอดูว่าฟีเจอร์ดังกล่าวจะเปิดตัวมาให้ใช้เมื่อไหร่ แต่มีความเป็นไปได้สูงที่จะเปิดตัว เพราะหากย้อนดูคู่แข่งซึ่งส่วนใหญ่จะมีฟีเจอร์สำหรับให้ทิปครีเอเตอร์กันหมดไปตั้งนานแล้ว

Source

]]>
1400104
ผู้บริหาร ‘Instagram’ ยืนยันต้องไป ‘วิดีโอสั้น’ และจะไม่ยกเลิกฟีเจอร์ ‘แนะนำโพสต์’ จากผู้ที่ ‘ไม่ได้ติดตาม’ https://positioningmag.com/1394171 Wed, 27 Jul 2022 07:19:18 +0000 https://positioningmag.com/?p=1394171 หลังมีคำวิจารณ์จากเซเลบอย่าง Kylie Jenner และ Kim Kardashian รวมถึงกระแสการเรียกร้องจากชาวโซเชียลทั่วโลกที่ต้องการให้แพลตฟอร์ม Instagram (อินสตาแกรม) กลับมาเป็นอย่างที่เคยเป็น ไม่ใช่พยายามเป็น TikTok ล่าสุด Adam Mosseri หัวหน้า Instagram แชร์วิดีโอบน Twitter เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพื่ออธิบายถึงการเปลี่ยนแปลงล่าสุดในแพลตฟอร์ม

สืบเนื่องจากที่ Mark Zuckerberg ซีอีโอของ Meta ซึ่งเป็นเจ้าของ Facebook และ Instagram ได้พยายามจะเน้นไปที่คอนเทนต์ประเภท วิดีโอสั้น ซึ่งเป็นตลาดที่ TikTok ครองตลาด ทำให้ผู้ใช้หลายคนไม่โอเคกับการเปลี่ยนแปลงนี้ และเริ่มมีการเรียกร้องให้ Instagram กลับไปเน้นที่รูปภาพและมองเห็นโพสต์ของเพื่อนมากขึ้น ซึ่งโพสต์ดังกล่าวก็มียอดไลก์มากกว่า 1.6 ล้านไลก์ และส่งผลให้มีผู้ลงนามในคำร้องเกือบ 140,000 ราย

ทางด้าน Adam Mosseri หัวหน้า Instagram ก็ได้ออกมายอมรับผ่านวิดีโอส่วนตัวว่า เขารู้ว่า Instagram มีการเปลี่ยนแปลงมากมาย และแพลตฟอร์มจะยังคงเน้นที่รูปภาพต่อไป แต่ยังไงแพลตฟอร์ม Instagram ก็จะเน้นไปที่วิดีโอมากขึ้น เนื่องจากเป็นสิ่งที่ผู้คนชื่นชอบ แชร์ และบริโภคบนแพลตฟอร์ม

Mosseri กล่าวต่ออีกว่า เขาเคยได้ยินข้อกังวลมากมายเกี่ยวกับคำแนะนำโพสต์ที่ปรากฏในฟีดของผู้ใช้จากบัญชีที่พวกเขาไม่ได้ติดตาม ซึ่งเขาได้ชี้แจงว่า คำแนะนำมีขึ้นเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ค้นพบเนื้อหาใหม่ และเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพและสำคัญที่สุดในการช่วยให้ผู้สร้างเข้าถึงผู้คนมากขึ้น และหากผู้ใช้ไม่สนใจโพสต์เหล่านี้ พวกเขาสามารถปิดหรือปิดเสียงแนะนำทั้งหมดได้นานถึงหนึ่งเดือน

Adam Mosseri อัดวิดีโอชี้แจงประเด็น Instagram พยายามเป็น TikTok

สำหรับการเปลี่ยนแปลงของ Instagram ที่ทำให้หลายคนไม่พอใจเนื่องจากแพลตฟอร์มเน้นที่วิดีโอมากเกินไป จากเดิมที่เป็นแพลตฟอร์มไว้ลงรูป นอกจากนี้ แพลตฟอร์มกำลัง ปลี่ยนวิดีโอโพสต์ให้กลายเป็น Reels รูปแบบการนำเสนอวิดีโอแบบใหม่ของทางบริษัททั้งหมดอีกด้วย และอีกสิ่งที่หลายคนไม่ชอบใจก็คือ การแนะนำโพสต์จากคนที่ไม่ได้ติดตาม

ขณะที่ Facebook เองก็มีการปรับหน้าตาฟีดใหม่ โดยจะมีทั้ง Home ที่จะแสดงโพสต์เหมือนเดิม และ Feed ที่จะแสดงโพสต์ล่าสุด โดยผู้ใช้สามารถได้ว่าจะให้โชว์โพสต์จากหมวดไหน อาทิ เพื่อน, กลุ่ม และเพจ เป็นต้น เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเห็นโพสต์ล่าสุดที่ต้องการได้โดยไม่โดนรบกวนจากโพสต์อื่น ๆ

ทั้งนี้ Meta กำลังจะรายงานผลประกอบการเร็ว ๆ นี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่ารายรับรายไตรมาสจะลดลงเป็นครั้งแรกเมื่อเทียบเป็นรายปี

Source

]]>
1394171
สรุปภาพรวม ‘สายเที่ยว’ ของชาว ‘Instagram’ พบ ‘คาเฟ่และธรรมชาติ’ หมุดหมายหลักที่อยากไป https://positioningmag.com/1366679 Tue, 14 Dec 2021 08:47:11 +0000 https://positioningmag.com/?p=1366679 เข้าสู่ช่วงท้ายของปี 2564 ธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรมต่างก็เริ่มกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง เนื่องจากการระบาดของ COVID-19 ที่บรรเทาลง โดยเฉพาะ การท่องเที่ยว ที่เริ่มฟื้นตัว โดย ไวซ์ไซท์ ได้สรุปข้อมูลภาพรวมสถานการณ์การท่องเที่ยวไทยผ่าน “INDUSTRY INSIGHT บทวิเคราะห์พฤติกรรมนักเดินทางชาวไทยบน Instagram” โดยนำเสนอพฤติกรรม, โปรไฟล์, และความสนใจของกลุ่มคนที่ชอบท่องเที่ยวบนช่องทาง Instagram ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลผ่านข้อความ (social voice analysis) และรูปภาพ (image labeling)

10 เดือนผ่านไป คนบ่นอยากเที่ยวมากที่สุด

ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา คนไทยบ่นออกมามากถึง 600,000 ครั้ง โดยความเบื่อระลอกแรกเกิดขึ้นเมื่อล็อกดาวน์ประเทศ และระลอกสองจากเหตุการณ์ทางการเมือง โดยกิจกรรมที่อยากทำมากที่สุดคือ เที่ยว ตามมาด้วยอยาก กิน, ช้อปปิ้ง, ออกกำลังกาย และดูหนัง

โดยจะเห็นว่าช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา จะเห็นชาวโซเชียลระบายออกมาผ่านแฮชแท็ก #เที่ยวทิพย์ หรือหาวิธีเติมเต็มจิตใจแบบอื่นด้วยการพักผ่อนเท่าที่ทำได้อย่าง Staycation การพักผ่อนใกล้บ้าน หรือเปลี่ยน Workation ด้วยการทำงานไปเที่ยวไป

ทั้งนี้ ปี 2564 ชาวโซเชียลคุยเรื่องเที่ยวมากกว่า 120,000 ข้อความต่อวัน ซึ่งเดือนกันยายนคือจุดเริ่มต้นในการฟื้นตัวของสถานการณ์ท่องเที่ยวในโซเชียลมีเดีย

Instagram เติบโตสูงสุด

เมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มอื่นแล้ว นับว่า Instagram มีแนวโน้มเติบโตสูงสุด โดยจากปี 2563 จนถึงเดือนกันยายน เติบโตขึ้น +216% แม้จะมีช่วงลดลงบ้างเมื่อสถานการณ์ COVID-19 เริ่มไม่สู้ดี แต่เมื่อการท่องเที่ยวไทยเริ่มกลับมาบูมอีกครั้งจากการเปิดประเทศ ชาวไอจีก็พร้อมตอบสนองทำให้การพูดคุยเรื่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในเดือนกันยายน 2564 เป็นต้นไป

แน่นอนว่า Instagram เป็นแพลตฟอร์มยอดนิยมในการลงรูปถ่าย เพื่อความสวยงาม ชาวไอจีถนัดในการหามุมสวยจากสถานที่ต่าง ๆ จนทำให้ทุกสถานที่ดูพิเศษ ทั้งจากเทคนิคการถ่ายภาพ การจัดมุม กล้องที่ดี หรือภาพสวย ๆ จากศิลปินและคนดังในโลกออนไลน์ ยิ่งดึงดูดให้คนคล้อยตาม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทั้งสวยงามน่าดึงดูด และมีอิทธิพลมากพอที่จะให้คนไปตามรอย

เชียงใหม่ครองแชมป์ จังหวัดที่ถูกพูดถึงมากที่สุด

3 เดือนก่อนเปิดประเทศ (เดือนกรกฎาคมถึงกันยายน) จังหวัดที่ชาวไอจีพูดถึงมาก ที่สุดคือ เชียงใหม่ ภูเก็ต ชลบุรี นครราชสีมา และน่าน พวกเขาบ่นคิดถึงเชียงใหม่ ลงแคปชั่นอยากไปทะเล หรือลงรูปคาเฟ่บนเขา โดยภาพและเรื่องเก่า ๆ ถูกนำมาเล่าซ้ำในรูปแบบใหม่ เช่น เล่าถึงประสบการณ์ความสุขในอดีต หรือหยิบภาพวิว ธรรมชาติมาเป็นกำลังใจในการทำงาน #ธรรมชาติบำบัด

เมื่อเปิดประเทศนำร่องในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 เกือบทุกจังหวัดจึงเป็นที่กล่าวถึงมากขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือตอนบน ชาวไอจีพูดถึง เชียงใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่า ขณะที่ เชียงรายและน่านเพิ่มขึ้น 3 เท่า หลังจากนั้นในเดือนพฤศจิกายน หลายสถานที่ท่องเที่ยวเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยว จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้เหล่า Part Time Traveler เตรียมออกเดินทางอีกครั้ง

ผู้หญิงโพสต์เรื่องเที่ยวมากที่สุด

คนที่โพสต์เรื่องเที่ยวส่วนใหญ่คือ ผู้หญิง โดยเฉพาะคนที่อายุ 18-24 ปี (33%) และ 25-34 ปี (32%) โดยผู้หญิงมีแนวโน้มโพสต์รูปภาพ ได้ตลอดทั้งวัน ต่างจากผู้ชายที่อาจโพสต์เป็นบางช่วงเวลา เช่นตอนเช้าหรือตอนเย็นไปเลย

  • กลุ่มวัยเรียน ในช่วงอายุน้อยกว่า 24 ปี ถือเป็นกลุ่มใหญ่สุดในสายท่องเที่ยวบน Instagram พบว่ามักเดินทางท่องเที่ยวเน้นธรรมชาติ และคาเฟ่
  • กลุ่มวัยทำงาน ในช่วงอายุ 25-34 ปี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง (79%) มีแนวโน้มท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ มากกว่ากลุ่มอื่น ๆ ให้ความสนใจกับเมนูอาหารมากกว่าการถ่ายภาพในคาเฟ่
  • กลุ่มวัยผู้ใหญ่ ในช่วงอายุมากกว่า 35 ปี มีแนวโน้มชอบไปวัดมากกว่ากลุ่มอื่น และสถานที่ไปอาจไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม

คาเฟ่และธรรมชาติจุดหมายท่องเที่ยว

คาเฟ่ ได้กลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยว และการไปคาเฟ่ ไม่ได้มีเพียงเพื่อลิ้มรสชา กาแฟ หากแต่เป็นการเสพบรรยากาศร้าน การไปคาเฟ่คือ ไลฟ์สไตล์สาย Cafe Hopping แสดงความเป็นตัวเองออกมาผ่านรูปถ่ายและแฮชแท็ก #cafehopping โดยคาเฟ่เป็นที่เที่ยวยอดนิยมของชาวไอจีมานานแล้ว รองจากทะเล และเป็นหนึ่งในจุด Check in และจุดหมายปลายทางเมื่อไปเยือนจังหวัดต่าง ๆ โดยจังหวัดยอดนิยมที่คนพูดถึงคู่กับคาเฟ่ ได้แก่ กรุงเทพฯ, เชียงใหม่, น่าน, พัทยา และ เขาใหญ่

เพราะทุกคนต้องการพักผ่อน และการหลบออกจากความวุ่นวายมา พึ่งธรรมชาติคือสิ่งที่หลายคนเลือกเพื่อบำบัดความเหนื่อยหน่าย โดยจะเห็นได้จาก #ธรรมชาติบำบัด ที่เติบโตขึ้นกว่า 3 เท่า หลังจากเปิดประเทศเดือนตุลาคม รวมถึง ทะเล ภูเขา เดินป่า แค้มปิ้ง ที่เติบโตขึ้นเช่นเดียวกัน

และจากการวิเคราะห์รูปภาพ 40,000 รูปที่ถูกโพสต์บน Instagram ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม – 15 พฤศจิกายน พบว่า 68% เป็นภาพถ่ายธรรมชาติมีส่วนประกอบของต้นไม้ และ 53% เป็นภาพถ่ายคน

]]>
1366679