เว็บไซต์ – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Sat, 11 Sep 2021 05:51:45 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘GoDaddy’ ลุยตลาดไทยเต็มสูบ เจาะ SMEs ขยับขายออนไลน์ ช่วยทำเว็บไซต์ DIY ได้เอง https://positioningmag.com/1351152 Fri, 10 Sep 2021 10:42:44 +0000 https://positioningmag.com/?p=1351152 ‘GoDaddy’ ยกทีมบุกตลาดไทย หลังมองอีคอมเมิร์ซเติบโตดี ไม่กลัวตลาดโดเมนท้องถิ่นเเข่งดุ ชูจุดเด่นเป็น ‘one-stop-shop’ โซลูชันครบวงจร เจาะกลุ่ม SMEs ให้ทำเว็บไซต์ DIY ได้เองง่ายๆ กลยุทธ์การตลาดเฟสเเรกขอเน้นสร้าง Brand Awareness ให้เป็นที่รู้จักก่อน

หลายคนคงได้ยินชื่อของ Go Daddy ผู้ให้บริการจดทะเบียนชื่อโดเมนที่ใหญ่ที่สุดในโลกสัญชาติอเมริกัน มาหลายปี เเต่ยังไม่มีทีมงานมาดูเเลตลาดไทยเเบบเต็มที่ 100% สักที

จนกระทั่งปีนี้ GoDaddy ตัดสินใจขยายสู่ตลาด 9 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยได้เปิดฝ่ายบริการลูกค้าด้วยภาษาไทยเป็นครั้งเเรก เมื่อเดือนพ..ที่ผ่านมา

“GoDaddy เล็งเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของผู้ประกอบการรายย่อยในไทย และอยากสร้างการรับรู้ว่าการเริ่มทำธุรกิจบนแพลตฟอร์มดิจิทัลในยุคนี้นั้น เป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายและมีต้นทุนค่าใช้จ่ายไม่สูง

ปัจจุบัน GoDaddy มีลูกค้ากว่า 20 ล้านราย และมีชื่อโดเมนกว่า 82 ล้านชื่อในมือ ดำเนินธุรกิจใน 50 ตลาดทั่วโลก มีลูกค้าอยู่ใน 100 ประเทศ 

ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19 ในปี 2020 บริษัทมียอดลูกค้าใหม่ทั่วโลกเกือบ 1.4 ล้านคน นับเป็นอัตราการเติบโตของจำนวนลูกค้าสุทธิประจำปีสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งมา สะท้อนให้เห็นว่าภาคธุรกิจต่างๆ หันมาขยายช่องทางการสื่อสารเเละสร้างเเบรนด์ผ่านเว็บไซต์มากขึ้น

SMEs ไทยขยับสู่ดิจิทัล 

สายทิพย์ (นิกกี้เชวงทรัพย์ ผู้อำนายการฝ่ายการตลาด เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บอกว่า กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักของ Go Daddy คือผู้ประกอบการ SMEs’ ทั้งเล็ก กลาง ใหญ่ รวมถึงบุคคลทั่วไป เเบ่งง่ายๆ ให้เห็นภาพเป็น 3 กลุ่มได้เเก่

  • กลุ่มที่มีสินค้าและบริการที่ต้องการจะขาย
  • กลุ่มที่ต้องการขายงานบริการระดับมืออาชีพ เช่น สถาปนิก ออกเเบบเเละตกเเต่งภายใน ศิลปินนักวาด นักบัญชี ฯลฯ
  • ผู้ประกอบการที่ต้องการหาโซลูชันอีคอมเมิร์ซเเบบครบวงจร

Go Daddy มีลูกค้าคนไทยที่ใช้บริการอยู่แล้วราว 60,000 ราย ในส่วนนี้คิดเป็นผู้ประกอบการรายย่อยกว่า 60-70% เลยทีเดียว

จากข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ปี 2020 ระบุว่า ไทยมีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ 63,340 ราย มีการคาดการณ์ว่าในปี 2564 จะมีการลงทะเบียนธุรกิจใหม่ เพิ่มขึ้นราว 64,000 – 66,000 ราย

โดยการจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เติบโตอย่างต่อเนื่องในอัตราเฉลี่ย 2% ต่อปี เเละมีจำนวนร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนสะสมจนถึงปี 2020 ทั้งหมดถึง 58,423 ราย

ในปีที่ผ่านมาเพียงปีเดียว ไทยมีการจดทะเบียนธุรกิจอีคอมเมิร์ซ 12,883 ราย และคาดว่าในปีนี้ จะมีการจดทะเบียนอีคอมเมิร์ซใหม่ในจำนวนที่สูงขึ้นอีก

ชูจุดขายโซลูชัน one-stop-shop สร้างเว็บไซต์ได้เอง

เมื่อถามถึงการเเข่งขันในตลาดโดเมนเเละโฮสติ้งในไทย Go Daddy มองว่า มีผู้เล่นทั้งบริษัทใหญ่จากต่างชาติ เเละบริษัทเล็กๆ ท้องถิ่นในไทยจำนวนมาก มีการตัดราคากันค่อนข้างสูง

โดยกลยุทธ์ที่บริษัทจะนำมาใช้เป็นจุดเเข็งในการตีตลาดไทย ก็คือการเป็น ‘one-stop-shop’ ที่มีผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อธุรกิจออนไลน์แบบครบวงจร จบในที่เดียว มีตัวเลือกมากกว่า น่าเชื่อถือเเละให้บริการดูแลลูกค้าจากเจ้าหน้าที่คนไทย

“GoDaddy ต้องการเป็นที่รู้จักมากกว่าการเป็นแพลตฟอร์มสร้างเว็บไซต์ เเต่เป็นเเหล่งที่มีเครื่องมือแบบครบวงจรให้ลูกค้า ในการสร้างธุรกิจออนไลน์ ทั้งการแสดงสินค้าและบริการ สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ ส่งเสริมการขายเเบบ Websites + Marketing”

หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจของ GoDaddy คือ ‘Website Builder’ ที่ช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อย ทำเว็บไซต์ของตัวเองได้เเบบ DIY ไม่ต้องมีประสบการณ์เชิงเทคนิคเพียงกดตามขั้นตอนง่ายๆ

โดย Website Builder จะมีระบบป้องกันความปลอดภัยเว็บไซต์ SSL Certification ที่ทำงานร่วมกับอุปกรณ์มือถือ พร้อมเชื่อมต่อโซเชียลมีเดียและ Google My Business เข้ากับเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นได้

นอกจากนี้ ยังมีบริการหลักๆ อย่างบริการจดทะเบียนชื่อโดเมนและโฮสติ้ง การสร้างเว็บไซต์และการตลาด บริการ Professional Email และ GoDaddy Guides ให้ความช่วยเหลือลูกค้าแบบตัวต่อตัวทั้งทางเเชทเเละโทรศัพท์จากทีมงานคนไทย 

เว็บไซต์คู่โซเชียลมีเดีย 

เป็นที่ทราบกันดีว่า คนไทยส่วนใหญ่มักนิยมการขายเเละซื้อสินค้าผ่านโซเชียลมีเดียมากกว่าทางเว็บไซต์ เป็นอีกหนึ่งความท้าทายของที่จะเข้ามาตีตลาดนี้

ผู้บริหาร GoDaddy ตอบว่า คนไทยนิยมใช้โซเชียลมีเดียเพราะไม่มีค่าใช้จ่าย เชื่อมต่อลูกค้าได้เร็ว เเต่การมีเว็บไซต์นั้นจะช่วยในเรื่องความน่าเชื่อถือ เพิ่มช่องทางการขาย เเละสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้เเบรนด์ได้ เเละที่สำคัญคือค้นหาทาง กว่าโดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายมากนัก เพียงหลักพันบาทขึ้นไป อีกทั้งยังได้เป็นเจ้าของเเพลตฟอร์มเอง ค้นหาทาง search engine ได้ง่ายกว่า เเละกระจายความเสี่ยงออกจากโซเชียลมีเดีย

โดยหัวใจสำคัญของการสร้างเว็บไซต์ให้ประสบความสำเร็จ คือ ชื่อต้องจำได้ง่าย , ดีไซน์ให้สื่อถึงความเป็นเเบรนด์ , คอนเทนต์ต้องมีคุณภาพเเละสม่ำเสมอ , เชื่อมต่อโซเชียลมีเดียได้ง่าย , ติดต่อลูกค้าได้รวดเร็ว เเละมีขั้นตอนการชำระเงินที่สะดวก เป็นต้น

ต้องยอมรับว่าตลาดไทย ไม่ใช่ตลาด DIY เหมือนในอเมริกาหรือยุโรป คนส่วนใหญ่ยังคิดว่าการจะทำเว็บไซต์ต้องมีความรู้ด้านเทคนิค ต้องเขียนโค้ดเป็น หรือมองว่าเป็นเรื่องยาก ต้องไปจ้างคนอื่นทำ GoDaddy จึงต้องเข้ามาสร้างความเข้าใจตรงนี้ เเละทำให้ตลาดขยายขึ้น

ในช่วงที่ผ่านมา GoDaddy มีการโปรโมตโฆษณาด้วยดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งต่างๆ โดยเน้นไปที่สร้างการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์เเละบริการที่มีอยู่

รวมไปถึงการจัดสัมมนาออนไลน์เป็นภาษาไทย เพื่อให้ความรู้กับผู้ประกอบการ SMEs เป็นกลุ่มย่อยในทุกๆ เดือน เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้ตรงเป้าหมายให้มากขึ้น 

การบุกไทยอย่างเต็มรูปแบบของยักษ์ใหญ่อย่าง GoDaddy จะกระตุ้นให้ตลาดธุรกิจออนไลน์โตเเค่ไหน เเละจะงัดกลยุทธ์อะไรมาดึงดูดผู้ใช้อีกบ้าง ต้องติดตาม…

 

 

]]>
1351152
ก้าวต่อไปของ LnwShop ปรับตัวครั้งใหญ่ ในยุคที่คนซื้อของผ่านเว็บไซต์น้อยลง https://positioningmag.com/1257766 Thu, 19 Dec 2019 11:32:57 +0000 https://positioningmag.com/?p=1257766 ตลาดอีคอมเมิร์ซในเมืองไทยเเละอาเซียนกำลังเฟื่องฟูสุด มูลค่าพุ่งถึง 3.2 ล้านล้านบาท ยอดผู้ใช้อินเทอร์เน็ตก็โตเกือบ 4 เท่าจาก 10 ปีที่ผ่านมา แพลตฟอร์มใหญ่จากต่างประเทศเข้ามาตีตลาดนักช้อปออนไลน์ทำให้อีคอมเมิร์ซสัญชาติไทยในตลาดเเทบไม่เหลือ เเต่ “เทพช็อป LnwShop” ยังคงอยู่เเละกำลังก้าวเข้าสู่ปีที่ 10 โดยให้บริการระบบบริหารร้านค้าออนไลน์เเบบครบวงจร

ปรับตัวอย่างไร เมื่อคนไม่นิยมซื้อของในเว็บไซต์เเล้ว…

ณัฐวิทย์ ผลวัฒนสุข กรรมการผู้จัดการบริษัท แอลเอ็นดับเบิ้ลยูช็อป จำกัด ผู้ร่วมก่อตั้ง Lnw Shop (เทพช็อป) กล่าวถึงภาพรวมของธุรกิจในปัจจุบันว่าผู้ประกอบการเริ่มหันไปเปิดร้านใน E-Market Place มากขึ้นเพราะขายง่าย
เเละมีโปรโมชั่นใหญ่ทุกเดือน เเต่ข้อจำกัดที่ยังเป็นจุดเเข็งของเว็บไซต์คือ “ความน่าเชื่อถือ” การมีเว็บไซต์ทำให้คนจดจำเเละเป็นลูกค้าประจำได้

ขณะเดียวกันเมื่อเทคโนโลยีโซเชียลพัฒนาขึ้นมาก คนก็หันไปเปิดร้านในสังคมออนไลน์ซึ่งตอบโจทย์ลูกค้าคนไทยได้เป็นอย่างดี เพราะคนไทยชอบเเชทถามก่อนซื้อ เเละยังขึ้นเเท่นซื้อของผ่านเเชทออนไลน์มากที่สุดในโลกด้วย

“เราต้องก้าวออกมาจากการเป็นเเค่เว็บไซต์ที่คนอาจเข้าน้อยกว่า โดยปรับมุมมองจากเว็บไซต์สำเร็จรูปให้เป็นระบบการจัดการร้านค้าออนไลน์มากขึ้น เชื่อมต่อแพลตฟอร์มอื่นๆ อย่างกูเกิล เฟซบุ๊ก ลาซาด้า และช้อปปี้ ทำให้ร้านค้าสามารถขายทุกช่องทางเเละมีระบบเพย์เมนต์รองรับ”

ณัฐวิทย์ ผลวัฒนสุข กรรมการผู้จัดการบริษัท แอลเอ็นดับเบิ้ลยูช็อป จำกัด ผู้ร่วมก่อตั้ง Lnw Shop

ข้อมูลล่าสุดมีจำนวนคนที่เข้ามาเปิดร้านกับ Lnwshop แล้วราว 740,000 ร้านเเละเเอคทีฟอยู่ประมาณ 5-6 หมื่นร้าน มียอดผู้ชมต่อวัน 2 ล้านคน โดยมี 3 กลุ่มสินค้าขายดี คือ กลุ่มเสื้อผ้าแฟชั่น กลุ่มแก็ดเจ็ตอุปกรณ์ไอที
ตามมาด้วยกลุ่มเครื่องสำอางเเละอาหารเสริม

“ยุคนี้ต้องทำควบคู่กันทั้งขายใน E-MarketPlace เเละต้องมีเว็บไซต์เป็นพื้นที่ของตนเอง ไม่ควรทำช่องทางใดช่องทางหนึ่ง ร้านค้าต้องขายทุกช่องทาง อย่าผูกติดกับแพลตฟอร์มใดเพียงเเพลตฟอร์มเดียว”

บิ๊กโซเชียลชิงตลาดเเชท E-MarketPlace เเข่งส่งเร็ว

Lnwshop เปิดเผยสถิติที่น่าสนใจสำหรับผู้ขายของออนไลน์ว่า ตอนนี้ผู้ซื้อของออนไลน์ที่หน้าเว็บนั้นมาจาก Google 50% จากการโฆษณา 19% การเข้าชมโดยตรง 17% และจาก Facebook 12%

“ในปีหน้าเราจะได้เห็นผู้ให้บริการโซเซียลคอมเมิร์ซ ลงสนามเเข่งพัฒนาระบบเพื่อให้บริการกับลูกค้าของตัวเองกันดุเดือดมาก โดยเฉพาะการขายผ่านช่องทางการเเชท ขณะที่ผู้ให้บริการ E-MarketPlace รายใหญ่จะหันมาพัฒนาความรวดเร็วในการขนส่งสินค้าให้ส่งสินค้าถึงมือลูกค้าได้ในวันเดียว หรือ “Same Day Delivery” ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ปริมณฑล เพื่อรองรับพฤติกรรมลูกค้ายุคใหม่ที่ซื้อเเล้วต้องได้ทันที” ณัฐวิทย์กล่าว

สำหรับ Lnwshop ตอนนี้ได้พัฒนาระบบภายในให้ผู้ขายสามารถปรับข้อมูลสินค้าบริการต่างๆ ไปจนถึงระบบการสั่งซื้อ การชำระเงิน ให้สามารถเชื่อมต่อข้อมูลที่อัพเดตหน้าร้านออนไลน์ของตัวเองไปยังแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างๆ ได้พร้อมกันโดยอัตโนมัติ

ทั้งนี้ Lnw มีผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้เเก่ LnwShop, LnwPay, LnwMall, LnwPickPack และ LnwDropShip

LnwX.com X Google เจาะร้านค้าหน้าใหม่

ช่วงเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา กูเกิลได้ร่วมมือกับ Lnw เปิดตัวแพลตฟอร์มน้องใหม่ LnwX เครื่องมือโฆษณา Google Shopping Ads ให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ที่ไม่ว่าจะขายผ่านช่องทางไหนจะ Facebook Line หรือ IG ก็สามารถลงโฆษณากับกูเกิลได้ผ่าน LnwX.com

“ตอนนี้ร้านค้าของเราเริ่มหันมาลงโฆษณากับกูเกิลเเล้วราว 1-2% เป็นร้านค้าเจ้าใหญ่ มีผลเพิ่มยอดขายได้สูงสุด 9 เท่า โดยที่ยังน้อยอยู่อาจเป็นเพราะว่าผู้ขายใน Lnwshop ยังชินกับการขายบนเเพลตฟอร์มของเราที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ เเต่เชื่อว่าเมื่อผู้ขายเริ่มเห็นว่าการโฆษณามีผลช่วยเพิ่มยอดขายอย่างมาก ก็จะมีผู้ใช้งาน LnwX.com มากขึ้น โดยตั้งเป้าปีหน้าจะเพิ่มเป็น 10% เเละต้องการตีตลาดผู้ขายออนไลน์ที่เป็น SMEs ในไทยราว 4 เเสนราย ”

พ่อค้าเเม่ค้าเตรียมปรับตัว EEC เร่งสินค้าจีนส่งถึงไทยไว

ปฐมพล แสงอุไรพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท แอลเอ็นดับเบิ้ลยูช็อป จำกัด ผู้ร่วมก่อตั้ง Lnw Shop กล่าวว่า ความท้าทายในปี 2020 และอาจส่งผลต่อผู้ประกอบการ SMEs ในไทย คือการเข้ามาของศูนย์กระจายสินค้าอัจฉริยะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของอาลีบาบา เพราะอนาคตสินค้าที่ส่งเข้ามาจากจีนจะถึงมือลูกค้าในเมืองไทยเร็วขึ้น จากการที่จุดพักสินค้ารองรับภายในประเทศแล้วและทำให้สินค้าไทยแข่งขันเรื่องราคายากขึ้น

“ผู้ขายที่เน้นรับพรีออเดอร์สินค้าจากจีนจะได้รับผลกระทบส่วนนี้เยอะมาก ดังนั้นควรวางเเผนรีบปรับตัว หรือเสนอขายสินค้าให้โดดเด่นมากขึ้น เจาะตลาด niche market มากขึ้น เเละใช้จุดเเข็งของ SMEs ไทยคือเเชทขายกับลูกค้าที่เเสดงถึงความเอาใจใส่ ความเข้าใจเเละใกล้ชิดลูกค้ามาสู้ รวมถึงเพิ่มบริการหลังการขาย เเละอาจมีการปรับราคาให้เหมาะสม”

ทั้งนี้ ในปี 2561 LnwShop มีการทำธุรกรรมเกิดขึ้นประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยบริษัทมีอัตราการเติบโตธุรกิจไม่ต่ำกว่า 10% ต่อเนื่องในรอบหลายปีที่ผ่านมา ขณะที่ภาพรวมตลาดอีคอมเมิร์ซ มีอัตราเติบโตเฉลี่ย 20-30%

ณัฐวิทย์ ผลวัฒนสุข ณัฐวิทย์ ผลวัฒนสุข กรรมการผู้จัดการบริษัท แอลเอ็นดับเบิ้ลยูช็อป จำกัด (ซ้าย) เเละ
ปฐมพล แสงอุไรพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท แอลเอ็นดับเบิ้ลยูช็อป จำกัด (ขวา) สองผู้ร่วมก่อตั้ง LnwShop

LnwShop กับ 1 ทศวรรษที่ผ่านมา

“สิ่งที่ทำให้ Lnw Shop สามารถดำเนินกิจการจนถึงในปัจจุบันได้ ท่ามกลางการเเข่งขันของธุรกิจออนไลน์ โดยเฉพาะการเข้ามาของแพลตฟอร์ม E-MarketPlace รายใหญ่ คือการปรับตัวเสมอ ไม่ว่าเทคโนโลยีจะก้าวไปเร็วเเค่ไหน ผู้ประกอบการรายย่อยก็ต้องปรับตัวเช่นกัน”

ซีอีโอ Lnw ทิ้งท้ายไว้ว่า ท่ามกลางการเเข่งขันที่สูงมากเเละกำลังมีบริษัทใหญ่ๆ เข้ามาทำธุรกิจเดียวกันกับเทพช็อป สิ่งที่เราจะทำต่อไปที่นอกเหนือจากการพัฒนาเเพลตฟอร์มเเละการเชื่อมต่อกับอีคอมเมิร์ซรายอื่นๆ เเล้วก็คือการชูการให้บริการความเอาใจใส่ ความไว้วางใจเเละการจับมือไปด้วยกันกับผู้ประกอบการรายย่อยของไทยให้มีการขยายธุรกิจต่อไปได้

 

]]>
1257766