อเล็กซานเดอร์ เดนีเซนโก พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินระดับอาวุโส ซึ่งมีประสบการณ์ทำงาน 7 ปี เผยว่าในบางครั้งเธอแทบไม่ได้นั่งพักแม้แต่นาทีเดียว และเคยฝันว่าสักวันเธอจะได้หยุดพักข้อเท้าอันปวมเป่ง จากการสวมรองเท้าส้นสูงทำงานต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง และท้ายที่สุดแล้วความฝันของเธอก็ได้กลายเป็นจริง

เครื่องแบบใหม่สำหรับแอร์โฮสเตสหญิงของสายการบินสกายอัพ ประกอบด้วยรองเท้าผ้าใบไนกี้ เสื้อยืดสีขาวทับด้วยเสื้อสูทกับกางเกงขายาวหลวมๆ สีส้ม และผ้าพันคอไหมพรม ซึ่งเกือบทั้งหมดใช้แบรนด์ของยูเครนเอง

เดนีเซนโก บอกว่าการใส่รองเท้าส้นสูง แม้จะทำให้ผู้สวมดูมีบุคลิกดีขึ้น แต่ก็สร้างความเหนื่อยล้า และเจ็บปวดมาก หากต้องใส่เป็นเวลานานหลายชั่วโมง และในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน ต้องมีการอพยพผู้โดยสารออกจากเครื่องบินอย่างเร่งด่วน การที่ใส่ส้นสูงก็จะทำให้ทำงานได้ลำบากขึ้น

“รองเท้ามีส้นดูสวยดี ฉันไม่เถียง แต่มันทำให้เท้าปวดและบวมในตอนท้ายๆ ของเที่ยวบิน รองเท้าผ้าใบเจ๋งดี ถ้าหากลูกเรือจำเป็นต้องลงจอดและมีการอพยพ รองเท้าส้นสูงอาจทำให้ทางลาดเสียหาย และการสวมกระโปร่งว่ายน้ำก็ยิ่งลำบากมาก”

ทางบริษัทเปิดเผยว่าได้ทำการวิจัยประวัติเครื่องบิน พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน และตัดสินใจละทิ้งในสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าองค์ประกอบอนุรักษ์นิยมของเครื่องแบบพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน

นอกจากกระโปรงและรองเท้าส้นสูงแล้ว แอร์โฮสเตสก็ไม่จำเป็นต้องเกล้าผมเหมือนเดิม และสามารถสวมเสื้อยืดข้างในเสื้อสูทได้ เพราะทางสายการบินมองว่า การทำงานของแอร์โฮสเตสต้องอาศัยความคล่องตัวในการทำงานมากกว่าภาพลักษณ์ จึงต้องใช้เครื่องแบบที่มีความทะมัดทะแมงมากที่สุด

“เราพบว่าแม้ในข้อเท็จจริงภาพลักษ์ของพนักงานต้อนรับหญิงบนเครื่องบินจะเย้ายวนใจมาก แต่งานของพวกเธอต้องมีการฝึกฝนทางร่างกายหนักหนาสาหัสไม่แพ้กัน” มาเรียนนา กีร์โอรัช หัวหน้าฝ่ายการตลาดของสกายอัพ แอร์ไลน์ระบุ พร้อมเผยว่าเครื่องแบบใหม่นี้จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 ตุลาคม

กีร์โอรัช เปิดเผยว่าทางบริษัทมีแผนเปิดตัวเครื่องแบบใหม่สำหรับผู้ชายเช่นกัน ซึ่งมันจะเป็นชุดสูทเบาแทนเสื้อกั๊ก และเป็นเสื้อยืดแทนเสื้อคอปก พร้อมกับรองเท้าผ้าใบไนกี้สีดำ “ถ้าทั้งโลกและผู้ที่หลงใหลในแฟชั่นทั้งหลายสวมรองเท้าผ้าใบ แล้วทำไมไม่นำมันเข้าสู่การบิน?” พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินรายหนึ่งกล่าว

Source

เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2021 ทั่วโลกตกอยู่ในอาการตื่นตะลึง เมื่อกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์หลายพันคนบุกอาคารรัฐสภาในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เป้าหมายเพื่อหยุดยั้งไม่ให้สภาคองเกรสให้การรับรอง “โจ ไบเดน” เป็นประธานาธิบดีแทน “โดนัลด์ ทรัมป์” ที่แพ้การเลือกตั้ง การบุกสภาคองเกรสในวันนั้นไม่สำเร็จ แต่มีรายงานข่าวต่อมาว่ากลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์จะไม่หยุดแค่นี้

อ้างอิงจากแถลงการณ์ของ Twitter ซึ่งในที่สุดตัดสินใจแบนทรัมป์ออกจากแพลตฟอร์มอย่าง “ถาวร” ระบุว่า กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ตั้งเป้าจะก่อความรุนแรงขึ้นอีก

“แผนการประท้วงแบบติดอาวุธมีปรากฏอย่างแพร่หลายบน Twitter รวมถึงแผนการโจมตีอาคารรัฐสภาอีกครั้งในวันที่ 17 ม.ค. 2021 รวมถึงมีรายงานจำนวนมากว่ากลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์กลุ่มใหญ่กำลังวางแผนก่อความรุนแรงในวอชิงตัน ดี.ซี. ในวันที่ 20 ม.ค. 2021 ซึ่งเป็นวันทำพิธีสาบานตนขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดี” เหล่านี้คือข้อมูลตามแถลงการณ์ของ Twitter เพื่อเตือนถึงความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น

จากแผนการโจมตีของกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ทำให้ “ซาร่า เนลสัน” ประธาน สมาคมพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน (AFA) ในสหรัฐอเมริกา และเป็นผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครต-ต่อต้านทรัมป์อย่างชัดเจน ออกโรงกระทุ้งให้หน่วยงานด้านความปลอดภัยในการเดินทาง (TSA) และบรรดาสายการบิน เร่งหามาตรการป้องกันไม่ให้กลุ่ม “ผู้ก่อการร้ายในประเทศ” กลับไปที่วอชิงตัน ดี.ซี. อีกครั้ง

• ผู้นำธุรกิจสหรัฐฯ พร้อมใจ “จวกยับ” ม็อบทรัมป์จลาจลยึดรัฐสภา “น่าอับอาย”

“เราสนับสนุนให้มีการปฏิบัติการโดยเร็วที่สุด เพื่อให้มีกฎที่ชัดเจนและลำดับการทำงานที่ชัดเจนในการป้องกันไม่ให้กลุ่มคนเหล่านี้ขึ้นเครื่อง” เนลสันกล่าว โดยสมาคม AFA นี้เป็นสหภาพแรงงานที่มีสมาชิกกว่า 5 หมื่นคนจาก 17 สายการบิน

ก่อนหน้านี้ “เบนนี ทอมป์สัน” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ดูแลงานในกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ออกมาเรียกร้องให้ใส่ชื่อกลุ่มคนที่ร่วมประท้วง ณ รัฐสภาสัปดาห์ก่อนเข้าไปใน ‘No-Fly List’ ของ TSA ซึ่งเป็นลิสต์บุคคลต้องห้ามขึ้นเครื่องเข้า ออก หรือภายในสหรัฐฯ เนื่องจากเป็นผู้ก่อการร้าย แต่คาดกันว่าจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ก่อนจะถึงพิธีสาบานตนรับรองให้ไบเดนเป็นประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ

ดังนั้น เนลสันจึงมองว่ากลุ่มสายการบินสามารถรวมตัวกันใช้วิธีการอื่นไปก่อน โดยแต่ละสายการบินควรทำบัญชีดำผู้โดยสารที่มีพฤติกรรมผิดกฎหมาย จากนั้นสายการบินสามารถระบุว่า “เราแบนผู้โดยสารดังต่อไปนี้ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย”

เธอยังขอให้แต่ละสายการบินนำบัญชีมาใช้ร่วมกันด้วย เพราะแม้ว่าปกติสายการบินจะประสานงานกันไม่ได้เนื่องจากเป็นการแข่งขันทางธุรกิจ แต่เหตุผลครั้งนี้คือการประสานงานด้านความปลอดภัย สำหรับการแบนไม่จำเป็นต้องทำตลอดไป แต่สามารถแจ้งแบนผู้โดยสารเฉพาะบางสนามบินหรือบางช่วงเวลาก็ได้

• “ทรัมป์” ประกาศจะสร้างแพลตฟอร์มโซเชียลของตัวเอง หลังบัญชีทวิตเตอร์ถูกปิด

“ปกติแล้วนี่ไม่ใช่สิ่งที่สายการบินจะลุกขึ้นมาทำเอง แต่ขณะนี้ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ” เนลสันกล่าว “อย่างน้อยรายชื่อบุคคลเหล่านี้ควรจะต้องถูกแยกมาประเมินความเสี่ยงเชิงพฤติกรรมในสนามบิน ตามหลักเกณฑ์ที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติปกติ เพื่อประเมินว่าคนเหล่านี้จะเป็นความเสี่ยงบนไฟลต์บินหรือไม่”

ความรุนแรงจากกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ ที่จริงแล้วไม่ใช่เรื่องที่คาดไม่ถึง เพราะรอบหลายปีที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่า “ผู้ก่อการร้ายในประเทศ” คือภัยคุกคามที่สำคัญต่อประเทศชาติ และเมื่อ 3 เดือนก่อน กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิเพิ่งจะออกรายงานประจำปีรายงานว่าความรุนแรงจากกลุ่ม “ลัทธิความเหนือกว่าของคนผิวขาว” (White Supremacy) จะเป็น “ภัยที่ถึงแก่ชีวิตและต่อเนื่องยาวนานมากที่สุดภายในประเทศ”

อย่างไรก็ตาม ปกติแล้ว No-Fly List มักจะเกี่ยวข้องกับผู้ก่อการร้ายต่างประเทศ จากรายงานเมื่อปี 2016 พบว่ามีบุคคลห้ามขึ้นเครื่องในสหรัฐฯ 8.1 หมื่นรายชื่อ โดยมีคนอเมริกันอยู่ในรายชื่อนั้นแค่ 1 พันคน หรือราว 1% กว่าเท่านั้น และยิ่งกลุ่มผู้ประท้วงเมื่อสัปดาห์ก่อนไม่ได้ถูกจับในข้อหาก่อการร้าย แต่เป็นข้อหาประเภทครอบครองอาวุธปืนผิดกฎหมายหรือบุกรุกสถานที่ ทำให้การใส่ชื่อไปในลิสต์ที่เกี่ยวกับผู้ก่อการร้ายเป็นเรื่องยาก

“เราในฐานะผู้อยู่ในอุตสาหกรรมการบิน มีบทบาทที่สำคัญยิ่งในการรักษาความปลอดภัยให้ประเทศชาติ สายการบินร่วมกับหน่วยงานรัฐและผู้บังคับใช้กฎหมายต้องใช้ทุกขั้นตอนให้มั่นใจว่า ความปลอดภัยของผู้โดยสารและลูกเรือต้องมาก่อน โดยปัญหาทั้งหมดจะต้องถูกทิ้งไว้บนพื้นดิน” เป็นเนื้อความในแถลงการณ์ของ AFA “การกระทำที่ต่อต้านประชาธิปไตยของเรา รัฐบาลของเรา และเสรีภาพที่เรามีในฐานะอเมริกันชน ต้องถูกนำมาเป็นข้อกำหนดมิให้บุคคลเหล่านี้มีอิสระในการโดยสารไฟลต์บิน”

Source

ในคำแนะนำของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน ระบุว่า “ทางสำนักงานแนะนำให้ลูกเรือสวมผ้าอ้อม และหลีกเลี่ยงการใช้ห้องน้ำ ยกเว้นแต่กรณีพิเศษจริงๆ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงติดเชื้อ”

คำแนะนำที่แปลกประหลาดนี้ มาพร้อมกับคำแนะนำธรรมดาทั่วไปอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาดใหญ่ อาทิ บังคับให้จัดหาหน้ากากอนามัยเกรดที่ใช้ในทางการแพทย์แก่ลูกเรือ เช่นเดียวกับถุงมือยางแบบใช้แล้วทิ้งและชุดป้องกัน ในนั้นรวมถึงถุงคลุมรองเท้า

เอกสารคำแนะนำที่มีชื่อว่า คำแนะนำทางเทคนิคในการป้องกันและควบคุมโรคระบาดใหญ่สำหรับสายการบินต่างๆ ฉบับที่ 6 ถูกเผยแพร่ออกมาตั้งแต่ช่วงปลายเดือนที่แล้วในจีน แต่เพิ่งได้รับความสนใจจากบรรดาสื่อมวลชนภาคภาษาอังกฤษเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมา

นอกจากนี้แล้ว พนักงานต้อนรับบนเครื่องยังได้รับคำแนะนำให้บริหารจัดการบรรดาผู้โดยสารที่ประสงค์ใช้ห้องน้ำ ในแนวทางที่เป็นระเบียบเรียบร้อย ภายใต้คำสั่งห้ามพวกผู้โดยสารรวมตัวกันรอต่อคิวบริเวณด้านหน้าห้องน้ำ ขณะเดียวกัน ก็ต้องกันห้องน้ำหนึ่งห้องไว้สำหรับบุคคลที่ถูกกักโรค เช่นเดียวกับมีห้องน้ำแยกสำหรับลูกเรือโดยเฉพาะในชั้นเฟิร์สคลาส

เอกสารยังแนะนำให้บุคลากรของสายการบินต่างๆ คอยสังเกตอาการทางสุขภาพจิตของบรรดาลูกเรือ โดยให้พิจารณาอย่างครบถ้วนทั้ง “สภาวะทางจิต บุคลิกส่วนตัว แรงกดดันด้านชีวิตครอบครัวในปัจจุบัน”

ในขณะที่ห้องน้ำบนเครื่องบินขึ้นชื่อลือชาด้านความสกปรก บรรดานักวิทยาศาสต์จึงกำลังหาทางจัดการกับปัญหาดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้ สายการบิน ANA ของญี่ปุ่น ออกคำแนะนำห้ามสัมผัสประตูห้องน้ำบนเที่ยวบิน ส่วน โบอิ้ง ได้ยื่นขอจดสิทธิบัตรสำหรับห้องน้ำทำความสะอาดตัวเองได้ โดยใช้แสงอัลตราไวโอเลตฆ่าเชื้อโรคระหว่างการใช้

Source