4NOLOGUE – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Fri, 03 Jan 2020 02:40:07 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 กรณีศึกษา: Countdown เดือดรับปีใหม่! เปิดไทม์ไลน์ “นุช” ดราม่า “เซ็นทรัลเวิลด์” https://positioningmag.com/1259211 Thu, 02 Jan 2020 10:07:03 +0000 https://positioningmag.com/?p=1259211 กรณีศึกษาร้อนฉ่ารับปีใหม่ จากแคมเปญ AIS Bangkok Countdown 2020 ซึ่งจัดขึ้นที่ลานด้านหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ สร้างความไม่พอใจให้แฟนคลับของศิลปินดัง “เป๊ก-ผลิตโชค” เนื่องจากระยะเวลาการแสดงของเป๊กบนเวทีไม่เป็นไปตามตาราง และการจัดโซนพิเศษเฉพาะลูกค้าห้างไม่เป็นไปตามข้อตกลง ทำให้แคมเปญที่ควรใช้สร้างแบรนด์กลายเป็นดาบสองคมจากการบริหารจัดการผิดพลาด

แฮชแท็ก #เคาท์ดาวน์มหาสนุก_day2 ขึ้นเทรนด์บนทวิตเตอร์เป็นวันที่สองโดยมีผู้ใช้ทวีตเรื่องราวประเด็นนี้ไปมากกว่า 5 แสนครั้ง Positioning ขอหยิบไทม์ไลน์มาฝากเป็นกรณีศึกษา

1.เซ็นทรัลเวิลด์ ประกาศการจัดงาน Countdown ปีใหม่พร้อมเปิดแฟนโซนพิเศษ

ในวันที่ 13 ธันวาคม 2019 ศูนย์การค้า เซ็นทรัลเวิลด์ ประกาศจัดงาน Countdown ปีใหม่พร้อมแจ้งไลน์อัพศิลปินมากมาย หนึ่งในนั้นคือ เป๊ก-ผลิตโชค อายนบุตร ศิลปินดังที่มีแฟนคลับ “นุช” ติดตามทั่วฟ้าเมืองไทย

(photo: Facebook@CentralwOrld)

นอกจากจะแจ้งไลน์อัพแล้วยังแจ้งเงื่อนไข “แฟนโซน” ด้านหน้าเวทีที่จะได้ใกล้ชิดศิลปินจำนวน 150 สิทธิ ผู้มีสิทธิจะต้องใช้จ่ายในเซ็นทรัลเวิลด์ให้ครบ 3,000 บาท และมาแลกรับสิทธิเข้าแฟนโซน 2 ใบ โดยใช้ระบบแลกก่อนได้ก่อน

2.แฟนโซนหมดเกลี้ยงใน 20 นาที

(photo: Facebook@CentralwOrld)

วันที่ 18 ธันวาคม 2019 วันแลกรับสิทธิแฟนโซน เซ็นทรัลเวิลด์ประกาศชื่อเต็มงาน AIS Bangkok Countdown 2020 พร้อมไลน์อัพศิลปินและกิจกรรมแบบระบุเวลา โดยเป๊ก-ผลิตโชคมีคิวขึ้นร้องเพลงบนเวทีเวลา 19.00-20.00 น. (1 ชั่วโมง) และมีกิจกรรมพิเศษเวลา 23.40-23.50 น. (10 นาที) ร่วมกับเจมส์-จิรายุ ในฐานะพรีเซ็นเตอร์แบรนด์ AIS

(photo: Facebook@CentralwOrld)

หลังจากประกาศไลน์อัพเพียง 20 นาที เซ็นทรัลเวิลด์ก็ประกาศปิดแลกรับสิทธิแฟนโซน 150 สิทธิ เนื่องจากเต็มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในจำนวนนี้ มีแฟนคลับเป๊ก-ผลิตโชคที่ตัดสินใจช้อปตามเงื่อนไขห้างเพื่อใกล้ชิดศิลปินทั้งสองช่วงเวลา

3.เป๊ก-ผลิตโชคถูกตัดเวลาช่วงแรก และงดการแสดงช่วงหลัง

เป๊ก-ผลิตโชค ขึ้นแสดงในช่วงหัวค่ำ (photo: Facebook@CentralwOrld)

ในงาน AIS Bangkok Countdown 2020 เป๊ก-ผลิตโชคขึ้นโชว์ช่วงแรก แต่แฟนคลับบางรายกล่าวถึงงานในค่ำคืนนั้นว่า การแสดงใช้เวลาเพียง 40 นาทีเป๊กก็ลงจากเวที

หลังจากนั้นในคิวโชว์ช่วงหลังเป็นเจมส์-จิรายุที่ขึ้นร้องเพลงกับน้องอุ่นใจ AIS อย่างไรก็ตาม เป๊ก-ผลิตโชคไม่ได้ออกโชว์ด้วย เพียงแต่สแตนด์บายข้างเวที ณ เวลา 23.47 น. จากนั้นเวทีได้ตัดเข้าสู่ช่วงพิธีการเชิญผู้บริหารและศิลปินต่างๆ เตรียมตัวสำหรับการนับถอยหลังขึ้นปีใหม่ โดยยังเหลือเวลาถึง 12 นาทีก่อนจะเที่ยงคืน

เจมส์-จิรายุ กับน้องอุ่นใจ โชว์พิเศษสุดท้ายก่อนนับถอยหลังขึ้นปีใหม่ (photo: Facebook@CentralwOrld)

เหล่านุชสับสนถึงการบริหารจัดการเวลาที่ไม่เป็นไปตามตารางตั้งแต่ช่วงแรกที่เวลาแสดงสั้นกว่าที่แจ้ง และช่วงหลังซึ่งตัดโชว์ของเป๊ก-ผลิตโชคออกทั้งหมด สร้างความผิดหวังให้แฟนคลับที่ยืนคอยมาร่วม 4 ชั่วโมง เพื่อชมโชว์รอบที่สอง รวมถึงกลุ่มที่ใช้จ่ายเพื่อเข้าแฟนโซนแต่ได้ชมการแสดงน้อยกว่าเวลาที่แจ้งไว้

4.เซ็นทรัลเวิลด์-โฟโนล็อคออกแถลงขอโทษ เอไอเอสแจงไม่ได้เป็นผู้ตัดสินใจ

เซ็นทรัลเวิลด์ ออกแถลงการณ์ผ่านทาง Facebook ในวันที่ 1 มกราคม 2020 เวลา 22.05 น. ว่ามีเหตุเรื่องข้อจำกัดด้านเวลา เกรงว่าจะไม่สามารถร่วมนับถอยหลังได้ทัน ทำให้ตัดสินใจตัดโชว์ชุดสุดท้ายคือเป๊ก-ผลิตโชคออกจริง โดยยอมรับถึงความผิดพลาดและขออภัยต่อแฟนคลับ

ด้าน AIS แถลงทาง Twitter ในวันที่ 2 มกราคม 2020 เวลา 12.47 น. กล่าวตรงกันว่าเหตุเกิดจากเซ็นทรัลเวิลด์กังวลเรื่องเวลาจึงขอตัดการแสดงออก แม้ว่า AIS จะต้องการให้เป๊ก-ผลิตโชค พรีเซ็นเตอร์แบรนด์ได้ขึ้นโชว์ก็ตาม แต่การตัดสินใจของห้างถือเป็นสิ้นสุด

ส่วน โฟโนล็อค ออร์กาไนเซอร์ผู้จัดงาน AIS Bangkok Countdown 2020 กลายเป็นบริษัทสุดท้ายที่ออกแถลงการณ์ผ่านทาง Facebook และ Twitter ในวันที่ 2 มกราคม 2020 เวลา 15.30 น. โดยกล่าวสั้นๆ ว่าขออภัยและเสียใจต่อเหตุการณ์ และจะแก้ไขปรับปรุงในอนาคต

5.เรื่องราวยังคงบานปลาย

แม้จะมีการออกแถลงการณ์ขออภัย แต่แฟนคลับบางส่วนยังคงไม่พอใจและต้องการความรับผิดชอบเพิ่มเติม เช่น คำอธิบายถึงเหตุการณ์เชิงลึกว่าเกิดขึ้นจากเหตุสุดวิสัยหรือจงใจ, การบริหารแฟนโซนซึ่งเปิดให้ผู้ที่ไม่ได้รับสิทธิเข้าฟรี ขณะที่ผู้มีบัตรบางส่วนไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้โดยรับแจ้งว่าพื้นที่เต็ม, ความรับผิดชอบต่อสิทธิแฟนโซนที่ต้องใช้จ่าย 3,000 บาทเพื่อแลกบัตรเข้างาน แต่ไม่ได้ชมการแสดงตามตกลง เป็นต้น

โดยขณะนี้กลุ่มแฟนคลับเป๊ก-ผลิตโชคบางส่วนที่ช้อปแลกสิทธิแฟนโซนอยู่ระหว่างเข้าชื่อเพื่อพิจารณายื่นเรื่องฟ้องร้องต่อสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) แล้ว

กลายเป็นกรณีศึกษาถึงการบริหารความคาดหวังแฟนคลับ หากทำได้ดีพลังของแฟนๆ ก็พร้อมดันแบรนด์นั้นๆ อย่างเต็มที่ แต่ถ้ามีข้อผิดพลาดก็พร้อมจะพังทุกอย่างเช่นกัน ยิ่งในห้วงเวลาที่ “เซ็นทรัลเวิลด์” ไม่ใช่ทำเล Countdown ปีใหม่แห่งเดียวของกรุงเทพฯ แล้วในพ.ศ.นี้ การตัดสินใจทุกก้าวยิ่งต้องระวังมากขึ้นไปอีกขั้น

 

อ่านเรื่องเพิ่มเติม

]]>
1259211
“โฟร์โนล็อค” เปิดตัวศิลปินเบอร์แรก TRINITY จุดพลุปั้น T-POP ส่งออกบันเทิงไทยเจาะตลาดโลก https://positioningmag.com/1246746 Wed, 18 Sep 2019 01:00:12 +0000 https://positioningmag.com/?p=1246746 หลังจากปีก่อนแจ้งเกิดโปรเจกต์ 9×9 (ไนน์บายไนน์) การรวมตัวของ 9 ไอดอล ผลิตคอนเทนต์ป้อนทุกแพลตฟอร์มทั้ง ละคร เพลง คอนเสิร์ต 4NOLOGUE เดินหน้าปั้นศิลปินไทย (T-POP) ใช้โมเดลเดียวกับเกาหลี เป้าหมายใหญ่จัดเวิลด์ทัวร์หวังจุดพลุส่งออกอุตสาหกรรมบันเทิงไทย

4NOLOGUE (โฟร์โนล็อค) เริ่มธุรกิจในปี 2550 ด้วยการจัดอีเวนต์และคอนเสิร์ตต่างประเทศ ผลงานที่สร้างชื่อ คือนำศิลปินดังจากเกาหลี TVXQ (ดงบังชินกิ) เข้ามาเป็นพรีเซ็นเตอร์ในสินค้าในประเทศไทยและเปิดคอนเสิร์ตในไทยครั้งแรก และเป็นผู้จัดคอนเสิร์ตศิลปินดังอีกหลายวง ไม่ว่าจะเป็น BIGBANG GOT7

อนุวัติ วิเชียรณรัตน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โฟร์โนล็อค จำกัด กล่าวว่า ปีที่ผ่านมาได้เริ่มเข้าสู่ธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ด้วยการเป็นคอนเทนต์ โปรวายเดอร์ เปิดตัวโปรเจกต์ 9×9 (ไนน์บายไนน์) ซึ่งเป็นการรวมตัวของ 9 ไอดอล ผลิตคอนเทนต์ ละคร เพลง และคอนเสิร์ต โดยคอนเสิร์ตปิดโปรเจกต์ ที่อิมแพ็ค ขายบัตร sold out ทั้ง 2 รอบ

ไนน์บายไนน์ ถือเป็นไพรอต โปรเจกต์ ที่ใช้งบลงทุนสูง 150 ล้านบาท เพื่อสร้างชื่อให้ โฟร์โนล็อค ก้าวสู่ธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ปีนี้ได้ขยายสู่ธุรกิจเพลงเต็มตัว โดยเปิดตัวศิลปินกลุ่มแรก TRINITY 4 หนุ่ม จากโปรเจกต์ ไนน์บายไนน์ คือ เจมส์ ธีรดนย์, เติร์ด ลภัส, ปอร์เช่ ศิวกร และแจ็กกี้ จักริน

ปั้นศิลปินต้องทุ่มทุน

หลักคิดการทำธุรกิจเพลงของโฟร์โนล็อค คือ ต้องลงทุน พัฒนาศิลปินทุกด้านเพื่อให้มีความสามารถเทียบเท่ากับศิลปินต่างประเทศ โปรเจกต์ TRINITY จึงใช้เงินลงทุนกว่า 100 ล้านบาท

เฉพาะการทำอัลบั้มและเพลงกว่า 40 ล้านบาท เริ่มต้นด้วย 4 เพลง ต้นทุนทำเพลงละ 1 ล้านบาทสูงกว่า อุตสาหกรรมที่อยู่หลักหมื่นถึงแสนบาท เพราะให้ทีมไทยและทีมโปรดิวเซอร์อินเตอร์ อย่าง Jam Factory ที่อยู่เบื้องหลังศิลปินมากมาย อาทิ Chris Brown, Travis Scott, Jennifer Lopez, Will Smith, Pitbull ถือเป็นครั้งแรกที่ Jam Factory มาทำงานให้ศิลปินไทย ส่วนมิวสิกวิดีโอต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 7 – 8 ล้านบาท

สิ่งที่สำคัญคือ การเทรนนิ่งศิลปิน ที่ต้องฝึกร้อง เต้น และความสามารถอื่นๆ ทุกด้าน เฉลี่ยปีละ 8 – 10 ล้านบาท แต่ ละคนต้องฝึกอย่างน้อย 3 ปี เป็นการเทรนนิ่งรูปแบบเดียวกับศิลปินเกาหลี เพื่อให้น้องๆ มีความพร้อมในการแสดงคอนเสิร์ตทั้งในประเทศและต่างประเทศ

 “โปรเจกต์ ไนน์บายไนน์ เริ่มจากการปั้นอินฟลูเอนเซอร์ แต่ TRINITY จะเป็น เรียล อาร์ติส ที่ขยายฐานแฟนคลับสู่คนฟังเพลง”

อนุวัติ วิเชียรณรัตน์

จุดพลุส่งออกบันเทิงไทย

การทำงานเฟสแรกของ TRINITY คือ ตลาดในประเทศ ซึ่งจะมีทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศ และเฟสต่อไป คือ เอเชีย ทัวร์ ในกลุ่มประเทศอาเซียนทุกประเทศ (ยกเว้น บรูไน) และจีน ซึ่งมีฐานแฟนคลับที่รู้จักน้องๆ ตั้งแต่โปรเจกต์ ไนน์บายไนน์

“เชื่อว่าความสามารถของคนไทยไม่แพ้ใคร แต่ที่ผ่านมาในอุตสาหกรรมเพลงอาจยังขาดการฝึกฝนอย่างจริงจัง เพื่อให้ศิลปินมีความพร้อมในเวทีระดับภูมิภาคและก้าวต่อสู่ระดับโลก”

ตัวอย่างความสามารถของคนไทยที่เห็นได้ชัดเจน คือ ลิซ่า Blackpink และ แบมแบม GOT7 ที่ก้าวไปเป็นศิลปินระดับโลกได้

เป้าหมายของโฟร์โนล็อค ต้องการผลักดันให้ธุรกิจเพลงในประเทศไทย เป็นอุตสาหกรรมบันเทิงที่สามารถส่งออกไปทำตลาดต่างประเทศและสร้างรายได้เหมือนอุตสาหกรรมอื่นๆของประเทศ เช่นเดียวกับประเทศเกาหลีที่ประสบความสำเร็จในการส่งออกวัฒนธรรมบันเทิงในตลาดโลก ดังนั้นเป้าหมายของ TRINITY และศิลปินของโฟร์โนล็อคต้องก้าวไปให้ถึง “เวิลด์ทัวร์” ให้ได้

]]>
1246746