Gap – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 26 Oct 2020 10:00:18 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 Gap ปรับกลยุทธ์ค้าปลีกแฟชั่น หลัง COVID-19 ปิดสาขาในยุโรปเเละ UK ลุยทำตลาด “แฟรนไชส์” https://positioningmag.com/1303005 Mon, 26 Oct 2020 07:55:23 +0000 https://positioningmag.com/?p=1303005 หลังวิกฤต COVID-19 วงการค้าปลีกเเฟชั่นต้องปรับตัวขนานใหญ่ ล่าสุดเเบรนด์ดังจากอเมริกาอย่าง “Gap” ตัดสินใจปิดสาขาที่บริหารเองทั้งหมดในสหราชอาณาจักรเเละบางส่วนในยุโรป ทำให้พนักงานหลายพันตำเเหน่งเสี่ยงตกงาน พร้อมปรับทิศทางหันไปมุ่งทำตลาดเเบบ “แฟรนไชส์” แทน

โดยคาดว่าสาขาของ Gap ในสหราชอาณาจักร ไอร์เเลนด์เเละอิตาลี จะปิดตัวลงในช่วงฤดูร้อนปี 2021 พร้อมกับการปิดศูนย์กระจายสินค้าในอังกฤษด้วย

ต่อไปบริษัทจะเปลี่ยนไปเน้นทำตลาดในยุโรปให้เป็นลักษณะ “พาร์ตเนอร์ชิป” ในรูปแบบแฟรนไชส์ทั้งสาขาหน้าร้านเเละอีคอมเมิร์ซ ซึ่งปัจจุบัน Gap มีสาขาที่บริหารเองกลุ่มยุโรปทั้งหมด 129 สาขา และมีหน้าร้านที่อยู่ในรูปแบบแฟรนไชส์ราว 400 สาขา

ธุรกิจค้าปลีกเสื้อผ้าเเฟชั่น ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤต COVID-19 หลังต้องปิดสาขาชั่วคราวในช่วงมาตรการล็อกดาวน์ ขณะเดียวกัน พฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยนไปทั้งการเดินทางมาช้อปปิ้งน้อยลงเเละหันไปช้อปปิ้งออนไลน์อย่างรวดเร็ว ซึ่งคู่เเข่งรายสำคัญของ Gap อย่าง Asos และ Boohoo ก็เข้ามาเเย่งฐานลูกค้าเเละรุกทำตลาดออนไลน์ได้ประสบความสำเร็จมากกว่า

โดยก่อนที่จะเกิดโรคระบาด สถานการณ์ของ Gap ก็อยู่ในช่วงที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคหลายอย่าง หลังต้องเสียฐานลูกค้าคนรุ่นใหม่ ให้กับเเบรนด์ฟาสต์เเฟชั่นที่ราคาถูกกว่าอย่าง Zara, H&M และ Forever 21 ซึ่งเเบรนด์เหล่านี้ก็กำลังปรับทิศทางการขายมาเน้นออนไลน์ เเละปิดสาขาเพื่อลดต้นทุนมากขึ้นเช่นกัน

เมื่อต้นปีนี้ Gap เปิดเผยว่า มีแผนที่จะปิดสาขาที่ไม่ทำกำไรกว่า 225 แห่งทั่วโลก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้างบริษัท โดยวิกฤต COVID-19 ทำให้ Gap ต้องขาดทุนกว่า 740 ล้านปอนด์ในช่วง 3 ไตรมาสที่สิ้นสุดเดือนพ.ค. จึงเป็นปัจจัยที่เร่งให้เเผนการปรับลดต้นทุนเเละปรับมาทำธุรกิจแบบแฟรนไชส์เร็วขึ้นกว่าเดิม

เหล่านักช้อปเริ่มกลับมาซื้อสินค้าแฟชั่นอีกครั้งหลังร้านต่างๆ กลับมาเปิดอีกครั้ง โดย JP Morgan ระบุว่ายอดขายเสื้อผ้าแฟชั่นในยุโรปลดลงราว 15% ในเดือนก.ค. ฟื้นตัวขึ้นจากเดือนพ.ค. ที่ลดลงถึง 42% ขณะเดียวกัน ผู้บริโภคก็มีการเลือกซื้อเสื้อผ้าที่เปลี่ยนไปเช่นกัน เช่นมีการสั่งซื้อเสื้อผ้าที่สวมใส่สบายและไม่เป็นทางการมากขึ้น เมื่อต้องทำงาน Work from Home เเละงานสังสรรค์ปาร์ตี้ต่างๆ ถูกยกเลิกไปในช่วงที่ผ่านมา

 

 

ที่มา : BBC , The Guardian

]]> 1303005 นัดกันเหรอ?! Gap, Nike และ Under Armour กอดคอเปลี่ยนตัวซีอีโอกู้วิกฤติค้าปลีกยุคหน้า https://positioningmag.com/1253818 Fri, 15 Nov 2019 04:59:27 +0000 https://positioningmag.com/?p=1253818 ต้องบันทึกว่าตุลาคม–พฤศจิกายน 2019 เป็น 2 เดือนที่วงการค้าปลีกอเมริกันมีการเคลื่อนไหวมากมาย โดยในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา Gap, Nike และ Under Armour ต่างก็ประกาศแผนการลาตำแหน่งของซีอีโอในเวลาใกล้เคียงกัน ทำให้เกิดมุมมองว่าซีอีโอเลือดใหม่กำลังถูกส่งมากู้วิกฤติค้าปลีกในเจเนอเรชั่นถัดไปด้วยภารกิจอะไร?

หลังจากที่ McDonald’s ประกาศเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนว่าซีอีโอ Steve Easterbrook ถูกปลดฟ้าผ่าหลังจากมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพนักงาน ในวันที่ 7 พฤศจิกายน บริษัทใหญ่อย่าง Gap Inc. ก็ประกาศว่าซีอีโอ Art Peck จะโบกมือลาตำแหน่ง หลังจากประกาศยอดขายที่ทรุดลงอีกไตรมาส

ก่อนหน้า Gap บริษัทอย่าง Under Armour ก็ออกประกาศเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ว่าผู้ก่อตั้งบริษัทอย่าง Kevin Plank จะลาตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เพื่อขึ้นหิ้งเป็นประธานกรรมการบริหารและหัวหน้าแบรนด์ ซึ่งไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ก็มีการประกาศการตัดสินใจคล้ายกันสำหรับ Mark Parker เจ้าพ่อซีอีโอของ Nike

ส่วนใหญ่ลาตำแหน่งไม่เผยเหตุผล

การลาตำแหน่งของซีอีโอ Gap, Nike และ Under Armour ได้รับความสนใจมากเพราะทั้งหมดเป็นแบรนด์ค้าปลีกรายใหญ่ในสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม การออกจากตำแหน่งของหลายซีอีโอไม่มีการเปิดเผยเหตุผลที่แน่ชัด  ท่ามกลางการจับตาว่าซีอีโอเลือดใหม่จะมีพันธกิจอะไรรออยู่

กรณีของ Gap อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารที่ร่วมงานกับ Gap นานกว่า 15 ปีอย่าง Art Peck ได้ก้าวลงจากเก้าอี้โดยไม่มีการเปิดเผยเหตุผลในการลาตำแหน่ง จุดนี้มี Robert Fisher ประธานและสมาชิกคณะกรรมการบริหาร Gap ตั้งแต่ปี 1990 รับหน้าที่เป็นซีอีโอชั่วคราว

ประเด็นนี้รายงานระบุว่าพ่อแม่ของ Fisher เคยเปิดร้าน Gap แห่งแรกในปี 1969 และเคยทำหน้าที่เป็นซีอีโอชั่วคราวในปี 2007 จากแถลงการณ์ Fisher ย้ำว่า Art ในฐานะ CEO ได้ดำเนินการลงทุนที่ส่งผลกับ Gap ในเชิงบวกสำหรับอนาคต ทั้งด้านการขยายประสบการณ์ของลูกค้าในหลายช่องทางหรือ omnichannel ซึ่งส่งให้ Gap ต่อยอดด้วยการสร้างความสามารถดิจิทัลให้กับแบรนด์ได้อีกในอนาคต

สำหรับ Under Armour นั้นประกาศเมื่อวันที่ 22 ตุลาคมว่าผู้ก่อตั้ง Kevin Plank จะลาออกจากตำแหน่งซีอีโอ การประกาศนี้เกิดขึ้นหลังจาก Under Armour ทำยอดขายชะลอตัวในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยอดีตซีอีโอ Under Armour นั้นตกเป็นข่าวแง่ลบเพราะมีรายงานเกี่ยวกับการจ่ายเงินในสโมสรผู้บริหารช่วงก่อนหน้านี้

Patrik Frisk ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ก็ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นตัวแทนอดีตซีอีโอ Under Armour ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมนี้

ในวันเดียวกัน Nike ก็ประกาศว่าซีอีโอ Mark Parker จะก้าวลงจากตำแหน่งและเป็นประธานกรรมการบริหารซึ่งจะมีผลในเดือนมกราคม ที่สุดแล้ว Nike ก็ประกาศว่าอดีตซีอีโอ eBay อย่าง John Donahoe ที่เคยเป็นสมาชิกของคณะกรรมการของ Nike ตั้งแต่ปี 2014 จะย้ายเข้ามาแทน Parker

ซีอีโอรีเทลต้องลุยดิจิทัล

มุมของ John Donahoe ที่จะมากุมบังเหียน Nike นั้นน่าสนใจ เพราะ Donahoe มีดีกรีเป็นประธานและซีอีโอของ ServiceNow บริษัทคลาวด์คอมพิวติ้งในซานตาคลาร่า แคลิฟอร์เนีย ขณะเดียวกันก็เป็นประธาน PayPal Holdings นอกจากนี้ Donahoe ยังเป็นประธานและซีอีโอของ eBay ตั้งแต่ปี 2008 ถึงปี 2015 แถมยังมีประสบการณ์ค้าปลีกในฐานะกรรมการผู้จัดการทั่วโลกของ Bain & Co. ตั้งแต่ปี 1999 ถึงปี 2005

ต้องยอมรับว่าประสบการณ์โชกโชนในวงการดิจิทัลทำให้ Donahoe ถูกผลักดันให้เข้ามาดูแลธุรกิจค้าปลีกในสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าแนวโน้มการแต่งตั้งซีอีโอที่คลุกคลีในวงการดิจิทัล จะเป็นเทรนด์ในวงการรีเทลโลกช่วง 2-3 ปีนับจากนี้แน่นอน.

]]> 1253818 Gap พลิกเกม ปิดร้าน flagship ในนิวยอร์ก https://positioningmag.com/1205666 Fri, 28 Dec 2018 06:57:49 +0000 https://positioningmag.com/?p=1205666 แบรนด์ดังแฟชั่น Gap ประกาศปิดตัวร้านหลัก flagship ขนาดยักษ์บนถนน Fifth Avenue ที่นิวยอร์ก สวนทางผู้ค้าปลีกรายอื่นที่เฉลิมฉลองเทศกาลวันหยุดด้วยยอดขายแข็งแกร่ง คาดการประกาศนี้อาจนำไปสู่พาเหรดการปิดร้านอีกหลายแห่ง ทั้งหมดนี้ Gap Inc. ยังปิดปากเงียบไม่เปิดเผยเหตุผลของการตัดสินใจครั้งนี้

Gap ระบุว่าในวันที่ 20 มกราคม 2562 บริษัทจะปิดทำการร้านค้าขนาด 3 ชั้นเลขที่ 680 ถนน Fifth Avenue ในนิวยอร์ก โดยร้านดังกล่าวเปิดให้บริการเป็นเวลากว่า 20 ปี ถือเป็นอดีตร้าน flagship ของ Gap ในนิวยอร์ก (ร้าน flagship ปัจจุบันเปิดในไทม์สแควร์ในปี 2560) แม้ว่า Gap จะยังไม่เปิดเผยเหตุผลของการตัดสินใจปิดร้านที่ Fifth Avenue แต่มีการตั้งข้อสังเกตว่าร้านแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่อสังหาริมทรัพย์ที่มีราคาแพง ทำให้เป็นไปได้ว่าร้านของ Gap ไม่ทำยอดขายได้คุ้มค่าตามที่บริษัทต้องการ

ร้าน Gap ทำเงินน้อยลง

หากพิจารณาจากที่ Gap Inc. รายงานผลประกอบการรายไตรมาสล่าสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา พบว่ายอดขายทั่วโลกที่ร้านค้าปลีกของ Gap ที่เปิดมาแล้วอย่างน้อย 1 ปีได้ลดลง 7% ทำให้ไตรมาสที่ผ่านมาถือเป็นไตรมาสยอดแย่สำหรับบริษัท

ตัวเลขนี้คำนวณรวมทั้งแบรนด์อื่นในเครือ Gap ทั้ง Old Navy ซึ่งเป็นดาวเด่นในพอร์ตโฟลิโอและ Banana Republic ซึ่งพยายามตีตื้นความนิยมต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทุกแบรนด์สามารถดันตัวเองจนมียอดขายเติบโตขึ้นเล็กน้อยในช่วงเวลาดังกล่าว

ทั้งหมดนี้ Art Peck ซีอีโอของ Gap Inc. ยอมรับว่าร้านค้าใหม่ครึ่งหลังของร้านค้า Gap ทั่วโลกที่มีกว่า 775 สาขาเท่านั้นที่สามารถส่งแรงผลักดันให้แบรนด์ แต่ร้านค้า Gap อีกหลายร้อยแห่งกลับไม่เหมาะหรือไม่สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของบริษัท จุดนี้ทำให้ซีอีโอ Gap บอกใบ้ว่าในอนาคต Gap ได้วางแผนปิดร้านที่ “ไม่เหมาะสมกับวิสัยทัศน์” ซึ่งแปลอีกนัยคือบริษัทกำลังเตรียมปิดร้านที่ไม่ทำเงินออกไปโดยเร็ว

ค่าเช่าหฤโหด

หากมองในมุมค่าเช่าร้านบนถนน Fifth Avenue ของนิวยอร์ก ข้อมูลจากบริษัทผู้ให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์ Cushman & Wakefield พบว่าร้านค้าของ Gap ที่ตั้งอยู่ที่มุมถนน 54th St. นั้นเป็นถนนค้าปลีกที่มีค่าเช่าแพงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้ว ค่าเช่าบนถนนนี้ถูกแซงหน้าโดยถนน Causeway Bay ในฮ่องกง ซึ่งขึ้นเป็นแชมป์อันดับ 1 อย่างเป็นทางการปี 2018

อย่างไรก็ตาม เทรนด์ที่เห็นชัดเจนในสมรภูมิค้าปลีกของสหรัฐอเมริกา คือค่าเช่าร้านค้าปลีกที่ลดลงอย่างชัดเจนในนิวยอร์ก หลังจากที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องตลอด 3 ปีที่แล้ว จุดนี้แสดงถึงความไม่ยั่งยืนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นิวยอร์กซึ่งคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงไปอีก

ไม่เพียง Gap ยังมีร้านค้าหลายแบรนด์บน Fifth Avenue ที่ทยอยปิดตัวลง เช่น Polo Ralph Lauren ซึ่งม้วนเสื่อปิดร้านไปเมื่อเมษายน 2017 ยังมี Lord & Taylor และ Henri Bendel ทั้ง 2 แบรนด์วางแผนที่ปิดร้านในปี 2019

การปิดร้านของแบรนด์เหล่านี้ไม่ได้แปลว่านิวยอร์กจะไม่เป็นตำแหน่งที่ต้องการสำหรับแบรนด์ดังอีกต่อไป เพราะรายงานชี้ว่า Under Armour แบรนด์เสื้อผ้ากีฬาดังจะเปิดร้านเรือธงแทนร้านขายของเล่น FAO Schwarz ในปีหน้า เช่นเดียวกับ Nike ที่เปิดตัวร้านใหญ่ไซส์บิ๊กขนาด 68,000 ตารางฟุต ตัวร้านตั้งอยู่ตรงข้ามกับร้านหรู Cartier ห่างเพียงไม่กี่ก้าวจาก Gap.

ที่มา : https://qz.com/1509371/gap-closing-former-flagship-store-at-680-fifth-avenue-in-new-york/

]]> 1205666 GAP รุกตลาด Casual Spring Fashion 2011 https://positioningmag.com/54059 Fri, 04 Mar 2011 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=54059

GAP ผู้นำเสื้อผ้าสบายๆ สไตล์อเมริกัน เปิดตัว Spring Collection ซึ่งออกแบบโดย มร. แพทริค โรบินสัน Head Designer ของ GAP โดยถ่ายทอดรูปแบบเสื้อผ้าทันสมัยเข้ากับไลฟ์สไตล์โมเดิร์นของผู้บริโภคทั่วโลก ที่สามารถมิกซ์แอนด์แม็ทช์ใช้ได้ในทุกโอกาสและทุกช่วงเวลาของวัน ไม่ว่าจะเป็นวันหยุดแสนสบาย หรือวันทำงานที่ต้องดูภูมิฐาน โดยเน้นโทนสีธรรมชาติเข้ากับเทรนด์ในปีนี้

“สำหรับ Spring Collection 2011 นี้ Head Designer ของ GAP เลือกธีม An American in London ซึ่งได้รับอิทธิพลของสไตล์โบฮิเมียนจากยุค 70’s ที่นำมาประยุกต์ให้เท่ห์ทันสมัยลงตัวเข้ากับปัจจุบันมากยิ่งขึ้น โดยโทนสีจะเป็นแนวพาสเทลขาว กากี คาราเมล คือ โทนสีอ่อนตามธรรมชาติ ดูสบายๆ แต่สามารถสร้างความเท่ห์ให้คุณสุภาพบุรุษได้ด้วยกางเกงทรงสลิมฟิตและความเซ็กซี่ให้คุณสุภาพสตรีด้วยผ้าชีฟองจับจีบ เพิ่มเสน่ห์ให้กับผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี”คุณหรรษา ถนอมสิงห์ ผู้จัดการทั่วไป ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่นแฟชั่นกรุ๊ป กล่าว

คีย์ไอเทมของสุภาพสตรีในคอลเลคชั่นนี้ ยังคงเป็นผ้าเดนิมที่เป็นหัวใจของแบรนด์โดยเน้นที่รูปทรงและการตัดเย็บให้มีรายละเอียดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกระโปรงยาว หรือกางเกงขาบานเอวสูงที่มีกลิ่นอายของยุค 70’s

คีย์ไอเทมของสุภาพบุรุษ ถึงแม้จะยังเน้นที่ความเรียบง่าย แต่เพิ่มความพิถึพิถันในรายละเอียดของคอเสื้อและการตัดเย็บที่เข้ารูปของกางเกงกากี ที่เป็นซิกเนเจอร์ของสุภาพบุรุษ ในรูปแบบสลิมฟิตที่ทันสมัย

“คาดว่าปีนี้ GAP จะสามารถรุกตลาด Casual Fashion ได้อย่างเต็มที่ โดยจะมีคอลเลคชั่นใหม่ๆ ในแต่ละช่วงเวลา พร้อมกิจกรรมที่ดึงดูดใจผู้บริโภคอย่างจุใจ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคอลเลคชั่นของเราที่เลือกนำเข้ามาจากอเมริกาในปีนี้จะสร้างความพึงพอใจและได้รับการต้อนรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี” คุณหรรษาสรุป

]]> 54059 GAP รุกตลาด Casual Spring Fashion 2011 ออกคอลเลคชั่นใหม่รับกระแสโทนสีธรรมชาติ https://positioningmag.com/54017 Wed, 23 Feb 2011 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=54017

GAP ผู้นำเสื้อผ้าสบายๆ สไตล์อเมริกัน เปิดตัว Spring Collection ซึ่งออกแบบโดย มร. แพทริค โรบินสัน Head Designer ของ GAP โดยถ่ายทอดรูปแบบเสื้อผ้าทันสมัยเข้ากับไลฟ์สไตล์โมเดิร์นของผู้บริโภคทั่วโลก ที่สามารถมิกซ์แอนด์แม็ทช์ใช้ได้ในทุกโอกาสและทุกช่วงเวลาของวัน ไม่ว่าจะเป็นวันหยุดแสนสบาย หรือวันทำงานที่ต้องดูภูมิฐาน โดยเน้นโทนสีธรรมชาติเข้ากับเทรนด์ในปีนี้

“สำหรับ Spring Collection 2011 นี้ Head Designer ของ GAP เลือกธีม An American in London ซึ่งได้รับอิทธิพลของสไตล์โบฮิเมียนจากยุค 70’s ที่นำมาประยุกต์ให้เท่ห์ทันสมัยลงตัวเข้ากับปัจจุบันมากยิ่งขึ้น โดยโทนสีจะเป็นแนวพาสเทลขาว กากี คาราเมล คือ โทนสีอ่อนตามธรรมชาติ ดูสบายๆ แต่สามารถสร้างความเท่ห์ให้คุณสุภาพบุรุษได้ด้วยกางเกงทรงสลิมฟิตและความเซ็กซี่ให้คุณสุภาพสตรีด้วยผ้าชีฟองจับจีบ เพิ่มเสน่ห์ให้กับผู้สวมใส่ได้เป็นอย่างดี”คุณหรรษา ถนอมสิงห์ ผู้จัดการทั่วไป ไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่นแฟชั่นกรุ๊ป กล่าว

คีย์ไอเทมของสุภาพสตรีในคอลเลคชั่นนี้ ยังคงเป็นผ้าเดนิมที่เป็นหัวใจของแบรนด์โดยเน้นที่รูปทรงและการตัดเย็บให้มีรายละเอียดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกระโปรงยาว หรือกางเกงขาบานเอวสูงที่มีกลิ่นอายของยุค 70’s

คีย์ไอเทมของสุภาพบุรุษ ถึงแม้จะยังเน้นที่ความเรียบง่าย แต่เพิ่มความพิถึพิถันในรายละเอียดของคอเสื้อและการตัดเย็บที่เข้ารูปของกางเกงกากี ที่เป็นซิกเนเจอร์ของสุภาพบุรุษ ในรูปแบบสลิมฟิตที่ทันสมัย

“คาดว่าปีนี้ GAP จะสามารถรุกตลาด Casual Fashion ได้อย่างเต็มที่ โดยจะมีคอลเลคชั่นใหม่ๆ ในแต่ละช่วงเวลา พร้อมกิจกรรมที่ดึงดูดใจผู้บริโภคอย่างจุใจ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคอลเลคชั่นของเราที่เลือกนำเข้ามาจากอเมริกาในปีนี้จะสร้างความพึงพอใจและได้รับการต้อนรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี” คุณหรรษาสรุป

]]> 54017 Gap Down Under https://positioningmag.com/13333 Wed, 05 Jan 2011 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=13333

การเข้ามาเปิดตัวของเสื้อผ้าแบรนด์นอกอย่าง Gap ในออสเตรเลีย ทำให้วงการแฟชั่นแห่งดินแดนดาวน์อันเดอร์ตื่นเต้นและตื่นตัวขึ้นมาอีกครั้ง

โดยในการเปิดตลาดมายังประเทศออสเตรเลียในครั้งนี้ Gap Inc. ได้ใช้กลยุทธ์จับมือกับบริษัท Brand Republic Pty Ltd. ในเครือของ Busby Holdings Australia Pty Ltd. เพื่อเป็นพันธมิตรขยายธุรกิจในแบบการขายแฟรนไชส์

สำหรับสองสาขาแรกในออสเตรเลียนั้น Gap เลือกทำเลในห้างยักษ์ Chadstone ในเมลเบิร์นเป็นจุดเริ่มต้น รวมทั้งเลือกห้าง Westfield ที่ซิดนีย์ เป็นสาขาที่สอง และวางแผนขยายไว้ในอนาคตว่าจะมีสาขา Gap ตามหัวเมืองหลักสำคัญต่างๆ อีกราวประมาณ 10-15 สาขา

]]> 13333 ถามกันก่อนดีกว่า ถ้าจะเปลี่ยนโลโก้ https://positioningmag.com/13267 Wed, 24 Nov 2010 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=13267

กลายเป็นทอล์กออฟเดอะเวิร์ดไปเมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เมื่อ Gap แบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นของอเมริกา ประกาศใช้โลโก้ใหม่ได้แค่ 4 วัน แล้วต้องเอาโลโก้เก่าที่ใช้มาแล้ว 20 ปีกลับมา เพราะเจอแฟนๆ โดยเฉพาะใน Facebook ถล่มด้วยความเห็นว่า ”ไม่ชอบ” และเอาโลโก้เก่ากลับมาดีกว่า

ลุกลามไปถึงขั้นการแสดงความเห็นว่าจริงๆ แล้วแบรนด์ควรทำโปรดักต์ให้ดีและโดนใจผู้บริโภคก่อนดีกว่ามั้ย ส่วนโลโก้ก็เอาเป็นเรื่องที่จะทำในภายหลังก็ได้

“ไม่รู้ว่าอะไรเป็นเบื้องหลังของโลโก้ใหม่ที่ตัวหนังสือเหมือนไม่ได้ถูกออกแบบ และมีกล่องสีเหลี่ยมวางแปะไว้บนตัว P ช่างเป็นโลโก้ที่เรียกว่า Ultra Simple จริง” ความเห็นของนักวิจารณ์คนหนึ่ง

เรียกได้ว่าการเปลี่ยนโลโก้ของ Gap ครั้งนี้ กลายเป็นข่าวแรงจนใครๆ ก็หันมาสนใจ Gap อีกครั้ง เพราะปัจจัยของพลังโซเชี่ยลมีเดีย และ Gap ก็สามารถพลิกสถานการณ์หลังจากเสียงไม่ชอบดังกระหึ่ม ผู้บริหาร Gap ก็ตัดสินใจประกาศใน Facebook และ Twitter ให้แฟนๆ เสนอหรือออกแบบโลโก้ที่ตัวเองอยากได้ส่งมา แม้จะได้เสียงด่าเป็นส่วนมาก และข้อเสนอเป็นส่วนน้อย แต่ในโลกโซเชี่ยลมีเดียกลายเป็น Viral เกี่ยวกับ Gap อย่างกว้างขวางแล้ว

จริงๆ แล้ว Gap น่าจะเรียนรู้บทเรียนของ Tropicano แบรนด์น้ำส้มชื่อดังของอเมริกา ที่เคยประกาศดีไซน์แพ็กเกจใหม่ และปรับโลโก้ เมื่อต้นปี 2009 ที่อยู่ดีๆ ส้มลูกโตที่มีหลอดเจาะอยู่ก็หายไป ทั้งที่เป็นสัญลักษณ์ที่ผู้บริโภคจดจำ กลายเป็นแก้วน้ำส้มใบใตแทนที่ ซึ่งไม่เพียงเสียงต่อต้านจากลูกค้าทั่วไปและในโซเชี่ยลมีเดียเท่านั้น แต่ยอดขายในช่วงนั้นหายไป 20% ภายใน 2 เดือนจนต้องนำแพ็กเกจเก่ามาใช้ทันที

]]> 13267 GAP มาช้ายังดีกว่าไม่มา (หรือเปล่า) https://positioningmag.com/12513 Sun, 04 Apr 2010 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=12513

จดจ่ออยู่นาน ในที่สุดแบรนด์แฟชั่นวัยย่าง 41 ปี อย่าง GAP ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวในไทย โดยการถือครองสิทธิ์แฟรนไชส์จาก GAP Inc. สหรัฐอเมริกา ของไมเนอร์ คอร์ปอเรชั่น แม้จะไม่เรียกเสียงฮือฮาได้มากนัก แต่นี่นับเป็นอีกหนึ่งความหวังของMINT หลังจากที่ไม่มีแบรนด์แฟชั่นใหม่มานานหลายปี และเป็นห้วงเวลาที่แบรนด์อินเตอร์ถาโถมเข้ามาเปิดช็อปในไทยกันอย่างเอิกเกริก

GAP ถือเป็นแบรนด์ที่มีเรื่องราวของความสำเร็จและล้มเหลว โดยแรกก่อตั้งเมื่อปี 1969 มี Positioning เป็น Hip & Fun Experience มีจุดขายเป็นยีนส์ลีวายส์ ในยุคนั้น GAP ขึ้นชื่อว่าเป็นกบฏแห่งวงการแฟชั่น และปักหมุดแจ้งเกิดได้ด้วยความแตกต่าง ไม่นานGAP ก็ Repositioning ตัวเอง ในปี 2526 มาสู่แฟชั่นที่เรียบง่าย
สะท้อนสไตล์แบบอเมริกันมากขึ้น และจำหน่ายในราคาสมเหตุสมผล

ในปี 2544 GAP เริ่มเปลี่ยนทิศทางของตัวเองอีกครั้ง โดยหันเข้าหากลุ่มวัยรุ่น และนั่นทำให้ GAP ต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งตัวฉกาจอย่างZARA, H&M, J.Crew, TOPSHOP และ A&F โดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ และนั่นทำให้ GAP สูญเสีย Brand Idenityไป GAP กลายเป็นยักษ์ใหญ่ที่เชื่องช้าไม่ปราดเปรียวพอที่จะเป็นผู้นำเทรนด์แฟชั่น และนั่นทำให้ GAP หวนคืนสู่รากเหง้าและตัวตนของ GAP คือการเป็น Iconic American Style ที่เรียบง่ายและ Value for Money หลังจากแกว่งไกวมาซักระยะและพบว่าไม่เป็นผลดี

สำหรับสาขาแรกในไทยบนชั้น G ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ของ GAP ใช้พื้นที่ร้านขนาด 700 ตารางเมตร ประกอบไปด้วยสินค้าสำหรับผู้ชาย ผู้หญิงเด็กทวีนและเด็กแรกเกิด ซึ่งเป็นสาขาในรูปแบบ Combo Stores โดยแบ่งสัดส่วนยอดขายจากเสื้อผ้าผู้ใหญ่และเด็กประมาณ60 : 40 โดยมีราคาจำหน่ายเริ่มต้น 490 บาทสำหรับเสื้อยืด 1,490 บาทสำหรับเสื้อเชิ้ต และ 1,790 บาทสำหรับยีนส์ เป็นต้น

แม้จะไม่บอกงบลงทุนแต่ด้วยขนาดสาขาที่ใหญ่เมื่อเทียบกับแบรนด์แฟชั่นทั่วไป อีกทั้งการเปิดตัวด้วยแฟชั่นอย่างยิ่งใหญ่ทำให้เชื่อว่า MINT เอาจริงเอาจังกับ GAP มากเพียงใด

ไมเคิล บิงเกอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ไมเนอร์ คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MINT บอกว่า Positioning ของ GAP คือแบรนด์แฟชั่น Casual Lifestyle แบบอเมริกันสำหรับคนทุก Generation และเป็น Positioning ที่ชัดเจนแล้วโดยมีผลิตภัณฑ์เด่นคือเดนิม ยีนส์

ต่อข้อถามที่ว่า คนไทยรู้จักและเฝ้ารอ GAP มานาน แต่ในปี 2553 ซึ่งเต็มไปด้วยแบรนด์อินเตอร์มากมาย
กลัวว่า GAP จะถูกลดทอนความสนใจและไม่ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าไว้หรือไม่ บิงเกอร์ตอบว่า

“มั่นใจมาก เพราะ GAP ยัง High Recognition เมื่อ GAP เปิดสาขาที่เมืองไทย ทำให้แฟนๆ ชาวไทยไม่ต้องเดินทางไปซื้อที่ต่างประเทศ และ MINT ได้เตรียมแผนธุรกิจไว้รองรับอย่างรัดกุมแล้ว โดยประเดิมด้วยการโปรโมตคอลเลคชั่น GAP 1969 Premium Jeans”

ขณะนี้เตรียมขยายอีก 3 สาขาที่สยามพารากอน พาราไดซ์ พาร์ค และเซ็นทรัล ลาดพร้าว โดยจะเน้นขยายสาขาในกรุงเทพฯก่อน ปัจจุบัน GAP มีช็อปในสหรัฐอเมริกามากกว่า 1,200 แห่ง และมีช้อปในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกเกือบ 2,000 แห่ง ยอดขายที่เกิดขึ้นจึงน่าจะเป็นคำตอบที่ดีของ GAP ในไทย ซึ่งต้องเฝ้ารอดูกันต่อไป

จะสังเกตเห็นว่าแบรนด์แฟชั่นของไมเนอร์ (Esprit, Bossini, Timberland, Charles&Keith, Timberland, Tumi, Red Earth, Bloom, Laneige, Smashbox) ส่วนใหญ่จะไม่ใช่ High Fashion ไม่ใช่ Fast Fashion และนั่นอาจทำให้ไมเนอร์ต้องมองหาแบรนด์ที่มีความหวือหวาและเปลี่ยนแปลงซีซั่นรวดเร็ว เพื่อมาต่อกรกับคู่แข่งและรับมือกับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่เบื่อง่ายหน่ายเร็วด้วย

]]> 12513 “Holiday Cheer” Gap Campaig https://positioningmag.com/12195 Sun, 03 Jan 2010 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=12195

Gap ออกโฆษณาชุดใหม่สำหรับเทศกาลฮอลิเดย์ปีนี้ โดยใช้นางแบบนายแบบในเสื้อผ้า Gap คอเลกชั่นใหม่แปลงตัวเป็นฮอลิเดย์เชียรลีดเดอร์ร้องเต้น และต่อตัวเป็นรูปต่างๆ เช่น ผลึกหิมะ (Snowflake) ต้นคริสมาสต์ และสัญลักษณ์ความสงบสุข (Peace) ในเชียร์ชุด “Go Ho Ho” โดยออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์และที่ www.youtube.com นอกจากนั้น ยังมีเว็บไซต์ www.cheerfactory.com ให้คนได้ร่วมสนุกในการส่งความสุขผ่าน “digi-cheer” ต่อๆ กันทางอีเมล เฟซบุ๊ก และทวิตเตอร์อีกด้วย โดยมีให้เลือกทั้งหมด 10 เชียร์ เป็นผลงานสร้างสรรค์ของบริษัท Crispin, Porter & Bogusky กำกับโดย Michael Gracey และมี Pharrell Williams เป็นผู้คิดคำเชียร์

]]> 12195 Gap เชือดบิ๊กยอดขายวูบ https://positioningmag.com/9609 Mon, 05 Feb 2007 00:00:00 +0000 http://positioningmag.com/?p=9609

แนวโน้มธุรกิจเสื้อผ้ายังคงต้องเหนื่อยต่อไปเรื่อยๆ เพราะการแข่งขันสูงยิ่ง หลายแบรนด์จึงต้องปรับตัว ล่าสุดผู้บริหารGap และ Old Navy ไม่พอใจยอดขายที่น้อยกว่าที่คาดการณ์ ถึงขั้นมีการปรับโครงสร้างผู้บริหาร

Gap เจอสถานการณ์ถูกแย่งลูกค้าจากแบรนด์อื่นๆ ด้วยกลยุทธ์ที่คู่แข่งสามารถสร้างแบรนด์ให้ดูดี ทันสมัย และราคาถูกกว่า อย่างกลุ่มทาร์เก็ต ที่เน้นราคาที่ถูกกว่า ส่วนกลุ่มวัยรุ่น ก็หันไปรักแบรนด์ Abercrombie มากมาย ขณะที่ Gap ก็สับสนในการสร้างสินค้าใหม่ ด้วยการกลับไปหายีนส์ และเสื้อยืด จากก่อนหน้านี้ Gap เคยรุ่งเรืองมียอดขายพุ่งกระฉูด แต่ปี 2006 มียอดขายเพิ่มขึ้นเพียง 1% เท่านั้น แต่เฉพาะเดือนธันวาคม 2006 ยอดตกไป 8%

]]> 9609