36Kr สื่อด้านไอทีของจีน ได้เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวโดยอ้างอิงแหล่งข่าวภายในของ Meituan ว่า ในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ยักษ์ใหญ่บริการส่งอาหารในจีนสามารถมียอดขายสินค้าผ่านทางช่องทางออนไลน์รวม (GMV) มากถึง 2,000 ล้านหยวน ซึ่งเพิ่มขึ้นมากถึง 3 เท่าเมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีรายได้ต่ำกว่า 600 ล้านหยวนด้วยซ้ำ
จำนวนผู้ค้าใน Meituan ที่ได้มีการไลฟ์ขายสินค้าในเดือนตุลาคมนั้นมีมากถึง 300,000 ราย บริษัทยังให้เงินอุดหนุนกับร้านค้าเหมือนกับแพลตฟอร์มอื่น รวมถึงไม่เก็บเงินค่าไลฟ์ขายสินค้าด้วย
สื่อไอทีจากประเทศจีนยังชี้ว่าในปี 2023 นี้ Meituan ยังไม่ได้วางเป้าหมายยอด GMV ของฟังก์ชันไลฟ์ขายสินค้าไว้แต่อย่างใด
ในปี 2020 ที่ผ่านมา มีการถกเถียงภายในบริษัทถึงการเปิดตัวฟังก์ชันไลฟ์ขายสินค้าว่าควรอยู่ในแอปฯ Meituan หรือไม่ เนื่องจากคู่แข่งหลายรายเพิ่งเริ่มที่จะมีการนำฟังก์ชันดังกล่าวมาไว้ในแพลตฟอร์มของตน และบริษัทได้ทดสอบฟังก์ชันดังกล่าวตั้งแต่เดือนมีนาคมของปี 2022 ที่ผ่านมา ก่อนที่จะเริ่มเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา
สาเหตุสำคัญที่ทำให้ Meituan ต้องงัดกลยุทธ์ดังกล่าวออกมาก็คือ การรุกเข้ามาในธุรกิจ E-commerce ของคู่แข่งรายยักษ์อย่าง ByteDance ที่ได้นำฟังก์ชันไลฟ์ขายสินค้าเข้ามาใน Douyin ทำให้แพลตฟอร์มคู่แข่งต่างก็ต้องปรับตัว นอกจากนี้ Douyin ยังได้รุกเข้ามาในธุรกิจหลักที่ชนกับบริษัทคือการส่งอาหารด้วย
และยังรวมถึงคาดการณ์ว่าตลาดการไลฟ์ขายสินค้าในประเทศจีนยังมีการเติบโต โดยข้อมูลจากบริษัทวิจัยอย่าง eMarketer คาดการณ์ว่าในปี 2023 นี้จะเติบโตได้มากถึง 30% ทำให้บริษัทเทคโนโลยีในประเทศจีนได้รุกตลาดดังกล่าวอย่างหนัก
อย่างไรก็ดีการงัดกลยุทธ์ดังกล่าวออกมาใช้นั้นมีผลกระทบต่อกำไรของบริษัทเช่นกัน เนื่องจาก Meituan เองจะต้องใช้เงินมหาศาลในการอุดหนุนร้านค้า หรือแม้แต่กับลูกค้าให้มาใช้ฟังก์ชันการไลฟ์ขายสินค้ามากขึ้น ซึ่งกระทบกับกำไรของบริษัทมาแล้วถึง 2 ไตรมาสติดต่อกัน
]]>สำนักข่าว Bloomberg รายงานข่าวโดยอ้างอิงแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องว่า Meituan บริการส่งอาหารรายใหญ่ของจีน ได้สนใจซื้อกิจการของ Foodpanda บริการส่งอาหารรายใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากที่บริษัทแม่อย่าง Delivery Hero ได้หาลู่ทางในการขายกิจการ
แหล่งข่าวของสื่อรายดังกล่าวได้กล่าวว่า บริการส่งอาหารรายใหญ่ของจีนรายดังกล่าวได้พูดคุยกับ Delivery Hero เกี่ยวกับการซื้อกิจการของ Foodpanda ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดอื่น ๆ ต่อแต่อย่างใด
Niklas Oestberg ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Delivery Hero ได้กล่าวว่า ธุรกิจในทวีปเอเชียถือเป็นส่วนกำไรที่มากที่สุดของบริษัท แต่ในส่วนของการเติบโตนั้นกลับชะลอตัวลง ซึ่งตัวเลขดังกล่าวนั้น ในไตรมาสที่ผ่านมาธุรกิจในทวีปเอเชียมียอดขายสินค้ารวม (GMV) ลดลง 6.2% อยู่ที่ 6,390 ล้านยูโร
โดย Delivery Hero นั้นมีแผนที่จะทำให้ธุรกิจของบริษัทกลับมาอยู่ในเส้นทางของการทำกำไรให้ได้ ซึ่งการขายธุรกิจที่บริษัทไม่ได้โฟกัสต่อไปถือเป็นแผนการของบริษัทด้วย
เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา Delivery Hero ได้ประกาศว่าบริษัทกำลังพิจารณาขายธุรกิจของ Foodpanda ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ กัมพูชา ฟิลิปปินส์ พม่า ลาว โดยสื่อในประเทศเยอรมันคาดว่า Grab ซึ่งเป็นคู่แข่งรายสำคัญอาจทุ่มเงินมากถึง 1,000 ล้านยูโร ในการซื้อกิจการ
อย่างไรก็ดีมีความกังวลว่าถ้าหาก Grab ได้กิจการของของ Foodpanda ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หลายประเทศ อาจทำให้หน่วยงานกำกับดูแลนั้นไม่ให้ดีลนี้ผ่านได้
ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมานั้นมีข่าวลือว่า Foodpanda นั้นจะขายกิจการให้กับคู่แข่งรายอื่นมาแล้ว รวมถึงประเทศไทยด้วย
อย่างไรก็ดียังต้องรอดูว่าท้ายที่สุดแล้ว Delivery Hero จะขายกิจการ Foodpanda ให้กับผู้เล่นรายใด
โดยถ้าหาก Meituan ได้กิจการของ Foodpanda ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไป อาจไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจมากนัก เนื่องจากบริการส่งอาหารรายใหญ่ของจีนรายนี้ในอดีตเคยเป็นบริษัทลูกของ Tencent ซึ่งมีผู้ถือหุ้นใหญ่รายเดืยวกับ Delivery Hero นั่นก็คือ Prosus และ Nasper ซึ่งเป็นกิจการลงทุนจากประเทศแอฟริกาใต้นั่นเอง
]]>Xin Lijun ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจค้าปลีกของ JD.com ได้กล่าวกับสำนักข่าว Bloomberg ว่าบริษัทกำลังพิจารณาและหาความเป็นไปได้ โดยเขาได้กล่าวเสริมว่าบริษัทจะสามารถทำธุรกิจนี้ได้ก็ต่อเมื่อบริษัทมีความสามารถที่จะทำธุรกิจนี้ได้ รวมถึงสร้างทีมงานในธุรกิจดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาสื่อท้องถิ่นในประเทศจีนเคยรายงานข่าวสอดคล้องว่า JD.com สนใจที่จะร่วมทุนกับบริษัทรับส่งสินค้าเพื่อทำธุรกิจส่งอาหาร
สาเหตุที่ทำให้บริษัทอาจต้องหารายได้จากธุรกิจใหม่ๆ เนื่องจากผลประกอบการในไตรมาสล่าสุด JD.com เองมีรายได้เติบโตลดลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา ส่งผลทำให้บริษัทนั้นมีผลประกอบการขาดทุนมากถึง 3,000 ล้านหยวน
ธุรกิจส่งอาหารในประเทศจีนนั้นถือว่ามีการแข่งขันที่สูง ขณะเดียวกันก็ได้ใช้เงินของนักลงทุนเพื่อที่จะมอบโปรโมชันจูงใจให้กับลูกค้าเข้ามาในแพลตฟอร์มเยอะมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ปัจจุบันธุรกิจส่งอาหารในประเทศจีนถูกครอบครองโดย Meituan ด้วยสัดส่วนมากถึง 70% ขณะที่ Ele.me และผู้เล่นรายอื่นๆ ครองสัดส่วนรวมกันไม่ถึง 30% ด้วยซ้ำ สำหรับ Meituan นั้นมีผู้ถือหุ้นรายใหญ่คือ Tencent ขณะที่ Ele.me นั้นเป็นธุรกิจส่วนหนึ่งของ Alibaba
การเข้ามาบุกธุรกิจส่งอาหารของ JD.com นั้นอาจสร้างความสั่นสะเทือนให้กับวงการส่งอาหารไม่น้อย เนื่องจากในอดีต JD.com ถือเป็นธุรกิจพันธมิตรกับทาง Tencent (และ Tencent เองได้ลงทุนใน JD.com ด้วย) ก่อนที่ทางการจีนจะเข้ามาปราบปรามและวางกฎระเบียบใหม่ในช่วงปี 2020 เป็นต้นมา ส่งผลทำให้ Tencent ได้ประกาศขายหุ้นของ JD.com ออกมา จนท้ายที่สุด JD.com เองก็เตรียมเป็นคู่แข่งสำคัญในธุรกิจส่งอาหารนี้ด้วย
]]>รายงานระบุว่า จำนวนเงินค่าปรับดังกล่าวเทียบเท่า 3% ของรายได้ภายในประเทศของเหม่ยถวนในปี 2563 จำนวน 114,000 ล้านหยวน (ราว 602,000 ล้านบาท) ขณะเดียวกัน ได้สั่งให้เหม่ยถวน “แก้ไขข้อผิดพลาดในการดำเนินกิจการ” อย่างครอบคลุมรอบด้านด้วย
การสืบสวนสอบสวนการกระทำผิดของเหม่ยถวนเริ่มต้นในเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา โดยสำนักฯ พบว่า เหม่ยถวนบีบบังคับบรรดาผู้จัดจำหน่ายอาหารลงนามข้อตกลงความร่วมมือที่มีลักษณะผูกขาด และเรียกเก็บเงินมัดจำจากผู้จำหน่ายอาหาร และใช้นโยบาย “เลือกหนึ่งจากสอง” เพื่อกีดกันคู่แข่งและจำกัดการแข่งขันในตลาด
สำนักฯ ชี้ว่า เหม่ยถวนบ่อนทำลายพลวัตทางนวัตกรรม และชีวิตชีวาของแพลตฟอร์มการจัดส่งอาหาร ตลอดจนเป็นอันตรายต่อผลประโยชน์ของผู้ค้าและผู้บริโภคบนแพลตฟอร์มดังกล่าว
สำนักฯ สั่งให้เหม่ยถวนคืนเงินมัดจำเกือบ 1,290 ล้านหยวน (ราว 6,770 ล้านบาท) แก่ผู้จำหน่ายอาหาร และสั่งให้แก้ไขข้อผิดพลาด ปรับปรุงการเรียกเก็บค่านายหน้า คุ้มครองผลประโยชน์ตามกฎหมายของธุรกิจอาหารขนาดเล็ก–กลางบนแพลตฟอร์ม และการปกป้องสิทธิ และผลประโยชน์ของพนักงานส่งอาหาร
สำนักฯ ทิ้งท้ายว่าเหม่ยถวนควรยื่นรายงานการปรับปรุงแก้ไขข้อผิดพลาดในการดำเนินกิจการตลอดระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า และทำการพัฒนากิจการที่เป็นไปตามกฎระเบียบ สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ครบสมบูรณ์ และยั่งยืน
]]>รายงานระบุว่า Meituan บังคับผู้ค้าเข้าสู่โครงการ “2 เลือก 1” โดยห้ามผู้ค้าที่เซ็นสัญญานำสินค้ามาวางขายบนแพลตฟอร์มในเครือ นำสินค้าไปขาย หรือโปรโมตสินค้าในแพลตฟอร์มคู่แข่งอื่นๆ
“อาลีบาบา” เพิ่งถูกปรับเป็นเงิน 2,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 87,000 ล้านบาทจากนโยบายดังกล่าวไปเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 64 โดยจำนวนเงินดังกล่าวคิดเป็น 4% ของยอดขายในประเทศปี 2562 ของอาลีบาบา
หลี่ จวินฮุ่ย ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์แห่งประเทศจีน (China University of Political Science and Law) กล่าวว่า มาตรการ “2 เลือก 1” กำลังระบาดอย่างหนักในธุรกิจจัดส่งอาหาร
ด้าน Meituan เปิดเผยว่า จะร่วมมือกับสำนักงานบริหารกฎระเบียบตลาดจีนอย่างแข็งขัน และจะปรับปรุงการจัดการให้สอดคล้องกับข้อกำหนดเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของลูกค้าและภาคส่วนอื่นๆ โดยจะยังดำเนินธุรกิจตามปกติต่อไป
“บริษัทฯ อาจเผชิญกับบทลงโทษแบบเดียวกับอาลีบาบา ขึ้นอยู่กับว่าการสอบสวน และขอบเขตของการละเมิด” นายจาง อี้ ซีอีโอของสถาบันวิจัยตลาด iiMedia Research Institute ระบุ
นายจางให้ความเห็นว่า หน่วยงานกำกับดูแลอาจพิจารณาลงโทษเบากว่าอาลีบาบา โดยคำนึงว่า Meituan ได้สร้างงานให้กับผู้ที่มีทักษะต่ำ และมีอัตรากำไรน้อย
ก่อนหน้านี้ หน่วยงานระดับท้องถิ่นตรวจสอบและลงโทษ Meituan หลายครั้ง ทำให้มูลค่าหุ้นบริษัทดังลดลงในเดือนนี้
เมื่อ 13 เม.ย. 64 สำนักงานบริหารกฎระเบียบตลาดจีนเตือนให้แพลตฟอร์ม 34 แห่ง รวมถึง Tencent, Alibaba, Baidu และ Meituan ให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบและแก้ไขการผูกขาดตลาดภายในหนึ่งเดือน
]]>กล่องดังกล่าวทำมาจากกระดาษ ขนาดความกว้าง 20 นิ้ว มีปากกล่องกว้างพอที่จะบังจานอาหารและใบหน้าของผู้ใช้เมื่อก้มลงรับประทานอาหาร และสามารถพับเป็นแผ่นแบนๆ ได้เพื่อให้เก็บสะดวก โดย Meituan จะแจกกล่องกระดาษนี้ให้กับผู้ใช้ทุกรายที่สั่งอาหารเดลิเวอรี่ในเมืองปักกิ่งและเมืองเซี่ยงไฮ้
Meituan กล่าวว่า กล่องนี้จะช่วยป้องกันการกระเด็นของน้ำลายและอาหารจากเพื่อนร่วมโต๊ะไม่ให้ลงมาในอาหารของตนเองได้ เพราะในจีนนั้น พนักงานออฟฟิศมักจะต้องทานอาหารร่วมกันในโรงอาหารหรือบริเวณที่จัดไว้ ซึ่งค่อนข้างหนาแน่น และแน่นอนว่าเมื่อต้องทานอาหาร ทุกคนก็จะถอดหน้ากากอนามัยออก ทำให้เกิดความเสี่ยงติดเชื้อ
สถานการณ์การระบาดในจีนที่เริ่มขึ้นมาแล้วหลายสัปดาห์ยังคงไม่คลี่คลาย ถึงแม้ว่าบริษัทหลายแห่งจะออกนโยบายให้พนักงานทำงานจากที่บ้านได้ แต่บางแห่งก็ยังมีพนักงานเข้ามาทำงานที่ออฟฟิศ
ขณะที่ธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ยิ่งทวีความสำคัญขึ้นในสถานการณ์เช่นนี้ เนื่องจากหลายคนกักตัวอยู่แต่ในบ้านทำให้ต้องพึ่งพิงบริการเดลิเวอรี่ในการซื้ออาหารและสินค้าต่างๆ แม้แต่ผับบาร์ยังหันมาเข้าร่วมบริการจัดส่งเครื่องดื่มให้ถึงบ้าน หาทางรอดทางธุรกิจในช่วงวิกฤตเช่นนี้
Meituan บอกว่า บริษัทนำกล่องป้องกันไปบริจาคให้กับบุคลากรทางการแพทย์ในอู่ฮั่น และยังนำสิ่งประดิษฐ์นี้เข้าจดสิทธิบัตรแล้ว 2 รายการ
นอกจาก Meituan ธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องกับการขนส่ง เช่น DiDi บริการเรียกรถรายใหญ่ในจีน ยังมีการติดตั้งแผ่นป้องกันแยกพื้นที่ระหว่างฝั่งคนขับกับฝั่งผู้โดยสารด้านหลัง เพื่อช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อจากไวรัส COVID-19
]]>