Tablet – Positioning Magazine

อินเดียประกาศควบคุมการนำเข้า PC และ Laptop รวมถึง Tablet เพื่อผลักดันการผลิตในประเทศ

Wattanapong Jaiwat — Thu, 03 Aug 2023 14:56:40 +0000

รัฐบาลอินเดียส่งมาตรการยาแรงออกมา โดยล่าสุดประกาศควบคุมการนำเข้า PC และ Laptop รวมถึง Tablet เพื่อผลักดันการผลิตในประเทศ และต่อยอดแผนการที่จะเป็นหนึ่งในแหล่งผลิตสินค้าสำคัญของโลกหลังจากนี้ และยังรวมถึงเหตุผลด้านความมั่นคงด้วย

สำนักข่าว Reuters รายงานข่าวว่า รัฐบาลอินเดียเตรียมที่จะควบคุมการนำเข้า PC และ Laptop รวมถึง Tablet โดยที่ผู้นำเข้าจะต้องขออนุญาตกับรัฐบาล โดยมาตรการดังกล่าวจะมีผลทันที ซึ่งจะกระทบกับผู้ผลิตหลายรายไม่ว่าจะเป็น Samsung หรือแม้แต่ Apple รวมถึง Dell เป็นต้น

มาตรการดังกล่าวนี้จุดประสงค์สำคัญคือรัฐบาลอินเดียต้องการที่จะผลักดันให้มีการผลิตสินค้าอย่าง PC และ Laptop รวมถึง Tablet ภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น

แผนการนี้ยังเป็นกุญแจสำคัญสู่ความทะเยอทะยานของอินเดียที่ต้องการจะเป็นแหล่งผลิตสินค้าสำคัญ รวมถึงเป็นแหล่ง Supply Chain ของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในระดับโลก โดยอินเดียตั้งเป้าหมายการผลิตต่อปีที่มีมูลค่า 300,000 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2026

ขณะเดียวกันมาตรการดังกล่าวนี้รัฐบาลอินเดียยังให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีรวมกันมากถึง 2,100 ล้านเหรียญสหรัฐ ถ้าหากผู้ผลิตย้ายกำลังการผลิตมาภายในประเทศก่อนวันที่ 30 สิงหาคมนี้

กฎระเบียบปัจจุบันของอินเดียนั้นอนุญาตให้บริษัทต่างๆ นำเข้าสินค้าประเภทดังกล่าวข้างต้นได้อย่างอิสระ แต่กฎใหม่กำหนดให้ต้องมีใบอนุญาตพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ซึ่งข้อกำหนดนี้คล้ายคลึงกับข้อจำกัดที่อินเดียบังคับใช้ในปี 2020 สำหรับการนำเข้าโทรทัศน์

ตัวเลขการนำเข้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของอินเดีย ซึ่งรวมถึง PC และ Laptop รวมถึง Tablet อยู่ที่ 19,700 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วงไตรมาส 2 ของปีที่ผ่านมา โดยตัวเลขดังกล่าวเติบโต 6.25% เมื่อเทียบกับปี 2022 ที่ผ่านมา

ในช่วงที่ผ่านมาอินเดียได้ผลักดันการผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศ สอดคล้องกับผู้ผลิตสินค้าไม่ว่าจะเป็น Apple ที่เริ่มย้ายกำลังการผลิตจากประเทศจีนออกมา เนื่องจากต้องการความยืดหยุ่นด้าน Supply Chain หลังจากที่ประสบปัญหาการผลิตหยุดชะงักในแดนมังกรช่วงที่ผ่านมา

มาตรการดังกล่าวนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่มากนัก ก่อนหน้านี้อินเดียเคยได้กำหนดอัตราภาษีศุลกากรสูงสำหรับผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ เพื่อที่จะกระตุ้นการผลิตในประเทศมาแล้ว

นอกจากนี้ Reuters ยังรายงานว่ามาตรการดังกล่าวยังเกี่ยวยังกับประเด็นด้านความมั่นคงเนื่องจากสินค้าอย่าง PC และ Laptop รวมถึง Tablet นั้นผลิตในประเทศจีนเป็นสัดส่วนที่สูง ทำให้อินเดียต้องออกมาตรการดังกล่าวออกมาเพื่อที่จะสร้างความปลอดภัยจากสินค้าต่างๆ

อย่างไรก็ดีการประกาศมาตรการดังกล่าวนี้ส่งผลกระทบต่อผู้นำเข้าสินค้า เนื่องจากถ้าหากผู้นำเข้าจะต้องใช้เวลาที่หน่วยงานรัฐจะไฟเขียวให้สามารถนำเข้าสินค้าเข้าในประเทศได้ โดยอินเดียจะไฟเขียวให้ผู้นำเข้าสินค้าไม่ต้องขออนุญาตกับรัฐบาลจนถึงวันที่ 31 สิงหาคมนี้เท่านั้น

Note: ล่าสุดอินเดียประกาศเลื่อนการขออนุญาตนำเข้าสินค้าประเภทดังกล่าวออกไปเป็นเดือนตุลาคมแล้ว

มือถือไม่ปัง ‘Nokia’ ขอดัน ‘แท็บเล็ต’ รุ่นแรกแทน พร้อมแบตโหดใช้ได้นาน 15 ชั่วโมง ราคาไม่ถึงหมื่น

TopTen — Tue, 12 Oct 2021 08:43:32 +0000

หลังจากที่บริษัท ‘HMD Global’ ที่เกิดจากเหล่าอดีตพนักงาน ‘Nokia’ ได้ซื้อลิขสิทธิ์ชื่อแบรนด์เพื่อพยายามจะคืนชีพให้กับแบรนด์อีกครั้ง แต่ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าสมาร์ทโฟนที่วางจำหน่ายยังไม่ใกล้กับ ‘ความสำเร็จ’ ในอดีต แต่ ‘ฟีเจอร์โฟน’ กลับได้รับการตอบรับดีกว่าเสียอีก แต่บริษัทก็ไม่ยอมแพ้ขอจับกระแส Work and Learn from Home ออก ‘แท็บเล็ตรุ่นแรก’ ลุยตลาด

ไม่รู้ว่าไม่มีโชคหรือหมดยุคของ Nokia ไปแล้ว เพราะตลอดเวลาที่ทำตลาดสมาร์ทโฟนกลับไม่ปังอย่างที่คิด โดยปีที่ผ่านมา โนเกียมีส่วนแบ่งตลาดของแบรนด์ในตลาดสมาร์ทโฟนไม่ถึง 1% กลับกลายเป็นว่าการเปิดตัวสินค้าที่โดดเด่นที่สุดเป็นฟีเจอร์โฟนอย่าง Nokia 3310 และ Nokia 8110 ‘บานาน่าโฟน’ ที่มีอยู่ในภาพยนตร์เรื่อง ‘The Matrix’

อ่าน >>> ‘โนเกีย’ สู้ไม่ถอย ส่งสมาร์ทโฟน 5G รุ่นแรกลงสนาม หวังกระแสช่วยพา Come Back!

HMD มองว่า ในปัจจุบันความต้องการของแท็บเล็ตมีเพิ่มขึ้น เนื่องจากการ Work from Home และการ Learn from Home ของเด็ก ๆ โดยจากข้อมูลของ Strategy Analytics ยอดขายแท็บเล็ตทั่วโลกในปี 2020 มีการเติบโตเพิ่มสูงขึ้น นับเป็นการเติบโตครั้งแรกในรอบ 6 ปีที่ผ่านมา

ดังนั้น HMD จึงเปิดตัว ‘Nokia T20’ แท็บเล็ตรุ่นแรกของแบรนด์ ออกมาทำตลาด โดยจะมาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android ของ Google มีขนาดหน้าจอ 10.4 นิ้ว แสดงผลระดับ 2K มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 8,200 มิลลิแอมป์ สามารถใช้งานได้นานถึง 15 ชั่วโมง สามารถดูวิดีโอสตรีมมิ่งนาน 10 ชั่วโมง

นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติที่เหมาะสำหรับครอบครัว เช่น Google Kids Space การตั้งค่า ‘โหมดสำหรับเด็ก’ ที่แสดงเฉพาะเนื้อหาที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ๆ และ Family Link ซึ่งเป็นระบบที่แนะนำการควบคุมโดยผู้ปกครอง นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับการอัปเดตความปลอดภัยรายเดือนตลอด 4 ปีและการอัพเกรดเวอร์ชัน Android อีก 3 ปี

อย่างไรก็ตาม Adam Ferguson หัวหน้าฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ของ HMD กล่าวว่า แท็บเล็ตของ Nokia ไม่ได้ตั้งใจทำออกมาเพื่อแข่งกับ iPad ของ Apple แต่จะเป็นตัวเลือกของแท็บเล็ต Android ด้วยกัน รวมถึงเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าองค์กรด้วย

“เราไม่มีแผนในการมุ่งเน้นจะกินส่วนแบ่งของใคร แต่เราเชื่อว่า Nokia T20 มีแนวโน้มที่จะดึงดูดผู้ใช้ Android มากกว่าลูกค้าของ Apple”

สำหรับ Nokia T20 เริ่มต้นที่ราคา 199 ยูโร (ราว 7,700 บาท) มีให้เลือกสองรุ่น ได้แก่ รุ่นรองรับ Wi-Fi และรุ่นรองรับการเชื่อมต่อ 4G ราคาอยู่ที่ 239 ยูโร (ราว 9,300 บาท) โดยเฟอร์กูสันกล่าวว่า ในอนาคต บริษัทมีแผนจะเปิดตัวแท็บเล็ตอีก และจะรองรับ 5G อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับวันวางจำหน่ายของ Nokia T20

Source

ตลาดแท็บเล็ต จะอยู่หรือไป?

Admin — Tue, 27 Jun 2017 14:31:18 +0000

สื่อออสเตรเลียเปิดตัวเลขการบริโภคแท็บเล็ต ชี้เป็นสินค้าที่เติบโตช้าเนื่องจากเครื่องรุ่นเก่าสร้างเอาไว้ “ดีเกินไป” จนผู้บริโภคส่วนหนึ่งไม่สนใจที่จะอัปเกรด

กรณีนี้เป็นประเด็นที่น่าสนใจทีเดียว เพราะในศึกแท็บเล็ตที่มีผู้แข่งขันหลักอย่างแอปเปิล (Apple) ไมโครซอฟท์ (Microsoft) และซัมซุง (Samsung) ที่มักถูกทวงถามอยู่บ่อยครั้งถึงการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในไลน์แท็บเล็ต แต่ในทางกลับกันก็พบว่า ยอดขายกลับไม่กระเตื้องอย่างที่ควรจะเป็น

โดยสื่อจากออสเตรเลีย อ้างอิงตัวเลขจากบริษัทวิจัย Telsyte เผยว่า มีการซื้อแท็บเล็ตประมาณ 1.64 ล้านเครื่องในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2016 ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นไอแพดจากแอปเปิล

อย่างไรก็ดี ยอดขายไอแพดที่ทำได้ในช่วงเวลานั้นถือว่าลดลง 9 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนแท็บเล็ตจากฟากแอนดรอยด์ลดลงไป 13 เปอร์เซ็นต์

Foad Fadaghi กรรมการผู้จัดการของ Telsyte กล่าวว่า มีเพียงแท็บเล็ตของไมโครซอฟท์ ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยผู้บริโภคนิยมซื้อมาใช้งานแทนแล็ปท็อป

“ยอดขายแท็บเล็ตเติบโตช้าลงมากหลังจากผ่านจุดพีกเมื่อปี 2013 และเราพบว่า ชาวออสเตรเลียน้อยคนที่อยากจะหาซื้อแท็บเล็ตรุ่นใหม่ ๆ มาใช้งานแทนรุ่นเดิมที่ตัวเองมี”

อย่างไรก็ตาม แนวคิดนี้กำลังจะเปลี่ยนไปเมื่อตลาดแท็บเล็ตกำลังเริ่มยุติการซัปพอร์ตรุ่นเก่า ๆ ประกอบกับฟังก์ชันการทำงานของแท็บเล็ตรุ่นใหม่ ๆ นั้น ทันสมัยมากขึ้น โดยผู้บริโภคในปัจจุบันมีแนวโน้มจะใช้แท็บเล็ตแทนคอมพิวเตอร์ในการทำงานมากขึ้น จึงเป็นไปได้ว่า ในภาคธุรกิจ เราอาจได้เห็นการเติบโตของแท็บเล็ตอีกครั้งในปีนี้

ด้านแอปเปิลเองก็ต้องฝากความหวังเอาไว้กับ iPad Pro แท็บเล็ตที่มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ และฟีเจอร์แบบจัดเต็ม ที่สามารถเข้ามาใช้งานแทนแล็ปท็อปได้อย่างเต็มตัว

ส่วนไมโครซอฟท์นั้น อาจมีภาษีเหนือกว่า เนื่องจาก Surface นั้นมาพร้อมระบบปฏิบัติการตัวใหม่อย่างวินโดวส์ 10 S อีกทั้งยังได้รับการจัดอันดับโดย JD Power ว่า เป็นอุปกรณ์ที่สร้างความพึงพอใจให้ผู้บริโภคได้สูงสุดในตลาดแท็บเล็ตด้วย

ส่วนทั้ง iPad Pro และ Surface จะทำได้ดีแค่ไหน อาจต้องติดตามจากผลประกอบการในปีหน้า

ที่มา : http://manager.co.th/Cyberbiz/ViewNews.aspx?NewsID=9600000065513

เอไอเอส พร้อมจำหน่าย iPad Air 2 และ iPad mini 3 ทั่วประเทศแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

admin — Wed, 26 Nov 2014 00:00:00 +0000

เอไอเอส ประกาศจำหน่าย iPad Air 2 รุ่นที่รองรับ Wi-Fi + Cellular และ iPad mini 3 รุ่นที่รองรับ Wi-Fi + Cellular ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผ่านเอไอเอส ช็อปทั่วประเทศ และร้านเทเลวิซที่ร่วมรายการ โดยทั้ง 2 รุ่นเปิดตัวพร้อมแพ็กเกจดาต้าสุดคุ้ม เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ในการใช้งานอย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยเทคโนโลยี HSPA+ บนเครือข่ายคุณภาพของเอไอเอส

นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส สายงานการตลาดและการขายบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “เอไอเอสเชื่อมั่นว่าการเปิดจำหน่ายสุดยอดนวัตกรรมแท็บเล็ตที่คนไทยรอคอย ทั้ง iPad Air 2 รุ่นที่รองรับ Wi-Fi + Cellular และ iPad mini 3 รุ่นที่รองรับ Wi-Fi + Cellular ของเอไอเอสในครั้งนี้ จะสามารถตอบสนองทุกรูปแบบการใช้ชีวิตของลูกค้าในยุคดิจิทัลไลฟ์ได้เป็นอย่างดี ด้วยการผสานรวมกับเครือข่ายคุณภาพของเอไอเอส และสิทธิพิเศษมากมาย ประกอบด้วย

· แพ็กเกจดาต้าสุดคุ้ม สำหรับลูกค้าเอไอเอส 3G รายเดือนปัจจุบัน เล่นเน็ตไม่อั้น นาน 12 เดือน เริ่มต้นเพียง 350 บาท / เดือน

· สิทธิพิเศษผ่อน 0% นาน 10 เดือน (สำหรับการซื้อเครื่องพร้อมแพ็กเกจ)

รวมทั้งการให้บริการที่ดีเยี่ยมของ Customer Service และสมาร์ทโฟน กูรู ที่ช่องทางการจัดจำหน่ายทั่วประเทศ ที่พร้อมมอบบริการให้ลูกค้าอย่างอุ่นใจ”

สำหรับ iPad Air 2 ถือเป็นแท็บเล็ตที่บางที่สุดในโลก ด้วยน้ำหนักเพียง437 กรัม ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายตลอดทั้งวัน โดยมาพร้อมนวัตกรรมอันน่าทึ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอเรติน่าใหม่ที่ช่วยลดแสงสะท้อน,กล้องแบบ iSight และกล้องด้านหน้า FaceTime HD ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่สำหรับการถ่ายภาพและวิดิโอคุณภาพเยี่ยม, ชิพประมวลผล A8X ยุคที่ 2 แบบ 64บิต ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของหน่วยประมวลผลกลางและการประมวลผลกราฟฟิค, การเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้เร็วขึ้นกว่าเดิม พร้อมรองรับเทคโนโลยีไร้สาย LTEและ Touch ID ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ นอกจากนี้ ยังสามารถรองรับการใช้งานแอพพลิเคชั่นที่ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะมากถึง 675,000 แอพฯ โดยมีอายุการใช้งานของแบตเตอรี่นานกว่า 10 ชั่วโมง โดย iPad Air 2 และ iPad mini 3 ที่มาพร้อมนวัตกรรม Touch ID นี้ มีให้เลือกได้ถึง 3 สีสุดหรูหรา ได้แก่ สีทอง, สีเงิน และสีสเปซเกรย์

ลูกค้าสามารถซื้อ iPad Air 2 รุ่นที่รองรับ Wi-Fi + Cellular และ iPad mini 3 รุ่นที่รองรับ Wi-Fi + Cellular ได้ที่เอไอเอส ช็อปทั่วประเทศ และร้านเทเลวิซที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาและแพ็กเกจ iPad จากเอไอเอสได้ที่ www.ais.co.th/iPad-Air หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iPad ได้ที่ www.apple.com/ipad

ทรูมูฟ เอช เตรียมจำหน่าย iPad Air 2 และ iPad mini 3 วันที่ 27 พ.ย.นี้

admin — Tue, 25 Nov 2014 00:00:00 +0000

ทรูมูฟ เอช ประกาศวางจำหน่าย iPad Air 2 รุ่น WiFi+Cellular และ iPadmini 3 รุ่น WiFi+Cellular 27 พฤศจิกายนนี้ เหนือกว่าด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ อาทิ แพ็กเกจดาต้าที่หลากหลายตอบรับความต้องการของลูกค้าให้สามารถเชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็วผ่าน ผู้นำเครือข่าย 3G และ WiFi อันดับ 1 ครอบคลุมทั่วไทยและ 4G LTE ที่ใช้ได้จริงในเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และใจกลางเมืองอีก 14 จังหวัด

iPad Air 2 แท็บเล็ตที่บางที่สุดในโลก เบากว่า 1 ปอนด์ แต่อัดแน่นด้วยนวัตกรรมสุดล้ำ อาทิ จอแสดงภาพเรติน่ารุ่นใหม่ป้องกันการสะท้อน (anti-reflective) กล้องถ่ายรูประบบ Face Time HD และ iSight รุ่นใหม่ ถ่ายภาพและวิดีโอได้คมชัดยิ่งขึ้น ทรงพลังด้วยชิป A8X 64 บิต รุ่นที่ 2 เพิ่มประสิทธิภาพของ CPU และการทำงานด้านกราฟฟิคการเชื่อมต่อไร้สายทั้ง WiFi และ LTE ที่เร็วกว่าเดิม พร้อมด้วยเซ็นเซอร์สแกนรอยนิ้วมือแบบ Touch ID รุ่นใหม่ของอุตสาหกรรมiPad Air 2 โดดเด่นด้วยความบางและเบาสามารถถือได้อย่างสะดวกสบายทั้งวัน แบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 10 ชั่วโมง ทั้งยังสามารถเข้าสู่แอพพลิเคชั่นที่ออกแบบมาสำหรับ iPad 2 Air โดยเฉพาะกว่า 650,000 แอปพลิเคชั่น iPad Air 2 และ iPad mini 3 มีให้เลือก 3 สีสุดหรู ได้แก่ ทอง เงิน และสเปซเกรย์

ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของ iPad Air 2 รุ่น WiFi+Cellular และ iPad mini 3 รุ่น WiFi+Cellular ได้ที่ทรูช้อป หรือผ่านทางออนไลน์ www.truemove-h.com/ipad ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมและราคาได้ที่ www.truemove-h.com/ipad

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ iPad ได้ที่ www.apple.com/ipad

เลอโนโวจัดเต็ม แท็บเล็ต โน๊ตบุ๊คใหม่ กระชากใจคอไอที เปิดตัวแท็บเล็ตตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้ใช้ โน๊ตบุ๊คภาพคมกระชากใจคอเกมส์

admin — Sat, 27 Sep 2014 00:00:00 +0000

เลอโนโวเปิดตัวผลิตภัณฑ์แท็บแล็ตและโน๊ตบุ๊คใหม่ที่งาน 2014 IFA เลอโนโว “แท็บ เอส 8 (Tab S8)” แท็บเล็ตระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เครื่องแรกที่ใช้ Intel โปรเซสเซอร์ สามารถตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์กการใช้งาน และยังเปิดตัว Y70 Touch ตระกูล Y Series โน้ตบุ๊คสเปคแรงสำหรับเหล่าเกมเมอร์โดยเฉพาะ มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 17 นิ้ว ความละเอียดแบบ Full-HD

นายจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เลอโนโวเปิดตัวผลิตภัณฑ์แท็บแล็ตและโน๊ตบุ๊คใหม่เพื่อเพิ่มตัวเลือกให้ลูกค้าได้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ได้อย่างครอบคลุม ปัจจุบัน เลอโนโวคือผู้ผลิตอุปกรณ์ smart connected devices ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก เรามั่นใจในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ซึ่งในครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้นำโปรเซสเซอร์ Intel มาใช้งาน ซึ่งจะตอบโจทย์ผู้บริโภคคนไทยกำลังมองหาดีไวซ์ที่ใช้งานได้ครอบคลุม เลอโนโว Tab S8 และ โน๊ตบุ๊ค Y70 จะช่วยตอบสนองทุกความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า”

เลอโนโว แท็บ เอส 8 แท็บเล็ตระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์โปรเซสเซอร์คุณภาพจาก Intel

เลอโนโว แท็บ เอส 8 เหมาะสำหรับลูกค้าที่มองหาแท็บแล็บแบบมีสไลต์ รูปลักษณ์บางเบา ราคาสบายกระเป๋า เครื่องมาพร้อมหน้าจอขนาด 8 นิ้ว ความละเอียดจอภาพ 1920×1200 พิกเซล ให้ความคมชัดที่มากกว่า FHD พร้อมกับเทคโนโลยี One Glass Solution ช่วยให้หน้าจอสว่างและให้รายละเอียดได้ดีกว่าจอสัมผัสทัวไป เลอโนโว แท็บ เอส 8 ไม่เพียงแต่เบาบางแต่ยังมาพร้อมกับดีไซน์ที่หรูหรา กล้องหน้าละเอียด 1.6 ล้านพิกเซล และกล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล รูรับแสงขนาด wide F2.2 ช่วยในการถ่ายภาพในที่มืดได้อย่างคมชัด

เลอโนโว แท็บ เอส 8 คือแท็บเล็ตระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เครื่องแรกที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel® Atom quad-core เครื่องบางเพียง 7.87 มิลลิเมตรซึ่งบางเทียบเท่ากับดินสอและหนักเพียง 294 กรัม

เลอโนโวY70 ทัช โน้ตบุ๊คเกมมิ่งประสิทธิสูงสุดสำหรับคอเกมส์

เลอโนโว 70 ทัช มาพร้อมโปรเซสเซอร์ 4th generation Intel® Core i7 และการด์จอจาก NVIDIA GTX จอสัมผัสขนาด 17 นิ้ว ให้ความบันเทิงที่เหนือระดับด้วยภาพระดับ Full-HDและเสียงถูกใจคอเกมส์ ผู้ใช้งานสามารถสร้างสรรค์วีดิโอ แชร์ประสบการณ์ผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ค และสัมผัสประสบการณ์ใหม่ของการเล่นเกมส์

ไม่เพียงแต่ให้หน้าจอแสดงผลแบบสัมผัส ความละเอียด Full-HD ที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินกับความบันเทิงทั้งภาพยนต์ และเกมส์ ระบบเสียงสุดยอดอย่าง Dolby Advanced Audio พร้อมด้วยลำโพง JBL ให้พลังเสียงในการเล่นเกมส์ ดูหนัง ฟังเพลงบนได้อย่างเต็มเปี่ยม พร้อมแป้นพิมพ์ตัวเลขและไฟสีแดงปรับได้สองระดับ

เครื่องมีความหนาราว 25.9 มิลลิเมตร พร้อมด้วยน้ำหนักตัว 3.4 กิโลกรัม บางกว่าและเบากว่าโน้ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ และมีพอร์ตเชื่อมต่อ external สำหรับ DVD และ Blu-ray เลอโนโว Y70 ทัช สามารถเพิ่มความจุได้ถึง 16GB DDR3L, 512GB SSD หรือ 1TB of SSHD พร้อมแบตเตอรี่ใช้งานนาน 5 ชั่วโมง

รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับเลอโนโวได้ทาง RSS feeds หรือติดตามได้ใน Twitter และ Facebook หรือสอบถามข้อมูลด้านผลิตภัณฑ์ที่ http://lenovothailand.com/ โทร. 02-689-6451 หรือ โทรฟรีที่ 1800 060 066

เลอโนโวแนะนำวิธีแก้โรคปวดเมื่อยที่มาจากแท็บเล็ตด้วยเลอโนโว โยก้า แท็บเล็ต

admin — Sat, 06 Sep 2014 00:00:00 +0000

ทุกวันนี้ผู้คนใช้เวลามากมายไปกับการใช้แท็บเล็ตอย่างไม่ต้องสงสัย ไม่ว่าจะมองไปที่ไหน ทั้งร้านกาแฟ รถไฟ หรือห้างสรรพสินค้า หรือแม้กระทั่งสมาชิกในบ้านของพวกคุณ เอะ หรือว่าพวกเขาเอากาวแปะแท็บเล็ตไว้กับมือกันนะ!

ด้วยความทีผู้ใช้ติดแท็บเล็ตมากยิ่งขึ้นทำให้เหล่าผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ หันมาใส่ใจปัญหาด้านสุขภาพมากขึ้นอีกทั้งวิเคราห์หาสาเหตุของความเจ็บปวดตามจุดต่างๆ ภายในร่างกายจากการใช้แท็บเล็ต ไม่ว่าจะเป็น คอ ข้อมือ หรือส่วนอื่นๆ

ด้วยปรัชญาการออกแบบที่สร้างขึ้นจากแนวคิดที่เปี่ยมไปด้วยความเป็นผู้นำทางด้านนวัตกรรม เลอโนโวได้สำรวจลักษณะการใช้งานของผู้ใช้ทั่วไปเพื่อนำมาปรับปรุงและออกแบบให้ได้เหมาะสมตามความต้องการ เป็นผลให้เกิดนวัตกรรมแห่ง โยก้า แท็บเล็ต ครั้งแรก กับแท็บเล็ตมัลติโหมดที่สร้างสรรค์ออกแบบมาได้ตรงกับความต้องการในการใช้งานอย่างแท้จริง

คุณเคยปวดเมื่อยจากการใช้งานแท็บเล็ตหรือคุณจำเป็นต้องใช้แท็บเล็ตในสถานการณ์ที่ลำบากต่อการใช่หรือไม่ นี่เป็นเคล็ดลับจากเลอโนโว ที่จะช่วยให้คุณสามารถใช้แท็บเล็ตได้อย่างลื่นไหลไม่สะดุด

ถ้าคุณปวด

· คอ

· หัวไหล่

สาเหตุ

ปกติแล้วคุณถือแท็บเล็ตอย่างไรละ? เพราะว่าแท็บเล็ตทั่วไปมีน้ำหนักมากถึง 0.7 กิโลกรัม ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่มักจะวางแท็บเล็ตได้ราบๆเพื่อการใช้งาน ซึ่งการวางแบบนั้นส่งผลเสียต่อคอเป็นอย่างมาก

ทางเลือกที่นำมาแก้ปัญหานี้ก็คือ การวางแท็บเล็ตอย่างตั้งฉากเพื่อให้ไหล่ของคุณทั้งสองข้างได้ถูกใช้งานเท่าๆ กัน

วิธีการรักษา

1. ถือแท็บเล็ตโดยเอียงให้ทำมุม 30 องศา เมื่อคุณต้องการพิมพ์ หรือใช้หน้าจอสัมผัส

2. เคลื่อนไหวไปเรื่อยๆ เปลี่ยนตำแหน่งการจับเพื่อเป็นการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ

ไม่ลองไม่รู้

ใช้โยก้า แท็บเล็ตในโหมด HOLD ซึ่งเป็นโหมดสำหรับการถือใช้งานเครื่องในแนวตั้ง เพื่ออ่าน ช้อปออนไลน์ หรือเข้าถึงโซเชี่ยลเน็ตเวิค

การออกแบบแบตเตอรี่ที่เป็นเอกลักษณ์ลักษณะรูปทรงกระบอกช่วยให้จับสะดวกสบาย โดยกำจัดแรงบิดในการถือ ทำให้เกิดสมดุลการกระจายน้ำหนักที่ไม่ซ้ำกัน ซึ่งทำรู้สึกมีน้ำหนักเบาและสะดวกสบายมากขึ้นสำหรับการใช้เป็นระยะเวลานาน

ถ้าคุณปวด

· นิ้วและฝ่ามือ

· ข้อมือ

· ต้นแขน

วิธีการรักษา

หลายคนมักเคยชินกับการออกแรงพิมพ์และกดคีย์บอร์ดหรือเม้าส์แบบหนักๆบนเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ เดสท็อป ทำให้เมื่อให้หน้าจอทัชสกรีนบนแท็บเล็ตเกิดความเคยชินนี้ จึงกดน้ำหนักลงไปแรงเช่นกัน การกดน้ำหนักที่นิ้วมือและข้อมือแรงเกินไปเป็นระยะเวลานานส่งผลให้เกิดโรคกล้ามเนื้อฉีกขาดได้

วิธีการรักษา

1. ขณะที่คุณพิมพ์หรือใช้หน้าจอสัมผัสควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมือของคุณตั้งตรง ขนณะเดียวกันแขนและนิ้วของคุณก็ควรอยู่ในลักษณะที่ผ่อนคลาย

2. ลงทุนซื้อบลูทูธคีย์บอร์ดเพิ่ม เพื่อการพิมพ์ที่ง่ายขึ้นเมื่อสร้างคอนเท็นต์ที่มีเนื้อหามาก

รู้หรือไม่

ใน TILT โหมด หรือโหมดวางนอนของโยก้า แท็บเล็ต แบตเตอรี่ทรงกระบอกของเครื่องนั้นถูกออกแบบมาให้ทำมุมสะดวกสบายต่อการท่องเว็ป เล่นเกมส์ หรือพิมพ์ข้อความต่างๆ นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์คีย์บอร์ดเสริม เพื่อช่วยให้การพิมพ์ของคุณง่ายดายยิ่งขึ้น

ถ้าคุณปวด

· ตา

· ศรีษะ

สาเหตุ

ตัวหนังสือเล็กเกินไป ภาพแสดงผลไม่ชัดเจน ภาพสะท้องมาที่ดวงตามากเกินไป ปัจจัยเหล่านี้ล้วนส่งผลให้การรับภาพทางสายตาเกิดปัญหา และส่งผลไปถึงสมอง ทำให้รู้สึกปวดศรีษะได้

วิธีการรักษา

1 ซิงค์แท็บเล็ตเข้ากับคอมพิวเตอร์เพื่อเพิ่มขนาดหน้าจอ 2 เพิ่มขนาดตัวอักษรที่แสดงบนแท็บเล็ต
3 ปรับการตั้งค่าความสว่างของหน้าจอแท็บเล็ต
4 กระพิบดวงตาของคุณ!

รู้หรือไม่

เอกลักษณ์ของโยคะแท็บเล็ต ในโหมดตั้งตรงหรือ STAND โหมดช่วยให้ผู้ใช้สะดวกสบายและเพลิดเพลินเป็นอย่างมาก กับการรับชมวีดีโอ การแชท และการฟังเพลง ของคุณจะง่ายดายโดยไม่จำเป็นต้องใช้มือคอยจับอีกต่อไป

ราคาและการวางจำหน่าย

เลอโนโว โยก้า แท็บเล็ต หน้าจอขนาด 8 นิ้ว พร้อมวางจำหน่ายที่ราคา 8,990 บาท

เลอโนโว โยก้า แท็บเล็ต หน้าจอขนาด 10 นิ้ว พร้อมวางจำหน่ายที่ราคา 11,490 บาท (ฟรีคีย์บอร์ด)

เลอโนโว โยก้า แท็บเล็ต หน้าจอขนาด 10 นิ้ว HD พร้อมวางจำหน่ายที่ราคา 13,990 บาท (ฟรีคีย์บอร์ด)

รับข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับเลอโนโวได้ทาง RSS feeds หรือติดตามได้ใน Twitter และ Facebook หรือสอบถามข้อมูลด้านผลิตภัณฑ์ที่ http://lenovothailand.com/ โทร. 02–689–6451 หรือ โทรฟรีที่ 1800

ไมโครซอฟท์เปิดตัว Surface Pro 3 สร้างนิยามใหม่ของการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ

admin — Mon, 01 Sep 2014 00:00:00 +0000

ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย เปิดตัว Surface Pro 3 เดินหน้าบุกเบิกนวัตกรรมดีไวซ์กลุ่มใหม่ ที่มอบประสิทธิภาพสูงระดับเดียวกับแล็ปท็อปพีซีเต็มรูปแบบ ในรูปลักษณ์บางเบาของแท็บเล็ต ภายใต้แนวคิด “แท็บเล็ตที่สามารถแทนที่แล็ปท็อปของคุณ” พร้อมวางจำหน่ายผ่านร้านค้าตัวแทนจำหน่าย บานาน่า ไอที และ ไอที ซิตี้ ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

Surface Pro 3 เป็นดีไวซ์หนึ่งเดียวที่สามารถนำคุณสมบัติที่ผู้บริโภคต้องการในแท็บเล็ตและแล็ปท็อปมารวมอยู่ในเครื่องเดียวอย่างลงตัว ครบครันด้วยการออกแบบเพื่อฟังก์ชันการใช้งาน ความคล่องตัว และความบันเทิงสูงสุด ด้วยตัวเครื่องที่มีความบางเพียง 9 มิลลิเมตร น้ำหนักเพียง 800 กรัม แต่เปี่ยมด้วยพลังของโปรเซสเซอร์ อินเทล^® คอร์ เจนเนอเรชั่นที่ 4 Surface Pro 3 จึงถือเป็นพีซีที่บางและเบาที่สุดที่เคยมีมา ส่วนหน้าจอคมชัดระดับ Full HD ขนาด 12 นิ้ว ขาตั้งที่ปรับระดับกว่า 150 องศา ปากกา Surface Pen ลำโพงระบบ Dolby® Audio และแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานถึง 9 ชั่วโมง ก็พร้อมมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมในทุกโอกาส ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรือการพักผ่อน

Surface Pro 3 มาคู่กับ Surface Pen ปากกาพิเศษที่สามารถอ่านแรงกดได้ถึง 256 ระดับ จึงทำให้การวาดภาพหรือการเขียนงานเป็นธรรมชาติ ราวกับใช้ปากกาและกระดาษจริง ส่วนอุปกรณ์เสริมอย่าง Surface Pro Type Cover (วางจำหน่ายแยกต่างหาก) ช่วยแปลงโฉมแท็บเล็ตให้กลายเป็นแล็ปท็อปเต็มรูปแบบในชั่วพริบตา ผนวกกับระบบปฏิบัติการ วินโดวส์ 8.1 โปร ที่มอบฟังก์ชันการใช้งานครบครันด้วยแอพพลิเคชั่นคุณภาพของวินโดวส์ที่คุ้นเคยและแอพสำหรับทัชสกรีนกว่า 155,000 แอพบนวินโดวส์ สโตร์

ฮาเรซ คูบจันดานิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ไมโครซอฟท์มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อการทำงานบนแพลตฟอร์มที่ตอบสนองได้ทุกความต้องการในโลกยุคโมบายและคลาวด์ เราจึงมุ่งสร้างสรรค์ประสบการณ์การทำงานและการใช้ชีวิตดิจิตอลเพื่อผู้บริโภคอย่างถึงที่สุด ปัจจุบัน มีผู้ใช้งานวินโดวส์ทั่วโลกกว่า 1.5 พันล้านคน ในรูปแบบของดีไวซ์ที่หลากหลายทั้งในรูปลักษณ์และขนาด และในวันนี้ เราก็พร้อมนำเสนอ Surface Pro 3 อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยคุณสมบัติที่ผู้บริโภคจำนวนมากกำลังมองหาอยู่ ด้วยการออกแบบที่ผสมผสานความสมดุลและคล่องตัวของแท็บเล็ต และศักยภาพการใช้งานเต็มรูปแบบของแล็ปท็อป เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ดีเยี่ยมยิ่งขึ้น”

ผลสำรวจคนไทยในวัยทำงานจำนวน 400 คนของไมโครซอฟท์ ชี้ให้เห็นว่า คนไทยมากถึง 85 % ยังใช้แล็ปท็อปเพื่อการทำงานเพียงอย่างเดียวและหันมาใช้แท็บเล็ตเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ซึ่งนับเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดในบรรดา 8 ประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิคในการสำรวจครั้งนี้ ด้วยเหตุนี้เอง คนไทยวัยทำงานกว่า 3 ใน 4 จึงมีดีไวซ์ในครอบครองมากกว่า 3 เครื่อง ทั้งสมาร์ทโฟน แล็ปท็อป แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เพื่อการใช้งานที่แตกต่าง และกว่า 58% ยังต้องพกพาทั้งแล็ปท็อปและแท็บเล็ต สถิติเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความต้องการดีไวซ์ใหม่ๆ ที่สามารถทำงานได้จริง เพราะยังไม่มีแท็บเล็ตหรือดีไวซ์พกพาใดๆ ที่สามารถทดแทนความสามารถรวมของทั้งสองดีไวซ์ในการทำงาน การสื่อสาร และความบันเทิงสูงสุดได้อย่างแท้จริง

เอกราช ปัญจวีณิน ผู้อำนวยการฝ่ายการบริหารสินค้าคอนซูเมอร์ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) เสริมว่า “ไลฟ์สไตล์การทำงานและการใช้ชีวิตในยุคสมัยนี้มีความทับซ้อนและผสมผสานกัน จึงส่งผลให้ผู้บริโภคมองหาดีไวซ์ที่ช่วยให้การผสมผสานดังกล่าวง่ายและราบรื่นขึ้น เช่น Surface Pro 3 ซึ่งเหมาะสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการประสบการณ์เหนือชั้นของแล็ปท็อปพร้อมกับคุณสมบัติต่างๆ ของแท็บเล็ต ด้วยเหตุนี้เอง ผู้บริโภคในประเทศไทยจึงให้การตอบรับ Surface Pro 3 อย่างอบอุ่น จนกลายเป็นดีไวซ์ตระกูล Surface ที่มียอดขายรวดเร็วที่สุดในประเทศไทย”

ด้วยคุณสมบัติที่เอื้อต่อการใช้งานแบบเอนกประสงค์ ทั้งในด้านประสิทธิภาพ การบริหารจัดการ และความปลอดภัย บริษัทระดับโลกหลายแห่งจึงวางใจเลือกใช้ Surface Pro 3 แทนที่แล็ปท็อปภายในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นบีเอ็มดับเบิ้ลยู กรุ๊ป, โคคา โคล่า หรือ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ หลุยส์ วิตตอง

ราคาและอุปกรณ์เสริม

Surface Pro 3 มีวางจำหน่ายทั้งหมด 5 รุ่น ในราคาเริ่มต้นที่ 29,500 บาท โดยทุกรุ่นมาพร้อมปากกา Surface Pen

Intel Core i3 / 64GB                                             29,500 บาท
Intel Core i5 / 128GB                                           35,500 บาท
Intel Core i5 / 256GB                                           44,500 บาท
Intel Core i7 / 256GB                                           53,900 บาท
Intel Core i7 / 512GB                                           69,900 บาท

คีย์บอร์ด Surface Pro Type Cover ที่มาพร้อมกับห่วงคล้องปากกา (Pen Loop) วางจำหน่ายที่ราคา 4,490 บาท

นอกจากการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยในวันที่ 28 สิงหาคมนี้ Surface Pro 3 ยังมีกำหนดวางจำหน่ายพร้อมกันใน 28ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศออสเตรเลีย ออสเตรีย เบลเยียม จีน เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี ฮ่องกง ไอร์แลนด์ อิตาลี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ลักเซมเบิร์ก มาเลเซีย เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ โปรตุเกส สิงคโปร์ สเปน สวีเดน ไต้หวัน และสหราชอาณาจักร

องค์กรที่สนใจสั่งซื้อ Surface Pro 3 เพื่อการใช้งานในภาคธุรกิจ สามารถรับข้อเสนอพิเศษในช่วงพรีออเดอร์ได้ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 15 สิงหาคม โดยติดต่อตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย ได้แก่ บริษัท แอด อิน บิซิเนส จำกัด บริษัท ภัทร โปรเกรส จำกัด บริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) บริษัท เมโทรซิสเต็มส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด

ทำธุรกิจฉลุยด้วยผู้ช่วยมือโปร Samsung Business Solutions

admin — Mon, 01 Sep 2014 00:00:00 +0000

หากคุณเริ่มต้นธุรกิจเอสเอ็มอีด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ และวาดฝันไว้สวยหรูว่าสักวันจะประสบความสำเร็จ จนกระทั่งตั้งตัวได้อย่างยั่งยืน แต่แล้วสิ่งที่คาดหวังไว้กลับไปไม่ถึงฝั่งฝันเสียที นั่นก็ถึงเวลาที่คุณควรจะสำรวจสุขภาพธุรกิจของคุณแล้วเพราะบางทีความสำเร็จไม่ใช่แค่ทุ่มเทหรือตั้งใจ แต่มีสาเหตุมาจากการขาดเครื่องมื่อที่ดีอย่าง Samsung Business Solutions ที่จะเป็นผู้ช่วยมือโปรให้คุณสามารถขับเคลื่อนธุรกิจ SME ไปได้อย่างสะดวก รวดเร็วคล่องตัว และมีประสิทธิภาพ

เอาล่ะ! ถึงเวลาที่จะเปลี่ยนธุรกิจของคุณจากขาดทุนเป็นกำไรกันแล้ว

ยกตัวอย่างว่า ถ้าคุณทำธุรกิจร้านอาหาร เริ่มแรกก็ดูมีทิศทางที่สดใส ร้านก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนต้องเพิ่มพนักงาน แน่นอนว่าหากไม่มีการนำ ‘เทคโนโลยี’ มาใช้ ก็จะทำให้เกิดความยุ่งยากหลายประการตามมา และอาจทำให้ธุรกิจของคุณสะดุดลงอย่างไม่คาดคิด เอาเฉพาะด่านหน้าที่ต้องรับออเดอร์จากลูกค้า อาจมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นได้เช่น สั่งหมูได้เนื้อ สั่งเนื้อได้ไก่ อาหารหมดอายุโดยที่พ่อครัวและคุณไม่ทันรู้ตัว เพราะการวางแผนสต็อกสินค้าไม่ดี ฯลฯ

ลองดูเช็คโซลูชั่นเบื้องต้นเหล่านี้ แล้วคุณจะรู้ว่าเหตุใด Samsung Business Solutions จึงเป็นเหมือนคู่คิดของธุรกิจคุณ ที่จะช่วยให้คุณก้าวข้ามปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างสบายใจ

E-queue Solution – สามารถให้ลูกค้าจองคิวและที่นั่งในร้านค้า สามารถจองผ่านออนไลน์ได้ ไม่ต้องรอคิวหน้าร้านอีกต่อไป

E-Menu Solution – ลูกค้าสามารถเลือกรายการอาหารได้จากหน้าจอซัมซุง แท็บเล็ต

Ordering Solution – ส่งออเดอร์อย่างถูกต้องและรวดเร็วไปยังห้องครัวได้ทันที

Mobile Payment Solution – ชำระเงินง่ายๆ เพียงปลายนิ้วสัมผัส ผ่านซัมซุงสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้เครื่องรูดบัตร

E-Meeting Solution – แชร์ข้อมูลการประชุมระหว่างซัมซุง แท็บเล็ตได้มากที่สุดถึง 20 เครื่อง

Screen Mirroring – แชร์ข้อมูลการประชุมจากซัมซุง แท็บเล็ตไปยังจอซัมซุงสมาร์ททีวีแบบไร้สาย ไม่ต้องเสียเวลากับการจัดเตรียมเอกสารการประชุม ทำให้ลดขั้นตอน ประหยัดเวลา และทำให้การประชุมมีประสิทธิภาพมากขึ้น

หมดกังวล ไร้ปัญหาจุกจิกกวนใจ ตราบใดที่คุณมี Samsung Business Solutions ที่นำเสนอโซลูชั่นอื่นๆ อีกมากมาย ก้าวข้ามธุรกิจแบบเดิมๆ เพิ่มโอกาสให้คุณประสบความสำเร็จ

ฟรี! คำปรึกษาจากซัมซุง เพื่อช่วยธุรกิจของคุณให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น คลิกที่นี่

พิเศษ เพียงลงทะเบียนวันนี้-31 ต.ค. 57 ลุ้นรับตั๋วเครื่องบินไป-กลับ พร้อมที่พัก 2 คืน โรงแรม Sofitel Krabi Phokeethra Golf & Spa Resort 1 รางวัล (จำนวน 2 ที่นั่ง)

หรือเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Samsung Business Solutionsได้ที่ www.samsung.com/th/business โทร 02-118-1049 และ 02-118-1025

Surface 2 Your ‘Tablet’ Choice with Kickstand

admin — Thu, 29 May 2014 00:00:00 +0000

จากกระแสที่สร้างปรากฎการณ์โด่งดังในโซเชี่ยล มีเดีย ทั้งอินสตาแกรม ทวิตเตอร์ เฟซบุ๊กและเว็บไซต์ต่างๆได้พูดถึงเทรนด์การถ่ายรูปแบบ #Kickstanding โดยมีเหล่าดาราและนักร้องวัยรุ่นอย่าง มาร์ช-จุฑาวุฒิ, เก้า-สุภัสสรา, หน่อง-ธนา, เขื่อน K-otic, ทับทิม-VRZO และอีกมากมายรวมไปถึงเน็ตไอดอลจำนวนมาก ต่างก็สร้างสรรค์ท่าโพสต์แบบ #Kickstanding จนแพร่หลายในกลุ่มคนวัยมัน เทรนด์นี้ทำเอาการถ่ายรูปแบบต่างๆที่เคยฮอตฮิตมาอย่าง Planking ต้องหลบไป

ในที่สุดเทรนด์ถ่ายรูปแนวใหม่ ‘Kickstanding’ ดังกล่าว ก็ได้รับการเปิดเผยแล้วว่า นี่คือสุดยอดไวรัลแคมเปญของ ‘Surface 2’ แท็บเล็ตล้ำๆ จากไมโครซอฟท์ ที่เชื่อมโยงกับฟังก์ชั่นโดนๆที่ไม่เหมือนใครอย่าง‘Kickstand’ และสะท้อนถึงบุคลิกที่สนุก สร้างสรรค์ และกล้าที่จะแตกต่างอย่างโดดเด่นได้เป็นอย่างดี

Surface 2 อุปกรณ์แท็บเล็ตที่มีความสามารถดีเด่นเสมือนแล็ปท็อป เหมาะกับการใช้งานตลอดทั้งวัน นอกจากประสิทธิภาพล้นตัวที่พัฒนาเพิ่มเติมจากรุ่นก่อนหน้า คราวนี้ฟังก์ชั่นพิเศษและเป็นเอกลักษณ์อย่าง‘Kickstand’ หรือขาตั้งเอนกประสงค์ ที่ติดตั้งมากับตัวเครื่อง สามารถปรับระดับการเอนได้เพิ่มเป็น 2 ระดับ ด้วยกัน คือ 20 องศา และ 40 องศา ด้วยคุณสมบัติดังกล่าว ทำให้ผู้ใช้งานสามารถปรับระดับการเอนให้เหมาะสมกับระดับสายตาและมุมมองการใช้งานได้อย่างสะดวกสบายไม่ว่าจะเป็นบนโต๊ะหรือบนตัก จะยืน นั่ง หรือนอนทำงานเอกสาร ด้วยโปรแกรม Office 2013 RT ( Outlook, Word, Excel, PowerPoint และ OneNote) อ่านอีบุ๊ก เล่นเกม และดูหนังด้วยระบบเสียงที่ทรงพลังมากขึ้นด้วยลำโพงสเตอริโอ Dolby® sound อีกทั้งยังสนุกกับการถ่ายรูปโดยใช้กล้องหน้าและกล้องหลังที่คมชัด

ที่น่าสนใจคือเราสามารถดัน Kickstand ออกมาใช้ได้ทุกเวลา และพับเก็บได้เมื่อไม่ต้องการ จึงตอบโจทย์สโลแกนที่ว่า One device for everything in your life ได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกันก็ยังคงตอบสนองจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ของผู้ใช้งาน สมกับเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพจากไมโครซอฟท์

เท่านั้นยังไม่พอ Surface 2 ยังมาพร้อมกับคุณสมบัติที่เร็วกว่า แรงกว่า บางเก่า และเบากว่า เพราะมีน้ำหนักเพียง 676 กรัม มาพร้อมกับขนาด 10.81 x 6.79 x 0.35 นิ้ว และระบบปฏิบัติการ Windows RT 8.1 ทำให้ใช้งานได้อย่างลื่นไหล พกติดตัวไปได้ทุกที่อย่างสะดวกสบาย แถมแบตเตอรี่ยังอยู่ได้นาน 10 ชม. (ถ้าคุณเหงาและเบื่อขณะเดินทางไกล ซีรี่ย์เรื่องโปรดที่คุณดาวน์โหลดมา จะอยู่เป็นเพื่อนคุณตลอดไฟล์ท) สำหรับการเล่นวิดีโอต่อเนื่อง และเปิดสแตนด์บายได้นาน 7-15 วัน แถมยังมีแอพพลิเคชั่นคุณภาพจากไมโครซอฟท์กว่า 100,000 แอพฯ ให้ดาวน์โหลดมาใช้งาน

จากที่กล่าวมาทั้งหมด จึงเป็นเหตุผลว่า ทำไม Surface 2 จึงเป็นแท็บเล็ตที่ครบเครื่อง และเป็นตัวเลือกที่ใช่สำหรับคุณ

เกี่ยวกับ ‘ไมโครซอฟท์’

บริษัท ไมโครซอฟท์ (NASDAQ “MSFT”) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2518 ที่เมืองซีแอตเทิล ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นผู้นำระดับโลกด้านบริการซอฟต์แวร์ โซลูชั่น และดีไวซ์ที่ช่วยเสริมสร้างศักยภาพของผู้ใช้งานส่วนบุคคลและองค์กรธุรกิจ

บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขึ้นในปี 2536 บริษัทฯ เสนอซอฟต์แวร์ชั้นนำระดับโลกที่ใช้งานง่ายและเหมาะกับความต้องการของผู้ใช้คนไทย ตลอดจนแพลตฟอร์มที่ช่วยให้องค์กรธุรกิจพัฒนาโซลูชั่นที่ตรงตามความต้องการอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถรองรับได้ตั้งแต่คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คไปจนถึงเครื่องขนาดใหญ่ระดับเมนเฟรม เพื่อให้สอดคล้องกับการขยายตัวของจำนวนผู้ใช้คอมพิวเตอร์ในประเทศไทย นอกจากนี้ยังนำเสนอดีไวซ์ส่วนบุคคลที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่อีกด้วย หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ของไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) http://www.microsoft.com/thailand