โครงการฉีดวัคซีนแลกส่วนลดนี้ ครอบคลุมทั้งบริการสั่งอาหารและเเละเรียกแท็กซี่ มีบริษัทเทคยักษ์ใหญ่เข้าร่วมอย่าง Uber, Bolt, Deliveroo และ Pizza Pilgrims ซึ่งรายละเอียดเงื่อนไขต่างๆ กำลังจะเปิดเผยในเร็วๆ นี้
ปัจจุบัน หนุ่มสาวชาวอังกฤษที่มีอายุระหว่าง 18-29 ปี ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มแรกไปแล้วราว 67% หรือคิดเป็น 2 ใน 3 หลังจเปิดให้ลงทะเบียนฉีดวัคซีนได้ ตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ขณะที่ประชากรกลุ่มผู้ใหญ่ ได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกราว 88.5% เเละฉีดครบ 2 เข็มแล้วมากกว่า 72%
‘Uber’ ได้ส่งข้อความแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้งานทุกคน สนับสนุนให้ไปเข้ารับการฉีดวัคซีนเพื่อแลกกับส่วนลดค่าแท็กซี่และค่าอาหาร
ส่วน Bolt ผู้ให้บริการเรียกแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชันอีกราย กำลังอยู่ในช่วงเตรียมการเสนอ ‘free ride credit’ เพื่อใช้บริการแท็กซี่ เพื่อเดินทางไปยังศูนย์ฉีดวัคซีนได้ฟรีอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีฟู้ดเดลิเวอรี่เจ้าดังอย่าง Deliveroo ที่พร้อมจะให้บัตรกำนัลแก่คนหนุ่มสาวที่เข้ารับการฉีดวัคซีนเเล้ว
ทางกรมอนามัยของสหราชอาณาจักร ยังจะมีข้อเสนอจูงใจเพื่อฉีดวัคซีนออกมาอีกเรื่อยๆ เช่น บัตรกำนัลหรือส่วนลดร้านอาหาร สำหรับผู้ที่ไปเข้ารับการฉีดวัคซีนตามจุดฉีดวัคซีนแบบป๊อปอัพสโตร์ หรือจุดฉีดวัคซีนชั่วคราว จองผ่านช่องทางออนไลน์ของระบบบริการสุขภาพแห่งชาติ (NHS)
โดยรัฐบาล กำลังเจรจากับบริษัทเอกชนอื่นๆ เพื่อให้ส่วนลดในร้านกาแฟ ร้านอาหาร และตั๋วชมภาพยนตร์ จะตามมาในเร็วๆ นี้
อังกฤษ ตั้งเป้าจะเพิ่มจำนวนการ ‘ฉีดวัคซีน’ ให้ได้มากที่สุดก่อนหมดช่วงฤดูร้อนในเดือนสิงหาคม เเละมีการระดมเปิดศูนย์ฉีดวัคซีนแบบป๊อปอัพสโตร์ทั่วประเทศเเล้ว
เช่นเดียวกับรัฐบาลในหลายประเทศที่ออกนโยบาย จูงใจให้ประชาชนฉีดวัคซีนด้วย ‘ของรางวัล’ อย่างสหรัฐฯ ที่มีการเเจกเบียร์, พิซซ่า, ตั๋วรถไฟ รวมถึงกลยุทธ์ ‘vaccine lottery’ ที่รัฐโอไฮโอ สุ่มเเจกเงินรางวัลคนละ 1 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 31 ล้านบาท พร้อมมอบทุนการศึกษาเรียนมหาวิทยาลัย 4 ปีเต็มให้เยาวชน
เเละล่าสุด ‘นิวยอร์ก’ ประกาศแจกเงินคนละ 100 เหรียญ (ราว 3,300 บาท) เพื่อเร่งให้คนมาฉีดวัคซีนเพื่อสกัดไวรัสสายพันธุ์ “เดลตา” ที่ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นด้วย
ที่มา : BBC
]]>Bolt บริการเรียกรถโดยสาร เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ “Bolt Ladies” ให้ผู้โดยสารหญิงสามารถเลือกเรียกรถเฉพาะที่เป็น “คนขับหญิง” เท่านั้นได้ โดยราคาโดยสารจะเท่ากับ Bolt ปกติ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
ทั้งนี้ Positioning ตรวจสอบพบว่า Bolt มีตัวเลือกบริการที่ถูกที่สุดเรียกว่าแบบ Economy ซึ่งถูกกว่าปกติ 20-30% ทำให้การเลือก Bolt Ladies จะมีราคาสูงกว่าตัวเลือกถูกที่สุดที่แอปฯ Bolt มีให้เลือก
บริการนี้จะเป็นประโยชน์กับฝั่งคนขับหญิงด้วย เพราะถ้าหากคนขับหญิงพบว่าผู้โดยสารที่เรียกรถผ่านฟีเจอร์ Bolt Ladies เป็นผู้ชาย ไม่ใช่ผู้หญิงจริงตามที่กรอกประวัติ คนขับสามารถปฏิเสธงานได้โดยไม่เสียค่าปรับ
นอกจากนี้ Bolt ยังนำเสนอฟังก์ชัน ‘Share my ETA’ ในแอปพลิเคชันให้ผู้โดยสารกดคัดลอกลิงก์ส่งไปยังเพื่อนหรือญาติสนิท เพื่อให้บุคคลที่ไว้ใจติดตามการเดินทางของผู้โดยสารได้แบบเรียลไทม์ ทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นเพื่อสร้างความสบายใจให้ผู้หญิงที่เดินทางคนเดียว
การเปิดฟีเจอร์ Bolt Ladies ครั้งนี้ เป็นไปได้ว่าเกิดจากแรงกดดันหลังผู้โดยสาร Bolt แจ้งความดำเนินคดีข่มขืนกับคนขับ Bolt ในพื้นที่เมืองพัทยา โดยผู้ถูกกล่าวหาให้การปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม Positioning ได้สอบถามไปยังบริษัท Bolt ซึ่งระบุว่าบริษัททราบกรณีดังกล่าวแล้ว และอยู่ระหว่างการสืบสวนพร้อมให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างเต็มที่ และจะไม่อดทนต่อพฤติกรรมของคนขับในกรณีเช่นนี้
เหตุการณ์คดีข่มขืนดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงประมาณวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2564 และมีผู้ใช้ทวิตเตอร์เล่าเหตุการณ์ในวันที่ 21 มีนาคม 2564 ทำให้เกิดกระแสฮือฮาในอินเทอร์เน็ตว่าบริการ Bolt อาจไม่ปลอดภัย หลายคนแสดงความกังวลและระบุว่าจะเลิกใช้แอปฯ นี้ (อ่านเนื้อหาเพิ่มเติมได้จาก BrightTV)
Positioning จึงสอบถาม Bolt เพิ่มเติมเพื่อขอทราบขั้นตอนการตรวจสอบคนขับรถ โดยเฉพาะการตรวจประวัติอาชญากรรม ซึ่งบริษัท Bolt ชี้แจงมีการตรวจสอบเอกสารผู้สมัครขับรถ ได้แก่ ใบขับขี่ ข้อมูลทะเบียนรถ และบัตรประชาชน จากนั้นจะมีการอบรมมาตรฐานการขับขี่ โดยไม่ได้แจ้งว่ามีการตรวจประวัติอาชญากรรม
สำหรับ Bolt เข้ามาเปิดตัวในไทยเมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 ปัจจุบันมีบริการอย่างเป็นทางการ 2 เมืองคือ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล และ เชียงใหม่ ชูจุดเด่นราคาถูกกว่าบริการเรียกรถอื่น 20% บางกรณีอาจถูกกว่าแท็กซี่ปกติด้วย รวมถึงระยะแรกยังไม่เก็บค่าคอมมิชชันจากคนขับรถ ขณะที่ระยะต่อไปจะเก็บเพียง 10-20% ซึ่งน้อยกว่าบริการเรียกรถอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม การไม่มีระบบตรวจประวัติอาชญากรรมอาจเป็นช่องโหว่ที่ทำให้ผู้ใช้ไม่ไว้วางใจ เมื่อเทียบกับบริการอื่น เช่น Grab ซึ่งจะตรวจประวัติอาชญากรรมย้อนหลัง 7 ปี หากมีคดีร้ายแรงติดตัว เช่น ฆาตกรรม ข่มขืน ปล้นทรัพย์ เมาสุราขณะขับรถ ยาเสพติด ฯลฯ จะถูกตัดสิทธิ์ไม่ผ่านเกณฑ์ร่วมขับขี่ หรือแท็กซี่ปกติที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกก็จะต้องผ่านการตรวจประวัติอาชญากรรมเช่นกัน
Bolt นั้นเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในเอสโตเนีย ปัจจุบันบริการอยู่ใน 40 ประเทศทั่วโลก โดยส่วนใหญ่เปิดตัวในยุโรปและแอฟริกา ส่วนทวีปเอเชียนั้นมีบริการในไทย ศรีลังกา คาซัคสถาน อิรัก เลบานอน และซาอุดีอาระเบีย
]]>หลังจากที่ Uber ได้ม้วนเสื่อ ถอยทัพจากตลาดไทยไปหลายปี ทำให้ประเทศไทยดูเหมือนจะผูกขาดกับแอปพลิเคชันเรียกรถอยู่รายเดียวก้คือ “แกร็บ (Grab)” ทำให้กลไกตลาดขาดเรื่องของการแข่งขัน ราคาไปโดยปริยาย
แต่ล่าสุดได้มีน้องเข้ามาบุกตลาด เพื่อเป็นคู่แข่งรายใหม่ของแกร็บเป็นที่เรียบร้อย นั่นคือ Bolt เป็นแพลตฟอร์มให้บริการขนส่งจากประเทศเอสโทเนีย เริ่มก่อตั้งในปี 2013 ตอนนี้มีอายุได้ 6 ปีแล้ว
ภาพรวมธุรกิจเมื่อสิ้นปี 2019 Bolt ได้ทำตลาดใน 150 เมือง จาก 35 ประเทศ ส่วนใหญ่อยู่ในยุโรป, แอฟริกา, แอฟริกาเหนือ, เอเชียตะวันตก และอเมริกาเหนือ มีฐานลูกค้ารวม 30 ล้านคน และมีพาร์ตเนอร์คนขับรวม 1 ล้านคน
บริการของ Bolt ไม่ได้แตกต่างจากผู้เล่นรายอื่นเท่าไหร่นัก มีตั้งแต่บริการขนส่ง รถยนต์, มอเตอร์ไซค์, สกู๊ตเตอร์ และเพิ่งเปิดบริการส่งอาหารหรือ Bolt Food เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2019 นี้เอง
ตอนนี้ Bolt ประกาศทดลองเปิดให้บริการในกรุงเทพฯ ประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว โดยมีคนขับพร้อมให้บริการแล้วกว่า 2,000 คน
Bolt เปิดให้ดาวน์โหลดฟรี รวมถึงคนขับรถที่สนใจเข้าร่วมในแพลตฟอร์มนี้สามารถหารายได้ได้ง่ายๆ เพียงกดรับงานภายในแอปพลิเคชัน หากสนใจร่วมเป็นคนขับของ Bolt เพียงมีรถยนต์เป็นของตัวเองพร้อมใบอนุญาตต่างๆ ที่ถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับ
ในการทำตลาดในไทยใน 6 เดือนแรก Bolt ประเทศไทย จะยกเว้นการเก็บค่าคอมมิชชั่นจากคนขับ และมอบส่วนลดค่าโดยสารที่ต่ำกว่าคู่แข่งเจ้าอื่นๆ ในตลาด 20%
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Bolt ได้แล้วผ่าน App Store หรือ Google Play หลังลงทะเบียนเพื่อเริ่มใช้งานผู้โดยสารสามารถเรียกใช้บริการเรียกรถโดยสารได้ง่ายๆ เพียงเปิดแอปฯ ใส่พิกัดที่จะให้ไปรับพร้อมจุดหมายปลายทาง แอปฯ ก็จะประเมินค่าเดินทางให้เรียบร้อย หลังจากผู้โดยสารกดยืนยันผู้โดยสาร ตัวแอปฯ จะทำการแจ้งคนขับที่อยู่บริเวณรอบๆ เพื่อกดรับงาน
หลังจากคนขับกดรับงานจากผู้โดยสารแล้ว ผู้โดยสารจะสามารถเห็นข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ ที่จำเป็นของคนขับ ทั้งยังสามารถรู้พิกัดของรถที่จะมารับได้อย่างเรียลไทม์ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าผู้โดยสารจะขึ้นรถได้ถูกต้อง และเมื่อถึงที่หมายปลายทางผู้โดยสารสามารถชำระค่าโดยสารได้ด้วยเงินสดในระยะแรกของการเปิดตัว
]]>