COMMY – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 27 Dec 2023 05:08:13 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 ‘Commy’ มองตลาด ‘อุปกรณ์เสริม’ โตสวนทางตลาดสมาร์ทโฟน เพราะของแพงต้องใช้นาน เลยต้องดูแลมากขึ้น https://positioningmag.com/1457304 Wed, 27 Dec 2023 03:27:07 +0000 https://positioningmag.com/?p=1457304 หากพูดถึงตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกและไทย ต้องยอมรับว่าหดตัวมาตั้งแต่ปีที่ผ่านมา แต่ถ้าเป็นตลาด อุปกรณ์เสริม ที่มีการประเมินว่าจะมีมูลค่าประมาณ ครึ่งหนึ่ง ของตลาดสมาร์ทโฟน อาจจะไม่ได้หดตัวตาม เพราะคนหันมาดูแลสมาร์ทโฟนตัวเองมากขึ้น เพื่อยืดอายุการใช้งานในช่วงเศรษฐกิจที่ไม่ดีแบบนี้

คนใช้มือถือนานขึ้น แบตฯ เลยขายดี

คอมมี่ (Commy) หนึ่งในแบรนด์ไทยที่อยู่ในตลาดมานานกว่า 30 ปีตั้งแต่ยุค โนเกีย ดังนั้นเชื่อว่าหลายคนน่าจะผ่านหูผ่านตากับคอมมี่มาบ้าง โดยปัจจุบันคอมมี่ได้ถูกส่งต่อมาถึงเจนสองอย่าง แพรว-อรปรียา มโนวิลาส รองประธานกรรมการ บริษัท คอมมี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด โดย อรปรียา มองว่า ด้วยสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ขณะที่ราคาสมาร์ทโฟนก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ ผู้บริโภคเปลี่ยนมือถือช้าลง จากอดีตอาจจะเปลี่ยนปีละเครื่อง แต่ปัจจุบัน เฉลี่ย 2 ปีขึ้นไป ทำให้ผู้บริโภคหันมาถนอมมือถือมากขึ้น และเลือกจะ เปลี่ยนแบตฯ เพื่อยืดอายุการใช้งาน

“ไม่มีการเก็บข้อมูลตลาดอุปกรณ์เสริมชัดเจน เพราะมันจะมีสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาเยอะ แต่เชื่อว่าตลาดในไทยเติบโต” อรปรียา กล่าว

แพรว-อรปรียา มโนวิลาส รองประธานกรรมการ บริษัท คอมมี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด

แบตฯ โตสุด ฟิล์มไฮโดรเจลกำลังมา

สำหรับรายได้ของคอมมี่คาดว่าจะอยู่ที่ 200 ล้านบาท เติบโต 10% โดยปัจจุบันคอมมี่มีสินค้ากว่า 100 รายการ แบ่งได้เป็น 5 กลุ่มหลัก ๆ ได้แก่ 

    • แบตเตอรี่ ทั้งในกลุ่ม Power Bank และแบตเตอรี่สมาร์ทโฟน
    • ฟิล์มกันรอยในกลุ่มฟิล์มไฮโดรเจล 
    • หัวชาร์จละสายชาร์จสำหรับไอโฟน
    • หูฟัง, ลำโพงบลูทูธ
    • สุขภาพ เช่น เครื่องฟอกอากาศในรถ หน้ากาก N95 และเครื่องวัดหรือทำออกซิเจน 

โดย แบตเตอรี่ เป็นกลุ่มที่เติบโตสูงสุดถึง 250% ขณะที่ Power Bank ก็ถือเป็นสินค้าที่ยังขายได้ โดยเฉพาะหน้าเทศกาล เช่น ช่วงสิ้นปีหรือก่อนสงกรานต์ ส่วน ฟิล์มกันรอยในกลุ่มฟิล์มไฮโดรเจล ก็ได้รับความนิยมมากขึ้น ส่วน หัวชาร์จมือถือ ก็ได้รับความนิยมสูงขึ้น เพราะหลายแบรนด์เลิกแถม และตอนนี้มอก. มีผลบังคับใช้ถึงกลุ่มหัวชาร์จมือถือแล้ว ทำให้ต่อไปก็ต้องขายเป็นขากลม Type-O ของประเทศไทย ใช้ขาแบนไม่ได้ ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้แบรนด์เล็ก ๆ จากต่างประเทศหายไป

“ฟิล์มกระจกต้องมีรุ่นเป๊ะ ยิ่งจอโค้งทำให้ปัญหาเยอะ เราเลยทำไฮโดรเจลเป็นหลัก ซึ่งผู้บริโภคแม้ยังติดภาพและชอบสัมผัสกระจก แต่พอปัญหาเยอะคนก็เริ่มเปลี่ยน ร้านเองก็ชอบมากกว่า เพราะฟิล์มกระจกสต็อกเหลือก็ต้องทำลายทิ้ง แต่ไฮโดรเจลสามารถคัสตอมไมซ์ได้ และราคาแทบจะพอ ๆ กัน” อรปรียา อธิบาย

เปิดหน้าร้านแรกย้ำความน่าเชื่อถือ

ล่าสุด คอมมี่ได้เปิด COMMY SHOP ออนกราวน์สโตร์แห่งแรก ณ เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ โดย อรปรียา มองว่า เพราะพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นแบบ O2O (Online to Offline) คือ สั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ และนำสินค้าไปรับบริการที่ร้านตัวแทนจำหน่าย เช่น สั่งซื้อแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนผ่านระบบออนไลน์และนำไปให้ที่ร้านค้าทำการเปลี่ยนให้ ดังนั้น คอมมี่จึงตัดสินใจเปิดออนกราวด์สโตร์ให้เป็น One stop service เพื่อจำหน่ายสินค้าและให้บริการอื่น ๆ เช่น เปลี่ยนแบตฯ, ติดฟิล์ม เป็นต้น

นอกจากนี้ในอนาคตคอมมี่มีแผนพัฒนา COMMY SHOP ให้เป็นสโตร์เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้า B2B ด้วยบริการด้านต่างๆ ที่ครบวงจร อย่างการเป็นสโตร์พื้นที่เก็บสินค้า เมื่อลูกค้าต้องการสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ใดก็สามารถมาสั่งซื้อได้ทันที รวมถึงร้านเล็ก ๆ จะไม่ต้องสต๊อกสินค้าเอง สามารถมารับที่สาขาของคอมมี่ได้เลย โดยปัจจุบันคอมมี่มีพาร์ตเนอร์ร้านตู้ทั่วไทยกว่า 4,000 ร้าน

“สาเหตุที่ลูกค้าไม่ซื้อของกับร้านตู้ แต่เลือกซื้อออนไลน์กับเราแล้วค่อยไปจ้างร้านติดก็เพราะความเชื่อถือของแบรนด์ ถ้าไปเปลี่ยนแบตฯ กับร้านเขาก็ไม่รู้ว่าร้านจะเอาแบตฯ อะไรมาให้ แต่ซื้อกับเราเขามั่นใจได้ และเราก็มีแนะนำร้านตัวแทนที่ให้ไปใช้บริการด้วย ทำให้ปีนี้ยอดขายออนไลน์เราโตถึง 20%” 

ปีหน้าตั้งเป้าโต 40%

สำหรับปีหน้า อรปรียา ตั้งเป้าจะเปิดออนกราวด์สโตร์เพิ่มอีกอย่างน้อย 5-10 สาขา โดยจะเน้นในกรุงเทพฯ​ และหัวเมืองต่างจังหวัด คาดว่าจะใช้งบประมาณ 10 ล้านบาท และด้วยจำนวนช่องทางการจำหน่ายที่มากขึ้น คอมมี่ตั้งเป้า เติบโต 40%

“เราเชื่อว่าด้วยช่องทางที่มากขึ้นจะเป็นตัวบูสต์ยอดให้ได้ แต่เรื่องเศรษฐกิจค่อนข้างเป็นห่วง มันก็ส่งผลกันมาเรื่อย ๆ”

]]>
1457304
“คอมมี่” ประเมินตลาด “ฟิล์มกันรอย” 2566 “ฟิล์มกระจก” หลบไป “ไฮโดรเจลฟิล์ม” กำลังมาแทน https://positioningmag.com/1432322 Mon, 29 May 2023 13:41:11 +0000 https://positioningmag.com/?p=1432322
  • “คอมมี่” (COMMY) ชี้ทิศทางตลาด “ฟิล์มกันรอย” กำลังเปลี่ยนความนิยมจาก “ฟิล์มกระจก” สู่นวัตกรรม “ไฮโดรเจลฟิล์ม” รองรับการออกแบบสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่กลุ่มจอโค้งจอพับได้ดีกว่า
  • ตอกย้ำช่องทางจำหน่ายแบบ Omnichannel เตรียมเปิดหน้าร้านรีเทลสาขาแรกบน “เดอะมอลล์” และส่งสินค้าขายผ่าน 7-Eleven
  • บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์เสริมสมาร์ทโฟนที่อยู่ในตลาดมานานอย่าง “คอมมี่” (COMMY) ปีนี้เข้าสู่ช่วงครบรอบ 30 ปี พร้อมรีแบรนดิ้งเปลี่ยนโลโก้ใหม่ และส่งสินค้านวัตกรรม “คอมมี่ ซูเปอร์ ไฮโดรเจล ฟิล์ม” เข้ามาลุยตลาด หวังเป็นฮีโร่ โปรดักส์ของปีนี้

    “อรปรียา มโนวิลาส” รองประธานกรรมการ บริษัท คอมมี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยทิศทางตลาด “ฟิล์มกันรอย” ที่คาดว่ามีมูลค่าราวปีละ 6,500 ล้านบาทในไทย ปัจจุบันสินค้าในตลาด 80% เป็นฟิล์มกระจก และ 20% เป็นไฮโดรเจลฟิล์ม ซึ่งในกลุ่มหลังคอมมี่ถือเป็นผู้นำตลาด

    คอมมี่ ฟิล์มกันรอย

    ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทพบว่าดีมานด์ของลูกค้ามีความเปลี่ยนแปลงเห็นได้ชัด คือ กลุ่มไฮโดรเจลฟิล์มเติบโต 100% ทุกปีต่อเนื่อง กลายเป็นสินค้าแทนที่ฟิล์มกระจกที่เคยได้รับความนิยม

    สาเหตุที่ไฮโดรเจลฟิล์ม ‘ฮิต’ มากกว่า เพราะในระยะหลังการออกแบบสมาร์ทโฟนมีการเปลี่ยนแปลง เริ่มมีหน้าจอแบบขอบโค้ง จอพับ และใช้งานร่วมกับปากกา ซึ่งสมาร์ทโฟนลักษณะนี้ ฟิล์มกระจกไม่สามารถใช้งานควบคู่ได้ดีมากพอ อาจติดหน้าจอได้ไม่พอดี หรือปริแตกร้าวง่ายขึ้น เป็นโอกาสของกลุ่มไฮโดรเจลฟิล์มที่ตัดให้โค้งงอตามขอบโค้งหรือการพับจอได้ เหมาะกับสมาร์ทโฟนสมัยใหม่มากกว่า

    คอมมี่ ไฮโดรเจลฟิล์ม
    คอมมี่ ซูเปอร์ ไฮโดรเจล ฟิล์ม

    เมื่อเห็นเทรนด์ตลาด คอมมี่จึงพัฒนานวัตกรรมฟิล์มกันรอยเป็นสินค้าตัวใหม่ “คอมมี่ ซูเปอร์ ไฮโดรเจล ฟิล์ม” ผลิตภัณฑ์นี้มีการเพิ่มเนื้อเจลในฟิล์ม พัฒนาเทคโนโลยี Self-healing ทำให้ “สมานรอยขีดข่วนขนาดเล็กได้ใน 30 วินาที รอยขนาดใหญ่ทำได้ใน 2 นาที” ซึ่งเป็นเจ้าแรกของประเทศไทยที่วางจำหน่ายสินค้านวัตกรรมนี้ จากปกติไฮโดรเจลฟิล์มธรรมดาในท้องตลาดจะสมานรอยขีดข่วนได้ใน 36 ชั่วโมง

    ราคาวางจำหน่ายปลีกสำหรับ “คอมมี่ ซูเปอร์ ไฮโดรเจล ฟิล์ม” วางไว้ที่ 690 บาทต่อชิ้น ถือเป็นฟิล์มกันรอยในกลุ่มพรีเมียม เทียบกับฟิล์มกันรอยราคามาตรฐานที่จะอยู่ที่ประมาณ 290 บาทต่อชิ้น

     

    เศรษฐกิจชะลอ ผู้บริโภคยิ่งถนอมเครื่อง

    ด้านภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนที่มีแนวโน้มจะตกลงทั่วโลก จากข้อมูลของ Canalys พบว่ายอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกในช่วงไตรมาสแรกปี 2566 ลดลง -12% อรปรียามองว่าตลาดไทยน่าจะเป็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่สถานการณ์นี้น่าจะเป็นบวกกับการขายฟิล์มกันรอย

    “อรปรียา มโนวิลาส” รองประธานกรรมการ บริษัท คอมมี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด

    อรปรียากล่าวว่า ข้อมูลตลาดสมาร์ทโฟนไทยเมื่อปี 2565 มียอดขายลดลง -10% หากคิดตามจำนวนเครื่อง แต่ถ้าคิดเป็นมูลค่าแล้วตลาดโตขึ้น 10% นั่นหมายความว่า ผู้บริโภคซื้อสมาร์ทโฟนในราคาที่สูงขึ้น ซึ่งจะทำให้เจ้าของเครื่องใช้มือถืออย่างทะนุถนอมตามราคา และยิ่งเศรษฐกิจชะลอตัว ผู้บริโภคจะยิ่งต้องการยืดอายุใช้งานเครื่องให้นานที่สุด ทำให้อุปกรณ์เสริมอย่างฟิล์มกันรอยขายดี

    คอมมี่ให้ข้อมูลไว้ด้วยว่า พฤติกรรมผู้บริโภคมักจะเปลี่ยนฟิล์มกันรอยราว 2-3 ครั้งต่อปี และตัวเร่งสำคัญคือนวัตกรรมใหม่ในตลาด ทำให้แม้ฟิล์มชิ้นเดิมยังไม่เสียหายมากก็มักจะเปลี่ยนทันทีเพื่อการใช้งานที่ดีขึ้น เช่น เล่นเกมได้ลื่น ดูหนังได้คมชัด

     

    Omnichannel ต้องครบเครื่อง

    ในแง่ช่องทางการขายปัจจุบันของคอมมี่ ยอดขาย 15% มาจากช่องทางออนไลน์ และ 85% มาจากหน้าร้าน ตัวแทนจำหน่ายที่มีกว่า 1,500 จุดทั่วประเทศ

    อรปรียากล่าวว่าปีนี้บริษัทจะเน้นการสร้าง Omnichannel ให้แข็งแรงขึ้นอีก เช่น การซื้อฟิล์มกันรอยผ่านช่องทางออนไลน์ แล้วนำมาให้ผู้เชี่ยวชาญติดให้ได้ที่หน้าร้าน ทำให้บริษัทเตรียมเปิดหน้าร้านรีเทลในเครือ “เดอะมอลล์” เป็นสาขาแรก และคาดว่าจะขยายได้ 3 สาขาเร็วๆ นี้ เพื่อให้บริการลูกค้า

    นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียมจะส่งสินค้าเข้าจำหน่ายผ่านทาง 7-Eleven ด้วย โดยช่องทางนี้จะเน้นลูกค้าที่สะดวกติดฟิล์มกันรอยด้วยตนเอง

    สำหรับภาพรวมบริษัทคอมมี่ ปัจจุบันรายได้หลัก 50% มาจากการขายฟิล์มกันรอย ส่วนอีก 50% ที่เหลือมาจากการขายพาวเวอร์แบงก์ สายชาร์จ หัวชาร์จ หูฟัง ลำโพง ฯลฯ ตลอดจนกลุ่มสุขภาพ เช่น เครื่องฟอกอากาศ หน้ากากN95

    ]]>
    1432322