Dubai – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 17 Apr 2024 12:27:39 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 CEO ของ Telegram เผยยอดผู้ใช้งานต่อเดือนจะแตะ 1,000 ล้านคนได้ภายในปีนี้ แย้มอาจเข้า IPO ในตลาดหุ้น https://positioningmag.com/1470188 Wed, 17 Apr 2024 07:24:52 +0000 https://positioningmag.com/?p=1470188 Pavel Durov ซึ่งเป็น CEO ของ Telegram ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ Tucker Carlson โดยเผยยอดผู้ใช้งานต่อเดือนจะแตะ 1,000 ล้านคนได้ภายในปีนี้ และเขาเองอาจเข้า IPO ในตลาดหุ้นถ้าหากแพลตฟอร์มมีกำไรแล้ว

Pavel Durov ซึ่งเป็น CEO ของ Telegram ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ Tucker Carlson โดยเขากล่าวว่าแพลตฟอร์มส่งข้อความชื่อดังนั้นจะสามารถมียอดผู้ใช้งานต่อเดือน (Monthly Active User) แตะ 1,000 ล้านคนได้ภายในปีนี้ ซึ่งสัมภาษณ์ดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกที่เขาออกหน้ากล้องในรอบหลายปี

CEO ของ Telegram กล่าวว่าปัจจุบันแพลต์ฟอร์มมี Monthly Active User มากกว่า 900 ล้านคนแล้ว และคาดว่าจะผ่านหลัก 1,000 ล้านคนได้ภายในปีนี้ นอกจากนี้เขายังกล่าวว่าเป้าหมายของแพลตฟอร์มคือ “ความเป็นกลาง” และไม่ใช่ศูนย์กลางของความขัดแย้งในการเมืองระหว่างประเทศ

นอกจากนี้เขายังได้เล่าถึงประวัตินับตั้งแต่เขาเป็นผู้ก่อตั้ง VK ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มคล้ายกับ Facebook ที่มีธุรกิจในรัสเซีย และเป็นแพลตฟอร์มที่โด่งดังจนทำให้รัฐบาลรัสเซียต้องเข้าแทรกแซง และท้ายที่สุดบีบให้เขาต้องขายกิจการจนมาก่อตั้ง Telegram และเขาเองถือเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของแพลตฟอร์มดังกล่าวนี้

Telegram ถือเป็นแพลตฟอร์มส่งข้อความที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดแพลตฟอร์มหนึ่งของโลก มีสำนักงานตั้งอยู่ในดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดย CEO ของ Telegram กล่าวว่าประเทศดังกล่าวถือเป็นกลางทางการเมืองระหว่างประเทศ และต้องการที่จะเป็นมิตรกับทุกประเทศ ไม่ใช่แค่มหาอำนาจแต่เพียงอย่างเดียว

จุดเด่นของ Telegram นั้น Pavel Durov ได้กล่าวในสัมภาษณ์ของ Tucker Carlson คือเรื่องของการเข้ารหัสข้อความทำให้ยากแก่การถอดรหัส ซึ่งเป็นไอเดียที่เขาคิดตั้งแต่สมัยที่เขาอยู่ในรัสเซีย และเกิดแรงกดดันจากรัฐบาลในช่วงเวลาดังกล่าว

Pavel Durov – ผู้ก่อตั้ง Telegram / ภาพจากรายการ Tucker Carlson Interview

แพลตฟอร์มส่งข้อความรายนี้มีชื่อเสียงในการใช้งานของผู้ประท้วงในหลายประเทศ หรือแม้แต่ในการบุกยูเครนโดยรัสเซีย ที่รัฐบาลแต่ละฝ่ายได้ใช้แพลตฟอร์มดังกล่าวนั้นเป็นเครื่องมือในการสื่อสาร หรือแม้แต่โฆษณาชวนเชื่อทางการเมือง

ปัจจุบัน Telegram มีคู่แข่งรายสำคัญคือ WhatsApp ของ Meta ที่มี Monthly Active User ราวๆ 2,000 ล้านคน นอกจากนี้เขายังกล่าวว่าคู่แข่งสำคัญคือ Apple และ Google เนื่องจากถ้าหากไม่ทำตามข้อกำหนดแล้วแอปพลิเคชันก็อาจถูกถอดออกจาก App Store หรือ Google Play ทันที

นอกจากนี้เขาชี้ว่า Telegram ไม่ได้ถูกควบคุมโดยรัสเซีย โดยเขาชี้ว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง และเป็นข่าวที่  ปล่อบมาจากคู่แข่งรายอื่นที่ต้องการดิสเครดิต เนื่องจากเห็นการเติบโตของแพลตฟอร์มเพิ่มมากขึ้น

ขณะที่เรื่องชีวิตส่วนตัว เขาชี้ว่านอกเหนือจากเงินหรือ Bitcoin แล้ว เขาไม่พยายามที่จะมีทรัพย์สินไม่ว่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ เรือยอร์ช หรือแม้แต่เครื่องบินส่วนตัวด้วยซ้ำ เนื่องจากเขาต้องการที่จะเป็นอิสระ

เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Pavel Durov ได้ให้สัมภาษณ์กับ Financial Times ว่าถ้าหาก Telegram มีกำไร เขาอาจนำธุรกิจเข้า IPO ในตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา แต่ก็มองตลาดหุ้นอื่นไว้เช่นกัน นอกจากนี้เขาก็ยังดูลู่ทางในการระดมทุนโดยขายหุ้นให้กับนักลงทุนบางส่วนด้วยเพื่อที่จะนำเงินมาลงทุนในด้านปัญญาประดิษฐ์

]]>
1470188
ดูไบกำลังกลายเป็นฮับของมหาเศรษฐีจีนอีกแห่ง ธุรกิจบริหารความมั่งคั่งเริ่มเปิดสำนักงานเพิ่มมากขึ้น https://positioningmag.com/1458120 Tue, 09 Jan 2024 07:55:38 +0000 https://positioningmag.com/?p=1458120 ฮับของมหาเศรษฐีจีนอาจไม่ใช่แค่ฮ่องกง สิงคโปร์ เท่านั้น แต่ดูไบกำลังจะกลายเป็นฮับอีกแห่งที่สำคัญในอนาคต เนื่องจากธุรกิจบริหารความมั่งคั่งเริ่มเปิดสำนักงานเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันดูไบเองยังเอื้อแก่การเปิดธุรกิจ ความสัมพันธ์ระหว่างตะวันกลางกับจีนที่ดี รวมถึงอัตราภาษีที่ต่ำ

สำนักข่าว Reuters รายงานข่าวว่า ดูไบกำลังกลายเป็นฮับของมหาเศรษฐีชาวเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวจีน และจะมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้น หลังจากสถาบันการเงินหลายแห่งได้ทยอยไปเปิดสำนักงานที่ดูไบเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการลูกค้าความมั่งคั่งสูง หรือแม้แต่ให้บริการด้านการเงินทั่วไปกับลูกค้า

จุดเด่นของดูไบที่ทำให้มหาเศรษฐีจากจีนเริ่มสนใจเข้าไปทำธุรกิจในตะวันออกกลางคือ การเริ่มต้นทำธุรกิจนั้นง่ายเมื่อเทียบกับหลายประเทศ อัตราภาษีที่ต่ำ โซนเวลาไม่แตกต่างกับเอเชียมากจนเกินไป นอกจากนี้ยังมีเหล่ามหาเศรษฐีเริ่มเข้าไปอยู่อาศัยในตะวันออกกลางมากขึ้น ยิ่งทำให้เสน่ห์เมืองใหญ่สุดของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ความสัมพันธ์ระหว่างตะวันออกกลางกับจีนนั้นมีความแน่นแฟ้นเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทั้งความร่วมมือในด้านเทคโนโลยี หรือแม้แต่การลงทุนระหว่างกัน ขณะเดียวกันนักธุรกิจจีนเองต้องการที่จะกระจายความเสี่ยงในเรื่องธุรกิจ ทำให้ดูไบถือเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจของชาวจีน

ในช่วงที่ผ่านมาตะวันออกกลางหลายประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้พยายามวางตัวเป็นกลางท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน หรือแม้แต่กรณีล่าสุดอย่างการบุกยูเครนของรัสเซีย ตะวันออกกลางนั้นถือเป็นกลุ่มประเทศที่ไม่ต้องการคว่ำบาตรรัสเซีย

นอกจากนี้การโยกย้ายเม็ดเงินจากฮับการเงินเดิมอย่าง ฮ่องกง หรือ สิงคโปร์ ออกมาดูไบ ยังเป็นการกระจายความเสี่ยงของเหล่ามหาเศรษฐีจีนอีกทาง

ธุรกิจบริหารความมั่งคั่งชาวจีนอย่าง Noah Holdings ได้ประกาศการเปิดสำนักงานในดูไบ โดย Qing Pan ซึ่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน ได้กล่าวกับ Reuters ว่า กลยุทธ์ของบริษัทคือติดตามการเติบโตของความมั่งคั่งของลูกค้าชาวจีน นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราจึงต้องอยู่ที่นี่ เขายังกล่าวเสริมว่าบริษัทวางแผนที่จะส่งพนักงานบางส่วนจากประเทศจีนก่อน แล้วรับสมัครงานในท้องถิ่นในภายหลัง

ขณะที่ Lombard Odier ซึ่งเป็นธุรกิจบริหารความมั่งคั่งรายใหญ่จากสวิตเซอร์แลนด์ก็ดูลู่ทางในการเปิดสำนักงานที่ดูไบเช่นกัน

ไม่เว้นแม้แต่ Tsang Group และ Landmark Family Office รวมถึง Farro Capital ซึ่งเป็นธุรกิจสำนักงานครอบครัว (Family Office) เพื่อบริหารทรัพย์สินของเหล่ามหาเศรษฐี และดูทำหน้าที่ดูแลในด้านต่างๆ เช่น กฎหมาย ฯลฯได้มีการเปิดสำนักงานที่ดูไบ

อย่างไรก็ดีถ้าหากมองย้อนกลับมา เศรษฐีชาวจีนได้ทยอยนำเงินออกมาไว้นอกจีนเป็นจำนวนมากขึ้นหลังปี 2020 ทั้งในฮ่องกง สิงคโปร์ หรือล่าสุดที่ดูไบ เนื่องจากความไม่แน่นอนในการใช้ชีวิตหลังการแพร่ระบาดของโควิด หรือแม้แต่ความต้องการย้ายถิ่นฐานออกจากประเทศจีน

]]>
1458120