EDM – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Mon, 03 Mar 2025 07:24:21 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 EDM ปลุกเศรษฐกิจ ดึงต่างชาติกระเป๋าหนักเที่ยวไทย ราคาบัตร VIP สูงสุดหลักล้านบาท https://positioningmag.com/1513055 Sat, 01 Mar 2025 08:01:14 +0000 https://positioningmag.com/?p=1513055 ดนตรี ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เชื่อมคนเข้าไว้ด้วยกันอย่างไร้พรมแดน โดยช่วงที่ผ่านมา “EDM เริ่มแพร่หลายในไทย และเป็นคีย์ไดเวอร์ดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติกระเป๋าหนักใช้จ่ายในไทยได้

เราจะเห็นได้จากเทศกาลดนตรีอีดีเอ็ม มักจะทำนิวไฮราคาบัตรได้ตลอด เช่น โซน VIP อีดีเอ็มที่มีราคาขายถึง “หลักล้านบาท” ทีเดียว

โดยช่วง เทศกาลสงกรานต์ เป็นอีเวนต์ใหญ่ของไทย เป็นแม่เหล็กสำคัญให้เทศกาลดนตรีอีดีเอ็มไทยกระหึ่มโลกในปี 2568 นี้!

รชต ธันยาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วัน เอเชีย เวนเจอร์ส จำกัด
รชต ธันยาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วัน เอเชีย เวนเจอร์ส จำกัด
ผู้จัดงานเทศกาลดนตรีระดับใหญ่ กล่าวว่า ปี 2568 เตรียมลงทุน 500 ล้านบาท จัด 4 งานเทศกาลดนตรีใหญ่ใน กทม. เน้นแนว EDM

ประเดิมงานแรก คือ SIAM Songkran Music Festival ตรง RCA ใช้เงินลงทุน 250 ล้านบาท ตั้งเป้าผู้เข้าร่วมงาน 100,000 คน (ปีก่อน 70,000 คน) แบ่งเป็นคนไทย 50% และต่างชาติ อาทิ จีน เกาหลี ญี่ปุ่น 50%

SIAM Songkran Music Festival แต่ทุกรายละเอียดเราจะผสมความเป็นไทยเข้าไป ตั้งแต่งานอาร์ต ของที่ระลึก รวมถึงเทศกาลของไทย ซึ่งประเทศอื่นทำไม่ได้ นำมาเป็นจุดเด่น”

โดย ราคาบัตร ของ SIAM Songkran Music Festival เริ่มต้น 2,000-12,000 บาท ส่วนโซน VIP ราคา 5 ล้านบาท/โต๊ะ เข้าได้ 30 คน ตลอด 4 วันที่จัดงาน

ขณะที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเตรียมเข้าไทยช่วงวันสงกรานต์ ปี 2568 มีประมาณ 12 ล้านคน จะช่วยเป็นส่วนสนับสนุนให้การจัดงานในครั้งนี้ได้รับการตอบรับดี

“งานเทศกาลดนตรีมีการใช้จ่ายสูงมาก ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มางานเทศกาลดนตรี ใช้จ่ายเริ่มต้น 20,000-30,000 บาท/คน/ทริป และบางกลุ่มใช้เงินสูงถึง 100,000 บาท/คน/ทริป ผลกระทบทางอ้อมจากมิวสิคเฟสติวัล คือ ดันราคาโรงแรมใกล้ที่จัดงานเพิ่มขึ้น 3 เท่า”

ส่วนในภาพรวมเศรษฐกิจจากเทศกาลดนตรีมีมูลค่าราว ๆ 1,000 ล้านบาท และสร้างผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอื่น ๆ อาทิ อาหาร โรงแรม อีกประมาณ 7,000-7,500 ล้านบาท

ทั้งนี้ วันเอเชีย เวนเจอร์ส คาดหวังรายได้จาก SIAM Songkran Music Festival ปี 2568 อยู่ที่ 250 ล้านบาท และรายได้ทั้งปี 600 ล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ 300-350 ล้านบาท

อย่างไรก็ดี ตนมองว่า ประเทศไทยมีศักยภาพในการเป็นศูนย์กลางเทศกาลดนตรีระดับสากล ด้วยความพร้อมของโรงแรม ภาคการท่องเที่ยว อาหาร และระบบคมนาคม สามารถแข่งขันได้กับทั้งสิงคโปร์ หรือกระทั่งเกาหลีใต้

โดยเฉพาะในระยะหลังที่ภาครัฐบาลให้ความสำคัญกับนโยบายซอฟต์พาวเวอร์มากขึ้น และสนับสนุนผู้ประกอบการ อาทิ ด้านการลดภาษีนำเข้าสินค้าที่จำเป็นในอุตฯ ดนตรี เป็นต้น

ทว่าปัจจัยเสี่ยงธุรกิจก็ยังคงมี จากปีที่ผ่านมามีการจัดอีเวนต์-คอนเสิร์ตใหญ่มากขึ้น ทำให้การแข่งขันดุเดือด ทำให้มีงานสเกลใหญ่บางส่วนล้มหายไปบ้าง…

]]>
1513055
บูมอีสาน! “ยูดี ทาวน์” อัดงบ 40 ล้านจัดสงกรานต์ “EDM” ปี’66 กรุยทางดึงจีนสายมูเที่ยว “อุดร” https://positioningmag.com/1422060 Tue, 07 Mar 2023 07:32:22 +0000 https://positioningmag.com/?p=1422060 สายแดนซ์เตรียมพร้อม “ยูดี ทาวน์” เตรียมจัดใหญ่ UDON SONGKRAN FESTIVAL 2023 จัดปาร์ตี้ดนตรี “EDM” รับช่วง “สงกรานต์” ใหญ่ที่สุดที่เคยจัดในภาคอีสาน คาดการณ์ปี’66 ท่องเที่ยว “อุดร” ฟื้นตัวได้เท่าก่อนโควิด-19 ลุ้นดึงนักท่องเที่ยวจีน “สายมู” ทัวร์ริมโขง-ไหว้พระขอพร

“ยูดี ทาวน์” ศูนย์การค้าท้องถิ่นแห่งอุดรธานี เตรียมกลับมาจัดเทศกาลสงกรานต์ครั้งใหม่ใหญ่กว่าเดิมในงาน UDON SONGKRAN FESTIVAL 2023 ระหว่างวันที่ 12-16 เมษายน 2566 บนพื้นที่ลานเดอะแลนด์ ขนาด 12,000 ตร.ม. พร้อมอุโมงค์น้ำขนาดยักษ์

ไฮไลต์งานนี้คือเทศกาลดนตรี EDM Party ที่จะจัด 4 คืนต่อเนื่อง (13-16 เม.ย. 66 เวลา 17:00-24:00 น.) พร้อมเชิญศิลปิน-ดีเจทั้งในไทยและต่างประเทศกว่า 40 ราย เปิดรายชื่อดีเจระดับโลกที่จะมาแสดงในงาน เช่น Mike William จากเนเธอร์แลนด์, Gammer จากสหราชอาณาจักร, Bonka จากโคลัมเบีย ส่วนของไทยจะมีวงหมอลำอินเตอร์ฯ Paradise Bangkok ร่วมแสดง

ยูดี ทาวน์
ยูดี ทาวน์ อุดรธานี

 

ปาร์ตี้ EDM ต้อนรับชาวอีสานกลับบ้าน-เศรษฐีชาวลาว

“อภิชา วีรชาติยานุกูล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท อุดรพลาซ่า จำกัด รุ่นสองของกลุ่มยูดี ทาวน์ กล่าวถึงการจัดงานครั้งนี้ว่าเป็นการกลับมาในรอบ 3 ปี โดยงานดนตรี EDM ทางยูดี ทาวน์มีการจัดครั้งแรกเมื่อปี 2559 เริ่มจากงานขนาดเล็ก ก่อนจะขยายใหญ่ขึ้นทุกปีจนถึงปี 2562 ที่จัดครั้งสุดท้ายก่อนต้องหยุดจัดอีเวนต์ใหญ่เพราะโควิด-19

งานครั้งนี้ใช้งบลงทุนไป 30-40 ล้านบาท จัดใหญ่กว่าเมื่อปี 2562 ถึง 2 เท่า และคาดว่าจะมีทราฟฟิกเฉพาะในงานนี้รวม 5 วัน 100,000 คน หรือเฉลี่ยวันละ 20,000 คน

ตัวอย่าง headliner งาน

ราคาตั๋วในงานจะมีตั้งแต่ระดับสูงสุด VVIP First Class ราคาเหมา 4 วัน 100,000 บาทต่อโต๊ะ 6 ท่าน ซึ่งจะได้สิทธิ Private Dry Zone ทางเข้าส่วนตัว ห้องน้ำส่วนตัว แพ็กเกจเครื่องดื่ม ฯลฯ ไปจนถึงตั๋วโซน GA ผู้ชมทั่วไป ราคา 400 บาทต่อวันต่อคน

อภิชากล่าวว่า บริษัทคาดหวังรายได้ขั้นต่ำ 30 ล้านบาทจากงานนี้ และหากขายตั๋วได้เต็มอัตราน่าจะทำรายได้ได้ถึง 100 ล้านบาท

“เป้าหมายของงานนี้จะเป็นคนวัย 20 ปีขึ้นไป ตอบโจทย์ชาวอุดรและชาวอีสานที่จะกลับมาเยี่ยมบ้านจากการไปทำงานที่กรุงเทพฯ และคนอีสานก็ต้องการเทศกาล EDM แบบนี้เหมือนกัน รวมไปถึงชาวลาวที่มีกำลังซื้อสูง สนใจเข้ามาท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์” อภิชากล่าว

ยูดี ทาวน์ สงกรานต์
งานสงกรานต์ที่ยูดี ทาวน์ รอบปี 2562

งานครั้งนี้ยังมีการจัดพื้นที่ให้กับกลุ่ม VVIP แพ็กเกจทั้งหมดประมาณ 20% ของพื้นที่ เพิ่มขึ้นจากครั้งล่าสุดในปี 2562 ที่กันไว้ 10% ของพื้นที่ เพราะจากงานครั้งก่อนพบว่า แพ็กเกจระดับนี้ขายหมดเร็วมาก ไม่เหลือพอที่จะขายหน้างาน สะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มเป้าหมายมีกำลังซื้อและต้องการโต๊ะแบบ VVIP เพื่อสะท้อนไลฟ์สไตล์ของตน

อีเวนต์ใหญ่รับสงกรานต์ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการปรับตัวในช่วงหลังโควิด-19 ของยูดี ทาวน์ เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน เริ่มสั่งอาหารและสินค้าทางเดลิเวอรีมากขึ้น ทำให้ทราฟฟิกเข้าศูนย์ฯ ลดลงเหลือ 8,000 คนต่อวัน จากก่อนโควิด-19 มีลูกค้าเฉลี่ย 10,000 คนต่อวัน

แม้ยอดขายของร้านค้าเช่าจะไม่ต่ำลงเพราะลูกค้าเพียงหันมาซื้อผ่านเดลิเวอรี แต่ศูนย์ฯ จะต้องปรับมามีอีเวนต์มากขึ้น และมีการตกแต่งใหม่บ่อยขึ้นเพื่อดึงให้คนมาใช้ชีวิต ถ่ายรูป มีความบันเทิงนอกบ้าน โดยอภิชากล่าวว่าจากนี้ยูดี ทาวน์จะมีอีเวนต์ใหญ่ทุกๆ 2 เดือน และมีพันธมิตรสำคัญคือ “ไทยเบฟเวอเรจ” และ “เป๊ปซี่” ที่จะสร้างสีสันผ่านคอนเสิร์ตหมุนเวียนเข้ามาต่อเนื่อง

 

ท่องเที่ยวฟื้นปีนี้ หวังปีหน้าดึง “จีน” ทัวร์ทำบุญ

ด้าน “ธนกร วีรชาติยานุกูล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อุดรพลาซ่า จำกัด รุ่นหนึ่งผู้ก่อตั้งศูนย์ฯ เปิดภาพรวมการท่องเที่ยวในจังหวัดอุดรธานี จากสถิติผู้โดยสารเข้าออกทางเครื่องบินเมื่อปี 2565 มีผู้โดยสาร 1.77 ล้านคน ปี 2566 นี้เป็นไปได้ว่าจะมีผู้โดยสารทางเครื่องบินกลับไปเท่าปี 2562 คืออยู่ที่ 2.8 ล้านคนต่อปี เนื่องจากเที่ยวบินเข้าออกอุดรธานีเพิ่มขึ้นเกือบจะเท่ากับปีก่อนโควิด-19 แล้ว

(จากซ้าย) อภิชา วีรชาติยานุกูล, ภาสกร วีรชาติยานุกูล, ธนกร วีรชาติยานุกูล

ธนกรกล่าวถึงจุดยุทธศาสตร์ของอุดรธานีว่า เป็นจังหวัดศูนย์กลางการเดินทางไปหนองบัวลำภู สกลนคร นครพนม หนองคาย เวียงจันทน์ ได้สะดวก และมีสถานที่ท่องเที่ยวทั้งเชิงธรรมชาติ/วัฒนธรรม เช่น ทะเลบัวแดง บ้านเชียง โดยเฉพาะการท่องเที่ยวสายธรรมะ ไหว้พระทำบุญ อุดรธานีและทัวร์ภาคอีสานมีความโดดเด่นมาก เชื่อว่าจะเป็นจุดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ต่อเนื่อง

นอกจากนักท่องเที่ยวไทยแล้ว ภาคอีสานยังคาดหวังว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเพิ่มขึ้นในอนาคต หลังการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เริ่มโปรโมตเส้นทางท่องเที่ยวริมโขง ตั้งแต่หนองคาย อุดรธานี ไล่ไปจนถึงนครพนม และชาวจีนเริ่มแสดงความสนใจ เนื่องจากชาวจีนบางกลุ่มก็มีความเชื่อในทางวัตถุมงคล การไหว้พระทำบุญ เช่นเดียวกับคนไทย เพียงแต่ต้องใช้เวลาในการทำการตลาด อาจจะยังไม่เห็นชัดเจนในปีนี้ แต่ปี 2567 น่าจะเห็นชาวจีนเที่ยวอีสานมากขึ้น

 

โรงแรมเติบโต วางแผนเปิดแห่งที่สองเพิ่ม

“ภาสกร วีรชาติยานุกูล” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนาทิพย์ 456 จำกัด รุ่นสองที่เข้ามาช่วยบริหารงานโรงแรมโมโค (MOCO) และศูนย์ประชุมนานาชาติมลฑาทิพย์ กล่าวว่า โรงแรมโมโคซึ่งเป็นบูทีคระดับ 4 ดาว ขนาด 68 ห้อง หลังเปิดมาเกือบ 2 ปี ปัจจุบันมีอัตราเข้าพักเฉลี่ย 60% และคาดว่าปีนี้น่าจะขยับเป็น 70-80% ได้ หลังการท่องเที่ยวฟื้นตัว เที่ยวบินกลับมาเปิดบินเต็มที่

ส่วนศูนย์ประชุมฯ มลฑาทิพย์ก็เริ่มกลับมาคึกคัก มีงานอีเวนต์ แต่งงาน จัดประชุม ทุกวัน ขณะนี้อยู่ระหว่างกระตุ้นตลาดเพิ่ม

ธนกรกล่าวต่อถึงแผนอนาคตของกลุ่มยูดี ทาวน์ ยังเหลือที่ดินอีก 2 แปลง แปลงละ 4 ไร่ รวมถึงที่ดินใกล้เคียงกับโรงแรมโมโคที่สามารถปรับการใช้งานได้ ที่ดินเหล่านี้กำลังวางแผนว่าอาจจะเปิดเป็นโรงแรมระดับกลาง ราคาห้องพักคืนละ 1,500-2,000 บาท คาดว่าจะก่อสร้างเป็นอาคาร 2 ชั้น 2 อาคาร รวม 140 ห้อง ใช้งบลงทุนราว 200 ล้านบาท แต่จังหวะการลงทุนอาจใช้เวลาอีก 2-3 ปีในการตัดสินใจ

]]>
1422060