GDP จีน – Positioning Magazine https://positioningmag.com Thailand's Leading Marketing Magazine Wed, 18 Oct 2023 11:30:42 +0000 en-US hourly 1 https://wordpress.org/?v=5.6 167543101 GDP จีน ไตรมาส 3 เติบโต 4.9% คาดปีนี้เศรษฐกิจอาจโตตามเป้าที่รัฐบาลวางไว้ https://positioningmag.com/1448409 Wed, 18 Oct 2023 05:24:15 +0000 https://positioningmag.com/?p=1448409 รัฐบาลจีนได้ประกาศตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจจีน ในไตรมาส 3 นี้เศรษฐกิจจีนเติบโตถึง 4.9% ดีกว่านักวิเคราะห์คาดไว้ และอาจทำให้ปีนี้การเติบโตของจีนอาจตรงเป้าที่รัฐบาลได้วางไว้ ผ่านมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ทยอยออกมาทีละเล็กทีละน้อย

สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนได้เปิดเผยตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาส 3 ที่ผ่านมาเติบโตถึง 4.9% โดยปัจจัยสำคัญมาจากภาคการบริโภคที่ดีกว่าคาด อย่างไรก็ดีภาคการผลิตของจีนยังคงอ่อนแออยู่ แม้ว่าจะมีมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐออกมา

ตัวเลขการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในไตรมาส 3 นี้ดีกว่านักวิเคราะห์คาดไว้ โดย Bloomberg ทำสำรวจนักวิเคราะห์คาดว่าจะ GDP ของจีนจะโตเพียงแค่ 4.5% ขณะที่ Reuters คาดว่าจะเติบโตที่ 4.4%

แต่ถ้าหากเทียบการเติบโตจากไตรมาส 2 ที่ผ่านมา เศรษฐกิจจีนในไตรมาส 3 นี้จะเติบโตต่อจากไตรมาสที่ผ่านมาเพียงแค่ 1.3% เท่านั้น

ในช่วงไตรมาส 3 ที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นภาคอสังหาริมทรัพย์ หรือแม้แต่มาตรการกระตุ้นให้ผู้บริโภคซื้อรถยนต์ไฟฟ้ากับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น ซึ่งมาตรการดังกล่าวเป็นการกระตุ้นการจับจ่าย และยังสร้างแรงจูงใจให้กับภาคการผลิตด้วย

ตัวเลขที่น่าสนใจของเศรษฐกิจจีนในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา

  • ภาคการผลิตในเดือนกันยายน เติบโต 4.5%
  • ตัวเลขค้าปลีกในเดือนกันยายน เติบโต 5.5%
  • การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร (เช่น โครงสร้างพื้นฐาน ฯลฯ) ในเดือนกันยายน เติบโต 3.1%
  • ภาคการบริการในเดือนกันยายน เติบโต 6.9%
  • อัตราการว่างงานของจีนในเดือนกันยายน อยู่ที่ 5% (ลดลงจากเดือนสิงหาคมอยู่ที่ 5.2%)
  • การลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนในช่วง 9 เดือนแรก ลดลง 9.1%

ในรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนได้กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจในไตรมาส 3 ว่า “โดยรวมแล้วเศรษฐกิจของประเทศยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงสามไตรมาสแรก และการพัฒนาก็มีความก้าวหน้าอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งวางรากฐานที่มั่นคงเพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาประจำปี”

ตัวเลขการเติบโตของจีนในไตรมาส 3 นี้อาจทำให้ตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจแตะเป้าของรัฐบาลจีนที่วางไว้ว่าในปี 2023 นี้เศรษฐกิจจีนจะเติบโตราวๆ 5%

ทางด้านบทวิเคราะห์ของ Goldman Sachs มองว่าโมเมนตัมการเติบโตของเศรษฐกิจจีนค่อยฟื้นตัวตามลำดับ คาดว่าในไตรมาส 4 นี้รัฐบาลจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา แม้ว่ามาตรการดังกล่าวของรัฐบาลจีนจะออกมาทีละเล็กทีละน้อยในช่วงที่ผ่านมา แต่ยังมีจุดที่น่ากังวลคือเรื่องของภาคอสังหาริมทรัพย์และความเชื่อมั่นที่ยังเปราะบาง

ที่มา – CNN, CNBC, Reuters

]]>
1448409
วิกฤตพลังงานพ่นพิษ! ฉุด GDP ‘จีน’ ไตรมาส 3 โตไม่ถึง 5% https://positioningmag.com/1357234 Tue, 19 Oct 2021 05:49:14 +0000 https://positioningmag.com/?p=1357234 จากในตอนแรกที่ ‘จีน’ ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลก สามารถฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากการระบาดของโรค COVID-19 ในปีที่แล้ว โดยการเติบโตของ GDP พุ่งกลับคืนสู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาด แต่แม้จะรับมือกับการระบาดได้ดี แต่ตอนนี้ต้องเจอกับวิกฤต ‘พลังงาน’ เป็นตัวแปรใหม่เข้ามาอีก

นักวิเคราะห์ 12 คนสำรวจโดย AFP คาดการณ์ว่า การเติบโตของจีนจะอยู่ที่ 4.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งถือว่าชะลอตัวลงอย่างมากจาก 7.9% ในช่วงไตรมาสที่สอง โดยเหล่านักวิเคราะห์ได้ปรับประมาณการการเติบโตทั้งปีเป็น 8.1% จากที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเติบโตได้ 8.5%

นักวิเคราะห์กล่าวว่า การเติบโตของจีนที่ชะลอตัวส่วนใหญ่เกิดจากมาตรการ ‘จัดการโควิดให้เป็นศูนย์’ หรือ ‘zero-tolerance COVID’ โดยรัฐบาลทั้งปิดพรมแดน มีการจำกัดการเดินทาง รวมถึงการเข้าประเทศของชาวต่างชาติ บวกกับนโยบายที่เข้มงวดในปีนี้

โดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์และารขับเคลื่อนเพื่อลดการปล่อยมลพิษ รวมถึงมีเรื่องของวิกฤตพลังงานเข้ามาอีก โดยในภาคอสังหาริมทรัพย์มีการเติบโตที่ชะลอตัวด้วยกฎระเบียบและนโยบายสินเชื่อที่เข้มงวดสำหรับนักพัฒนา เนื่องจากกรณีของบริษัท Evergrande ที่สร้างปัญหาหนี้สินกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ภาคอสังหาริมทรัพย์ในจีนได้รับแรงกดดันจากความเสี่ยงด้านการชำระหนี้ไปด้วย

Christina Zhu จาก Moody’s Analytics กล่าวว่า การลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์และราคาบ้านที่ชะลอตัวอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโต เนื่องจากการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์มีส่วนสำคัญในการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร ซึ่งเธอกล่าวว่ามีสัดส่วนมากกว่า 40% ของ GDP ทั้งหมด

“ความเสี่ยงหลักสองประการในช่วงที่เหลือของปีคือ ปัญหาหนี้ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ และการขาดแคลนพลังงาน”

ด้านปัญหาวิกฤตพลังงานของจีนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมาพร้อมกับปัญหาต้นทุนวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้น บวกกับการที่รัฐบาลพยายามผลักดันนโยบายการลดปล่อยคาร์บอน ส่งผลให้กิจกรรมการขุดและการผลิตเหมืองถ่านหินลดลง โดยการหยุดชะงักดังกล่าวไม่เพียงแต่สร้างแรงกดดันต่อตลาดแรงงานในประเทศและการบริโภคเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบอย่างมากต่อการค้าและราคาทั่วโลก

โดยนักเศรษฐศาสตร์ของ UBS เชื่อว่ารัฐบาลจีนจะปรับนโยบายเพิ่มเติมเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาด้านพลังงานที่รุนแรง โดยได้แนะนำแนวทางในการเพิ่มการผลิตและนำเข้าถ่านหินแล้ว ในขณะเดียวกัน รัฐบาลกำลังพยายามปรับเทียบเศรษฐกิจให้เป็นเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนโดยผู้บริโภค หลีกเลี่ยงการลงทุนและการส่งออก

ยีน หม่า หัวหน้าฝ่ายวิจัยของจีนที่สถาบันการเงินระหว่างประเทศ กล่าวว่า แม้อุปสงค์จากต่างประเทศยังคงแข็งแกร่ง แต่ปัจจัยต่าง ๆ เช่น สภาพอากาศและการระบาดของไวรัส นอกเหนือไปจากปัญหาการขาดแคลนพลังงานและตลาดที่อยู่อาศัยล้วนส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของจีน

“เพราะทั้งปัญหาน้ำท่วมเหมืองถ่านหิน สภาพอากาศที่ทำลายพืชผล และการล็อกดาวน์หลายครั้ง ทำให้การฟื้นตัวอย่างน่าทึ่งของจีนหลังเกิด COVID-19 จะหมดลงในฤดูร้อนปีนี้”

Source

]]>
1357234